มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ตั้งอยู่ที่ 340 ถนนสุรนารายณ์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา 30000
อยู่ห่างจากอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีไปทางตำบลจอหอ ประมาณ 3 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมด 274 ไร่ 3 งาน 41 ตารางวา พื้นที่หลักอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา จำนวน 174 ไร่ 3 งาน 41 ตารางวา และมีศูนย์ฝึกอบรมและวิจัยทางการเกษตร อีก 100 ไร่ อยู่ที่ ตำบลไชยมงคล อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ติดกับสวนสัตว์จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งอยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ประมาณ 15 กิโลเมตร
มีปรัชญาประจำมหาวิทยาลัยว่า
แหล่งวิชาการ สร้างสรรค์คนดี มีคุณธรรม นำสังคม
ประวัติ[แก้]
พ.ศ. 2457
การฝึกหัดครูได้เริ่มในมณฑลนครราชสีมา เมื่อกระทรวงธรรมการให้เปิดสอนหลักสูตรประโยคครูมูลสามัญ (ป.) ในโรงเรียนตัวอย่างประจำมณฑลนครราชสีมา โดยรับนักเรียนที่จบชั้นมัธยมปีที่ 3 เข้าศึกษาหลักสูตร 2 ปี เมื่อสำเร็จการศึกษาจะได้รับบรรจุเป็นข้าราชการครู
พ.ศ. 2466
กระทรวงธรรมการได้จัดตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูมูลกสิกรรม ที่ข้างวัดโพธิ์ ตำบลโพธิ์กลาง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา เปิดสอนหลักสูตรประโยคครูมูลสามัญ (ป.) และประโยคครูประกาศนียบัตรจังหวัด (ว.) ต่อมาในปี พ.ศ. 2478 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “ โรงเรียนฝึกหัดครูประกาศนียบัตรจังหวัดนครราชสีมา ” เปิดสอนเฉพาะหลักสูตรประโยคครูประกาศนียบัตรจังหวัด (ว.)
พ.ศ. 2481
ย้ายไปอยู่แทนที่โรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรม อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา และในปี พ.ศ. 2485 เปลี่ยนชื่อเป็น “โรงเรียนฝึกหัดครูมูลโนนสูง” เปิดสอน 3 หลักสูตรได้แก่ ประโยคครูประกาศนียบัตรจังหวัด (ว.) ประโยคครูประชาบาล (ป.บ.) และประโยคครูมูล (ม.)
พ.ศ. 2490
ย้ายเข้ามาอยู่ ณ ที่ตั้งปัจจุบันในอำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา และเปลี่ยนชื่อเป็น “ โรงเรียนฝึกหัดครูนครราชสีมา ” ในปี พ.ศ. 2495 ได้ยุบเลิกหลักสูตรเดิม 3 หลักสูตร และเปิดสอนหลักสูตรประกาศนียบัตรประโยคครูประถม (ป.ป.) จนถึงปี พ.ศ. 2497 จึงเปิดสอนหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาการศึกษา (ป.กศ.) แทนหลักสูตรประกาศนียบัตรประโยคครูประถม (ป.ป.)
พ.ศ. 2502
ได้รับการยกฐานะเป็น “วิทยาลัยครูนครราชสีมา” และเปิดสอนหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูง (ป.กศ. ชั้นสูง) ต่อจากระดับ ป.กศ.
พ.ศ. 2507
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อรับฟังคำกราบบังคมทูลรายงานความก้าวหน้าของการฝึกหัดครูไทยและทอดพระเนตรกิจการวิทยาลัยครูนครราชสีมาและนิทรรศการด้านวิชาการของนักศึกษา
พ.ศ. 2518
ได้รับการยกฐานะเป็นสถาบันอุดมศึกษาสังกัดกระทรวงศึกษาธิการตามพระราชบัญญัติวิทยาลัยครู พุทธศักราช 2518 จึงขยายการผลิตครูถึงระดับปริญญาตรีครุศาสตรบัณฑิต (ค.บ.)
