วิธีเริ่มต้นทำแผนธุรกิจสะดวกซัก 24 ชม.
ก่อนจะเริ่มต้นธุรกิจสะดวกซัก นักลงทุนควรศึกษาข้อดีธุรกิจสะดวกซักวิเคราะห์ลักษณะธุรกิจประเภทนี้ให้ดี ดูว่าตัวเองเหมาะที่จะลงทุนแบบไหน ใช้ระยะเวลานานแค่ไหนถึงคุ้มทุน และควรเริ่มต้นวางแผนเพื่อให้คุณเห็นภาพธุรกิจของคุณชัดขึ้น มีเป้าหมายที่ชัดเจน รู้ว่าใครเป็นลูกค้า รู้ว่าคู่แข่งเป็นอย่างไร และรู้ว่าคุณต้องทำอย่างไรบ้าง เพื่อให้ธุรกิจสะดวกซักประสบความสำเร็จ
- เข้าใจภาพรวมของธุรกิจสะดวกซัก
การทำความเข้าใจในภาพรวมด้วยการเขียนความเป็นมาของธุรกิจนี้ เป็นการทบทวนในสิ่งที่นักลงทุนได้ศึกษามาว่าหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจสะดวกซักนี้เป็นอย่างไร คุณมีแนวคิดที่จะดำเนินการธุรกิจนี้เป็นแบบไหน ทำด้วยแนวทางใด ทำกับใคร มีหุ้นส่วนไหม หรือทำคนเดียว มีเป้าหมายในการทำธุรกิจเป็นอย่างไร และมีวิธีการอย่างไรให้ธุรกิจประสบความสำเร็จบ้าง การค่อย ๆ เรียบเรียงความคิดนี้เองจะช่วยสะท้อนถึงลักษณะธุรกิจในแบบของตัวคุณเอง
- วิเคราะห์โอกาสและความสำเร็จของธุรกิจ
การวิเคราะห์ในลักษณะนี้ เราจะใช้เครื่องมือที่เรียกว่า SWOT Analysis เพื่อดูว่าร้านสะดวกซักของคุณเป็นอย่างไร ต้องเผชิญกับอะไรบ้าง และตัวคุณควรรับมืออย่างไร โดยมีการวิเคราะห์ ดังนี้
- Strength (S) จุดแข็งของธุรกิจสะดวกซัก ให้คุณลองจินตนาการว่าร้านของคุณมีจุดแข็งอย่างไรเมื่อเทียบกับคู่แข่งอื่น ๆ ในตลาด หรือมีดีอย่างไรที่จะทำให้ลูกค้าในบริเวณนั้นมาใช้บริการ
- Weakness (W) จุดอ่อน อะไรที่น่าจะทำให้เกิดความลังเลใจที่จะมาใช้ หากมีคุณสามารถคิดต่อว่าแล้วควรทำอย่างไรที่จะปิดจุดอ่อนนั้น เช่น ลูกค้าหาแลกเหรียญลำบาก เราควรมีเครื่องแลกเหรียญอัตโนมัติให้บริการเสริมด้วย
- Opportunity (O) โอกาสในการทำธุรกิจ คุณลองมองว่าอะไรที่จะทำให้ธุรกิจเติบโตได้ดีในอนาคต เช่น ในละแวกร้านซักผ้าคุณจะมีหอพักเปิดเพิ่มมากขึ้น
Threats (T) อุปสรรคที่ทำให้ธุรกิจสะดุด คุณต้องดูว่ามีปัจจัยอะไรบ้าง เช่น พฤติกรรมของลูกค้าที่นิยมใช้จ่ายออนไลน์ซึ่งอาจมีร้านที่รองรับวิธีใช้จ่ายนี้หรือเปล่า
- เตรียมแผนการตลาดสำหรับลูกค้า
การทำแผนการตลาดเพื่อสื่อสารกับลูกค้านั้น อันดับแรกคุณต้องรู้ว่าลูกค้าคุณเป็นใคร อยู่ตรงไหน ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถส่งข้อความไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้มากที่สุด เช่น หากร้านของคุณตั้งอยู่ในทำเลที่ลูกค้าเป้าหมายผ่านไปผ่านมา แค่ติดป้ายหน้าร้านเพียงพอไหม หรืออาจต้องใช้คูปองส่วนลดเพื่อให้เกิดการบอกต่อ หรืออาจใช้ช่องทางเฟซบุ๊กในการทำโปรชั่นสำหรับลูกค้าที่ไม่ได้มาใช้บริการบ่อย ๆ หรือจำเป็นต้องมีพนักงานหน้าร้านไหม มีจำนวนเท่าไหร่ เพื่อช่วยเหลือลูกค้าในเรื่องอะไร เป็นต้น
