โน๊ตบุ๊คไม่มีเสียง มาดูวิธีแก้เบื้องต้นให้เสียงนั้นกลับมากัน
เราสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า ระบบเสียงของคอมพิวเตอร์และโน๊ตบุ๊คนั้นคือส่วนของการทำงานที่ผู้ใช้งานหลายคนไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญมากสักเท่าไร เพราะส่วนใหญ่แล้วจะเน้นไปที่แค่ว่ามีเสียงดังฟังชัดเท่านั้นพอ แต่ถ้าหากว่าเกิดปัญหาโน๊ตบุ๊คไม่มีเสียงขึ้นมาเมื่อไร ทุกคนต่างก็จะต้องเป็นเดือดเป็นร้อนกันขึ้นมาทันที แล้วก็ต้องพยายามหาเหตุผลว่าเราไปทำอะไรกับโน๊ตบุ๊คของเราตั้งแต่เมื่อไร ทำไมเสียงถึงหายไปได้แบบไม่มีสาเหตุอย่างนี้
ตรวจสอบหาสาเหตุโน๊ตบุ๊คไม่มีเสียงเบื้องต้น
ปกติแล้วปัญหาโน๊ตบุ๊คไม่มีเสียงนั้น คือสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ง่ายและมีโอกาสเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยส่วนแรกที่เราอยากให้ผู้ใช้งานทุกคนเข้าไปเช็คดูก่อนเลยนั่นก็คือช่องเสียบสัญญาณหูฟังและลำโพง ให้เราดูว่ามีอะไรเข้าไปอุดตันหรือค้างอยู่หรือเปล่า หากมีให้เอาออกและทำความสะอาด เพราะหากมีอะไรเข้าไปติดค้างอยู่อาจทำให้คอมพิวเตอร์เข้าใจว่าเราเสียบใช้งานหูฟังและลำโพงอยู่ ทำให้ Speaker ของโน๊ตบุ๊คไม่ทำงาน
หากลองทำแล้วยังไม่ Work ก็ให้มาลองดูที่ว่าปัญหาโน๊ตบุ๊คไม่มีเสียงนั้นเกิดขึ้นเมื่อตอนไหน อย่างเช่นว่าหลังจากการลง Windows ใหม่ หรือว่าจู่ ๆ เปิดเครื่องมาก็พบว่าเสียงไม่มีแล้ว โดยส่วนใหญ่ปัญหานี้จะมีสาเหตุมาจากการที่ Driver เสียงของคอมพิวเตอร์ได้หายไป อาจด้วยเหตุผลบางประการทั้ง ลง Windows ใหม่แล้วไม่ลง Driver รวมไปถึงการโดนเล่นงานจากไวรัสก็เป็นไปได้เช่นกัน
วิธีแก้ปัญหาโน๊ตบุ๊คไม่มีเสียงที่คุณสามารถทำเองได้
หากเราพบแล้วว่าตอนนี้เรากำลังเจอปัญหาโน๊ตบุ๊คไม่มีเสียงอยู่ กับข้อปัญหาว่า Driver เสียงหาย ให้เราเข้าไปดาวน์โหลด Driver เสียงของโน๊ตบุ๊คแต่ละเครื่องมาไว้เลย โดยเลือกเวอร์ชันให้ตรงกันกับ Windows ที่เราใช้งานอยู่ โดยสามารถที่จะกด Install แบบตรง ๆ ได้เลย จากนั้นก็ทำการ Restart เครื่องหนึ่งครั้งแล้วก็ดูว่าเสียงมาหรือไม่ ด้วยการลองเปิดเพลงและเช็คความเรียบร้อยใน Device Manager ที่ส่วนของ Sound Video and Game Controllers แล้วเข้าไปที่ Properties เพื่อตรวจดูว่า Driver ที่เราลงไว้นั้นทำงานเป็นปกติหรือไม่ ถ้าหากว่าใช่ก็จะขึ้นว่า This Device is working properly. ก็นับว่าเรียบร้อยแล้ว
หรือในกรณีที่ใครใช้ Windows 10 ก็สามารถที่จะเลือกใช้ฟังก์ชัน Troubleshooting ในการแก้ไขปัญหาเสียงได้เช่นกัน โดยเข้าไปที่ Control Panel เลือก Troubleshooting และ Troubleshooting audio Playback และกด Next ไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายแล้ว ระบบก็จะจัดการแก้ปัญหาให้เราจนเสร็จสิ้น