พ.ศ. 2520
เริ่มโครงการอบรมครูและบุคลากรทางการศึกษาประจำการ (อคป.) แล้วพัฒนามาเป็นโครงการจัดการศึกษาเพื่อปวงชน (กศ.ปช.) ในปัจจุบัน
พ.ศ. 2527
เริ่มเปิดสอนสาขาวิชาชีพอื่นนอกเหนือจากสาขาวิชาการศึกษาในระดับอนุปริญญาและขยายถึงระดับปริญญาตรีในระยะต่อมา ปัจจุบันมี 5 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาวิชาการศึกษา สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และวิทยาศาสตร์ประยุกต์ สาขาวิชาศิลปศาสตร์ สาขาวิชาบริหารธุรกิจ และสาขาวิชานิติศาสตร์
พ.ศ. 2537
เปลี่ยนแปลงฐานะเป็น “สถาบันราชภัฏนครราชสีมา” สามารถเปิดสอนในระดับที่สูงกว่าปริญญาตรี
พ.ศ. 2541
เริ่มเปิดสอนระดับปริญญาโท สาขาการบริหารการศึกษา และปีต่อ ๆ มา ตั้งแต่ พ.ศ. 2542-2545 ได้เปิดสอนสาขาอื่นเพิ่มอีก 6 สาขา ได้แก่ สาขาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา สาขาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ สาขาการส่งเสริมสุขภาพ สาขาหลักสูตรและการสอน สาขาสังคมศาสตร์เพื่อการพัฒนา และสาขาการพัฒนาสุขภาพชุมชน
พ.ศ. 2547
ได้รับการยกฐานะเป็น “มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา”
พ.ศ. 2548
เปิดสอนระดับปริญญาโทเพิ่มอีก 1 สาขา คือ สาขาวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต
พ.ศ. 2549
เปิดสอนระดับปริญญาเอก สาขาภาวะผู้นำทางการบริหารการศึกษา และเปิดสอนระดับปริญญาโทเพิ่มอีก 1 สาขา ได้แก่ สาขา เทคโนโลยีการจัดการสิ่งแวดล้อม
พ.ศ. 2556
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อครั้งดำรงพระราชอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ เปิดอาคารยุพราชเบญจมงคล
สัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัย[แก้]
ตราสัญลักษณ์[แก้]
รูปพระราชลัญจกรประจำพระองค์ รัชกาลที่ 9 ซึ่งเป็นรูปพระที่นั่งอัฐทิศ ประกอบด้วยวงจักร กลางวงจักรมีอักขระเป็น "อุ" หรือเลข "๙" รอบวงจักรมีรัศมีเปล่งออกโดยรอบ เหนือจักรเป็นรูปเศวตฉัตร 7 ชั้น ตั้งอยู่บนพระที่นั่งอัฐทิศ แปลความหมายว่า มีพระบรมเดชานุภาพในแผ่นดิน โดยที่วันบรมราชาภิเษกตามโบราณราชประเพณี ได้เสด็จประทับเหนือพระที่นั่งอัฐทิศ สมาชิกรัฐสภาถวายน้ำอภิเษกจากทิศทั้งแปด รอบนอกของตราด้านบนมีตัวอักษรภาษาไทยว่า “มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา” ด้านล่างมีตัวอักษรภาษาอังกฤษว่า “NAKHON RATCHASIMA RAJABHAT UNIVERSITY”
ความหมายสีทั้ง 5 สีในตราสัญลักษณ์
- สีน้ำเงิน ( ███ ) แทนค่า สถาบันพระมหากษัตริย์ผู้ให้กำเนิด และพระราชทาน “สถาบันราชภัฏ”
- สีเขียว ( ███ ) แทนค่า แหล่งที่ตั้งของมหาวิทยาลัยราชภัฏทั้ง 41 แห่งในแหล่งธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่สวยงาม
- สีทอง ( ███ ) แทนค่า ความเจริญรุ่งเรืองทางภูมิปัญญา
- สีส้ม ( ███ ) แทนค่า ความรุ่งเรืองทางศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ที่ก้าวไกลใน 41 มหาวิทยาลัยฯ
- สีขาว ( ███ ) แทนค่า ความคิดอันบริสุทธิ์ของนักปราชญ์แห่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย[แก้]
- ต้นราชพฤกษ์ (Cassia fistula) เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง มีความสูง 10-20 เมตร ดอกขึ้นเป็นช่อยาว 20-40 เซนติเมตร แต่ละดอกมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 4-7 เซนติเมตร มีกลีบดอกสีเหลืองขนาดเท่ากัน 5 กลีบ ผลยาว 30-62 เซนติเมตร และ กว้าง 1.5-2.5 เซนติเมตร มีกลิ่นฉุน และมีเมล็ดที่มีพิษเป็นจำนวนมาก
สีประจำมหาวิทยาลัย[แก้]
คณะและหน่วยงานในสังกัด[แก้]
คณะ[แก้]
- คณะครุศาสตร์
- คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
- คณะวิทยาการจัดการ
- คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์
- คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม
- คณะสาธารณสุขศาสตร์
- คณะพยาบาลศาสตร์
- คณะนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ (โครงการจัดตั้ง)
- คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรม (โครงการจัดตั้ง)
- บัณฑิตวิทยาลัย
สำนัก[แก้]
