เผยแพร่: 12 ก.พ. 2552 11:03 โดย: MGR Online
สระแก้ว - จังหวัดสระแก้วระดมความคิดเห็นในการจัดทำแผนที่ทางวัฒนธรรมและจัดทำ Road map แหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงวัฒนธรรมขอมโบราณและแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมในจังหวัด
นางเกศินี สวัสดี วัฒนธรรมจังหวัดสระแก้ว เผยว่า ทางจังหวัดได้มีการประชุมสัมมนาเพื่อระดมความคิดเห็นในการจัดทำแผนที่ทางวัฒนธรรม และการจัดทำ Road map แหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงวัฒนธรรมขอมโบราณและแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมในจังหวัดสระแก้ว รุ่นที่ 1 โครงการส่งเสริมสนับสนุนการจัดกิจกรรมในแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงวัฒนธรรมขอมโบราณและแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ท้องถิ่นจังหวัดสระแก้ว ระหว่างวันที่ 11-12 กุมภาพันธ์ 2552 ณ โรงแรมอินโดจีน จังหวัดสระแก้ว
โดยมีกลุ่มเป้าหมายผู้เข้าร่วมประชุมสัมมนาจากอำเภอโคกสูง อำเภออรัญประเทศ และอำเภอตาพระยารวม 120 คน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนในท้องถิ่น ได้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมด้านวัฒนธรรมประเพณีของท้องถิ่นในแหล่ง โบราณคดี โบราณสถาน และแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของท้องถิ่นในจังหวัดสระแก้ว และสามารถเพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชน
เนื้อหาหลักสูตรการประชุมสัมมนา ประกอบด้วย ความรู้เรื่อง เส้นทางการจัดการท่องเที่ยวในจังหวัดสระแก้ว จากประธานชมรมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัด, แนวทางการอนุรักษ์และการบริหารจัดการ แหล่งท่องเที่ยวทางโบราณคดี โบราณสถานแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ในจังหวัดสระแก้ว โดยวิทยากรจากสำนักศิลปากรที่ 5 ปราจีนบุรี, ความรู้ ความเข้าใจ เรื่องการทำแผนที่แหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงวัฒนธรรมขอมโบราณ และแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ
โดยคณะวิทยากรจากกรมศิลปากร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำแผนที่ทางวัฒนธรรม ผู้ทรงคุณวุฒิ มีการแบ่งกลุ่มปฏิบัติการตามกลุ่มอำเภอ เพื่อจัดทำแผนที่แหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงวัฒนธรรมขอมโบราณ แหล่งท่องเที่ยววัฒนธรรม ประเพณี แหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ แหล่งท่องเที่ยวตามรอยเสด็จพระราชดำเนิน แหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ
แหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้นในจังหวัดสระแก้ว โดยวัฒนธรรมจังหวัดสระแก้วและคณะ ,การนำเสนอผลการปฏิบัติงาน การจัดทำแผนที่ทางวัฒนธรรมและ Road map แหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงวัฒนธรรมขอมโบราณและแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมจังหวัดสระแก้ว ของแต่ละกลุ่มอำเภอ โดยคณะวิทยากรเสนอแนะเพิ่มเติม เพื่อให้ข้อมูลสมบูรณ์ สามารถเชื่อมโยงให้เกิดการขยายผลการปฏิบัติในพื้นที่ได้และสามารถนำข้อมูลไปต่อยอดในการจัดทำแผนที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมในระบบ GIS ต่อไป
นางเกศินี กล่าวต่อว่า สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสระแก้ว ได้จัดเวทีประชาคมชุมชน ชาวบ้านและ อปท.ไปแล้ว จำนวน 5 รุ่น เมื่อเดือนมกราคม 2552 และได้รวบรวมความคิดเห็นจากการจัดเวทีประชาคมดังกล่าว มาต่อยอดในการจัดทำแผนที่ทางวัฒนธรรม และ Road map แหล่งท่องเที่ยว
โดยกำหนดจัดประชุมสัมมนาฯ รวม 3 รุ่น และคาดหวังผลสัมฤทธิ์ของการจัดกิจกรรมว่า แกนนำชุมชน ชาวบ้าน และผู้แทนหน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทุกอำเภอๆ ละ 20 คน จะมีความรู้ ความเข้าใจ มีจิตสำนึกที่ดี ในการอนุรักษ์หวงแหน มรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติและของท้องถิ่น,ทุกตำบล ทุกอำเภอ มีแผนที่ทางวัฒนธรรม มี Road map แหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงวัฒนธรรมขอมโบราณและแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมจังหวัดสระแก้ว ที่เกิดจากการระดมสมองและจากการเขียนแผนที่ แผนผังโดยชุมชนและเพื่อชุมชน ,จังหวัดสระแก้ว มีข้อมูลสำหรับจัดทำแผนที่ทางวัฒนธรรมในระบบ GIS เพิ่มเติม ,จังหวัดสระแก้ว มีแนวทางการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรม ที่เกิดจากการมีส่วนร่วมของประชาชนจากทุกภาคส่วนในพื้นที่
