หลายๆ คนที่ใช้ iPhone และ iPad ต้องเคยเจอปัญหา Touch ID ไม่ทำงานหรือการยืนยันล้มเหลวซึ่งเป็นปัญหาอย่างมาก โดยผู้ใช้ส่วนใหญ่จะทราบดีว่า สามารถจะปลดล็อค iPhone หรือ iPad ได้ด้วยกันสัมผัส รวมทั้งเข้าไปใช้งานในแอพต่างๆ เช่น Amazon, Truemoney หรือการซื้อสิ่งต่างๆด้วย Appple Pay วันนี้เราจะมาบอกสาเหตุและวิธีการแก้ปัญหาไปดูกันครับ
1. เมื่อระบบ Touch ID ล้มเหลว (Touch ID Failures)
วิธีแก้ปัญหา คือ ให้เราไปตั้งค่าระบบและใส่ลายนิ้วมือใหม่ เพราะในช่วงปีที่ผ่านมา iOS มีการอัพเกรด และพัฒนาให้มีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น โดยทำตามขั้นตอนดังนี้ เข้าไปที่ Setting >Touch ID & Passcode > Enter Passcode เมื่อขึ้นหน้าจอใหม่ให้ลบลายนิ้วมือเก่าออก ด้วยการปัดจากขวาไปซ้าย หรือกดที่ลายนิ้วมือ จากนั้นกดลบออก แล้วเราก็เพิ่มลายนิ้วใหม่เข้าไปใหม่
2. เมื่อ Touch ID ไม่ทำงาน (Touch ID Not working)
บางครั้งอาจต้องแก้ด้วยการตั้งค่าระบบใหม่เหมือนข้อข้างบน แต่บางครั้งปัญหาก็อยู่ที่ซอฟต์แวร์ บางทีเข้าไปใน App Store จะไม่ปรากฏ Touch ID ขึ้นมาเลย โดยมีวิธีแก้ให้ไปที่ Setting > Touch ID & Passcode > Enter your Passcode จากนั้นปิด iTune แล้วก็รีบู๊ตเครื่อง iPhone หรือ iPad ใหม่ จากนั้น กลับไปที่ Touch ID & Passcode ใน Setting และเปิด iTune & App Store ขึ้นมาใหม่ วิธีนี้จะช่วยแก้ปัญหา Touch ID ไม่สามารถใช้งานใน App Store ได้
3. Touch ID ไม่ทำงานเลย (Touch ID Not working)
ปัญหานี้อาจเป็นปัญหาที่ค่อนข้างลำบากเพราะอาจจะเป็นที่ระบบเซนเซอร์อาจจะเสีย ให้คุณลองกด Hard reset ถ้าทำให้แล้วไม่หาย ควรส่งเครื่องเข้าศูนย์บริการได้เลยและมีค่าใช้จ่ายอย่างแน่นอน
4. Touch ID มีปัญหาช่วงอากาศเย็น
ปัญหานี้คงเป็นปัญหาที่หลีกเลี่ยงได้ยาก จะพบปัญหาของ Touch ID ได้บ่อยๆ เพราะสภาพอากาศ มีผลต่อผิวสัมผัส หากคุณเคยตั้งระบบไว้ให้ลองตั้งค่าใหม่อีกครั้งเพื่อให้ใช้งานได้ตามปกติ
5. Touch ID อาจมีปัญหา ถ้านิ้วเปียกหรือสกปรก
วิธีนี้แก้ไขไม่อยากให้เราเช็ดมือให้สะอาด แล้วทำความสะอาดเครื่องให้สะอาด ก็จะช่วยได้แล้ว เพราะ iphone รุ่นใหม่ๆ อย่าง iPhone 6 ขึ้นไป ตัวเซนเซอร์ของ Touch ID จะดีกว่ารุ่นเก่าๆ ค่อนข้างมาก
BBmacservice บริการซ่อม Macbook iMac iPhone iPad Mac. จำหน่ายอะไหล่เครื่อง mac ทุกรุ่น
ร้านเปิดทุกวัน 10.00-20.00 น
*สาขารามคำเเหง
☎ 02-719-1302
☎ 086-319-9940
☎ 086-3032-669
☎ 095-442-0120
เเผนที่ร้าน BBmacservice(รามคำเเหง 24) ครับคลิ๊กตามลิ้งนี้ได้เลยครับ //goo.gl/maps/Reg373nwEQD2
**สาขารังสิตปทุมธานี(ข้างเซียรังสิต) หยุดทุกวันศุกร์
☎ 096-956-1881