- มีกลยุทธ์ในการทำธุรกิจให้สำเร็จ
แนวทางในการทำธุรกิจที่ชัดเจน และกลยุทธ์ที่มีหลากหลาย จะช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้ ซึ่งคุณควรวาดแนวทางในการดำเนินธุรกิจก่อน เช่น ร้านของคุณควรใช้พนักงานหรือไม่ ทำอะไร และควรมีกี่คน หากคุณมีหุ้นส่วนอาจต้องมีการแบ่งหน้าที่ให้ชัดเจนว่าใครจะดูแลส่วนไหน มีส่วนแบ่งเป็นอย่างไร ก่อนเปิดร้านจำเป็นต้องมีการอบรวมพนักงานก่อนไหม หรือจัดทำคู่มือสำหรับพนักงานและลูกค้าหรือเปล่า หากเครื่องซักผ้าเกิดความเสียหายควรทำอย่างไร และอาจต้องทำแผนกลยุทธ์ไว้ในสถานการณ์ต่างๆ เช่น ถ้าลูกค้าเกิดไม่พอใจควรทำอย่างไร
- ประเมินแผนการลงทุนและผลตอบแทน
การลงทุนทุกครั้งย่อมมีความเสี่ยง หากคุณไม่มีการบริหารความเสี่ยง เมื่อธุรกิจเกิดปัญหาอาจทำให้ร้านสะดวกซักของคุณเข้าสู่วิกฤตจนทำให้ธุรกิจล้มเอาได้ ดังนั้น คุณต้องจัดสรรเงินลงทุนอาจมีเงินสำรองฉุกเฉินหรือเปล่า คาดว่าคนจะมาใช้บริการวันละเท่าไหร่ มีค่าใช้จ่ายอะไรที่เกิดขึ้นภายในร้านบ้าง ค่าน้ำ ค่าไฟ และมีค่าโฆษณาด้วยไหม จากนั้นการลองคำนวณคร่าว ๆ ว่าคุณจะเริ่มได้กำไรเดือนที่เท่าไหร่ และจะใช้เวลากี่เดือนหรือกี่ปีถึงจะได้เงินลงทุนคืน
หากการเริ่มต้นธุรกิจของคุณเริ่มต้นด้วยการวางแผนทำธุรกิจที่รอบคอยและรอบด้าน รับรองว่าธุรกิจร้านสะดวกซักของคุณต้องไปได้ไกลอย่างแน่นอน และถ้ายิ่งได้พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจที่ยอดเยี่ยมที่บริการหลังจากขายที่ดี จะทำให้คุณไม่ต้องคอยกังวลถึงปัญหาในอนาคต ทั้งยังคุมคุณภาพบริการของคุณได้ดีไม่ลดลงเลยแม้แต้น้อย
การจะมีธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ จำเป็นต้องมีแผนงานและแผนธุรกิจ แต่แผนธุรกิจคืออะไร? แผนธุรกิจต้องมีอะไรบ้าง? จะรู้ได้อย่าางไรว่าธุรกิจกำลังดำเนินไปตามแผนที่วางไว้หรือไม่? บทความนี้บอกทุกเรื่อง!ขั้นที่ 1 แผนธุรกิจ คือรายละเอียดที่เป็นลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับธุรกิจที่จะทำ เป็นเอกสารที่บอกว่ามีแผนอะไรบ้าง รวมทั้งวิธีดำเนินธุรกิจให้เป็นไปตามแผน แม้ทุกธุรกิจจะมีลักษณะเฉพาะของตัวเอง แต่ก็มีรายะละเอียดและวิธีนำเสนอพื้นฐานซึ่งแผนธุรกิจที่ครอบคลุมควรมี อย่างแรกคือ 5Ws: อะไร เมื่อไหร่ ใคร ที่ไหน ทำไม และอย่างไร หากคุณตอบคำถามเหล่านี้ได้ตรงจุด แผนธุรกิจบริการซักอบรีดจะครอบคลุมทุกด้านธุรกิจที่สำคัญ ซึ่งจะส่งผลให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ
“การดำเนินธุรกิจโดยไร้แผนธุรกิจ ก็เหมือนการเดินป่าโดยไม่มีแผนที่หรือ GPS นำทาง ในที่สุดคุณจะหลงทางและหิวโหย!” - Kevin J. Donaldson
