ว ด โอคอนเทนต ม ความส าค ญอย างไรในงานโฆษณา

ค้นหาตำแหน่งงานว่าง

ประเภทงาน

จังหวัด

เขต/อำเภอ (เลือกจากรหัสไปรษณีย์)

คำที่เกี่ยวข้อง ลงทะเบียนฝากประวัติ สมัครงาน เข้าระบบคนหางาน หางาน งานมาใหม่วันนี้

ค้นประวัติ หาคนทำงาน

สาขาอาชีพ / สาขาที่จบ

ประเภทงานที่อยากทำ

เพศ

ระดับการศึกษา

จังหวัด

เขต/อำเภอ

คำที่เกี่ยวข้อง

ลงประกาศรับสมัครงาน อัตราค่าโฆษณา อย่างหลากหลายให้เหล่าผู้ใช้งานได้มีโอกาสเข้าชมกันแบบไร้ขีดจำกัด ยิ่งไปกว่านั้นในยุคปัจจุบันทุกคนยังสามารถสร้างคอนเทนต์ขึ้นมาได้ด้วยตัวเองอีกต่างหาก

แต่บางครั้งเราอาจรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เมื่อนักการตลาด ครีเอทีฟ YouTube นักธุรกิจ หรือใครก็ตาม ต่างใช้คำนี้ปะปนกันไปเสียหมด จนเราไม่อาจแน่ใจได้เลยว่าคอนเทนต์คืออะไรกันแน่ ซึ่งคำจำกัดความเบื้องต้นของ Content คือ

“เนื้อหาที่เป็นข้อมูลเชิงบริบท ข้อมูลที่มนุษย์นำไปใช้ได้”

ตามที่ได้กล่าวถึงคำจำกัดความของคอนเทนต์ไปนั้น เป็นการจำกัดความในรูปแบบของภาษา แต่หากตีความหมายออกมาตามบริบทการใช้งานในปัจจุบัน จะได้ใจความที่มีความหมายอีกแบบหนึ่ง นั่นคือ คอนเทนต์ หมายถึงรูปแบบของเนื้อหาที่ถูกนำเสนอออกไปตามวัตถุประสงค์ที่แยกออกได้หลายประเภท

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้คอนเทนต์คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้โลกโซเชียลมีเดียเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา แต่ทั้งนี้หลายคนยังเขียนผิดกันอยู่บ้าง ก่อนขึ้นหัวข้อถัดไปเราจึงอยากนำเสนอว่าหากต้องการเขียนทับศัพท์ คอนเทนต์ เขียนยังไง

หากต้องเขียนในรูปแบบภาษาอังกฤษหรือภาษาไทยจะเขียนได้ว่า Content คือ คอนเทนต์ ไม่ใช่ คอนเท้น

จุดประสงค์ของการทำคอนเทนต์

บางกรณีการสร้างคอนเทนต์ขึ้นมาจากผู้ใช้งานทั่วไปบนสื่อโซเชียลมีเดีย อาจให้วัตถุประสงค์ของเนื้อหาที่แตกต่างกันออกไปตามต้องการให้สามารถปรับใช้ตามเป้าหมายได้อย่างยืดหยุ่น เช่น ต้องการให้คนรู้จักกับแบรนด์ อาจหยิบการทำ Content Marketing เพื่อนำมาสร้างคอนเทนต์ออนไลน์ที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับสินค้า, บริการ, และเอกลักษณ์ของแบรนด์มาเผยแพร่สู่สาธารณะ เป็นต้น

และวันนี้ Digital Tips เรามีข้อมูลมาให้อ่านกันเพิ่มเติม ว่าจุดประสงค์ของ Content คืออะไรบ้าง

