สลากไทพลัส จะพามารู้จักกับ : ศาลเจ้าที่มีเสาโทริอิสีแดงนับหมื่นต้น เรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบลึกเข้าไปบนเขา อย่างที่เคยเห็นในการ์ตูน หรือภาพยนตร์กันบ่อยๆ นั่นคือ ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริไทฉะ (Fushimi Inari Taisha) ตั้งอยู่ในเขตฟุชิมิ ที่เกียวโต ซึ่งชาวบ้านเรียกกันโดยทั่วไปว่า โออินาริซัง นั่นเอง
ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ ไทฉะ Fushimi Inari Taisha
ศาลเจ้านี้เป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโต สร้างขึ้นเพื่อถวายให้แด่ อินาริ (Inari) เทพเจ้าแห่งการกสิกรรม โดยรอบบริเวณศาลเจ้าจะมีรูปปั้น และสัญลักษณ์ที่เกี่ยวกับสุนัขจิ้งจอกมากมาย ซึ่งในตำนานพื้นบ้านญี่ปุ่นเชื่อว่าสุนัขจิ้งจอกเป็นสัตว์นำสาส์นของเทพเจ้าอินาริ คอยอวยพรให้พื้นที่ในบริเวณมีน้ำอุดมสมบูรณ์ ปลูกข้าวได้ผลผลิตดีมีคุณภาพ ซึ่งจิ้งจอกเองยังเป็นสัตว์ที่ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่ามีอิทธิฤทธิ์อำนาจพิเศษ สามารถแปลงกายเป็นมนุษย์ได้ ซึ่งศาลเจ้าอินารินั้นมีมากกว่า 30,000 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น แต่ที่ฟุชิมิอินารินี้ถือเป็นศาลเจ้าที่ใหญ่ที่สุด และมีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 1,300 ปีทีเดียว
ตำนานเทพอินาริ (Inari) เทพเจ้าแห่งเกษตรกรรม
แน่นอนว่าจะมาเที่ยวศาลของท่านเทพอินาริ จะไม่รู้จักเรื่องราวของท่านเลยคงจะไม่ได้ เทพอินาริ นั้นเป็นที่เคารพบูชากันมาอย่างยาวนานในแง่ของการเพาะปลูก และเกษตรกรรมต่างๆ รูปลักษณ์ของท่านนั้นก็มีทั้งแบบผู้หญิงบ้าง ผู้ชายบ้างตามความเชื่อในแต่ละท้องที่ นอกจากนี้แล้วเทพอินาริเองยังนับเป็น 1 ในเทพเก่าแก่ของญี่ปุ่นด้วย
โดยปกติแล้วเทพอินาริจะไม่สื่อสารกับมนุษย์เองโดยตรง แต่จะสื่อสารผ่านบริวารของท่าน นั่นคือ สุนัขจิ้งจอก (คิทสึเนะ 狐) นั่นเอง ทำให้ตามศาลเจ้าของท่านจะต้องมีรูปปั้นของสุนัขจิ้งจอกอยู่ด้วย หรือถ้าเวลาอยากจะติดต่อกับมนุษย์เองโดยตรง เทพอินาริก็มักจะมาปรากฏตัวในรูปของสุนัขจิ้งจอกอยู่บ่อยครั้งเช่นกัน
มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับจิ้งจอกผู้ส่งสาร์นของเทพอินาริ ว่าพวกมันชอบกิน อะบุระอาเกะ หรือเต้าหู้ทอดมาก ทำให้ร้านอาหารที่ตั้งอยู่ระหว่างทางเข้าศาลเจ้าเลยขาย อินาริซูชิ (อะบุระอาเกะยัดไส้ด้วยข้าว) และคิตสึเนะอุด้ง (อูด้งแป้งข้าวสาลีในน้ำซุปโปะหน้าด้วยอะบุระอาเกะ) ใครหิวๆ ก็แวะรองท้องก่อนขึ้นเขาได้
\====================
ประวัติ ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ ศาลเจ้าเสาโทริอิพันต้นแห่งเกียวโต
ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ เริ่มสร้างขึ้นที่เขาอินาริยามะ (Inari Yama) ในปี ค.ศ. 711 (สร้างมาก่อนเมืองเกียวโตซะอีก) โดยแรกเริ่มชาวบ้านจะนำข้าวมาถวายเพื่อเป็นการขอพรให้มีความมั่งคั่ง ธัญญาหารบริบูรณ์ และร่ำรวย ภายหลังเทพอินาริเลยกลายเป็นเทพแห่งความร่ำรวยตามไปด้วย
ด้วยแรงศรัทธาที่มีมากขึ้น ศาลเจ้าจึงเริ่มขยายใหญ่ขึ้นไปถึงยอดเขา ศาลเจ้านี้มีความสำคัญมากในช่วงสมัยเอโดะ (ศตวรรษที่ 17 และ 18) และอยู่ภายใต้การอุปถัมภ์จากองค์พระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นมาตั้งแต่สมัยเฮอัน หลังจากนั้นจึงมีการสร้างอาคารสำคัญหลายแห่งเพิ่มเติมเรื่อยๆ ทั้งตัวอาคารหลักของศาลเจ้าหลังใหม่ที่สร้างในปี ค.ศ. 1499 และเสาโทริอิขนาดมหึมาบริเวณทางเข้าศาลเจ้า ซึ่งมาจากการบริจาคจากเหล่าขุนนาง และจากไดเมียวคนสำคัญต่างๆ
