เนื่องจาก กัญชา – กัญชง ที่ได้รับการปลดออกจากยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 เฉพาะที่ได้รับอนุญาตให้ผลิตในประเทศเท่านั้น ส่งผลให้ส่วนต่างๆ ของพืชกัญชาและกัญชงเหล่านี้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในผลิตภัณฑ์สุขภาพอื่นได้ รวมถึงการใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร ไม่รวมถึงการนำเข้ากัญชา หรือกัญชงจากต่างประเทศ จึงมีการออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับการใช้พืชกัญชา – กัญชงในกฎหมายอาหาร และอาจมีการออกเพิ่มเติมอีกในอนาคต ในบทความนี้ให้ข้อมูลสาระสำคัญของประกาศกระทรวงสาธารณสุข 5 ฉบับที่เกี่ยวข้องกับการใช้พืชกัญชา – กัญชง คือ 1. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 424) เรื่อง กำหนดอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย[19] 2. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 425) เรื่อง เมล็ดกัญชง น้ำมันจากเมล็ดกัญชง โปรตีนจากเมล็ดกัญชง และผลิตภัณฑ์อาหารที่มีส่วนประกอบของเมล็ดกัญชง น้ำมันจากเมล็ดกัญชง หรือโปรตีนจากเมล็ดกัญชง[21] 3. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 427) เรื่อง ผลิตภัณฑ์อาหารที่มีส่วนประกอบของส่วนของกัญชาหรือกัญชง [22] 4. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 428) เรื่อง มาตรฐานอาหารที่มีสารปนเปื้อนชนิดสารเตตราไฮโดร- แคนนาบินอล และสารแคนนาบิไดออล [25] 5. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 429) เรื่อง ผลิตภัณฑ์อาหารที่มีสารสกัดแคนนาบิไดออลเป็นส่วนประกอบ [26]
นพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่าพืชกระท่อมได้รับการปลดล็อกจากการเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2564 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา และให้ไปกำกับดูแลภายใต้ (ร่าง) พระราชบัญญัติพืชกระท่อม พ.ศ. .... โดยมีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กระทรวงยุติธรรม เป็นหน่วยงานผู้รับผิดชอบ สำนักงานคณะกรรมการอาหาร และยา (อย.) ขอชี้แจงว่า ใบกระท่อม ซึ่งเป็นวัตถุดิบ ไม่ต้องมายื่นขออนุญาตกับ อย. น้ำต้มกระท่อม ชากระท่อม จัดเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพร ผู้ประกอบการจะต้องขออนุญาตผลิตตาม พ.ร.บ. ผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ. 2562 กรณีนำกระท่อมมาปรุงประกอบอาหาร
ขณะนี้ อย. อยู่ระหว่างจัดทำประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ …) พ.ศ. .... ออกตามความในพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 424) พ.ศ. 2564 เรื่อง กำหนดอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย (ลำดับที่ 52 กระท่อม) เพื่อให้การใช้ส่วนของพืชกระท่อมและสารสกัด สามารถเป็นส่วนประกอบในอาหารได้ และเพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค อย. จึงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อาหารที่มีส่วนประกอบของกระท่อมต้องผ่านการประเมินความปลอดภัยของอาหาร และส่งมอบฉลากให้ อย.ตรวจอนุมัติก่อนนำไปใช้ ตามเงื่อนไขของประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 376) พ.ศ. 2559 เรื่อง อาหารใหม่ (Novel food)
กระท่อมเป็นพืชที่มีคุณประโยชน์และสรรพคุณที่หลากหลาย แต่สิ่งสำคัญที่ต้องใส่ใจก็คือ ร่างกายของคนเราไม่สามารถย่อยก้านและใบกระท่อมได้ การบริโภคก้านใบกระท่อมในปริมาณมากอาจทำให้เกิดการอุดตันในลำไส้ที่เรียกว่า “ภาวะถุงท่อม” ดังนั้น ขอให้บริโภคด้วยความระมัดระวัง และสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด หากมีภาวะผิดปกติ ต้องรีบไปพบแพทย์
โดยที่ได้มีการยกเลิกการกำหนดให้พืชกระท่อมเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภทที่ 5 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 วรรคหนึ่ง และมาตรา 6 (8) แห่งพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้ยกเลิกความในลำดับที่ 52 ของบัญชีท้ายประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 424) พ.ศ. 2564 ออกตามความในพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 เรื่อง กำหนดอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย ลงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 และใช้ความต่อไปนี้แทน ....
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 139 ตอนพิเศษ 2 ง (5 มกราคม พ.ศ. 2565) หน้า 1
//www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2565/E/002/T_0001.PDF
อาหาร, กระท่อม, สารสกัดกระท่อม, อาหารใหม่