☎ 086-319-9940
BBmacservice(สาขารังสิต) เข้าซอยพหลโยธิน 74/1 20เมตร ซ้ายมือ
725 ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา ปทุมธานี 12130 คลิ๊กได้เลย ครับ //g.page/BBmacservice?share
แผนที่ร้าน BBmacservice (สาขาข้างเซียร์รังสิต) คลิ๊กตามลิ้งนี้ได้เลยครับ
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
📱 Line: @bbmacservice
📩 inbox: www.facebook.com/bbmacservice
💻Website: //www.bbmacservice.com
เตือนผู้ใช้งานห้ามเปลี่ยนปุ่มโฮมที่มี Touch ID จากร้านรับซ่อมทั่วไปเด็ดขาด เพราะจะเกิดปัญหา ” Error 53 ” และเครื่องจะถูกล็อคทันที
โฆษกของ Apple ออกมาเปิดเผยแล้วว่าปัญหา “Error 53” หลังจากการอัพเดตหรือรีสโตร์นั้นมาจากการปกป้องข้อมูลลายนิ้วมือภายในตัวเครื่อง ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะเกิดจากการที่ผู้ใช้งานนำ iPhone หรือ iPad ในรุ่นที่มี Touch ID ไปเปลี่ยนปุ่มโฮมจากร้านรับซ่อมภายนอกที่ไม่ใช่ร้านรับซ่อมจากการแต่งตั้งโดยตรงของ Apple (Authorized Service Provider)
มีผู้ใช้งานหลายรายประสบปัญหา “Error 53” หลังจากการอัพเดต iOS เวอร์ชั่นล่าสุด และจะไม่สามารถแก้ไขหรือใช้งานได้เลย ต้องส่งเครื่องไปซ่อมกับทางร้านซ่อมที่ได้รับการแต่งตั้งจาก Apple เท่านั้น สำหรับปัญหาตรงนี้ ทาง iFixit เว็บไซต์สอนการรื้อเครื่องชื่อดังออกมาเผยว่า เป็นเพราะการเปลี่ยนปุ่มโฮมรวมไปถึงในส่วนของสายเคเบิลจากร้านภายนอกนั่นเอง โดยเมื่อมีการอัพเดตเวอร์ชั่นใหม่ ตัว iOS
จะทำการตรวจสอบชิ้นส่วนภายในตัวเครื่องว่ายังเป็นอุปกรณ์เดิมที่มากับตัวเครื่องไม่ หากเราเคยทำการเปลี่ยนปุ่มโฮมจากร้านซ่อมข้างนอกมาก่อน เครื่องก็จะทำการล็อคทันที โดยทาง Aple ให้เหตุผลในเรื่องของความปลอกภัยของข้อมูลลายนิ้วมือนั่นเอง
สำหรับแนวทางการแก้ปัญหา คือห้ามเปลี่ยนอะไหล่ในส่วนของ Touch ID และสายเคเบิ้ลที่เกี่ยวข้องเองเด็ดขาด แต่ให้ส่งที่ศูนย์รับซ่อมอย่างเป็นทางการเท่านั้น โดยเมื่อมีการเปลี่ยนชิ้นส่วนอะไหล่ใหม่ทางศูนย์บริการจะทำการ pairing re-validated เพื่อจับคู่ระหว่างอะไหล่ใหม่กับตัวเครื่องเดิม
ซึ่งงานนี้บอกเลยว่าผู้งานเซ็งกันไปตาม ๆ กัน เพราะอย่างที่รู้ว่าค่าซ่อมจากร้าน Authorized Service Provider นั้นโหดกว่าร้านรับซ่อมทั่ว ๆ ไปพอสมควร
อ้างอิง 9to5mac
สามารถพูดคุยเกี่ยวกับบทความนี้ได้ที่หน้าเว็บบอร์ดเดิมครับ โดยคลิ๊กที่ลิงก์นี้ครับ >>> pdamobiz.com
ถูกใจบทความนี้ 54
- Facebook iconแชร์
- Twitter iconทวีต
- LINE iconส่งไลน์
Related
wasan007
“It is never too late to be what you might have been.”