1. Brand Awareness

สำหรับจุดประสงค์แรกของคอนเทนต์ที่ส่วนใหญ่มักถูกเลือกมาใช้งานในช่วงต้นการเริ่มสร้าง Branding บนโซเชียลมีเดียก็คือประเภท Brand Awareness หรือก็คือเนื้อหาที่เข้ามาช่วยสร้างการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ ให้ผู้อ่าน ผู้ชม มีโอกาสเข้าถึงและรู้จักแบรนด์ผ่านสิ่งที่นำเสนอมากยิ่งขึ้น ยิ่งแบรนด์ไหนมีการวางกลยุทธ์อย่างรอบคอบในช่วงต้น การสร้าง Brand Awareness Content คือสิ่งที่ช่วยมัดใจ และสร้างแรงดึงดูดให้ลูกค้าติดตามได้ตั้งแต่แรกเป็นจำนวนมาก

อ่านแนวทางการเสริม Branding เพิ่มเติม : Inbound Marketing คืออะไร ทำไมธุรกิจควรทำการตลาดแบบดึงดูด

2. Lead & Conversion

ถัดมาคอนเทนต์ ที่มีจุดประสงค์ในด้าน Lead & Conversion ที่หมายถึงการโน้มน้าวจากผู้คนที่มีความสนใจในแบรนด์หรือสินค้า ให้กลายมาเป็นลูกค้าที่เราสามารถปิดการขายได้นั่นเอง ซึ่งการสร้างคอนเทนต์มัดใจลูกค้าประเภทนี้มักถูกเริ่มต้นด้วยการนำเสนอผ่านมุมมองการช่วยแก้ไขปัญหาของผู้คน ด้วยการนำ Pain Point มาบอกเล่าว่าสินค้าและบริการของพวกเขาสามารถช่วยเหลืออะไรเหล่า Lead ที่ผ่านเข้ามาได้บ้าง เมื่อลีดที่เข้ามาได้รับเนื้อหามากพอที่จะเกิดการตัดสินใจซื้อ ภายในเนื้อหาก็จะมีลิงก์เชื่อมต่อกับหน้าเว็บไซต์หรือช่องทางต่าง ๆ เพื่อปิดการขายได้ทันที

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง : Marketing Funnel คืออะไร กลยุทธ์การตลาดพื้นฐานสำหรับการทำธุรกิจ

3. Passionate Subscribers

จุดประสงค์สุดท้ายของคอนเทนต์ คือการที่แบรนด์หรือธุรกิจสามารถปิดการขายจากลูกค้าได้แล้ว แต่ยังต้องการสร้างเนื้อหาที่ช่วยดูแลหลังการขาย อย่างการมอบความไว้วางใจ คำขอบคุณ หรือแม้กระทั่งการอธิบายเกี่ยวกับสินค้าเพิ่มเติมก็ดี เนื้อหาคอนเทนต์ในลักษณะนี้จะช่วยให้ผู้คนที่เป็นลูกค้าของแบรนด์เกิดความพึงพอใจอย่างมากที่สุด จากความรู้สึกว่าพวกเขาได้รับการใส่ใจจากแบรนด์ จนมีโอกาสกลับมาซื้อสินค้าซ้ำ และกลายเป็น Brand Loyalty ในที่สุด

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง : Insight คืออะไร ทำไมธุรกิจควรวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า

คอนเทนต์มีกี่ประเภท อะไรบ้าง

ผ่านเรื่องราวเกี่ยวกับจุดประสงค์ของคอนเทนต์กันมาเรียบร้อยแล้ว เรามาทำความรู้จักกับประเภทหลัก ๆ ทั้ง 5 ของ คอนเทนต์ คือ

