รองเท้าระดับตำนานที่อาดิดาสทำออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการของนักเตะสมัยใหม่ที่เน้นทั้งการคุมเกม การผ่านบอล และการทำประตูที่เฉียบขาด พร้อมด้วยคุณสมบัติ 3 ประการที่อาดิดาสชูขึ้นเพื่อไซโลนี้โดยเฉพาะคือ “ควบคุม” (Control) “สัมผัส” (Traction) และ “สบาย” (Fit) จุดเด่นที่เป็นผลลัพธ์จากการออกแบบหน้าผ้าใหม่ให้ซัพพอร์ททั้งหน้าเท้าด้านในและลูกฟุตบอลที่ผิวหน้าเท้าด้านนอก
เพื่อตอบโจทย์ความเป็นรองเท้าที่ครบเครื่อง และโดดเด่นรอบด้าน อาดิดาสจึงเลือกมิดฟิลด์เทคนิคแพรวพราวอย่าง “ปอล ป็อกบา” (Paul Pogba) มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ประจำไซโลนี้ ซึ่งสะท้อนคุณสมบัติของรองเท้าอย่างตรงจุด เพราะป็อกบาเป็นนักเตะที่มีความสามารถรอบด้าน และเป็นผู้เล่นที่มีคุณสมบัติที่จำเป็นสำหรับฟุตบอลสมัยใหม่รอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงบอล ครองบอล จ่ายบอล รวมไปถึงการทำประตู สำหรับไซโลนี้เทคโนโลยีที่อาดิดาสภูมิใจนำเสนอก็คือ
- Control Skin เทคโนโลยีบริเวณหลังเท้าที่อาดิดาสเลือกใช้ผ้าเซอคูล่านิตมาถักเป็นอัปเปอร์ พร้อมกับไล่โทนสีให้ดูโฉบเฉี่ยวสมกับการเป็นรองเท้าฟุตบอลตามคอนเซ็ปต์นักล่า โดยปกติแล้ว PREDATOR เป็นรองเท้าหน้ากว้าง รองรับนักเตะหลากหลายรูปแบบ ลืมปัญหารองเท้ากัดไปได้เลยเพราะอาดิดาสประกอบอัปเปอร์ด้วยผ้ายืดชนิดพิเศษเพียงชิ้นเดียว ไม่เย็บผ้าต่อกันให้เกิดรอยหรือเป็นอุปสรรคในการควบคุมลูกบอล นั่นยิ่งทำให้เนื้อผ้าชิ้นเดียวชิ้นนี้ยกกระชับเข้ากับรูปเท้าได้เป็นอย่างดี อีกหนึ่งชื่อที่อาดิดาสเรียกการพัฒนาหนังให้ไร้รอยต่อนี้ก็คือคำว่า “Fusion Skin” เสริมทับอีกชั้นด้วยวัสดุที่เรียกว่า “Textured Mesh” เพิ่มแรงเสียดทานให้ผิวบอล ทำให้มีประสิทธิภาพในการสัมผัสและควบคุมลูก นอกจากนั้นยังกันน้ำและความชื้นเข้าไปในรองเท้า ช่วยยืดอายุการใช้งานรองเท้าได้ยาวขึ้นอีกด้วย ส่วนถัดมาที่เป็นปัจจัยสำคัญของ Control Skin และเอกลักษณ์เด่นของรองเท้าไซโลนี้เลยก็คือ “Predator Element” เป็นแนวเส้นที่นูนออกมาเสมือนเขี้ยวเล็บนักล่าที่อาดิดาสทำออกมาเพื่อสัมผัสกับผิวบอล แนวเส้นนูนนี้ทอดยาวตลอดแนวอัปเปอร์ด้านบน และทั้งสองข้างฝั่งด้านในและด้านนนอกเท้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสัมผัสและควบคุมทิศทางลูกอย่างแม่นยำ พื้นที่ข้างเท้าด้านในอาดิดาสทำออกมาเพื่อการการรับบอลและแปบอลโดยเฉพาะ ออกแบบพื้นที่ตรงนี้ให้มีขนาดกว้างขึ้น เพื่อเพิ่มพื้นที่สัมผัสบอล พร้อมตั้งชื่อพื้นที่ตรงนี้ว่า “Control Element” เมื่อพลิกกลับมาฝั่งด้านข้างรองเท้า อาดิดาสวางแถบเพอร์ฟอร์แมนซ์ไว้สามแถบใหญ่ๆ วัสดุที่ใช้คือพลาสติกที่มีลักษณะนูนขึ้นมา เพื่อเพิ่มแรงเสียดทานในการคุมลูกและสัมผัสลูกได้หนักแน่นขึ้น
