โรคเบาหวานในประเทศไทย 2565

สปสช. ร่วมรณรงค์ “วันเบาหวานโลก” จัดสิทธิประโยชน์บริการควบคุม ป้องกัน และรักษาต่อเนื่อง เผยปี 2553 แยกเป็นงบเฉพาะ ดูแลผู้ป่วยเข้าถึงบริการเพิ่ม ชะลอสู่โรคเรื้อรังรุนแรงทั้งโรคหัวใจ ไตวายเรื้อรัง ปี 2565 จัดงบ 1,154 ล้านบาท มุ่งเป้าให้บริการกว่า 3.71 ล้านครั้ง พร้อมเปิดข้อมูลกองทุนบัตรทอง ปี 2563 เบาหวานอยู่อันดับต้น โรคที่มีผู้ป่วยรับบริการมากที่สุด

นพ.จักรกริช โง้วศิริ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า วันที่ 14 พฤศจิกายนของทุกปีเป็น “วันเบาหวานโลก” เพื่อรณรงค์ให้ความรู้และสร้างความตื่นตัวในการป้องกันและรักษาโรคเบาหวาน ซึ่งสถานการณ์โรคเบาหวานในประเทศไทย จากข้อมูลสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย คาดการณ์ว่าประเทศไทยมีผู้ป่วยเบาหวานราว 5 ล้านคน หรือ 1 ใน 10 ของประชากรที่อายุ 15 ปีขึ้นไป และมีอัตราเพิ่มขึ้นประมาณ 100,000 คนต่อปี

ด้วยสถานการณ์โรคเบาหวานที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมา สปสช. ได้จัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมที่แยกจากงบเหมาจ่ายรายหัวตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา เพื่อเร่งรัดการให้บริการควบคุม ป้องกัน และรักษาโรคเรื้อรัง ทั้งโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง รวมทั้งชะลอภาวะเจ็บป่วยจากโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงที่ไม่ให้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งนอกจากทำให้ผู้ป่วยการเข้าถึงบริการควบคุมและป้องกันเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันยังนำไปสู่การจัดระบบดูแลโรคเบาหวานของหน่วยบริการอย่างมีคุณภาพ

 “บอร์ด สปสช.ให้ความสำคัญในเรื่องนี้มาก เพราะโรคเบาหวานเป็นความเสี่ยงที่นำไปสู่โรคเรื้อรังรุนแรงที่มีค่าใช้จ่ายสูง ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง จึงได้อนุมัติจัดสรรงบประมาณสิทธิประโยชน์นี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูแลให้ประชาชนเข้าถึงบริการควบคุม ป้องกัน และรักษา ซึ่งในปีงบประมาณ 2565 นี้ จัดสรรที่จำนวน 1,154.78 ล้านบาท ตั้งเป้าหมายบริการจำนวน 3,711,100 ครั้ง จากที่ปี 2553 ที่ได้เริ่มแยกงบประมาณดูแล เริ่มที่งบประมาณ 400 ล้านบาท”

นพ.จักรกริช กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามแม้ว่า สปสช. จะได้ดำเนินนโยบายที่มุ่งเน้นสู่บริการควบคุม และป้องกัน ควบคู่กับการรักษาแล้ว แต่โรคเบาหวาน โดยเฉพาะโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ไม่ต้องพึ่งอินซูลิน ยังเป็นโรคที่มีผู้ป่วยเข้ารับการดูแลและรักษาพยาบาลในอันดับต้นๆ ของการเข้ารับบริการ ซึ่งจากรายงานการสร้างระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ งบประมาณปี 2563 ในกลุ่มผู้ป่วยนอก โรคเบาหวานมีจำนวนการเข้ารับบริการสูงถึง 10,785.775 ครั้ง สูงเป็นอันดับที่ 2 ของการรับบริการผู้ป่วยนอก ส่วนกลุ่มผู้ป่วยใน โรคเบาหวานมีจำนวนการเข้ารับบริการสูงถึง 98,403 ครั้ง สูงเป็นอันดับ 10 ของการรับบริการผู้ป่วยใน สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาที่เร่งแก้ไข ซึ่งเบาหวานเป็นโรคที่เกิดจากพฤติกรรมการบริโภค จำเป็นที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต้องร่วมมือกันเพื่อรณรงค์สร้างความตระหนักรู้และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เพื่อให้ห่างไกลจากโรคเบาหวาน