และหลังจากที่ได้ลองทำตามวิธีที่บอกมาทั้งหมดแล้วแต่หากยังพบปัญหาว่าโน๊ตบุ๊คไม่มีเสียงอยู่ ทางที่ดีก็คือขอแนะนำให้เรายกโน๊ตบุ๊คของเราไปขอความช่วยเหลือจากช่างหรือศูนย์บริการในการแก้ไขปัญหาให้เรา รับรองว่าเสียเวลาไม่นานและค่าใช้จ่ายก็ไม่มากอย่างที่คิดด้วย
- • ติดต่อเรา
- • เกี่ยวกับเรา
- • ลูกค้าที่ไว้วางใจ
- • สิทธิส่วนบุคคล
- • แผนผังเว็บไซต์
- • เซิร์ฟเวอร์
- • ไฮเปอร์คอนเวิร์จ
- • สตอเรจ
- • เบรคเซิร์ฟเวอร์
- • เครื่องสำรองไฟ
- • อุปกรณ์เครือข่าย
- • เวิร์คสเตชั่น
- • อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
- • โปรแกรมสำเร็จรูป
- • Domain Controller
- • File & Print Sharing
- • Virtualization
- • Backup & Recovery
- • Business Security
- • Internet Data Center
- • Internet Logging
- • Internet Security
- • ขอรับใบเสนอราคา
- • การชำระเงิน
- • การจัดส่งสินค้า
- • ระบบสมาชิก
- • Technology Update
- • Solution Conner
- • กิจกรรมเพื่อสังคม
- • กิจกรรมของบริษัทฯ
- • YouTube
- • Commercial
- • Cloud Quickserv
เอกสารนี้ใช้กับ PC โน้ตบุ๊ก HP ระบบ Windows 7
ขั้นตอนในเอกสารชุดนี้ระบุวิธีแก้ไขปัญหาเมื่อไม่มีเสียงจากลำโพง
หากคุณมี ProBook 440 G3, 470 G3 หรือ 450 G2 ไปที่หัวข้อ ไม่มีเสียงหลังจากติดตั้งระบบปฏิบัติการใหม่ สำหรับคอมพิวเตอร์อื่น ๆ ทั้งหมด ให้เริ่มต้นด้วยหัวข้อถัดไป
ขั้นตอนที่ 1: การใช้ Microsoft Sound Troubleshooter ใน Windows 7
เพื่อแก้ไขปัญหาระบบเสียงต่าง ๆ อัตโนมัติ ให้ใช้ Mircosoft Sound Troubleshooter
วิดีโอเกี่ยวกับการใช้ Microsoft Sound Troubleshooter ใน Windows 7
คลิกStart (เริ่ม
) จากนั้นคลิกControl Panel (แผงควบคุม)จาก System And Security (ระบบและความปลอดภัย) คลิกค้นหาและแก้ไขปัญหา
หน้า Troubleshoot computer problems (แก้ไขปัญหาคอมพิวเตอร์) จะเปิดขึ้นมา จาก Hardware And Sound (ฮาร์ดแวร์และเสียง) คลิกแก้ไขปัญหาการเปิดเล่นเสียง
หน้าแก้ไขปัญหา Playing audio (เปิดเล่นเสียง) จะเปิดขึ้นมา คลิกNext (ถัดไป) เพื่อดำเนินการต่อ
รอขณะตัวแก้ไขปัญหาตรวจหาปัญหาที่คอมพิวเตอร์
หากเชื่อมต่ออุปกรณ์เสียงหลายตัวให้เลือกอุปกรณ์ที่คุณต้องการแก้ไขปัญหาเช่นลำโพงจากนั้นคลิกNext (ถัดไป)
รอให้ระบบแก้ไขปัญหาตรวจหาปัญหาและทำการแก้ไข
หลังจากแก้ไขปัญหาเสร็จสิ้น หน้า Troubleshooting has completed (การแก้ไขปัญหาเสร็จสิ้น) จะเปิดขึ้นและแสดงปัญหาที่พบ รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับคอมพิวเตอร์ คลิก Close (ปิด)