1. Blog Content เนื้อหาที่ช่วยสร้างการเข้าถึง และเป็นหนึ่งในคอนเทนต์ที่ยอดเยี่ยมเสมอมา แนวทางสำหรับประเภทนี้ควรจะเป็นเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของแบรนด์ด้วยคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวโยงกัน และเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต้องมั่นใจด้วยว่าผู้อ่านได้ข้อมูลอะไรกลับไปบ้าง
2. Infographic Content เนื้อหาที่นำเสนอข้อมูลที่สรุปใจความสำคัญมาอย่างละเอียด ภายใต้กรอบข้อมูลที่เหมาะสมแก่การอ่านอย่างรวดเร็ว
3. Podcast Content Marketing การนำเสนอคอนเทนต์ผ่านเสียงด้วยการเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกันกับแบรนด์ เพื่อช่วยเจาะตลาดในกลุ่มเฉพาะทาง
4. Video Content Marketing เนื้อหาที่นำเสนอผ่านรูปแบบวิดีโอหลากหลายรูปแบบ ช่วยให้ผู้คนเข้าถึงสิ่งที่แบรนด์ต้องการสื่อได้ง่ายขึ้น ปัจจุบันมีทั้งแบบ LIVE, Long และน้องใหม่อย่าง Shorts คอนเทนต์ วิดีโอสั้นที่สนุกสนาน
5. Social Media Content Marketing คอนเทนต์ประเภทนี้จะขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มของโซเชียลมีเดีย ที่มีกฎเกณฑ์แตกต่างกันออกไป หนึ่งโซเชียลมีเดียอาจมีได้ทั้งบทความ, รูปภาพ, วิดีโอ, และเสียง อยู่ในที่เดียวกัน

6 เทคนิคการสร้างคอนเทนต์ ให้มัดใจลูกค้า

ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะพัฒนาทักษะความเป็น Content Creator ด้วยการเริ่มสร้างคอนเทนต์เอง แต่ต้องทำอย่างไรถึงจะมัดใจลูกค้าได้ ลองมาดูเคล็ดลับดี ๆ ที่ Digital Tips เอามาฝากกันค่ะ

1. สร้างคอนเทนต์โดยไม่จำเป็นที่ต้องทดลองอะไรใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา

อ่านหัวข้อแรกอาจรู้สึกสงสัยกันเล็กน้อย ว่าทำไมวิธีการสร้างคอนเทนต์ให้มัดใจลูกค้าถึงไม่ควรลองอะไรใหม่ ๆ อยู่ตลอด ทั้งที่จริงมันอาจจะเวิร์คก็ได้? ซึ่งคำตอบตรงนี้ไม่ยากเลยค่ะ เนื่องจากการที่แบรนด์เริ่มสร้างคอนเทนต์ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง หากมีเนื้อหาชุดไหนที่ทำแล้วได้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างดี สิ่งที่เราควรทำคือศึกษาเพิ่มเติมว่าอะไรเป็นส่วนที่ทำให้เนื้อหานั้นประสบผลสำเร็จ จากนั้นค่อยนำมาใช้ ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับเนื้อหาใหม่ไปเรื่อย ๆ

แต่ถ้าหากเราปรับเปลี่ยนเป็นรูปแบบใหม่ตั้งแต่แรก โดยที่ไม่อ้างอิงจากคอนเทนต์ที่ประสบความสำเร็จชุดก่อน นั่นยิ่งทำให้ผู้อ่านหรือผู้ติดตามต้องคอยปรับตัวให้เข้ากับเนื้อหารูปแบบใหม่อยู่เสมอ จนสุดท้ายก็เกิดความไม่คุ้นชินต่อภาพลักษณ์โดยรวมของแบรนด์ และเลิกติดตามไปในที่สุด

2. ใช้อารมณ์เป็นอาวุธลับในเนื้อหาคอนเทนต์

ด้วยการสร้างคอนเทนต์ที่เกี่ยวโยงกับความรู้สึกนึกคิด หรือสร้างแนวโน้มที่ผู้ชมเนื้อหาของเราจะมีอารมณ์ร่วมไปในทิศทางเดียวกันอย่างเข้มแข็ง เมื่อคนเราใส่อารมณ์ความรู้สึกเข้าไปในอะไรสักอย่าง นั่นทำให้เกิดความรู้สึกอย่างแรงกล้า จนอาจทำให้เนื้อหาของเรากลายเป็นสื่อที่ไวรัล และได้รับการเผยแพร่ต่ออย่างล้นหลาม เนื่องจากผู้คนที่เข้ามาชมเนื้อหาทุกคนถูกกระตุ้นความรู้สึกเหมือนกันจนกระหน่ำแชร์ไม่หยุด

