Hourglass ambient lighting powderผ วแทนใช ได ม ย

พอดีพี่สาวจะไปอเมริกาเลยสนใจแป้งตัวนี้อยู่ แต่ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอาสีไหนดีระหว่าง diffused light กับ dim light หาๆ อ่านในรีวิว ส่วนใหญ่ถ้าผู้ชายใช้เขาจะแนะนำ 2 สีนี้กัน เลยอยากถามความเห็นคนในนี้ดูนะครับว่าถ้าจะลองใช้จะลองสีไหนดี ขอบคุณทุกความเห็นล่วงหน้าครับ

0

0

mc_ng

▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼

แสดงความคิดเห็น

คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ

เข้าสู่ระบบ

กระทู้ที่คุณอาจสนใจ

ยาดองของลำยองอยู่ที่ไหน

MiladyRuyi

สมาชิกหมายเลข 1788750

สมาชิกหมายเลข 3273123

สมาชิกหมายเลข 5122071

สมาชิกหมายเลข 3827516

PRAPAIPA

Luxio

สมาชิกหมายเลข 3602461

สมาชิกหมายเลข 5009148

อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ เครื่องสำอาง แต่งหน้า ความงาม

สวัสดีค่ะ วันนี้ ตาลจะมารีวิว Nars Light Reflecting Setting Powder ค่ะ เพราะกระแสแรงไม่ไหว เลยต้องสอยมาบ้าง และตาลคิดว่าน่าจะมีคนสงสัยเหมือนตาลว่ามันต่างจากตัว Hourglass Ambient Lighting Powder ตัวดังอันนี้ยังไง วันนี้เลยมาช่วยไขข้อข้องใจค่ะ

สำหรับใครอยากเห็นรายละเอียดแบบเต็มๆ ภาพชัดๆ สามารถเข้าไปดูที่ช่องทาง YT (link in bio) นะคะ

รีวิว Nars แป้งนางฟ้า vs. Hourglass

อ้ะ .. เริ่ม!!!

💓Nars Light Reflecting Setting Powder

- Applicator ให้มาเป็นพัฟแบนๆ ใช้กับผลิตภัณฑ์ได้ดี

- การใช้ คือใช้เซตรองพื้น แล้วค่อยแต่งหน้า

- เนื้อแป้งโปร่งแสง แทบไม่มีสีเลย ใช้แล้วหน้าวาวแบบไม่วอก

- ฟินิชผิว ฉ่ำวาวแนวคุชชั่น (แต่ไม่วาวเท่าคุชชั่นนะ) แต่มันคือฉ่ำแห้ง ไม่เปียก ไม่เหนอะ

- เบลอรูขุมขนได้ค่อนข้างดี

- ช่วยคุมมัน ใช้เป็นแป้งเซตรองพื้น

พิกัดซื้อได้ที่: Nars Light Reflecting Setting Powder

💓Hourglass Ambient Lighting Powder - Diffused Light จะบอกว่าตัวนี้

- ไม่มี applicator มาให้ และต้องใช้แปรง ต้องบอกว่า จิกสียาก ใครประสบปัญหา ขอบอกว่ามันต้องใช้กับแปรง Hourglass เค้า ถึงจะเริ่ดสุด

- การใช้ ใช้หลังแต่งหน้าเสร็จ เป็น finishing powder

- ฟินิช จะดูเหมือนใส่ฟิลเตอร เพิ่มความนัว ถ้าซูมดู จะเห็นว่า มันมีกลิตเตอรละเอียดมากๆอยู่ ผิวจะวาวๆ วาวแบบไม่หนังปลาทู (ให้ความวาวกว่าnars เล็กน้อย)

- ตัวนี้ไม่ช่วยเรื่องเบลอรูขุมขน

- ไม่ได้ช่วยคุมมัน เป็นตัวที่ใช้หลังเซตแป้งหลังแต่งหน้าเสร็จ แล้วลงทั้งหน้าอีกรอบเพื่อความนัว และไม่ได้วาวมากขนาดลงแทนไฮไลท์ เพราะไฮไลท์จะวาวมาก แต่ตัวนี้ลงได้ทั้งหน้า

พิกัดซื้อ Hourglass : Sephora

โดยสรุป ตาลว่า มันคนละแบบ ใช้คนละวัตถุประสงค์ วาวคนละแบบ อันนึงใช้เซตแทนแป้ง อีกอันใช้เปน finishing powder หลังลงทุกอย่างแล้ว

💞 Nars เหมาะสำหรับคนที่ชอบผิวฉ่ำวาว ลงรองพื้นฉ่ำวาว แล้วไม่อยากหน้าเหนียว อยากเซทแป้ง คุมมัน แต่ไม่ให้ความฉ่ำวาวหายไป อันนี้ตอบโจทย์ เราว่าเค้าออกแบบมาเพื่อการนี้

จริงๆ แล้ว Hourglass Ambient Lighting Palette นี้ออกมาตั้งแต่ปี 2013 แล้วครับ แต่เผอิญเมื่อวันเกิดบิ๊กที่ผ่านมา เพื่อนซื้อมาให้เป็นของขวัญ เห็นตอนแรกที่กรี๊สสสหนักมากเลยทีเดียว ก็เลยเออ เอามาพูดสักหน่อยละกันเผื่อใครจะอยากหยิบมันขึ้นมาใช้อีก ซึ่งตอนนี้ในเมืองไทยก็มีวางจำหน่ายแล้วที่ Sephora นะครับ ไม่ต้องเสียเวลาพรีออกเดอร์ให้ยุ่งยากละ ช่วงแรกๆ ที่โด่งดังมากๆ กรีดร้องกันเกรียวกราวนี่ก็เพราะเจ้โมเมพาเพลิน เอามาพูดถึงชนิดที่ว่าใคร ๆ ก็ต้องมีไว้ในครอบครอง