บันทึก
ดูรายละเอียดการแก้ไขปัญหาโดยคลิกView information information (ดูข้อมูลโดยละเอียด)
ขั้นตอนที่ 2: ตรวจสอบขั้วต่อหูฟังคอมพิวเตอร์เมื่อทำการแก้ไขปัญหาเสียง
มีหัวต่อเฮดโฟนสองประเภทสำหรับคอมพิวเตอร์ HP แบบแรกรองรับเฉพาะการจ่ายสัญญาณเสียงไปยังเฮดโฟน แบบที่สองรองรับการจ่ายสัญญาณเสียงไปยังเฮดโฟนและการใช้ไมโครโฟน หัวต่อจะมีเครื่องหมายกำกับไว้
ช่องเสียบที่คอมพิวเตอร์ทำเครื่องหมายพร้อมกับชุดหูฟังอย่างเดียวให้
รองรับระบบเสียงเอาต์พุตสูงและใช้งานได้กับชุดหูฟังแบบสามขาช่องเสียบที่คอมพิวเตอร์ทำเครื่องหมายผ่านชุดหูฟังที่มีไมโครโฟน
รองรับเสียงและการใช้ไมโครโฟนเมื่อใช้กับชุดหูฟังที่มีหัวเสียบสี่ขาและไมโครโฟนรับฟังเสียงโดยสามารถใช้หัวเสียบกับหัวต่อทั้งสองนี้ การใช้หัวเสียบสี่ขาที่รองรับไมโครโฟนสำหรับหัวต่อสามขาสามารถใช้เพื่อรับฟังเสียงได้ แต่จะไม่สามารถใช้ไมโครโฟนได้เนื่องจากหัวต่อคอมพิวเตอร์สามขาไม่รองรับสัญญาณจากไมโครโฟน
ขั้นตอนที่ 3: การตรวจสอบระดับเสียงและการตั้งค่าการปิดเสียงเมื่อทำการแก้ไขปัญหาเสียง
การตั้งค่าระดับเสียงสำหรับอุปกรณ์เสียงมากกว่าหนึ่งตัวขึ้นไปอาจได้รับการปิดใช้งานหรือตั้งไว้เบาเกินไป มีระบบควบคุมเสียงแยกเฉพาะสำหรับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ (ลำโพง/ชุดหูฟัง) และแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ (Windows sound / QuickPlay / Windows Media Player) เช่น หากเปิดลำโพงไว้ แต่แอพพลิเคชั่นไม่มีเสียง คุณจะไม่ได้ยินเสียงใด ๆ ควรเปิดมิกเซอร์ควบคุมระดับเสียงและตรวจสอบค่าต่าง ๆ
บันทึกหากระดับเสียงสำหรับแอพพลิเคชั่น เช่น Windows Media Player ถูกปรับผ่านปุ่มปรับระดับเสียงหรือแถบเลื่อนที่เคสคอมพิวเตอร์ เครื่องจะใช้ค่าเสียงดังกล่าวแม้ว่าส่วนควบคุมระดับเสียงหลักจะปรับไว้ให้สูงขึ้นก็ตาม
ตรวจสอบค่าระดับเสียงและการปิดเสียงโดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
วิดีโอเกี่ยวกับการปรับระดับเสียงใน Windows 7
คลิกที่ไอคอนเสียง
จากทาสก์บาร์จากนั้นเลือกMixer (มิกเซอร์) แอพพลิเคชั่นเสียงที่ใช้งานทั้งหมดจะเปิดขึ้นมาตรวจดูให้แน่ใจว่าระดับเสียงไม่ได้ปิดไว้ โดยดูที่ปุ่มปิดเสียงด้านล่างแถบเลื่อนระดับเสียง หากปุ่มนั้นมีวงกลมสีแดงขนาดเล็ก แสดงว่าปิดระดับเสียงไว้
หากปิดระดับเสียงไว้ คลิกปุ่มปิดเสียงเพื่อเปิดเสียง วงกลมสีแดงบนไอคอนลำโพงอาจหายไปเมื่อไม่ได้ปิดเสียงไว้อีกต่อไป
ปิดเสียง
ไม่ได้ปิดเสีียง
หลังจากตรวจสอบว่าไม่ได้ปิดเสียงไว้ ให้ลากตัวปรับระดับเสียงขึ้นไปจนถึงระดับ 75%
เมื่อทำการทดสอบ คลิกแถบเลื่อนระดับเสียง หากคุณได้ยินเสียง ติ๊ง จากลำโพงทั้งหมด คุณได้แก้ไขปัญหาเรียบร้อยแล้ว
