แอพพลิเคชั่นมือถือด้านบริการทางการเงินทั้งจากแบงก์ใหญ่ รวมถึง Alternative banking ที่โดดเข้ามาเป็นผู้ให้บริการรับชำระสินค้า ยังได้รับความนิยมตลอด 10 ปี ตอบรับสังคมและไลฟ์สไตล์ดิจิทัล
กลางเดือนกรกฎาคมนี้ แอพสโตร์ (App Store) ที่ให้บริการสำหรับดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นผ่านสมาร์ทโฟนจะมีอายุครบ 10 ปี นับจากครั้งแรกเมื่อกลางเดือนกรกฎาคมปี 2008 ในเวลานั้น น้อยคนนักที่จะรู้ว่าในอนาคตสิ่งนี้จะเข้ามามีบทบาทสำคัญกับชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก ย้อนกลับไปในยุคบุกเบิกของแอพพลิเคชั่น ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาแอพสโตร์สามารถทำยอดดาวน์โหลดจากผู้ใช้ทั่วโลกไปแล้วกว่า 170 พันล้านครั้ง ซึ่งคิดเป็นมูลค่ากว่า 130 พันล้านดอลลาร์
บริษัทแอ๊พซินท์หนึ่งในเอเจนซี่การพัฒนาแอพพลิเคชั่นในประเทศไทย ได้สรุปแนวโน้มตลาดโมบายล์แอพในธุรกิจประเภทต่างๆ จาก 20 อันดับแอพพลิเคชั่นยอดนิยมในรอบ 10 ปีที่จัดอันดับโดย App Annie บริษัทผู้วิเคราะห์การใช้งานแอพพลิเคชั่นและเก็บข้อมูลทางการตลาดของแอพพลิเคชั่นทั่วโลกซึ่งการจัดอันดับในครั้งนี้เป็นการจัดอันดับจากยอดดาวน์โหลดแอพของธุรกิจในประเทศไทยเท่านั้น ไม่รวมแอพพลิเคชั่นประเภทเกม
ผลของการจัดอันดับสะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายของแอพพลิเคชั่นในแต่ละธุรกิจตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจกลุ่มธนาคารซึ่งมีแนวโน้มชัดเจนในการส่งเสริมการใช้จ่ายแบบไร้เงินสด กลุ่มธุรกิจโทรทัศน์ ตลอดจนกลุ่มธุรกิจร้านค้าและร้านอาหารที่เน้นการแชร์ประสบการณ์ของการใช้บริการ
รวมถึงระบบการสะสมแต้มหรือ loyalty program เรียกได้ว่าโมบายล์แอพพลิเคชั่นนั้นมีความสำคัญในชีวิตประจำวันของคนไทยเป็นอย่างมากตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาและยังมีแนวโน้มที่จะมีความสำคัญมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต
กลุ่มแอพบริการการทางเงินมาอันดับหนึ่ง
จากแนวโน้มของตลาดโลกในปัจจุบัน ธุรกิจกลุ่มธนาคารกำลังเผชิญกับการสูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาดให้กับคู่แข่งที่ทุ่มการลงทุนบนดิจิทัลแพลตฟอร์มเป็นหลัก รวมถึงกลุ่ม ฟินเทค สตาร์ทอัพ หรือกลุ่มผู้พัฒนาโซลูชั่นทางการเงินขนาดเล็ก ที่พยายามเข้ามามีบทบาทในการยึดพื้นที่การให้บริการด้านการเงินแทนกลุ่มธนาคารและสถาบันการเงินในรูปแบบเดิม เช่น การเสนอทางเลือกของ mobile payment หรือการใช้จ่ายเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยผู้บริโภคสามารถเติมเงินในกระเป๋าเงินดิจิทัล (digital wallet) เพื่อใช้ซื้อสินค้าและบริการต่างๆ ได้โดยไม่ต้องใช้เงินสด
เทคโนโลยีดังกล่าวถือเป็นการตัดระบบการให้บริการของธนาคารแบบเดิมๆ ออกจากวงจรการใช้งานของผู้บริโภค ซึ่งธนาคารหลายแห่งในประเทศไทยสามารถรับมือกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของธุรกิจที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี โดยเร่งลงทุนและพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์มของตนเองในช่องทางต่างๆ
อีกทั้งยังร่วมมือกับกลุ่ม ฟินเทค สตาร์ทอัพ ในการคิดค้นสินค้าและบริการรูปแบบใหม่ๆ เพื่อตอบรับการใช้งานที่หลากหลายของผู้บริโภคในอนาคต จึงเป็นผลให้ธนาคารกสิกรไทยและธนาคารไทยพาณิชย์ครองตำแหน่ง2 อันดับแอพพลิเคชั่นยอดนิยมจากทั้ง 20 อันดับ
พัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า “จุดแข็งที่ทำให้ K PLUS แตกต่างจากแอพของธนาคารอื่นก็คือ เราให้ความสำคัญในการใช้งานแบบโมบายล์เฟิร์ส โดยเน้นสร้างประสบการณ์การใช้งานแบบใหม่ ผ่าน Personalization ฟีเจอร์ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคที่หลากหลาย โดยธนาคารกสิกรไทยมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาแอพพลิเคชั่นให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นกว่าเดิมในปีต่อๆไป เพื่อให้ K PLUS คงความเป็นแอพที่ตอบสนองดิจิทัลไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในทุกๆ วัน”
