และ Forex มาอย่างต่อเนื่องและยาวนานตั้งแต่ปี 2001 จนกระทั่งถึงปัจจุบัน มีรางวัลการรันตีในคุณภาพของการให้บริการของทางธนาคารมากมาย มียอดสมาชิกฝาก-ถอนเงินกว่า 36 ล้านบัญชี จนอาจกล่าวได้ว่า Skrill คือที่สุดของระบบธนาคารออนไลน์เพื่อการลงทุนในโลกดิจิตอลของคุณ
จุดเด่นของ Skrill
- 1.รองรับระบบการฝาก-ถอนเงิน จากโบรกเกอร์ Binary option ชั้นนำจากทั่วโลก
- 2.สามารถฝากเงินโดยการโอนผ่านบัญชีธนาคารได้
- 3.สามารถถอนเงินเข้าธนาคารกรุงเทพ กสิกรไทย ทหารไทย ได้ภายใน 2-5วันทำการ
- 4.ไม่จำกัดจำนวนเงิน ฝาก ถอน และโอน ภายหลังยืนยันตัวตนแล้ว
- 5.สามารถโอนเงินจาก Neteller เข้ามาที่ Skrill ได้
- 6.หากเป็น VIP จะสามารถเพิ่มสิทธิพิเศษขึ้นอีก
ถ้าคุณเทรด Binary Option และถามว่าธนาคารออนไลน์ใดที่เราต้องมีก่อนเป็นอันดับแรก ผมตอบได้อย่างทันทีเลยครับว่า Skrill เพราะเป็นธนาคารที่เราสามารถฝาก และที่สำคัญสามารถถอนเงิน เข้าบัญชีธนาคารไทยได้โดยตรง หมดปัญหาในเรื่องของการถอนเงินออกไม่ได้อย่างแน่นอน อีกทั้งยังปลอดภัยในการทำธุรกรรมอีกด้วย ดังนั้นอย่าลืมสมัครเป็นสมาชิกธนาคาร Skrill แล้วสนุกกับการทำกำไรบน Binary Option นะครับ
หรือคลิ๊กที่โลโก้
1. เมื่อกดเข้ามาที่หน้าแรก ให้เลือก OPEN A FREE ACCOUNT
2. กรอกข้อมูล อีเมล์ และรหัสผ่านเพื่อใช้ในการเข้าบัญชีครั้งต่อไป
3.กรอกชื่อ และนามสกุล ระบุวันเดือนปีเกิด จากนั้นกด Next
4. หน้าถัดไป เลือก Thailand ถัดมาเลือกค่าเงินเป็น THB - Thailand Baht จากนั้นกด Next
5. ในส่วนนี้ให้ใส่ที่อยู่ตามบัตรประชาชน
6. ใส่เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ ตัดเลขศูนย์ตัวหน้าออก
7. จากนั้นระบบจะแจ้งว่าบัญชี Skrill ของคุณได้ทำการสมัครเรียบร้อยแล้ว และรอการยืนยันบัญชีต่อไป
8. ยืนยันบัญชีผ่านอีเมล์ จากอีเมล์ของเราที่สมัครไว้ กดลิงค์เพื่อทำการยืนยันการสมัคร
9. เพิ่มบัญชีธนาคาร (เพื่อใช้ในการฝากหรือถอนเงิน) กด Cards and Bank Accounts
10. เลือก Add Bank Account
11. ระบุประเทศเป็น Thailand SWIFT CODE สำหรับ ธนาคารที่เราแนะนำดังนี้ ธนาคารกรุงเทพ BKKBTHBK ธนาคารกสิกรไทย KASITHBK ธนาคารทหารไทย TMBKTHBK
จากนั้นกรอกหมายเลขบัญชีตามหน้าบุ๊คแบงค์ของธนาคาร
📝การยืนยันตัวตนกับบัญชี Skrill / Account Verification
*สำคัญมาก!