หากคุณยังไม่ได้ยินเสียง ให้ทำตามขั้นตอนถัดไปเพื่อตั้งค่าลำโพงเป็นอุปกรณ์เริ่มต้นเพื่อทำการทดสอบ
บันทึกหากคอมพิวเตอร์มีคุณสมบัติการทำงานที่สามารถเลื่อนนิ้วไปตามแถบควบคุมเหนือแป้นพิมพ์เพื่อปรับระดับเสียง ปุ่มปิดเสียงระบบสัมผัสอาจค้างอยู่ในตำแหน่งปิดเสียงและทำให้ไม่มีเสียงออกมา แก้ไขปัญหานี้โดยดาวน์โหลดและติดตั้ง BIOS ล่าสุดสำหรับคอมพิวเตอร์รุ่นของคุณ
ขั้นตอนที่ 4: การตั้งค่าลำโพงเริ่มต้นใน Windows 7
วิดีโอเกี่ยวกับการตั้งค่าลำโพงเริ่มต้นใน Windows 7
หากต่อเฮดโฟนไว้และไม่ได้ใช้เป็นลำโพงหลัก ให้ปลดสายเฮดโฟนตอนนี้ การต่อเฮดโฟนกับคอมพิวเตอร์จะเป็นการปิดเสียงลำโพงอื่น ๆ
คลิกStart
(เริ่ม) จากนั้นพิมพ์Sound (เสียง) ในฟิลด์ Search (ค้นหา)จากผลการค้นหาคลิกSound (เสียง) จากรายการโปรแกรม
จากหน้าต่าง Sound (เสียง) เลือกอุปกรณ์เปิดเล่นของคุณจากนั้นคลิกที่ปุ่มSet Default (ตั้งค่าเริ่มต้น)
ขณะเลือกอุปกรณ์เปิดเล่นเริ่มต้นไว้ให้คลิกที่ปุ่มกกำหนดค่า
คลิกที่ประเภทการตั้งค่าลำโพงของคุณในช่องสัญญาณเสียง
คลิกที่ปุ่มTest (ทดสอบ) เพื่อส่งเสียงไปยังลำโพงแต่ละตัวหรือคลิกที่ลำโพงเฉพาะเพื่อส่งเสียง
หากได้ยินเสียงจากลำโพงแต่ละชุดถูกต้อง แสดงว่าเสร็จสิ้นขั้นตอนแล้ว
หากไม่มีเสียงจากลำโพงทั้งหมดหรือบางตัว หรือหากมีการเปลี่ยนส่วนกำหนดค่า ให้ตั้งค่าลำโพงต่อโดยคลิก Next (ถัดไป) ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อสิ้นสุดการตั้งค่าลำโพง
เปิดเล่นเสียง หากยังเกิดปัญหาเสียง ให้ไปยังหัวข้อถัดไปและตรวจสอบการอัพเดต BIOS
ขั้นตอนที่ 5: การตรวจสอบการตั้งค่าขั้นสูงในการเปิดเล่น
หากยังมีปัญหาระบบเสียงอยู่ ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ จากแผงควบคุม มีการตั้งค่าสำหรับอุปกรณ์เปิดเล่นเริ่มต้นที่คุณอาจต้องปรับค่า
เปิด Control Panel (แผงควบคุม)
คลิกHardware and Sound (ฮาร์ดแวร์และเสียง)
คลิกSound (เสียง)
คลิกขวาที่อุปกรณ์เปิดเล่นเริ่มต้นจากนั้นคลิกProperties (คุณสมบัติ)
คลิกที่แท็บAdvanced (ขั้นสูง)
ล้างช่องทำเครื่องหมายในหัวข้อ Exclusive Mode (โหมดเฉพาะ) ออก
จากนั้นคลิก OK (ตกลง)
ขั้นตอนที่ 6: แก้ไขปัญหาปุ่มปิดเสียงและแถบเลื่อน
หากพบปัญหาที่ปุ่มปิดเสียงและ/หรือแถบเลื่อนด้านบนปุ่มแป้นพิมพ์ ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
ตรวจสอบว่าติดตั้ง BIOS เวอร์ชั่นล่าสุด หากไม่ใช่เวอร์ชั่นล่าสุดให้ดูคำแนะนำในการอัพเดต BIOS จากหัวข้อ การอัพเดต BIOS
หาก BIOS เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด หรือหากยังเกิดปัญหาหลังอัพเดต BIOS ให้ติดต่อฝ่ายบริการของ HP เพื่อขอความช่วยเหลือเพิ่มเติม