- สำนักงานอธิการบดี เก็บถาวร 2018-04-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ เก็บถาวร 2008-04-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- สำนักศิลปะและวัฒนธรรม
- สำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน เก็บถาวร 2008-06-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- สถาบันวิจัยและพัฒนา
- สำนักคอมพิวเตอร์
- สถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหิน
ศูนย์[แก้]
- ศูนย์วิทยาศาสตร์และวิทยาศาสตร์ประยุกต์ เก็บถาวร 2008-06-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ศูนย์ภาษา เก็บถาวร 2007-10-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ศูนย์สุขภาพชุมชน เก็บถาวร 2012-11-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ศูนย์ศึกษาการพัฒนาครู เก็บถาวร 2017-08-11 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ศูนย์ข้อมูลท้องถิ่นเพื่อการพัฒนา
หน่วยงานอื่นๆ[แก้]
- สำนักตรวจสอบภายใน
- โรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา เก็บถาวร 2012-11-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- โครงการสหกิจศึกษา เก็บถาวร 2011-02-09 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- คลินิกเทคโนโลยี เก็บถาวร 2008-04-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- องค์การนักศึกษา เก็บถาวร 2009-06-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
อาคารสถานที่[แก้]
อาคารยุพราชเบญจมงคล (อาคาร 31) ประกอบด้วยพื้นที่โล่งสำหรับทำกิจกรรม ห้องจัดแสดงนิทรรศการ ห้องประชุม ห้องบรรยาย และห้องเรียนรวม มีวัตถุประสงค์ในการก่อสร้างเพื่อให้เป็นอาคารเรียนรวมสำหรับนักศึกษา รองรับจำนวนนักศึกษาที่มีเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมหาวิทยาลัยได้มีการเปิดหลักสูตรเพิ่มหลายสาขาวิชา เริ่มจากการเชิญชวนผู้บริหาร คณาจารย์ ทั้งอดีตและปัจจุบัน ศิษย์เก่า และนักศึกษาปัจจุบัน ตลอดจนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาค ดำเนินการออกแบบและขอรับการสนับสนุนงบประมาณแผ่นดินในการก่อสร้าง และงบประมาณรายได้ของมหาวิทยาลัยเพิ่มเติม โดยเมื่อรับมอบอาคารเรียบร้อยแล้ว มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการขอพระราชทานชื่ออาคารจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งพระองค์มีพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานชื่ออาคารเรียนรวมของมหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2554 ว่า “อาคารยุพราชเบญจมงคล” มีความหมายว่าเป็นอาคารเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในมหามงคลทรงเจริญพระชนมพรรษา 5 รอบ แห่งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร และ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ เปิดอาคารยุพราชเบญจมงคล เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2556 นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่ชาวมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาอย่างยิ่ง
พิพิธภัณฑ์เมืองนครราชสีมา (อาคาร 10) เป็นพิพิธภัณฑ์สาธารณะที่มีการบูรณาการความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรมของจังหวัดนครราชสีมา ควรค่าที่คนโคราชจะได้รับรู้และภาคภูมิใจ โดยมุ่งหวังที่จะกระตุ้นให้เยาวชนชื่นชอบและสนใจที่จะศึกษาค้นคว้าในประวัติศาสตร์ ศิลปะและมรดกทางวัฒนธรรมที่บรรพชนไทยได้สั่งสมสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน นับได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดนครราชสีมาที่นักท่องเที่ยวจะได้รับข้อมูล ความรู้ และความเข้าใจเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณจังหวัดนครราชสีมาก่อนที่จะไปชมยังสถานที่จริง
ศาลเจ้าพ่อขุนศักรินทร์ เป็นเทวสถานประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ภายในประดิษฐานประติมากรรมปูนปั้นขุนศักรินทร์ สิ่งศักสิทธิ์ที่ชาวราชภัฏนครราชสีมาเชื่อว่าท่านคอยปกป้องคุ้มครองให้ทุกคนมีความแคล้วคลาดปลอดภัย ซึ่งมีพิธีบวงสรวงอย่างยิ่งใหญ่อลังการต่อเนื่องทุกปี