ฝนตกเล่นโทรศัพท์ในบ้านได้ไหม

เล่นโทรศัพท์ตอนฝนตกระวังฟ้าผ่ามั้ย ? คงเป็นประโยคที่หลายคนได้ยินมาตั้งแต่เด็ก และยังมีข่าวให้ได้เห็นอยู่บ่อยๆ อีกด้วย ในปัจจุบันก็ยังคงมีทั้งคนที่เชื่อ และไม่เชื่อ ซึ่งก็ยังเป็นข้อโต้เถียงกันอยู่ตลอดเมื่อถึงฤดูฝน สำหรับบทความนี้เราจะมาดูกันว่า ถ้าเราเล่นมือถือตอนฝนตกฟ้าจะผ่าจริงหรือไม่ ?

บทความเกี่ยวกับ มือถือ อื่นๆ

ฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ?

ฟ้าผ่า (Lightning) ถือเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดภายใต้เมฆในช่วงฝนฟ้าคะนอง ซึ่งเมื่อก้อนเมฆเคลื่อนที่ก็จะมีลมและเกิดการเสียดสีกับโมเลกุลของหยดน้ำ และน้ำแข็งภายในก้อนเมฆ ทำให้เกิดการแตกตัวของประจุไฟฟ้าทั้งบวกและลบ

โดยประจุลบส่วนใหญ่ที่อยู่ทางด้านล่างของก้อนเมฆนั้น มีความสามารถในการเหนี่ยวนำให้วัตถุทุกสิ่งที่อยู่ภายใต้ก้อนเมฆเป็นประจุบวกได้ทั้งหมด พร้อมทั้งดึงดูดให้ประจุบวกวิ่งขึ้นมาหาประจุลบได้ ทั้งนี้หากประจุลบใต้ก้อนเมฆมีปริมาณมากพอ จะทำให้อากาศด้านล่างก้อนเมฆค่อยๆ แตกตัว เมื่อประจุลบและประจุบวกวิ่งมาถึงกันทำให้เกิดเป็นฟ้าผ่าได้ในที่สุด


ภาพจาก //media.wired.com/photos/5ade7873b0e3e90b45c61d6e/master/w_2000,h_1333,c_limit/1_JasonWeingart.jpg

ฟ้าผ่าเพราะอะไร ?

ฟ้าผ่าเกิดขึ้นเพราะเราไปอยู่ในจุดเสี่ยง ซึ่งทุกบริเวณที่เกิดฝนฟ้าคะนองมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดฟ้าผ่าได้หมด เพียงแต่จุดเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดฟ้าผ่าได้มากที่สุด คือ ที่โล่งแจ้ง และจุดที่สูงสุดในบริเวณนั้นๆ เช่น ต้นไม้, บนอาคารสูง เนื่องจากประจุไฟฟ้ามีโอกาสวิ่งมาเจอกันได้เร็วที่สุด ส่วนวัตถุที่เป็นตัวทำให้ฟ้าผ่าใส่มนุษย์ได้มากที่สุด คือวัตถุที่อยู่สูงเหนือจากศีรษะมนุษย์ขึ้นไป โดยเฉพาะสิ่งของที่มีปลายแหลม เช่น ร่มที่ด้านปลายบนสุดเป็นเหล็กแหลม

ใช้มือถือขณะฝนตกฟ้าผ่าจริงรึเปล่า ?

ความเชื่อที่ว่าเล่นมือถือขณะฝนตกทำให้ฟ้าผ่าจริงๆ แล้วมีความเป็นไปได้น้อยมาก เพราะมือถือไม่นับว่าเป็นสื่อล่อฟ้า แต่ถ้าเป็นโทรศัพท์บ้านก็มีความเสี่ยงไม่น้อย เพราะฟ้าอาจผ่าลงมาที่เสาสัญญาณได้ และเมื่อกระแสไฟจากฟ้าผ่าวิ่งมาตามสายโทรศัพท์ที่เชื่อมต่อก็ทำให้ทั้งโทรศัพท์และผู้ใช้งานได้รับอันตราย นอกจากนี้ การที่เราไปยืนกลางที่โล่งแจ้ง หรือใต้ต้นไม้ใหญ่ก็มีความเสี่ยงที่จะโดนฟ้าผ่าสูงมากกว่าการใช้โทรศัพท์มือถือขณะฝนตกเสียอีก

ส่วนคำพูดที่ว่า เล่นมือถือตอนฝนตกแล้วฟ้าจะผ่า น่าจะมาจากการที่ได้เห็นข่าวอยู่บ่อยๆ เพราะที่ตัวของคนที่ถูกฟ้าผ่ามักจะมีโลหะ หรือมือถืออยู่กับตัวด้วย ซึ่งจริงๆ แล้วโลหะ หรือมือถือนั้นเป็นเพียงสิ่งที่ทำให้คนที่โดนฟ้าผ่าได้รับบาดเจ็บรุนแรงมากขึ้น เพราะการใช้มือถือในบริเวณที่เสี่ยงต่อการเกิดฟ้าผ่าอาจทำให้เกิดการเหนี่ยวนำกระแสไฟฟ้าเข้ามาในแบตเตอรี่หากเกิดฟ้าผ่าขึ้น และทำให้เกิดการระเบิด หรือกระแสไฟอาจจะวิ่งเข้าโลหะที่ติดอยู่กับตัว ส่งผลให้ผู้ถูกฟ้าผ่าได้รับบาดเจ็บมากขึ้นถึงขั้นเสียชีวิตได้ 