3. พาดหัวคอนเทนต์ให้น่าดึงดูดมากที่สุด

แม้ว่าในปัจจุบันการสร้างคอนเทนต์ในหลายแพลตฟอร์มจะเต็มไปด้วยเนื้อหาประเภทวิดีโอ และรูปภาพที่ผู้คนเข้าไปเชยชมเป็นจำนวนมาก แต่ความสำคัญของ Text หรือตัวอักษรก็ยังคงต้องให้ความสำคัญอยู่เช่นเดิม เพราะถ้าเราสามารถคิดคำที่อยู่บนภาพหรือคำอธิบายวิดีโอที่อยู่บน Thumbnail ได้น่าสนใจมากพอ ก็จะสามารถดึงดูดผู้คนให้คลิกเข้ามาชมเนื้อหาของเรา ยกตัวอย่างเช่น

• คำเปรยที่เร่งรัดให้เข้ามาชม: ด่วน!, รู้ก่อนใครได้ที่!
• คำเปรยที่ชี้ชัดถึงประโยชน์: ดูจบเริ่มทำได้ทันที!, สอนวิธีสร้างรายได้จาก 0 ถึง 1,000,000!
• คำเปรยที่มีความเฉพาะเจาะจงเป็นพิเศษ: ทริคเด็ดกลยุทธ์การตลาดใหม่ล่าสุดในสายรักสุขภาพ!
• คำเปรยที่ดูแล้วไม่ซ้ำใคร: อัดแน่นข้อมูลที่ใหม่ ไฉไล และเฉียบคมกว่าที่ไหน!

ที่กล่าวมาเป็นเพียงตัวอย่างคำเปรยที่สามารถเอาไปปรับใช้กับคอนเทนต์ได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับความครีเอทีฟของทุกคน ว่าจะขึ้นป้ายหัวอย่างไรให้น่าสนใจตั้งแต่แรกเจอ

4. บรรยายคอนเทนต์ด้วยเทคนิค Show Don’t Tell

การสร้างคอนเทนต์ ในยุคนี้ไม่จำเป็นต้องมีความสามารถที่เข้มข้น ขอเพียงแค่มีไอเดียที่ชัดเจน ก็สามารถสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจขึ้นมาได้แล้ว ด้วยการหยิบเอาเทคนิค “Show Don’t Tell” มาใช้งาน ซึ่งเทคนิคดังกล่าว เป็นการบรรยายเนื้อหาให้เกิดประสบการณ์ร่วมกันระหว่างผู้สร้างคอนเทนต์ จนเกิดการมองภาพและความหมายไปในทิศทางเดียวกัน โดยที่เนื้อหาไม่ได้บ่งบอกถึงสิ่งที่ต้องการจะสื่ออย่างชัดเจน หรือพูดอีกอย่างง่าย ๆ มันเป็นเทคนิคการบรรยาย “จินตนาการ” ออกมา เช่น การพูดถึงรูป, รส, กลิ่น, เสียง, การเคลื่อนไหว ฯลฯ

5. เปิดใช้งานบล็อกเพื่อเชื่อมโยงคอนเทนต์การตลาด

โดยปกติแล้วในช่วงเวลานี้หลายแบรนด์ต่างพุ่งเป้าไปที่การสร้างคอนเทนต์บน Social Media Marketing กันเป็นจำนวนมาก เพื่อเข้าถึงเหล่าผู้ใช้งานหลายสิบล้านคนบนนั้น แต่ทางที่ดีหากเราสามารถสร้างกลุ่มผู้ติดตามจนกลายเป็นฐานลูกค้าขึ้นมาได้ประมาณหนึ่ง ในอนาคตการมองหาลูกค้าใหม่อาจเป็นเรื่องที่ยากหากเราไม่มีการปรับแบบแผน ดังนั้นการเชื่อมโยงระหว่างโลกออนไลน์อย่างโซเชียลมีเดียกับบล็อกบนเว็บไซต์ อาจเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยม เพื่อให้ผู้ติดตามหน้าใหม่ได้มีโอกาสทำความรู้จักกับแบรนด์ของคุณผ่านบล็อกบนเว็บไซต์ แถมยังได้ Traffic เข้าเว็บเพิ่มเติมอีกด้วย