1. ต้องมียอดเงินในบัญชีก่อนถึงจะมีปุ่มให้กดยืนยันบัญชีทำการเพิ่มเงินในบัญชีผ่านบัตรเดบิต เพิ่มบัตรโดยเลือก Add Credit or Debit Card
2. กรอกหมายเลขหน้าบัตร วันหมดอายุ และเลขหลังบัตรให้ครบถ้วน จากนั้นกด Save
3. จากนั้นจะเข้าสู่หน้าต่างการ Verify บัตร ซึ่ง Skrill จะทำการสุ่มหักเงินผ่านบัตร จำนวนเงินระหว่าง 1.01 ถึง 2.99 เป็นสกุลเงินต่างๆกันไป (ซึ่งจากประสบการณ์ โดนหักเป็นเงินปอนด์) จากนั้นเลือก Non-gambling แล้วกด Debit amount and verify
4. Skrill จะแจ้งว่าจะทำการหักเงินเพื่อใช้ในการยืนยัน และให้ทำการตรวจสอบกับธนาคารเจ้าของบัตรเพื่อนำข้อมูลการหักเงินมายืนยัน
แนะนำ! : วิธีที่เร็วที่สุดในการทราบยอดเงินที่ Skrill หักไปคือ ทำการโทรไปสอบถามธนาคารว่าหักเงินจากบัตรเป็นสกุลเงินอะไร จำนวนเงินเท่าไหร่
5. หลังจากทราบยอดเงินที่หักไปแล้ว ให้ทำการยืนยันบัตรโดยมาที่เมนู Cards and Bank Accounts ลิงค์ Verify จะอยู่ทางด้านขวาของบัตร
กรอกจำนวนเงินที่หักและกด Submit ก็เป็นอันเสร็จสิ้นการยืนยันบัตร
6. ต่อไป จะเป็นขั้นตอนการอัพโหลดเอกสารเพื่อทำการยืนยันและใช้งานโดยไม่ติด Limit เพื่อการใช้งาน Skrill ได้เต็มรูปแบบ
กด Continue หรือ กด Verifying your account. เพื่อทำการอัพโหลดเอกสารยืนยัน
7. เตรียมเอกสาร บัตรประชาชน, พาสปอร์ต, ใบขับขี่ หรือไฟล์เอกสารให้พร้อม จากนั้นกด Start verification
กดเลือกประเภทของเอกสารยืนยัน
8. เลือกอัพโหลดไฟล์ปุ่มด้านล่าง หรือจะใช้กล้องเว็บแคมจากหน้าคอมก็ได้
9. กด Choose file เพื่อทำการอัพโหลดไฟล์เอกสาร (ด้านหน้าเสร็จแล้ว กด Continue เพื่ออัพโหลดไฟล์ด้านหลังต่อ)
หลังจากอัพโหลดด้านหลังของบัตรเสร็จแล้วกด Confirm เพื่อทำการยืนยัน
ระบบจะแจ้งว่าได้รับเอกสารแล้ว
10. หลังจากอัพโหลดเอกสารแล้ว ทาง Skrill จะแจ้งผลการยืนยันมาทางอีเมล์
บัญชียืนยันพร้อมใช้งานเต็มรูปแบบ!!
📃ขั้นตอนการฝากและถอนเงิน Deposit / Withdraw
มาเริ่มที่การฝากเงินกันก่อน
1.Log-in เข้าสู่ระบบจากนั้น กดปุ่ม Upload
2. เลือกช่องทางการฝากเงิน โดยเลือกวิธีที่สะดวกที่สุด ในกรณียืนยันบัตรผ่านแล้ว แนะนำเลือกฝากผ่านบัตร จากนั้นกด Continue
3. ใส่จำนวนเงินที่จะฝาก ในการฝากจะมีค่าธรรมเนียม1.9% ของยอดเงินฝากแต่ไม่เกิน 10$ หรือประมาณ350บาทไทย ซึ่งถ้าฝากเยอะก็จำกัดไม่เกิน10$ จากนั้นกรอกเลข CVV หลังบัตรแล้วกด