“ที่เราพยายามทำให้เกิดคือสิทธิประโยชน์ในการส่งเสริมป้องกันโรคที่ยังมีช่องว่างอยู่ค่อนข้างเยอะ ซึ่งเราถือว่าเป็นหน้าที่ของรัฐที่ต้องคุ้มครองประชาชน มองกว้างมากกว่าเรื่องการรักษาอย่างเดียว ดังนั้นเรื่องเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ส่วนหนึ่งอยู่ที่พฤติกรรมและปรับระบบการบริการ การดูแลสุขภาพแบบใหม่ให้คนไข้มีความรู้และทักษะที่จะสามารถดูแลตัวเองได้ หรือใช้ดิจิทัลเทคโนโลยี กับเรื่องของการทำการบริบาลทางไกล ซึ่งตอนนี้ สปสช.กำลังเดินไปในทิศทางนี้ให้มากขึ้น เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการทางสุขภาพให้กับประชาชน” รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว

นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า วันที่ 14 พฤศจิกายน ของทุกปี ถือเป็นวันเบาหวานโลก โดยปี 2565 สหพันธ์โรคเบาหวานนานาชาติ (International Diabetes Federation: IDF) ได้กำหนดประเด็นวันเบาหวานโลก คือ Education to protect tomorrow มุ่งเน้นให้ความรู้เรื่องโรคเบาหวาน ไม่ใช่แค่เฉพาะแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ แต่รวมถึงผู้ป่วยเบาหวานและผู้ดูแลด้วย เพื่อการรักษาเบาหวานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

ป่วย "เบาหวาน" ควรรู้ ทำไมต้องตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด

“ขนมปัง” ของหาง่ายกินได้ทุกวัน ไฟเบอร์สูงทางออกคนมีปัญหาเรื่องลำไส้

โดยสถานการณ์โรคเบาหวานทั่วโลกในปี 2564 มีผู้ป่วยจำนวน 537 ล้านคน และคาดว่าในปี 2573 จะมีผู้ป่วยเบาหวานเพิ่มขึ้นเป็น 643 ล้านคน และโรคเบาหวานมีส่วนทำให้เสียชีวิต สูงถึง 6.7 ล้านคน หรือเสียชีวิต 1 ราย ในทุกๆ 5 วินาที

จากรายงานสถิติสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข ประเทศไทยพบอุบัติการณ์โรคเบาหวานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 3 แสนคนต่อปี และมีผู้ป่วยโรคเบาหวานอยู่ในระบบทะเบียน 3.3 ล้านคน ในปี 2563 มีผู้เสียชีวิตจากโรคเบาหวานทั้งหมด 16,388 คน (อัตราตาย 25.1 ต่อประชากรแสนคน) ค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขในการรักษาโรคเบาหวานเฉลี่ยสูงถึง 47,596 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้โรคเบาหวานยังคงเป็นสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดโรคอื่นๆ ในกลุ่มโรค NCDs เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคความดันโลหิตสูง และโรคไตวายเรื้อรัง ฯลฯ

โรคเบาหวาน ภัยเงียบใกล้ตัว สถิติทั่วโลกพบป่วย 537 ล้านคน อัตราเสียชีวิตเฉลี่ย 1 ราย ทุก ๆ 5 วินาที คาดปี 2573 ผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็น 643 ล้านคน ขณะที่ประเทศไทย พบผู้ป่วยใหม่ปีละ 3 แสนราย

