ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2023
ลิเวอร์พูล 2-5 เรอัล มาดริด
สนาม : แอนฟิลด์
แต่หลังจากนั้น ราชันชุดขาว พยายามเร่งเกมบุกจนมายิงรัว 5 ลูกรวดจากทั้ง วินิซิอุส เอแดร์ มิลิเตา และ คาริม เบนเซมา กระทั่งจบเกมไปด้วยชัยชนะอันสวยหรูของ เรอัล มาดริด ในค่ำคืนนี้
ลิเวอร์พูล : อลิสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ (โฌแอล มาติป น.73), เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (เจมส์ มิลเนอร์ น.73), ฟาบินโญ่, สเตฟาน บายเซติช (ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ น.85) - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โคดี้ กัคโป (โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ น.64), ดาร์วิน นูนเญซ (ดิโอโก้ โชต้า น.64)
เรอัล มาดริด : ติโบต์ กูร์กตัวส์ - ดาเนียล การ์บาฆาล, เอแดร์ มิลิเตา, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, ดาวิด อลาบา - เฟเดรีโก้ วัลเวร์เด้, เอดูอาร์โด้ กามาวิงก้า, ลูก้า โมดริช (โทนี่ โครส น.87) - โรดรีโก้ โกเอส (ดานี่ เซบายอส น.81), คาริม เบนเซม่า (มาร์โก อาเซนซิโอ น.87), วินิซิอุส จูเนียร์
ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายเมื่อคืนวานมีลงทำการสองคู่ด้วยกันประกอบด้วย ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต พบ นาโปลี และ ลิเวอร์พูล พบ เรอัล มาดริด
ลิเวอร์พูล 2-5 เรอัล มาดริด (นูนเญซ 4 ซาลาห์ 15 / วินิซิอุส 21 36 มิลิเตา 48 เบนเซมา 56, 67)
เกมที่ แอนฟิลด์ เริ่มต้นมาเป็นเข้าบ้านที่ออกนำเร็วไปก่อนถึงสองประตูจากจังหวะไขว้ยิงของ นูนเญซ ก่อนที่ ซาลาห์ จะมาบวกเพิ่มอีกหนึ่งลูกในนาทีที่ 15 แต่หลังจากนั้น ราชันชุดขาว พยายามเร่งเกมบุกจนมายิงรัว 5 ลูกรวดจากทั้ง วินิซิอุส เอแดร์ มิลิเตา และ คาริม เบนเซมา กระทั่งจบเกมไปด้วยชัยชนะอันสวยหรูของ เรอัล มาดริด ในค่ำคืนนี้
Liverpool FC v Real Madrid: Round of 16 Leg One - UEFA Champions League / Fantasista/GettyImages
ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต 0-2 นาโปลี (โอซิเมน 40 ดิ ลอเรนโซ 45)
ข้ามฝากมาที่ดูที่เยรมนีกันบ้าง นัดนี้แทบจะกลายเป็นเกมที่ทีมเยือนพับสนามบุกใว้อยู่ฝ่ายเดียวแถมยังมีจังหวะจุดโทษของ เคอชิวา ควารัตชเคเลีย ซึ่งก็ดันไปติดเซฟของ เควิน แทรปป์ กระทั้งเป็น วิคเตอร์ โอซิเมน เข้าชาร์จจ่อ ๆ ในช่วงท้ายครึ่งแรก และ จิโอวานี ดิ ลอเรนโซ มายิงปิดท้ายในครึ่งหลัง ช่วยให้ยักษ์ใหญ่จาก กัลโช เซเรีย อา กุมความได้เปรียบไปก่อนในเกมนี้
FBL-ITA-SERIEA-NAPOLI-SASSUOLO / ALBERTO PIZZOLI/GettyImages
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด
ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายเลกสองเมื่อคืนวานมีลงทำการสองคู่ด้วยกันประกอบด้วย นาโปลี เปิดบ้านพบ ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต และ ลิเวอร์พูล บุกเยือนแชมป์เก่า เรอัล มาดริด
นาโปลี 3-0 ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต
(โอซิเมน 45+2, 53 ซิลินสกี้ 64) นาโปลี ผ่านเข้ารอบด้วยสกอร์รวม 5-0
ที่ ดิเอโก้ มาราโดนา สเตเดี้ยม เจ้าบ้านทำได้ดีกว่าชัดเจนตั้งแต่เริ่มแต่กว่าจะได้ประตูออกนำต้องรอจนถึงช่วงทดเจ็บของครึ่งแรกจาก วิคตอร์ โอซิเมน หลังจากเริ่มครึ่งหลังมาได้ 8 นาที โอซิเมน คนเดิมมาบวกประตูที่สองให้ทีมนำห่าง 2-0 ก่อนที่นาทีที่ 64 เจ้าถิ่นมาได้จุดโทษและเป็น ปิโอเตอร์ ซิลินสกี้ ที่สังหารเข้าไปช่วยให้สุดท้าย นาโปลี ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไปด้วยประตูรวมสองนัด 5-0
