มาม่ะสาวๆ จ๋าตามหัวข้อกันเลยน้าาา วันนี้เราขอเอาใจคนที่ชอบใช้ครีมซองกันหน่อย (เราเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกัน) โดยเฉพาะครีมซองเซเว่นเนี่ยคือออกใหม่เยอะมาก ตามไม่ทันแล้ว
ล่าสุดก็เจออันนี้มา ดีดีครีมแตงโม โอ้โหเค้าบอกว่าดีงามเราเลยต้องลองเอามาใช้กันหน่อย แต่ทีนี้ไหนๆ จะลองแล้วก็จัดมา 3 แบรนด์กันไปเลย เผื่อใครที่อยากรู้ว่าอันไหนเป็นยังไงเปรียบเทียบชัดๆ ให้ได้เห็นกัน จะได้ตัดสินใจซื้อกันถูกเนอะ
แต่ก่อนจะไปดูว่าแต่ละตัวเค้าเป็นยังไงกันบ้าง เราบอกข้อมูลของครีมแตงโมที่เราเอามาแนะนำในวันนี้ก่อนนะ เพราะเค้ามีทั้ง DD Cream และ EE Cream เลย หลายคนอาจจะงงได้ว่า ดีดี กับ อีอีครีมเค้าต่างจาก ซีซีครีม บีบีครีมยังไง...คือว่าดีดี ครีมจะรวมทุกอย่างเลยจ้าทั้งเลย รองพื้น ครีมบำรุงและกันแดด ส่วนอีอีครีม จะเป็นการรวมทุกอย่างเอาไว้เหมือนดีดีครีมเลย แต่ส่วนผสมและเนื้อครีมจะมีความเข้มข้นมากกว่าดีดีครีมนั่นเอง เอาเป็นว่าเหมาะกับสาวๆ ยุคใหม่ ที่เร่งรีบ ใช้อันนี้ซองเดียวจบเลยจ้า
DD Cream Watermelon Jula’s herb
เริ่มกันที่ตัวแรก ดีดีครีมแตงโมของจุฬาเฮิร์บ ซึ่งเราจะบอกว่าเราเห็นมานานแล้วนะสำหรับแบรนด์นี้ เค้าน่าจะเป็นแบรนด์แรกๆ เลยที่ทำครีมแตงโมแบบนี้ออกมา แล้วรีวิวก็เยอะมากบอกว่าใช้ดีจริงๆ เราก็ต้องจัดแล้วล่ะ
ส่วนผสมของเค้าแน่นว่าต้องเป็นสารสกัดจากแตงโม ซึ่งสามารถช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นในผิวได้ดี แถมยังช่วยปกป้องผิวที่ถูกทำร้ายจากแสงแดดด้วย SPF50 PA+++ และที่สำคัญคือ กันน้ำ กันเหงื่อ ทำให้ผิวกระจ่างด้วยเน้อ
เนื้อครีม : จะเป็นลักษณะสีขาวอมชมพู พอเกลี่ยแล้วจะแตกตัวกลายเป็นน้ำ ซึมไว สบายผิว
กลิ่น : หอมแตงโมอ่อนๆ ไม่ฉุนเลย
ความรู้สึกหลังใช้ : เนื้อดีดีครีมมีความนุ่มละมุน พอเกลี่ยลงผิวแล้วจะแตกตัวเป็นน้ำ ยิ่งทำให้เกลี่ยง่ายเข้าอีก คือจากที่สีค่อนข้างขาวก็กลืนไปกับสีผิวเลย และที่เรารู้สึกเป็นอย่างแรกคือ ครีมแตงโมจุฬาเฮิร์บนี้เค้าช่วยทำให้ผิวเราฉ่ำวาวมีความชุ่มชื้นดูผิวอิ่มน้ำสุขภาพดี ส่วนในเรื่องของสีที่ได้คือกำลังดีเลยเค้าช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใสขึ้นเล็กน้อยกำลังสวยไม่วอก และคุมมันกำลังดีเลยจ้า รวมๆ เราว่าเค้าเป็นเหมือนตัวช่วยในการเตรียมผิวได้ดีถ้าใครผิวดีอยู่แล้วก็ทาแป้งจบเลยออกจากบ้านสวยๆ
ราคา 39 บาท / ปริมาณ 8 ml
ให้คะแนน 4.5 /5
Sistar Watermelon EE Cream