6. เพิ่มประสิทธิภาพการค้นหาคอนเทนต์ด้วยเทคนิค SEO

เมื่อเราต้องการเผยแพร่คอนเทนต์ ลงบล็อก หรือแม้แต่โพสต์บนโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ที่มีความยาวเฉพาะตัว เราสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการค้นหาด้วยเทคนิค SEO ได้เหมือนกัน โดยเริ่มต้นจากการทำ Keyword Research เพื่อมองหาคีย์เวิร์ดหลักที่เราใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จากนั้นลองจัดทำเนื้อหาที่ถูกหลักเพื่ออัปเดตบล็อกและโพสต์อย่างต่อเนื่อง จากนั้น Algorithm ของ Google จะช่วยสร้างโอกาสที่เนื้อหาของคุณจะแสดงผลการค้นหาบ่อยขึ้น มีอันดับที่ดีขึ้น และสร้างการเข้าถึงได้อย่างมหาศาล

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง : CTR หรือ Click Through Rate คืออะไร สำคัญต่อการยิง Ads อย่างไรบ้าง

ตัวอย่างการทำ คอนเทนต์

จัดเต็มกันมามากแล้วกับเนื้อหาของคอนเทนต์ในหลาย ๆ มุม คราวนี้ลองแวะมาพักผ่อนหย่อนใจด้วยการดูตัวอย่างและเคล็ดลับของแบรนด์ดังที่น่าสนใจกันบ้างดีกว่า

ตัวอย่างคอนเทนต์เสื้อผ้า

จากแบรนด์เสื้อผ้าที่ทำเนื้อหาออกมาเตรียมต้อนรับหน้าหนาวที่ดูมินิมอลแบบอบอุ่นสุด ๆ จาก Uniqlo เนื่องด้วยปัจจุบันประเทศไทยก้าวเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการแล้ว ทำให้ทาง Uniqlo เองก็ต้องรันคอนเทนต์ที่สนับสนุนด้วยเทคนิคการขายออนไลน์สำหรับตัวสินค้า Collection หน้าหนาวออกมาด้วย โดยทำออกมาในเชิงรีวิว จาก Celebrity Travel Blogger ที่มีโอกาสได้ท่องเที่ยวค่อนข้างบ่อย พร้อมบทสัมภาษณ์สั้น ๆ ที่ชี้ให้เห็นถึงรีวิวอันยอดเยี่ยมของสินค้าแต่ละตัว

เคล็ดลับในส่วนของคอนเทนต์ตัวดังกล่าว เป็นการดึงเอา Identity หรือ Character ของ Travel Blogger แต่ละคนออกมาให้เห็นชัดเจนมากขึ้น ผ่านการรีวิวสินค้าใน Collection แต่ละชิ้น ทำให้กลุ่มผู้คนที่รู้จักหรือติดตามพวกเขาอยู่แล้วได้มีโอกาสเห็นเสื้อผ้าเซตใหม่นี้ชัดเจนมากขึ้น แถมได้อ่านรีวิวจากผู้คนที่ชื่นชอบโดยตรง ทำให้ช่วยกระตุ้นความสนใจได้เป็นอย่างดี

ตัวอย่างคอนเทนต์อาหาร

ตัวอย่างคอนเทนต์อาหารขอเลือกเป็นไอศกรีมแบรนด์ Wall’s ที่ถูกทาง Tops Thailand หยิบมานำเสนอแบบตามกระแส จากการวางจำหน่ายเกมชื่อดังใหม่ล่าสุดของ Play Station อย่าง God of War ซึ่งทางทีม Tops ก็ได้จับเอาชื่อเกมมาประสานกันกับแบรนด์ไอศกรีม จนได้ออกมาเป็นคอนเทนต์ดังกล่าว ถูกอกถูกใจชาวเกมเมอร์จนได้รับการแชร์ต่อในแวดวงเป็นอย่างมาก