ขั้นตอนที่ 7: แก้ไขปัญหาอุปกรณ์เสียงความคมชัดสูง
อุปกรณ์เสียงความคมชัดสูงในคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กอาจไม่สามารถใช้งานได้อีกหลังจากรีสตาร์ท Windows 7 หรือปลุกการทำงานจากโหมดไฮเบอร์เนท/สลีป อุปกรณ์ดังกล่าวอาจเป็นอุปกรณ์เสียงหรือโมเด็ม คุณจะเห็นตัว "X" ปรากฏขึ้นที่ไอคอนลำโพงที่ส่วนแจ้งข้อมูล
แก้ไขปัญหานี้โดยสแกนหาอุปกรณ์ใหม่ใน Device Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์) ตามขั้นตอนต่อไปนี้
คลิกStart (เริ่ม)
จากนั้นพิมพ์Device Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์) ในฟิลด์ Search (ค้นหา) จากนั้นคลิกDevice Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์) จากผลการค้นหาจากหน้าต่างDevice Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์) เลือกคลิกขวาที่Sound, video and Sound (ระบบเสียงวิดีโอและเกม)
เลือกScan for hardware (สแกนหาการเปลี่ยนแปลงฮาร์ดแวร์)
อุปกรณ์เสียงความคมชัดสูงจะตรวจหาการเปลี่ยนแปลงฮาร์ดแวร์และตัว "X" ไม่ควรปรากฏขึ้นที่ไอคอนลำโพงอีกต่อไป
ขั้นตอนที่ 8: การคืนค่าไดรเวอร์เสียงใน Windows 7
ไฟล์และค่าเสียงที่มีการเปลี่ยนแปลงอาจทำให้เกิดปัญหากับระบบเสียงได้ กู้คืนไดร์เวอร์เสียงเพื่อรีเซ็ตค่าเสียงสำหรับฮาร์ดแวร์เสียง และเริ่มการกำหนดค่าเสียงทั้งหมดใหม่ใน Windows
บันทึกหากคอมพิวเตอร์อัพเกรดเป็น Windows Vista ก่อนอัพเกรดเป็น Windows 7 คุณอาจไม่สามารถใช้งานคุณสมบัติทั้งหมดของอุปกรณ์เสียงในตัวที่รองรับมาตรฐาน Audio Codex '97 (AD '97) ได้ แก้ไขปัญหาโดยทำการอัพเกรดไดร์เวอร์เสียง ดูขั้นตอนที่ 8: การอัพเดตไดร์เวอร์เสียง
ใช้กระบวนการกู้คืนไดร์เวอร์เพื่อคืนค่าไดรเวอร์เสียงสำหรับฮาร์ดแวร์เสียงเริ่มต้นโดยใช้ขั้นตอนต่อไปนี้
คลิกStart (เริ่ม)
คลิกAll Programs (โปรแกรมทั้งหมด) คลิกRecovery Manager (ตัวจัดการการกู้คืน) แล้วคลิกrecovery managerอีกครั้งคลิกHardware Driver ติดตั้งใหม่
บนหน้าจอต้อนรับของการติดตั้งไดรเวอร์ฮาร์ดแวร์ใหม่คลิกNext (ถัดไป)
เลือกไดรเวอร์เสียงที่ต้องการติดตั้งใหม่จากนั้นคลิกNext (ถัดไป)
บันทึก
หากไดร์เวอร์ที่ต้องการติดตั้งใหม่ไม่อยู่ในรายการให้เลือกไดรเวอร์ไม่อยู่ในรายการจากนั้นคลิกNext (ถัดไป) ข้อมูลที่เป็นประโยชน์จะแนะนำวิธีการติดตั้งไดรเวอร์โดยใช้ตัวจัดการอุปกรณ์ของ Windows ให้คุณ ปฏิบัติตามคำแนะนำบนหน้าจอ
ตัวจัดการการกู้คืนจะเริ่มทำการติดตั้งไดรเวอร์ที่เลือกไว้ใหม่ หลังจากการติดตั้งไดร์เวอร์เสร็จสิ้นให้คลิกที่Finish (เสร็จสิ้น) เพื่อรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์