ทางธนาคารไทยพาณิชย์ ก็เล็งเห็นเช่นกันว่ากลยุทธ์การตลาดแบบ Personalization (การปรับแต่งคุณสมบัติในแอพให้ตรงตามความชอบของแต่ละบุคคล) นั้นเป็นส่วนสำคัญของการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับผู้บริโภค โดยการใช้โมบายล์เป็นช่องทางหลักในการให้บริการ
ธนา โพธิกำจร ผู้อำนวยการอาวุโส ผู้บริหารสาย Digital Banking กล่าวว่า “SCB EASY ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการ โดยเชื่อมโยงบริการทางการเงินทั้งออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งความสำเร็จของ SCB EASY คือ บทพิสูจน์ของความทุ่มเทในการพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่สามารถรองรับพฤติกรรมการใช้งานและความต้องการของผู้บริโภคอย่างรอบด้าน
เพราะเราเล็งเห็นว่าผู้บริโภคไม่ได้เจาะจงการใช้งานเพียงช่องทางใดช่องทางหนึ่ง แต่จะเลือกใช้งานบนช่องทางที่สะดวกที่สุดในขณะนั้น เราจึงต้องสร้างทางเลือกของการใช้บริการที่หลากหลาย เพื่อรองรับการใช้งานของผู้บริโภคในทุกที่ ทุกเวลา”
ขณะที่ Alternative banking หรือกลุ่มทางเลือกใหม่ของผู้ให้บริการด้านการเงิน เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญแทนที่ธุรกิจการเงินแบบเดิมๆ TrueMoney Wallet ผู้ครองอันดับ 5 ของชาร์ต ถือเป็นผู้นำของการให้บริการใช้จ่ายเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่ายในร้านค้า การจ่ายบิลด้วยการแสกน
แม้แต่การเติมเงินโทรศัพท์มือถือก็สามารถทำได้ผ่านแอพพลิเคชั่นเดียวกันนี้ได้ นอกจากการเติมเงินเข้า TrueMoney Wallet ด้วยเงินสดแล้ว ผู้ที่มีบัญชีธนาคารก็สามารถผูกบัญชีกระเป๋าเงินดิจิทัล กับบัญชีธนาคารเพื่อใช้การเติมเงินแบบอัตโนมัติได้อีกด้วย ถือเป็นทางเลือกใหม่ของการใช้บริการด้านการเงินที่สะดวกสบายกว่าการใช้บริการกับธนาคารแบบเดิมๆ
แอพกลุ่ม mobile commerce มาแรง
อีกหนึ่ง mobile-first startup ในชาร์ตก็คือ Kaidee ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นตลาดมือสองบนดิจิทัลแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย กว่า 50% ของผู้เข้าชมแพลตฟอร์มต่อเดือนคือผู้ใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่น ถ้าคิดเป็นจำนวนครั้งจะมากถึง 30 ล้านครั้ง นี่คือเหตุผลที่ทำให้แอพนี้ติดอันดับที่ 8 ใน 20 อันดับต้น โดยมียอดดาวน์โหลดทั้งหมดกว่า 12 ล้านครั้ง แอพ Kaidee ถือเป็นหัวใจหลักในการเติบโตที่รวดเร็วของบริษัท
เช่นเดียวกับที่ ทิวา ยอร์ค Head Coach/CEO ได้ให้ความเห็นว่า “ตั้งแต่ปี 2556 Kaidee วางแผนพัฒนาการตลาดแบบ app-first ซึ่งเน้นโมบายล์เป็นแพลตฟอร์มหลัก การลงทุนครั้งนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เราได้ทำความรู้จักและเข้าใจความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงกลุ่มผู้บริโภคที่พึ่งเริ่มใช้งานอินเทอร์เน็ตครั้งแรกผ่านสมาร์ทโฟน
ซึ่งสิ่งนี้เองทำให้ Kaidee มีผู้ใช้งานผ่านโมบายล์แอพมากที่สุดเมื่อเทียบกับช่องทางอื่นๆ ความสำเร็จครั้งนี้มาจากความมุ่งมั่นในการสร้างประสบการณ์การซื้อ-ขาย ที่ง่ายและเร็วที่สุดสำหรับคนไทยเป็นหลัก”
จากแพลตฟอร์มการซื้อ-ขายออนไลน์ มาถึงธุรกิจสายการบินกันบ้าง นกแอร์ หนึ่งในสายการบินประเภทโลว์คอส ของไทยเป็นแอพพลิเคชั่นเดียวที่ติดยี่สิบอันดับแรกด้วยการให้บริการเส้นทางการบินที่ครอบคลุมและแผนการตลาดที่เจาะจงไปยังผู้บริโภคหลากหลายกลุ่ม ทำให้นกแอร์เป็นทางเลือกอันดับต้นๆ ของผู้บริโภค
นอกจากนั้น นกแอร์ยังให้ความสำคัญกับการให้บริการผ่านโมบายล์ที่สะดวก ในทุกที่ ทุกเวลา จึงไม่น่าแปลกที่แอพนกแอร์ จะเป็นโมบายล์แอพพลิเคชั่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในบรรดาสายการบินภายในประเทศอื่นๆ