ไฮไลท์ของที่นี่ที่ทำให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกแห่มาเที่ยวอย่างได้ขาดสายก็คือ เสาโทริอิพันต้น หรือ เซมบงโทริอิไทฉะ ซึ่งความเป็นจริงมีนับหมื่นๆ ต้นเลย ตั้งเรียงรายติดๆ กันจนกลายเป็นอุโมงค์เสาโทริอิที่ยาวถึง 4 กิโลเมตร ซึ่งสามารถเดินเท้า และเยี่ยมชมได้โดยใช้เวลาทั้งสิ้น 2 ชั่วโมง เสาโทริอิที่ตั้งเรียงยาวสุดลูกหูลูกตานี้มักทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกเหมือนกับถูกดูดไปสู่อีกโลกหนึ่ง เป็นสถานที่ที่สวยงาม และมีมนต์ขลังอย่างน่าประหลาด
ข้อมูลศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ ไทฉะ Fushimi Inari Taisha
ที่ตั้ง : เขตฟูชิมิ กรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
พิกัด : //goo.gl/maps/Sty7mMbUb9qtNchY6
เวลาเปิด : ทุกวัน 24 ชั่วโมง
เว็บไซต์ : //inari.jp/en/
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟ JR สายนะระ ลงที่สถานี Fushimi Station จากทางออกสถานีมุ่งไปทิศตะวันออก เดินอีก 1 นาที
ศาลเจ้าเทพอินาริ (伏見稲荷大社, Fushimi Inari Shrine) ที่คนไทยทั้งหลายชอบเรียกกันว่าศาลเจ้าแดงหรือศาลเจ้าจิ้งจอกเป็นศาลเจ้าชินโต(Shinto) นั่งเองล่ะค่ะ ถ้าจะพูดว่าศาลเจ้าแห่งนี้ฮอตฮิตมากที่สุดก็ไม่ผิดเลยนะคะ เห็นได้จากโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์ต่างๆจะต้องมีภาพของที่นี่ให้เห็นอยู่เสมอ ที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของเมืองเกียวโต(Kyoto) มีชื่อเสียงโด่งดังจากประตูโทริอิ (Torii Gate) หรือเสาประตูสีแดงที่เรียงตัวกันข้างหลังศาลเจ้าจำนวนหลายหมื่นต้นจนเป็นทางเดินได้ทั่วทั้งภูเขาอินาริ ที่ผู้คนเชื่อกันว่าเป็นภูเขาศักดิ์สิทธ์ โดยเทพอินาริจะเป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ การเก็บเกี่ยวข้าว รวมไปถึงพืชผลไร่นาต่างๆ และมักจะมีจิ้งจอกเป็นสัตว์คู่กาย จึงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ที่จะเห็นรูปปั้นจิ้งจอกอยู่จำนวนมากภายในศาลเจ้านั่นเอง
Photo from //commons.wikimedia.org/wiki/File:Torii_gates%E2%80%94Fushimi_Inari_Shrine_%289977683204%29.jpg
ว่ากันว่าศาลเจ้าแห่งนี้มีความเก่าแก่มากถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ก่อนสร้างเมืองเกียวโตซะอีกนะคะ คาดกันว่าจะเป็นช่วงประมาณปีค.ศ. 794 หรือกว่าพันปีมาแล้ว นอกจากจะมีไฮไลท์อยู่ที่เสาประตูสีแดงแล้วนั้นตัวอาคารศาลเจ้าเองก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน ทั้ง Romon Gate ทางด้านหน้า และตัวอาคารหลักที่เรียกว่า Honden และยังมีส่วนประกอบศาลเจ้าที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง กระจายกันอยู่รอบๆบริเวณ และทางด้านหลังศาลเจ้าจะเป็นทางเดินขึ้นเขา ที่ปกคลุมไปด้วยเสาโทริอิ โดยเสาโทริอิสีแดงนั้นก็ล้วนมาจากการบริจาคจากส่วนต่างๆทั้งจากบุคคลและองค์กรเลยน่ะค่ะ สามารถสังเกตเห็นได้จากตัวหนังสือข้างหลังเสา โดยราคาเริ่มจากไม่กี่ร้อยเยนสำหรับเสาต้นเล็กๆ ไปจนถึงหลายล้านเยนสำหรับเสาต้นใหญ่ๆ
ไม่เพียงแค่ส่วนหลักๆที่น่าสนใจเท่านั้นนะคะระหว่างทางยังจะได้เห็นศาลเจ้าเล็กๆอยู่ตลอดทาง แม้กระทั่งเสาโทริอิแดงเล็กๆก็มีให้เห็นกันด้วยซึ่งก็มาจากคนทั่วไปที่แหล่ะค่ะที่จะบริจาคเล็กๆน้อยๆ นอกจากนั้นถ้าเหนื่อยแล้วก็ยังมีร้านอาคารท้องถิ่นและร้านขนมที่ขายอาหารแบบชุด แต่มีความพิเศษอยู่ตรงที่จะมีการตั้งชื่อให้เข้าธีมจิ้งจอกอย่างซูชิจิ้งจอกหรืออูด้งจิ้งจอก ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวมายังมักจะนิยมเดินเที่ยวชมภูเขาอินาริแค่ถึงจุดชมวิวที่เรียกว่า ทางแยกโยซึซึจิ(Yotsutsuji intersection) เพื่อสามารถชมวิวเมืองเกียวโตงามๆและสูดอากาศสดชื่นได้เต็มปอดไปพร้อมๆกัน เพราะถ้าจะเดินให้ทั่วทั้งภูเขาแล้วเนี่ยอาจจะต้องใช้เวลาเดินประมาณ 2-3 ชั่วโมงเลยทีเดียว