หากคุณไม่สามารถติดตั้งไดร์เวอร์ใหม่ผ่าน Recovery Manager ให้ย้อนกลับไปใช้ไดร์เวอร์ที่ติดตั้งไว้ก่อนหน้าตามขั้นตอนต่อไปนี้
คลิกStart (เริ่ม)
จากนั้นพิมพ์Device Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์) ในฟิลด์ Search (ค้นหา) จากนั้นคลิกDevice Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์) จากผลการค้นหาจากหน้าต่างDevice Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์) คลิกSound, video, video and game (ตัวควบคุมเสียงวิดีโอและเกม)
คลิกขวาที่ชื่ออุปกรณ์เสียงจากนั้นเลือก Properties (คุณสมบัติ)
คลิกที่แท็บ Driver (ไดร์เวอร์)
คลิกRoll Back Driver (เรียกคืนไดร์เวอร์)
คลิกYes (ใช่) เพื่อย้อนกลับไปใช้ไดร์เวอร์ก่อนหน้า
การทดสอบเสียง
หากยังไม่มีเสียง ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่ออัพเดตไดร์เวอร์เสียง
ขั้นตอนที่ 9: การอัพเดตไดร์เวอร์เสียงใน Windows 7
ไดร์เวอร์เสียงที่อัพเดตแล้วอาจแก้ไขปัญหาได้หากคอมพิวเตอร์มีปัญหาระบบเสียงหลังอัพเกรดระบบปฏิบัติการเป็น Windows 7 หรือหากคอมพิวเตอร์มีปัญหาระบบเสียงในโปรแกรมซอฟต์แวร์บางตัว
ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ตามแนวทางการอัพเดตที่คุณต้องการ
การอัพเดตไดรเวอร์เสียงจากเว็บไซต์ HP
ป้อนหมายเลขรุ่นของคุณในช่องค้นหา (เช่น EliteBook หน้าต่างหรือ Presario CQ56) แล้วคลิกNext (ถัดไป) เลือกผลิตภัณฑ์ของคุณจากผลการค้นหา เมื่อได้รับแจ้ง
คลิกที่ซอฟต์แวร์ & ดาวน์โหลดไดร์เวอร์
เลือกระบบปฏิบัติการของคุณจากนั้นคลิกNext (ถัดไป)
คลิกที่ลิงค์Driver-Audio (ไดร์เวอร์-เสียง)
หากมีข้อมูลอัพเดตจาก HP ให้ทำตามคำแนะนำในหน้าดาวน์โหลดเพื่อดาวน์โหลดไดร์เวอร์ จากนั้นทำการติดตั้ง
ทดสอบเสียงหลังการติดตั้งซอฟต์แวร์
หากไม่มีข้อมูลอัพเดตหรือเสียงยังมีปัญหาหลังการอัพเดต ให้ทำการอัพเดตไดร์เวอร์เสียงโดยใช้ Device Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์)
การอัพเดตไดร์เวอร์เสียงโดยใช้ Device Manager ใน Windows 7
อัพเดตไดร์เวอร์เสียงโดยใช้ Device Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์) ตามขั้นตอนต่อไปนี้
เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
คลิกStart (เริ่ม)
จากนั้นพิมพ์Device Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์) ในฟิลด์ Search (ค้นหา) จากนั้นคลิกDevice Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์) จากรายการโปรแกรมตัวจัดการอุปกรณ์จะเปิดขึ้น
คลิกSound, video and game (ตัวควบคุมเสียงวิดีโอและเกม)
คลิกขวาที่ชื่ออุปกรณ์เสียงที่แสดงไว้ภายใต้ตัวควบคุมเสียง วิดีโอ และเกม