ภาพจาก //i.pinimg.com/originals/c6/be/d9/c6bed99d32df9df494acf1f58d75fb7e.jpg

เมื่อปี พ.ศ. 2552 (ค.ศ. 2009) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้จัดงานเสวนา ในหัวข้อ "ฟ้าผ่า ข้อเท็จจริงที่ควรรู้" ซึ่งมีนักวิชาการและผู้เชียวชาญทางด้านการเกิดฟ้าผ่าเข้าร่วมหลายคน และภายในงานได้มีการจำลองสภาวะฟ้าผ่ากับโทรศัพท์มือถือ เพื่อพิสูจน์ว่ามือถือเป็นสื่อล่อฟ้าจริงหรือไม่ การทดลองแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ โดยใช้โทรศัพท์มือถือที่ปิดเครื่อง, โทรศัพท์มือถือที่เปิดเครื่องและมีสายเรียกเข้า, โทรศัพท์มือถือที่เปิดเครื่องมีสายเรียกเข้าและมีการตั้งรับอัตโนมัติเป็นสื่อล่อฟ้า ซึ่งผลการทดลองทั้ง 3 รูปแบบ พบว่าฟ้าไม่ผ่าลงโทรศัพท์มือถือ และทุกเครื่องยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ

นอกจากนี้ เพื่อแสดงให้เห็นข้อเท็จจริงของอันตรายจากฟ้าผ่า จึงได้มีการสาธิตกับวัตถุที่จำลองเป็นต้นไม้ ก็พบว่าฟ้าผ่าลงที่บริเวณดังกล่าว เนื่องจากเป็นจุดที่สูงกว่าบริเวณอื่นๆ ที่สำคัญยังมีการจำลองสถานการณ์โดยใช้ตุ๊กตาแทนคน ยืนหลบอยู่ใต้ต้นไม้เมื่อมีฝนฟ้าคะนอง ซึ่งผลปรากฏว่าฟ้าผ่าลงต้นไม้และมีกระแสไฟกระโดด ส่วนตัวตุ๊กตามีรอยไหม้บริเวณศีรษะ นับเป็นกรณีตัวอย่างอันตรายจากฟ้าผ่าที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในประเทศไทย

สรุปเกี่ยวกับการฟ้าผ่า

การใช้มือถือในขณะที่ฝนตกไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้โดนฟ้าผ่า เพราะจากการทดลองของสวทช.ทั้ง 3 รูปแบบข้างต้น พบว่าฟ้าไม่ผ่าลงโทรศัพท์มือถือ และทุกเครื่องยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ จึงสามารถสรุปได้ว่ามือถือไม่ใช่สายล่อฟ้า ส่วนสาเหตุที่จะทำให้ถูกฟ้าผ่านั้นเกิดจากการอยู่ในบริเวณที่เสี่ยง เช่น อยู่กลางที่โล่งแจ้ง หรือใต้ต้นไม้ แต่หากเราใช้มือถือในบริเวณเสี่ยงแล้วเกิดโดนฟ้าผ่าขึ้นมา กระแสไฟอาจเข้าสู่แบตเตอรี่ทำให้เกิดการระเบิดที่จะทำให้เราได้รับบาดเจ็บมากกว่าเดิมนั่นเอง

อาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ให้ความรู้เรื่อง "สัญญาณโทรศัพท์มือถือ ล่อฟ้าผ่า จริงหรือมั่ว"

โดยระบุว่า เป็นความเชื่อผิดๆ ของสังคมไทยที่มีมานานแล้วว่า สัญญาณโทรศัพท์มือถือล่อฟ้าผ่า ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างไร มีการทดสอบวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ยืนยันชัดเจนแล้วว่า ทั้งสัญญาณโทรศัพท์และตัวเครื่องโทรศัพท์มือถือ ไม่ได้เป็นตัวล่อฟ้าผ่า 

จะเห็นว่าทุกบริเวณใต้เงาเมฆฝนฟ้าคะนองมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดฟ้าผ่าได้หมด ไม่ว่าที่สูง ที่ต่ำ กลางแจ้ง เพียงแต่จุดเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดฟ้าผ่าได้มากที่สุด คือ ที่โล่งแจ้ง เช่น สระน้ำ ชายหาด สนามกอล์ฟ ฯลฯ และจุดที่สูงในบริเวณนั้นๆ เช่น ต้นไม้ อาคารสูง เนื่องจากประจุไฟฟ้ามีโอกาสวิ่งมาเจอกันได้เร็วที่สุด

ส่วนวัตถุที่เป็นตัวทำให้ฟ้าผ่าใส่มนุษย์ได้มากที่สุด คือ วัตถุที่อยู่สูงเหนือจากศีรษะมนุษย์ขึ้นไป โดยเฉพาะสิ่งของที่มีปลายแหลม เช่น ร่มที่ด้านปลายบนสุดเป็นเหล็กแหลม เป็นต้น