SSC Napoli v Eintracht Frankfurt: Round of 16 Second Leg - UEFA Champions League / Francesco Pecoraro/GettyImages
เรอัล มาดริด 1-0 ลิเวอร์พูล
(เบนเซมา 78) เรอัล มาดริด ผ่านเข้ารอบด้วยสกอร์รวม 6-2
เกมที่ ซานติอาโก้ เบอร์นาเบว ทีมเยือนพยายามทำเกมบุกเข้าใส่แต่ดูเหมือนจะเจาะแนวรับเจ้าบ้านได้ค่อนข้างยาก ส่วนเจ้าถิ่นเองก็เน้นแพ็คแดนกลางและใช้ความคล่องตัวของแนวรุกเข้าจู่โจมซึ่งก็มีโอกาสได้จบกันทั้งสองฝั่งแต่เปลี่ยนเป็นสกอร์ไม่ได้ กระทั่งครึ่งหลังนาทีที่ 78 ราชันชุดขาว ขึ้นนำจากจังหวะที่ วินิซิอุส รับบอลในกรอบเขตโทษแต่ยิงแป๊กก่อนจะเขี่ยบอลต่อไปให้ คาริม เบนเซมา ยิงโล่ง ๆ เข้าไปและนั่นเป็นประตูเดียวที่เกิดขึ้นส่งให้ เรอัล มาดริด เข้ารอบต่อไปด้วยสกอร์รวม 6-2
Real Madrid v Liverpool - UEFA Champions League / Anadolu Agency/GettyImages
โดยการจับสลากประกบคู่ในรอบต่อไปจะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 17 มีนาคม 2023 ซึ่งจะมีผ่านถ่ายทอดสดผ่านทาง UEFA.tv
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด
กลุ่ม C : บาเยิร์น มิวนิค กลายเป็นทีมที่คว้าชัยได้ 6 นัดรวดหลังเอาชนะ อินเตอร์ มิลาน 2-0 เก็บได้ 18 คะแนนเต็มคว้าแชมป์กลุ่มไปครอง ส่วนอินเตอร์ มิลาน เข้าที่ 2 มี 10 คะแนน ผลอีกคู่ที่ไม่มีผลแล้ว วิคตอเรีย พิลเซ่น แพ้ บาร์เซโลน่า 2-4
ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีม ยก 2 บิ๊กแมทช์คืนนี้ระหว่าง “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด เปิดบ้านพบ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล โดยฝั่งเจ้าบ้านออกนำไปก่อน 5-2 ในยกแรก
เริ่มเกมเป็นเจ้าบ้าน มาดริด เปิดเกมบุกเข้าใส่โดยมีจังหวะลุ้นจากลูกยิงของ วินิซิอุส จูเนียร์ แต่ถูก อลีสซง เบ็คเกอร์ เซฟเอาไว้ได้ ส่วนลิเวอร์พูลก็มีโอกาสลุ้นจากจังหวะที่ ดีโอโก้ โชต้า ยิงแต่ไม่ตรงกรอบ
จบครึ่งแรกต่างฝ่ายต่างได้ลุ้นประตูขึ้นนำแต่ก็ถูกผู้รักษาประตูทั้งสองทีมเซฟ ทำให้ผลเสมอ 0-0
"ฮาลันด์" สร้างสถิติใหม่มากมายหลังทำ 5 ประตูเกมเดียว
“อันเช่” ยัน “มาดริด”เปิดเกมบุกแม้กุมความได้เปรียบ
เริ่มต้นครึ่งหลังลิเวอร์พูลและมาดริด แลกเกมบุกเข้าใส่ แต่ในนาทีที่ 77 เจ้าบ้านมาได้ประตูขึ้นนำจากการยิงของ คาริม เบนเซม่า ช่วยให้มาดริดขึ้นนำ 1-0 (6-2)
ลิเวอร์พูลเข้าชิง UCL กี่ครั้ง
ลิเวอร์พูล 6. 4. 1977, 1978, 1981, 1984, 2005, 2019.
ลิเวอร์พูลได้ไปยูฟ่าไหม
ซึ่งทาง ยูฟ่า ได้อนุญาตให้ ลิเวอร์พูล ได้เข้าไปเล่นในรายการนี้ในฐานะแชมป์เก่า โดยเข้าสู่รอบคัดเลือกรอบแรก ส่วน เอฟเวอร์ตัน เข้าไปเล่นในรอบคัดเลือกรอบสาม
ปารีสเคยได้แชมป์ยูฟ่าไหม
ทั้งนี้ เปแอสเช ได้กลับมาแข่งขันในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ครั้งแรกภายใต้ยุคของ คิวเอสไอ เมื่อฤดูกาล 2012-13 แต่หลังจากผ่านมา 11 ปี พวกเขาก็ยังไม่ได้ชูถ้วยแชมป์สมใจอยาก โดยมีผลงานดังนี้ 2012-13 รอบ 8 ทีม 2013-14 รอบ 8 ทีม 2014-15 รอบ 8 ทีม
ทีมจากอังกฤษ ได้ไป ยู ฟ่า กี่ ทีม
ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้ 4 ทีม การันตีคว้าตั๋วไปเล่นยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาลหน้าเรียบร้อยแล้ว พร้อมอีก 2 ทีมคว้าตั๋วยูโรปาลีก