ต่อมาเป็น EE Cream ของ Sistar แบรนด์นี้ก็มีขายในเซเว่นเหมือนกัน เป็นครีมแตงโมที่ทำออกมาได้สักพักแล้วแต่จะมาในรูปแบบอีอีครีม เมื่อเกลี่ยลงผิวแล้วก็แตกตัวเป็นน้ำอีกเช่นเดียวกัน คุณสมบัติกันน้ำ กันเหงื่อ คุมมัน มาพร้อมกันแดด SPF50 PA+++ ด้วยนะ
ส่วนผสมหลักๆ ของเค้าก็จะมีสารสกัดจากแตงโมเข้มข้น ที่ช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้นอิ่มน้ำ รวมไปถึงกลูต้าไธโอนเข้าไปบำรุงให้ผิวขาวใส รวมไปถึงวิตามินบี6ที่ช่วยควบคุมความมันนั่นเองจ้ะ
เนื้อครีม : จะมีลักษณะขาวอมชมพูเหมือนกัน แต่เนื้อครีมจะมีความเหนียวกว่าจุฬาเฮิร์บ
กลิ่น : กลิ่นแตงโมค่อนข้างแรงอยู่ (ใครไม่ชอบอาจจะรู้สึกฉุนเล็กน้อยนะ)
ความรู้สึกหลังใช้ : หลังจากที่ลองใช้แล้วเรารู้สึกว่าตัวเนื้อครีมเค้ามีความเข้มข้น เกลี่ยยากนิดนึงเพราะส่วนที่แตกตัวเป็นน้ำนั้นจะมีละอองน้ำค่อนข้างน้อย ทำให้ใช้เวลาเกลี่ยนานหรือถ้าใครผิวแห้งอาจจะเป็นคราบได้ พอทาเสร็จจะมีความหนึบๆ ที่ผิวเล็กน้อยแต่ลงแป้งทับได้ ส่วนในเรื่องของสีเราว่าเค้าขาวขึ้นพอสมควร ถ้าคนผิวเข้มอาจจะดูวอกไปหน่อย แต่สามารถลงบางๆ เพื่อเป็นการปรับสีผิวได้ การคุมมันทำได้ดีกลางๆ อาจจะมีมันตรงส่วนทีโซนบ้าง
ราคา 39 บาท / ปริมาณ 8 ml
ให้คะแนน 4 /5
Sis2Sis Watermelon DD Cream
และมากันที่แบรนด์สุดท้าย เป็น ครีมแตงโม ของ Sis2Sis แบรนด์น้องใหม่เพิ่งออกมาเลยล่ะ ก็จัดมาลองด้วยเลย…ซองสดใสไฉไลน่าใช้ด้วยนะ แถมยังมาพร้อมการปกปิดที่ดีเน้นเพิ่มความกระจ่างใส คุมมัน กันเหงื่อ กันแดด SPF50 PA+++ เนื้อครีมสามารถแตกตัวเป็นน้ำเช่นเดียวกัน
ส่วนผสมหลักๆ ของเค้าบอกมาเลยว่าเข้มข้นเทียบเท่าแตงโม 10 กิโลกรัม ที่เน้นบำรุงผิวนุ่มชุ่มชื้น นอกจากนั้นยังมีวิตามินต่างๆ เช่น วิตามินซี วิตามินบี3 วิตามินอี ที่ดีต่อผิวทั้งนั้น
เนื้อครีม : จะเป็นสีขาวอมชมพูเช่นเดียวกัน มีความเข้มข้นสุดกว่าตัวครีมแตงโมทั้ง 2 ตัวด้านบน
กลิ่น : กลิ่นหอมแตงโมอ่อนๆ ไม่ฉุน
ความรู้สึกหลังใช้ : เราว่าตัวดีดีครีมแตงโมอันนี้เนื้อเค้าเข้มข้นก็จริง แต่พอแตกตัวเป็นน้ำแล้วละอองน้ำค่อนข้างเยอะ ทำให้เกลี่ยไม่ยากมา เนื้อซึมไวแต่สีของเค้าขาวมากสุดในบรรดาครีมแตงโมทั้ง 3 แบรนด์ ขนาดเราผิวขาวเหลืองยังมีความรู้สึกว่าแอบขาวเกินไป อีกนิดก็คือวอกแล้วอ่ะ ถ้าใครที่ผิวเข้มกว่าเราไม่น่ารอด แต่ฟิลหลังทาครีมลงผิวไปแล้วไม่เหนียวหรือหนังผิวเลยนะ ติดตรงที่สีสว่างไปเท่านั้นเอง โดยรวมแล้ว เราว่าเหมาะกับคนผิวขาวมากๆ ใช้แล้วน่าจะตอบโจทย์มากกว่าจ้า
ราคา 39 บาท / ปริมาณ 8 ml
ให้คะแนน 3.5 /5
เราจะสรุปให้อีกที สำหรับครีมแตงโมทั้ง 3 แบรนด์ ว่าแบรนด์ไหนเป็นอย่างไรบ้างหลังจากที่ลองใช้มาแล้ว (อันนี้เป็นความคิดเห็นของเราเองนะจ๊ะ)