กรณีของโลหะและโทรศัพท์มือถือ ไม่นับว่าเป็นสื่อล่อฟ้าได้แน่นอน เพราะโทรศัพท์เวลาใช้งานจะอยู่ต่ำกว่าตัวคน ที่สำคัญพลังงานของสัญญาณโทรศัพท์มือถือไม่สามารถทำให้อากาศแตกตัวเป็นตัวนำได้ พร้อมกันนี้ยังมีรายงานว่าการใช้โทรศัพท์อยู่ใกล้บริเวณที่เกิดฟ้าผ่า อาจจะมีผลเหนี่ยวนำให้แบตเตอรี่เกิดการลัดวงจรและเกิดการระเบิดจนเป็นสาเหตุของการบาดเจ็บได้ เป็นผลข้างเคียงแต่ไม่ใช่สื่อล่อให้ฟ้าผ่า

อย่างไรก็ดี การใช้โทรศัพท์มือถือในสภาวะที่เกิดฝนฟ้าคะนอง ก็นับเป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำอย่างยิ่ง เพราะหากน้ำเข้าโทรศัพท์ก็มีโอกาสทำให้แบตเตอรี่เกิดการลัดวงจรได้เช่นเดียวกัน.

เล่นมือถือในบ้านฟ้าผ่าได้ไหม

ที่สำคัญพลังงานของสัญญาณโทรศัพท์มือถือไม่สามารถทำให้อากาศแตกตัวเป็นตัวนำได้ พร้อมกันนี้ยังมีรายงานว่าการใช้โทรศัพท์อยู่ใกล้บริเวณที่เกิดฟ้าผ่า อาจจะมีผลเหนี่ยวนำให้แบตเตอรี่เกิดการลัดวงจรและเกิดการระเบิดจนเป็นสาเหตุ ของการบาดเจ็บได้ เป็นผลข้างเคียงแต่ไม่ใช่สื่อล่อให้ฟ้าผ่า

โทรศัพท์นำไฟฟ้าไหม

โดยระบุว่า เป็นความเชื่อผิดๆ ของสังคมไทยที่มีมานานแล้วว่า สัญญาณโทรศัพท์มือถือล่อฟ้าผ่า ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างไร มีการทดสอบวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ยืนยันชัดเจนแล้วว่า ทั้งสัญญาณโทรศัพท์และตัวเครื่องโทรศัพท์มือถือ ไม่ได้เป็นตัวล่อฟ้าผ่า

ดูทีวีตอนฝนตกได้ไหม

สามารถดูได้ถ้าเกิดฟ้าผ่าไฟฟ้าจะSearchแรงดันไฟฟ้าเกิน220Voltเครื่องใช้ไฟฟ้าจะมีเขียนระบุแรงดันไฟฟ้า220 -230Voltถ้าเกินกว่านี้จะพัง

ฝนตกเล่นคอมได้ไหม

แต่ความจริงแล้ว สิ่งที่ประโยคนี้ต้องการจะเตือนคือ “การเล่นคอมพิวเตอร์ในช่วงฝนตก หากมีฟ้าผ่าในบริเวณใกล้เคียง อาจทำให้คอมพิวเตอร์เสียหายได้” เพราะเมื่อกระแสไฟฟ้าไหลมาตามสายไฟจะทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าไม่ยังไม่ถอดปลั๊ก ซึ่งรวมไปถึงคอมพิวเตอร์เสียหายได้ค่ะ

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv แปลภาษาอาหรับ-ไทย lmyour แปลภาษา ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง แปลภาษาเวียดนามเป็นไทยทั้งประโยค Google Translate การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 4 หยน อาจารย์ ตจต เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf ห่อหมกฮวกไปฝากป้า คาราโอเกะ app แปลภาษาไทยเป็นเวียดนาม การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 3 บบบย ศัพท์ทหารบก แปลภาษาจีน การประปาส่วนภูมิภาค การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 1 ขุนแผนหลวงปู่ทิม มีกี่รุ่น ชขภใ ตม.เชียงใหม่ เซ็นทรัลเฟสติวัล พจนานุกรมศัพท์ทหาร รหัสจังหวัด อําเภอ ตําบล รหัสประจำจังหวัด 77 จังหวัด สอบโอเน็ต ม.3 จําเป็นไหม หนังสือราชการ ตัวอย่าง ห่อหมกฮวกไปฝากป้า คอร์ด อเวนเจอร์ส ทั้งหมด แปลภาษา มาเลเซีย ไทย ไทยแปลอังกฤษ ประโยค ่้แปลภาษา Egp G no Reconguista Google map ขุนแผนหลวงปู่ทิมรุ่นแรก ข้อสอบภาษาไทยพร้อมเฉลย ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง ค้นหา ประวัติ นามสกุล จองคิว ตม เชียงใหม่ ชื่อเต็ม ร.9 คําอ่าน ดีแม็กมือสองราคาไม่เกิน350000 ตัวอย่างรายงานการประชุมสั้นๆ