เลือกUpdate Driver Software (อัพเดตซอฟต์แวร์ไดร์เวอร์)
คลิก Search automatically for updated driver software (ค้นหาซอฟต์แวร์ไดรเวอร์อัพเดตอัตโนมัติ)
Windows จะตรวจหาและติดตั้งไดร์เวอร์อัพเดตที่พบ หน้าต่างแสดงว่าคอมพิวเตอร์มีไดร์เวอร์ตัวล่าสุดหรือไม่ หรือ Windows สามารถอัพเดตไดร์เวอร์เสียงได้หรือไม่
หากหน้าต่างเปิดขึ้นและแจ้งให้รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ ให้ทำการรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์
การทดสอบเสียง หากยังมีปัญหาระบบเสียงหรือไม่พบไดร์เวอร์สำหรับติดตั้ง ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปเพื่อตรวจสอบ device manager
ขั้นตอนที่ 10: การตรวจสอบ Device Manager เพื่อแก้ไขปัญหาเสียงใน Windows 7
หากไม่ได้ยินเสียง ให้ตรวจสอบจาก Device Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์) เพื่อพิจารณาสถานะของฮาร์ดแวร์เสียง
คลิกStart (เริ่ม)
จากนั้นพิมพ์Device Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์) ในฟิลด์ Search (ค้นหา) จากนั้นคลิกDevice Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์) จากรายการโปรแกรมหน้าต่าง Device Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์) จะเปิดขึ้นมา
ดับเบิลคลิกที่ Sound, video and game controllers (ระบบควบคุมเสียง วิดีโอ และเกม)
ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ตามการแสดงผลที่แจ้ง:
หากอุปกรณ์เสียงปรากฏในรายการพร้อมลูกศรลง แสดงว่าอุปกรณ์ปิดใช้งานอยู่ คลิกขวาที่ชื่ออุปกรณ์เสียงจากนั้นเลือกenable (เปิดใช้งาน) เพื่อเปิดใช้งานอุปกรณ์ใหม่ ไปที่ขั้นตอนต่อไปหากยังมีปัญหาหลังเปิดใช้งานอุปกรณ์แล้ว
หากมีอุปกรณ์เสียงแสดงอยู่ให้คลิกขวาที่ชื่ออุปกรณ์จากนั้นเลือกProperties (คุณสมบัติ) เพื่อดูข้อมูลการแก้ไขปัญหาเพิ่มเติมจากหน้าต่าง Device Status (สถานะอุปกรณ์) หาก Device Status (สถานะอุปกรณ์) แจ้งว่าอุปกรณ์ทำงานได้ตามปกติ แสดงว่าปัญหาอาจอยู่ที่การตั้งค่าเสียง ลำโพง หรือสายสัญญาณ
ขั้นตอนที่ 11: การทดสอบเพื่อตรวจหาความล้มเหลวของฮาร์ดแวร์ใน Windows 7
เปิดเล่นเสียง หากยังมีปัญหาระบบเสียง ให้ทดสอบฮาร์ดแวร์เสียงโดยใช้ HP Support Assistant
ไม่มีเสียงหลังจากติดตั้งระบบปฏิบัติการใหม่
หากคุณมี ProBook 440 G3, 470 G3 หรือ 450 G2 และพบปัญหาไม่มีเสียงหลังจากติดตั้งระบบปฏิบัติการใหม่ ให้ทำตามคำแนะนำต่อไปนี้เพื่อแก้ไขปัญหา:
ขณะสตาร์ทคอมพิวเตอร์ แตะซ้ำ ๆ ที่ F10 เพื่อเปิด BIOS
ไปที่แท็บAdvanced (ขั้นสูง)
เลือก built in device (อุปกรณ์ในตัว)
ตรวจสอบช่องAudio (เสียง)
บันทึกการเปลี่ยนแปลงและออกจากโปรแกรม