โดยเคล็ดลับการทำคอนเทนต์เกาะกระแสของทาง Tops จะเน้นด้านความรวดเร็วเป็นหลักก็จริง แต่การเชื่อมโยงก็ต้องไม่น้อยหน้า ด้วยการที่มีสินค้าขายอยู่ภายในร้านหลายแบรนด์ หลายประเภท ทำให้การหยิบมาผนวกกับกระแสใหม่ ๆ อย่างสร้างสรรค์เกิดขึ้นมาเป็นประจำนั่นเอง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำคอนเทนต์

คิดคอนเทนต์ไม่ออกทำไงดี?

แน่นอนว่าการสร้างเนื้อหาคอนเทนต์อย่างต่อเนื่องมายาวนาน อาจทำให้ชุดความคิดของเราเริ่มวนเวียนอยู่กับเรื่องราวเดิม ๆ บ่อยครั้งจนกลายเป็นความซ้ำซากที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง หากรู้ตัวแล้วว่าเริ่มคิดคอนเทนต์ไม่ออก ลองหยุดคิดกับตัวอย่างตั้งใจว่ามีสิ่งไหนที่เราพลาดไปหรือเปล่า อาจสร้างเช็กลิสต์ขึ้นมาเพื่อลองวางแนวทางการทำเนื้อหาใหม่สำหรับครั้งถัดไป ดังนี้

• ลองเปิดหาข้อมูลทั้งการอ่าน, ดู และฟัง ให้มากกว่าเดิม
• ลองเก็บข้อมูลจากผู้ติดตามดูบ้างว่าเราสามารถสร้างคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ และเป็นที่สนใจของทุกคนได้บ้างหรือไม่
• ลองแวะมาจับเทรนด์สำคัญ ๆ ที่สามารถเชื่อมโยงได้อย่างเป็นธรรมชาติ
• ลองคิดแยกย่อยจากประเด็นเดิมที่มีอยู่แล้วให้ละเอียด หรือลึกมากกว่าเดิม

หากเรามุ่งมั่นในการสร้างคอนเทนต์ที่มีจุดโฟกัสใกล้จุดเดิมต่อไปเรื่อย ๆ สักวันก็อาจถึงทางตันได้เช่นกัน การแตกย่อยออกไปหาอะไรใหม่ ๆ อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่เราสามารถปรับใช้ให้เข้ากับรูปแบบเดิมที่เป็นเอกลักษณ์ของเรา จนกลายเป็นแนวทางใหม่ที่ยอดเยี่ยมขึ้นมาก็ได้

สรุปเกี่ยวกับการทำคอนเทนต์

สรุปสุดท้ายเกี่ยวกับการทำคอนเทนต์ คอนเทนต์บนโลกออนไลน์ในยุคปัจจุบันมีความเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น ทั้งด้านรูปแบบของเนื้อหาที่เราต้องการนำเสนอ ไปจนถึงจุดประสงค์และประเภทของเนื้อหาที่เราต้องการทำ ซึ่งการเริ่มต้นสร้างเนื้อหาในแบบฉบับของแบรนด์เองควรเริ่มต้นจากการตอบโจทย์ตัวเองให้ได้ก่อน ว่าเราจะลงหลักปักฐานบนแพลตฟอร์มไหน จากนั้นศึกษากฎเกณฑ์ของเนื้อหาบนแพลตฟอร์มนั้นให้ดี แล้วจึงเริ่มต้นวางแผนด้านจุดประสงค์และรูปแบบของคอนเทนต์ต่อไป

เรียน Content Marketing กับ Digitalstips ได้ที่ “คอร์สออนไลน์ เรียน Content Marketing ทบทวนฟรี ตลอดชีพ”