ทุกแผนธุรกิจควรเริ่มจากรายการบริการที่จะมอบ เช่น จะส่งผ้าคืนลูกค้าอย่างไร? จะมอบบริการรีด หรือบริการพิเศษอย่างซักแห้งด้วยหรือไม่? ไม่ว่ากิจการนั้นจะใช้เงินกู้จากธนาคาร หรือเป็นการลงทุนร่วม เอกสารแผนธุรกิจจะมอบภาพรวมที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางธุรกิจ พร้อมยังเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการจัดระเบียบ และรักษาธุรกิจให้ไม่หลุดเส้นทาง
แผนธุรกิจสำหรับธุรกิจซักรีด
ธุรกิจซักอบรีดได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพราะคนเราไม่มีเวลาซักผ้า รีดผ้า หรือซักแห้งด้วยตัวเอง (หรือมี แต่ไม่ชอบ) ตลาดซักรีดคือโอกาสทางธุรกิจที่น่าลงทุน เพราะช่วยแก้ปัญหาจริงที่ผู้คนพบในชีวิตประจำวัน จึงมีอุปทานและการใช้ซ้ำสูง (ไม่ว่าอย่างไรเราก็ต้องซักผ้า) แม้ธุรกิจซักอบรีดจะมีศักยภาพดี แต่คุณต้องเข้าใจความสำคัญของแผนธุรกิจ เพื่อดำเนินธุรกิจให้ได้ผล
➡️ ดาวน์โหลดแผนธุรกิจซักอบรีด ฟรี!
ธุรกิจแฟรนไชส์มาพร้อมข้อดีมากมาย มอบทุกอย่างที่จำเป็นต่อการตั้งและดำเนินธุรกิจ การเซ็นสัญญาแฟรนไชส์อาจมีความเสี่ยงน้อยกว่าเริ่มธุรกิจด้วยตนเองจากศูนย์ เพราะแฟรนไชส์จะมีแนวทางแบรนด์ที่ชัดเจน และโมเดลธุรกิจที่สร้างไว้แล้ว
ปัจจัยหลักเพื่อแผนธุรกิจซักรีดที่ประสบความสำเร็จ
ทุกแผนธุรกิจสำหรับบริการซักอบรีดต้องสามารถตอบ 5 คำถามหลักได้ จะสั้นหรือยาวไม่สำคัญ เพราะธุรกิจบางประเภทอาจมีขนาดใหญ่ขึ้นมา จึงต้องมีรายละเอียดเจาะลึกเพื่อทำความเข้าใจ ตามที่ได้กล่าวไปก่อนหน้า เป้าหมายของหลักของแผนธุรกิจคือ เพื่อให้คุณเข้าใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการที่มอบ
หัวข้อที่ควรอธิบายในแผนธุรกิจ ได้แก่
- คอนเซปท์ธุรกิจพื้นฐาน
- กลยุทธ์และกิจกรรมที่จะนำไปใช้
- จุดเด่นที่นำไปแข่งขันได้
- ตลาดเป้าหมาย
- ความจำเป็นทางการเงิน
อยากเป็นเจ้าของแฟรนไชส์ Jeff ไหม?
1. คอนเซปท์ธุรกิจพื้นฐาน
นี่คือไอเดียโดยรวม คอนเซปท์ต้องตอบคำถาม “เมื่อไหร่และที่ไหน” ในส่วนนี้ ผู้ประกอบการควรอธิบายและเข้าใจหัวข้อด้านล่างอย่างชัดเจน
- ภาคส่วนอุตสาหกรรม
- โครงสร้างธุรกิจ
- บทนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการ
- แผนทำธุรกิจ
จุดประสงค์หลักของส่วนนี้คือ เพื่อให้ผู้คน (เช่น นักลงทุน) พิจารณาว่าธุรกิจนั้น ๆ น่าสนใจหรือไม่ ซึ่งในส่วนนี้คุณควรอธิบายคำถาม “อะไรและอย่างไร” ให้ได้
2. กลยุทธ์และกิจกรรมที่จะนำไปใช้
หลังทำบทนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการแล้ว ต่อมา เราต้องตอบคำถามด้านล่าง:
เป้าหมายเฉพาะของธุรกิจนี้มีอะไรบ้าง?