เผยแพร่: 12 ม.ค. 2555 23:31 โดย: MGR Online
ASTVผู้จัดการรายวัน- ดีเซล 16 ม.ค.นี้จ่อทะลุ 31 บาทต่อลิตรเหตุรัฐเดินหน้ารีดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯคืนดีเซล 60 สต.ต่อลิตร เบนซินและแก๊สโซฮอล์ 1 บาทต่อลิตร”บางจาก”มองก.พ.ดีเซลเฉลี่ย 32-33 บาท ก.พลังงานเล็งชงกพช.ทบทวนแผนจัดเก็บเงินเข้ากองทุนฯเพื่อไม่ให้กระทบประชาชน ขณะที่ราคาแอลพีจีและเอ็นจีวี 16 ม.ค.ขยับเป็น 75 สต.ต่อกก.และ50 สต.ต่อกก.ตามแผนเดิม
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) วานนี้(12ม.ค.55) ว่า มีมติให้สำนักนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.)ไปจัดทำรายละเอียดเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ทบทวนมติเดิมเมื่อวันที่ 30 ก.ย. ที่กำหนดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเบนซินและแก๊สโซฮอล์ 1 บาทต่อเดือนและดีเซล 60 สตางค์ต่อลิตรมีผล 16 ม.ค.55 ว่าหลังจากม.ค.ไปแล้วเดือนต่อไปจะบริหารอย่างไรไม่ให้กระทบกับประชาชนโดยให้พิจารณาตลาดโลกรวมถึงส่วนต่างระหว่างราคาเบนซินและแก๊สโซฮอล์เพื่อส่งเสริมพลังงานทดแทน
“ มติกพช.27ส.ค.2554 นั้นได้มีการปรับลดอัตราเงินกองทุนน้ำมันฯลงไปในขณะนั้นเพื่อลดผลกระทบราคาน้ำมันต่อมามติกพช. 30 ก.ย.54 ได้วางกรอบการจัดเก็บเงินคืนเข้ากองทุนฯไว้ซึ่งเป็นรายเดือนมีผลตั้งแต่ 16 ม.ค.นี้จึงได้มอบให้สนพ.ไปทบทวนใหม่ว่าจะบริหารจัดการอย่างไรไม่ให้ราคาแพงจนกระทบประชาชน”นายพิชัยกล่าว
ดังนั้นวันที่ 16 ม.ค.55 จะมีการประกาศการจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมัน ตามมติ กพช. 30 ก.ย.ไปก่อนคือ ดีเซลจัดเก็บเงินกองทุน 60 สต./ลิตร เบนซิน 95และ 91 จัดเก็บ 1 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 อัตราใหม่ 1.20 บาท/ลิตร จากที่ปัจจุบันจัดเก็บ 0.20 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ 91เดิมได้รับการอุดหนุน 1.40 บาท ก็จะได้รับการอุดหนุนลดลงเหลือ 0.40 บาท/ลิตร อี 20 เดิมได้รับการอุดหนุน 2.80 บาท อัตราใหม่ลดลงเหลือ 1.80 บาท/ลิตร
อี 85 เดิมได้รับการอุดหนุน 13.50 บาท จะได้รับการอุดหนุนเพิ่มขึ้นเป็น 13.60 บาท/ลิตร สำหรับการจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมันก็จะทำให้ภาระลดของกองทุนน้ำมันที่อดุหนุนลดลงประมาณ 53.62 ล้านบาท จากติดลบวันละ 97.85 ล้านบาท เหลือติดลบวันละ 44.23 ล้านบาท นอกจากนี้ยังประกาศขึ้นราคาเอ็นจีวี 50 สต./กก. แอลพีจีภาคขนส่ง 75 สต./กก.หรือ 41 สต./ลิตร ในวันที่ 16 ม.ค.55 แต่เอ็นจีวีจะมีการปรับขึ้นเท่ากับอัตราเดิม คือปรับขึ้นทุกเดือน รวม 6 บาท/กก.หรือไม่ขึ้นอยู่กับคณะทำงานของกระทรวงพลังงานกับผู้ประกอบการขนส่งจะหารือกัน อย่างไรก็ตามที่ประชุมกบง.ได้เห็นชอบให้ขยายกลุ่มให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาเอ็นจีวีเพิ่มมากขึ้น ได้แก่รถร่วมโดยสารปรจะทาง ขสมก.รถมินิบัสร่วม ขสมก.และรถสองแถวร่วม ขสมก.จากเดิมช่วยเหลือเฉพาะรถแท็กซี่ รถสามล้อ และรถตู้ร่วมโดยสาร ขสมก. โดยจะมีทั้งบัตราเครดิตพลังงานและบัตรส่วนลดเอ็นจีวี
ผู้สื่อข่าวรายงานวานนี้ว่า (13ม.ค.55) บมจ.บางจากและปตท.ได้แจ้งปรับราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและดีเซลทุกชนิด 50 สตางค์ต่อลิตรยกเว้น แก๊สโซฮอล์อี 85 ที่ปรับเพียง 30 สตางค์ต่อลิตรมีผลตั้งแต่วันนี้ (4ม.ค.)เป็นต้นไปหลังจากที่คาลเท็กซ็และเชลล์ได้นำปรับขึ้นดีเซลไปก่อน ส่งผลให้ราคาขายปลีกของปตท.และบางจากในเขตกทม.และปริมณฑลเป็นดังนี้ เบนซิน 91 ราคาอยู่ที่37.47 บาทต่อลิตรแก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 36.19 บาทต่อลิตร อี 20 อยู่ที่ 33.44 บาทต่อลิตร อี 85 อยู่ที่ 22.42 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 34.44 บาทต่อลิตรและดีเซล 30.49 บาทต่อลิตรซึ่งเป็นราคาดีเซลสูงสุดในรอบ 14 เดือนนับตั้งแต่พ.ย. 2553
ทั้งนี้ตั้งแต่เปิดทำงานหลังหยุดยาวช่วงเทศกาลปีใหม่ ราคาน้ำมันมีการปรับขึ้นไปแล้ว 4 ครั้ง(รวมครั้งล่าสุดด้วย) โดยน้ำมันเบนซินมีการปรับขึ้นรวม 2.50 บาทต่อลิตร ส่วนดีเซลมีการปรับขึ้นไป 2 ครั้งรวม 1.10 บาทต่อลิตร