ผลิตภัณฑ์ที่ออกมาก่อนหน้านี้ก็คือ Ambient Lighting Powder ครับ แต่ว่า Palette นี้ จะมีความพิเศษ คือ เป็นLimited Edition นั่นเองครับ ต้องบอกก่อนว่า Ambient Lighting นี้ไม่ใช่แป้งฝุ่น ไม่ใช่แป้งอัดแข็งทั่วไป แต่จะเป็นแป้ง Finished ที่ใช้สำหรับปัดทั่วหน้าให้เกิดความนวลสวยกระจ่างใสมากยิ่งขึ้นนั่นเองครับ

ในตัวพาเลทนี้จะประกอบไปด้วย 3 สีด้วยกัน ซึ่งสี Incadescent Light เป็นสี Limited Edition ครับ ตัวพาเล็ทจะดู sleek แข็งแรง มาในสไตล์สี packaging ของ Hourglass เขาแหละ สี metallic dark brown แล้วก็มีชื่อแบรนด์เป็นสีทอง ตัวพาเล็ทขนาดเล็ก ๆ ยาว ๆ และหนานิดนึง แต่ว่าน้ำหนักเบามาก พกพาสะดวก ข้างในมีกระจกให้ด้วย ขนาดเท่ากับฝาด้านบนเลยครับ

คุณสมบัติหลักของ Ambient Lighting Palette นี้จะเน้นไปที่การสร้างมิติให้กับใบหน้าใสสภาวะแสงที่แตกต่างกันออกไปครับ คุณสมบัติของแต่ละสีก็จะให้มิติที่แตกต่างกันออกไปเช่นกัน ทีนี้เราก็มาดูว่าแต่ละสีจะให้คุณสมบัติแตกต่างกันอย่างไรบ้าง . . .

Dim light: แป้งสีพีช-น้ำตาลอ่อน ที่ช่วยให้หน้าแลดูเปล่งประกายโดยไม่ทำให้ผิวหน้าเข้มหรือสว่างจนเกินไปสามารถใช้เป็น setting power ได้ รวม ๆ สีนี้ก็คือประมาณใช้อำพรางพวกริ้วรอยเล็กๆ และรูขุมขนต่าง ๆ ให้เห็นน้อยลงนั่นเองครับ

Incadescent Light: แป้งสีขาว-น้ำตาลอ่อนผสมซิมเมอร์เล็กน้อย ออกสีชมพูนิดๆ ใช้เป็นไฮไลท์ลงบริเวณโหนกแก้ม และตรงบริเวรสันจมูก สีมันจะดู shimmery นิดนึง แต่ว่าพอทาลงไปแล้วไม่ทำให้หน้าดูมันหรือทำให้รูขุมขนเห็นชัดขึ้นหรืออะไรเลยนะ ไม่ว่าจะลงหนักแค่ไหนก็ตาม ตัวนี้เป็นสีที่เจิดมาก ซึ่งสีนี้บิ๊กชอบใช้ปัดทับบรัชออนอีกครั้ง มันจะทำให้สีบรัชออนละมุนยิ่งขึ้นไปอีก แลดูเป็นธรรมชาติมากมากครับ ดูพวงแก้มใสสุขภาพดีมากๆเลยทีเดียวครับ

Radiant Light: แป้งสีบรอนซ์ประกายทองใช้เป็นบลัชเพื่อผิวแบบ sun-kissed look ดูแบบ Healthy Glow ไม่สามารถใช้ถึงกะเป็นบรอนเซอร์ได้ทีเดียว แต่จะให้ความโกลว์ของผิวมากกว่าครับ ยิ่งถ้าใครผิวแทนละก็ โอ้ยสีนี้ชนะเลิศมากๆ ครับ หรือจะเอาไว้สร้างเงาเบาๆ ให้หน้าดู Warm ขึ้นหน่อยๆ ก็เริ่ดเหมือนกันครับ

Ingredients ; Mica, Synthetic Fluorphlogopite, Boron Nitride, Hdi/Trimethylol Hexyllactone Crosspolymer, Polymethyl Methacrylate, Silica, Octyldodecanol, Benzimidazole Diamond Amidoethyl Urea Carbamoyl Propyl Polymethylsilsesquioxane, Sorbitan Sesquioleate,Magnesium Aluminum Silicate, Phenoxyethanol, Dimethicone, Sodium Dehydroacetate, Sorbic Acid, Polyacrylamide, Benzoic Acid, C13-14 Isoparaffin, Potassium Sorbate, Dehydroacetic Acid, Laureth-7, Ethylhexylglycerin, Trimethylsiloxysilicate. May Contain: Titanium Dioxide (CI 77891), Bismuth Oxychloride (CI 77163), Iron Oxide (CI 77491), Iron Oxide (CI 77492), Iron Oxide (CI 77499), Red 7 Lake (CI 15850)

โดยส่วนตัวบิ๊กเองคิดว่าสำหรับสาว ๆ ที่ชื่นชอบในการแต่งหน้า และชอบให้ใบหน้าดูฉ่ำวาวนิดๆ แต่ไม่ใช่แบบหน้ามันเยิ้มนี่ตลับนี้ตลับเดียวถือว่าตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีเลยนะครับ และสีแป้งที่ทำออกมาถือว่าโอเครมากๆ ครับ ซึ่งทุกสีผิวสามารถใช้ได้เลยไม่ต้องกังวลว่าจะเข้ากับสีผิวไหม บอกได้เลยตลับนี้ชนะเริ่ดสุดสุด