จะบรรลุเป้าหมายนั้นเมื่อไหร่ และอย่างไร?
สามคำถามนี้คือตัวแผนธุรกิจ เป็นส่วนที่สำคัญที่สุด เรียกได้ว่าเป็นหัวใจของแผนธุรกิจ
3. จุดเด่นแข่งได้
ทำไมถึงควรดูแผนธุรกิจซักรีดนี้แทนแผนอื่น? ทำไมลูกค้าถึงอยากซื้อผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของเราแทนที่จะซื้อจากคู่แข่ง? นี่คือโอกาสสร้างความประทับใจแก่ผู้อ่าน ด้วยข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจซักอบรีดที่ดี และมีหลักแหล่ง
➡️ ดาวน์โหลดแผนธุรกิจซักอบรีด ฟรี!
4. ตลาดเป้าหมาย --> แผนการตลาด
ทุกอย่างเกี่ยวกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และลูกค้าจริง
- อะไรคือโปรไฟล์ที่พวกเขาอยากได้?
- อะไรคือลักษณะทางประชากรของกลุ่มเป้าหมาย?
- จะใช้วิธีอะไรเพื่อจับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ?
- จะ “รุก” และรักษาลูกค้าอย่างไรเพื่อเพิ่มผลกำไร?
- อะไรทำให้ธุรกิจของคุณแตกต่างจากคู่แข่ง?
5. ความจำเป็นทางการเงิน
เริ่มธุรกิจซักอบรีดอาจแพงกว่าที่หลายคนคิด การจดลิสต์อุปกรณ์และเครื่องมือที่จำเป็นจึงสำคัญมากต่อการสร้างแผนธุรกิจร้านซักรีด เช่น เครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า ผงซักฟอก ไม้เเขวนเสื้อ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ต้องรวมอยู่ในงบประมาณ เพื่อรับรองว่าการลงทุนมีความเป็นไปได้ทางการเงิน
ข้อมูลเหล่านี้มอบแนวทางว่าไอเดียธุรกิจซักอบรีด ตลาด และกลยุทธ์จะมีผลออกมาอย่างไร สิ่งสำคัญคือ แผนธุรกิจต้องมีพื้นฐานจากข้อเท็จจริง ไม่ใช่ความรู้สึก ผู้ประกอบการต้องยึดทิศทางธุรกิจและตัวเลขแทนที่จะเป็นความหวัง ควรตั้งความคาดหวังผลกำไรที่สมจริง และไม่ควรโฟกัสที่ความฝัน แผนธุรกิจส่วนนี้ต้องเป็นข้อเท็จจริงที่ตรวจสอบได้ และอธิบายได้เท่านั้น เพราะข้อมูลจะส่งผลต่อปัจจัยที่สำคัญยิ่งของธุรกิจ นั่นก็คือ ความน่าเชื่อถือ
สรุป:
แผนธุรกิจซักอบรีด คือเครื่องมือชิ้นเยี่ยมที่ผู้ก่อตั้งสามารถนำเสนอวิสัยทัศน์และแผนของธุรกิจ วิธีสร้างแผนธุรกิจที่เรามอบให้ด้านบนมีคำถามมาตรฐาน (เช่น 5Ws) ที่บังคับให้ผู้เกี่ยวข้องทุกคนต้องคิด วิเคราะห์ เพื่อสร้างวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ระยะยาวสำหรับไอเดียธุรกิจนั้น ๆ การสร้างเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรช่วยให้คุณสามารถติดตามความคืบหน้า รวมทั้งควบคุมและคาดเดาสถานการณ์ที่อาจเกิดในอนาคต
“การวางแผนธุรกิจมีประโยชน์มากในการอธิบายว่าธุรกิจของคุณทำอะไร เข้าใจว่าใครคือคู่แข่ง และรังสรรค์แผนงานสมจริงที่นำไปใช้ได้ 3-5 ปี ทุกอย่างในแผนธุรกิจสำคัญมากหากคุณอยากเริ่มหรือขยายการลงทุน และต้องเรียนรู้ที่จะพูดถึงธุรกิจของตัวเองอย่างรวบรัด เพราะนี่คือสิ่งสำคัญในทุกช่วงของธุรกิจ” - Garrett Neiman, College Spring