- Control Frame เทคโนโลยีชุดพื้นรองเท้าน้ำหนักเบาที่อาดิดาสเลือกใช้พลาสติก TPU เป็นวัสดุในการผลิตเพื่อความแข็งแรงทนทาน ประกอบไปด้วยพื้น 3 ชั้นคือชุดพื้นชั้นในเป็นวัสดุผิวด้าน ชุดพื้นชั้นนอกเป็นวัสดุผิวเงามันวาว และชุดพื้นชั้นกลางที่อาดิดาสตั้งชื่อว่า “Torsion Ribs” แนวสันที่ค่อนข้างหนา อาดิดาสวางไว้ตรงกลางพื้นรองเท้าเพื่อซัพพอร์ทการเคลื่อนที่แบบพลิกแพลง ให้นักเตะได้ทรงตัวอย่างมั่นคงบนฝ่าเท้า และพลิกบอลได้ดีขณะเคลื่อนไหว ปุ่ม FG ของไซโลนี้อาดิดาสให้ชื่อว่า “Hybrid Stud Tip” เป็นการออกแบบปุ่มเป็นรูปสี่เหลี่ยมด้านไม่เท่าและวางในองศาที่แตกต่างกันออกไป เพื่อสมรรถภาพในการยึดเกาะทุกพื้นสนามและการเคลื่อนที่เปลี่ยนทิศทางแบบ 360° พื้นรองเท้าด้านในผลิตจากโฟม EVA นุ่มพอที่จะรองรับแรงกระแทกจากพื้นสนาม อีกทั้งยังตกแต่งด้วยคำว่า PREDATOR ไว้ที่ส้นเท้าอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีบริเวณส้นเท้าที่อาดิดาสตั้งใจทำเพื่อปกป้องข้อเท้าและเอ็นร้อยหวาย อาดิดาสตั้งชื่อเกาะหุ้มส้นเท้าสำหรับรุ่นนี้ว่า “Heelcap” ช่วยกระชับและปกป้องส้นเท้า ตกแต่งด้วยการเสริมพลาสติกเป็นชั้นๆ 3 ชั้น ทำให้ดูโฉบเฉี่ยวมากขึ้น อีกหนึ่งเทคโนโลยีบริเวณนี้คือ “Sockfit Collar” ขอบล็อคข้อเท้าที่ทำจากไพร์มนิต ผ้านุ่มที่มีความหนาเพื่อยกกระชับข้อเท้าขณะเคลื่อนไหวและสวมใส่ บริเวณขอบด้านบนของขอบล็อคข้อเท้าอาดิดาสตกแต่งด้วยคำว่า “PREDATOR” ในแนวตั้ง และวางโลโก้อาดิดาสเล็กๆไว้ด้านบนสุดของขอบล็อคช้อเท้าด้านนอก
สำหรับนักฟุตบอลแล้ว ไม่มีอะไรที่สำคัญไปกว่ารองเท้าดีๆ สักคู่ เพื่อที่จะพริ้วไปในสนามได้อย่างสบายใจกับการจบสกอลล์ได้เด็ดขาด ซึ่งเวลานี้ Adidas ผู้ผลิตรองเท้ากีฬาที่เรารู้จักกันดี ก็ไม่รีรอกับการพัฒนาไปอีกขั้นด้วยการเปิดตัวรองเท้าฟุตบอลแบบไร้เชือกผูก โดยจะให้ผู้เล่นระดับโลกได้ทดลองใช้ในช่วงสัปดาห์หน้าที่จะถึงนี้
โดยทาง Adidas ใช้ชื่อรองเท้ารุ่นนี้ว่า ACE 16+ Purecontrol สำหรับรองเท้ารุ่นใหมล่าสุดนี้ ใช้ขอบรัดแทนเชือกผูก ด้วยวัสดุ TPU หรือ Thermalplastic polyurethane เพื่อให้ความปลอดภัยบริเวณกลางของเท้า นอกจากนี้ยังเป็นระบบล็อคภายใน ส่วนบริเวณด้านบนใช้โครงสร้างที่ถักสานกันให้มีความโปร่ง ผลิตด้วยวัสดุบางอย่างที่เรียกว่า Primeknit ซึ่งเป็นจุดเด่นใน Adidas all-on-One ที่เป็นแนวคิดรองเท้า/ ถุงเท้า จากปี 2014
ด้วยการออกแบบทั้งหมดนี้ Adidas ตั้งใจจะให้เป็นรองเท้าฟุตบอลที่มีความเหมาะสมในการใช้งานมากที่สุด เหมือนกับเช่นถุงมือ สำหรับการควบคุมลูกได้อย่างคล่องตัว บนพื้นที่สัมผัสขนาดใหญ่ ไม่มีเชือกที่ผูกมาทำให้การควบคุมลูกยากขึ้น ซึ่งเป็นที่ชัดเจนว่าช่วงสัปดาห์หน้านี้ ACE 16+ จะถูกนำมาใช้ลงสนามจริงในการแข่งขัน
งานนี้ก็ยังมีคอมเมนต์จาก Mesut Ozil กองหน้าชื่อดังจากทีมอาร์เซนอล แชร์ความคิดเห็นในเรื่องของรองเท้าฟุตบอลนี้ ในด้านอุปสรรคเล็กๆ จากเรื่องของเชือกผูกรองเท้าที่มีผลต่อการควบคุมลูกฟุตบอล รวมถึงการต้องจัดเก็บหรือมัดปลายเชือกให้อยู่ในสภาพที่พร้อมที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นปัญหาขณะที่ต้องวิ่งอยู่ในสนามเป็นเวลานาน รองเท้าแบบ ไร้เชือกผูกแบบนี้ น่าจะเป็นรองเท้าในฝันของใครหลายคน และแน่นอนว่าคงไม่รีรอที่จะได้ลองนำไปใช้ลงสนามในเวลาอันใกล้นี้
โดยที่ ACE 16+ purecontrol จะลงสนามพร้อม Ozil สำหรับอาร์เซนอลในอาทิตย์นี้ พร้อมๆ กับ Ivan Rakitic จากทีมยักษ์ใหญ่แห่งสเปน บาร์เซโลนา ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีตัวเลขราคาออกมา แต่จะเป็นรุ่นที่มีจำนวนจำกัด โดยจะจำหน่ายอยู่ในร้านค้าหลักอย่างเช่นใน ปารีส มาร์เซย์ ลอนดอน บาร์เซโลนา และแมนเชสเตอร์และร้านค้าปลีกที่เข้าร่วม