ทุกวันที่ 14 พฤศจิกายน ของทุกปี องค์การอนามัยโลก และสหพันธ์โรคเบาหวานนานาชาติ กำหนดให้วันดังกล่าวเป็น “วันเบาหวานโลก (World Diabetes Day)” เพื่อสร้างความตระหนักถึงสถานการณ์โรคเบาหวาน 1 ในกลุ่มโรคไม่ติดต่อ ที่พบได้มากในคนไทย และคร่าชีวิตคนทั่วโลกไปแล้วไม่น้อย

  • ไทยตกขบวน ทุนต่างชาติไหลเข้าเวียดนาม 2 พันโปรเจ็กต์
  • วันพระ 2566 : เปิดปฏิทินวันพระ ตรงกับวันไหนบ้าง
  • กทม.ลดภาษีที่ดิน 15% เจ้าของที่ดินต้าน ไม่ให้พนักงานสำรวจเข้าพื้นที่

เปิดสถิติป่วยทั่วโลก 537 ล้านราย มีผู้เสียชีวิตรายใหม่ทุก 5 วินาที

นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า สถานการณ์โรคเบาหวานทั่วโลกในปี 2564 มีผู้ป่วยจำนวน 537 ล้านคนและคาดว่าในปี 2573 จะมีผู้ป่วยเบาหวานเพิ่มขึ้นเป็น 643 ล้านคน และโรคเบาหวานมีส่วนทำให้เสียชีวิตสูงถึง 6.7 ล้านคน หรือเสียชีวิต 1 ราย ในทุก ๆ 5 วินาที

จากรายงานสถิติสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข ประเทศไทยพบอุบัติการณ์โรคเบาหวานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 3 แสนคนต่อปี และมีผู้ป่วยโรคเบาหวานอยู่ในระบบทะเบียน 3.3 ล้านคน

ในปี 2563 มีผู้เสียชีวิตจากโรคเบาหวานทั้งหมด 16,388 คน (อัตราตาย 25.1 ต่อประชากรแสนคน) ค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขในการรักษาโรคเบาหวานเฉลี่ยสูงถึง 47,596 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ โรคเบาหวานยังคงเป็นสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดโรคอื่น ๆ ในกลุ่มโรค NCDs เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคความดันโลหิตสูง และโรคไตวายเรื้อรัง ฯลฯ

ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ ป่วยเบาหวานมากเป็นอันดับ 2

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยสถานการณ์โรคเบาหวานในกลุ่มผู้สูงอายุ โดยระบุว่า จากรายงานในระบบ Health Data Center ปี 2565 เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2565 มีข้อมูลผู้สูงอายุในระบบจำนวน 9,527,054 คน พบว่า

ผู้สูงอายุได้รับการประเมินและคัดกรองสุขภาพ จำนวน 7,501,688 คน หรือ ร้อยละ 78.74 ซึ่งปัญหาสุขภาพผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะเจ็บป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง อันดับ 1 คือโรคความดันโลหิตสูง ร้อยละ 46.06 รองลงมาคือ โรคเบาหวาน ร้อยละ 21.12 และโรคหลอดเลือดสมอง ร้อยละ 2.43

แนะวิธีดูแลสุขภาพ ห่างไกลโรคเบาหวาน

นายแพทย์เกรียงไกร นามไธสง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี กล่าวว่า โรคเบาหวานเป็นภาวะที่ในกระแสเลือดมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ อันเนื่องจากการขาดฮอร์โมนอินซูลิน หรือประสิทธิภาพในการทำงานลดลง หากปล่อยไว้เป็นเวลานานก็จะทำให้ร่างกายเกิดโรคแทรกซ้อนต่ออวัยวะต่าง ๆ ได้ง่าย อาทิ ตา ไต รวมไปถึงระบบประสาท

โรคเบาหวานสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทคือ

Advertisement

เบาหวานประเภทที่ 1.เกิดจากตับอ่อนไม่สามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้

เบาหวานประเภทที่ 2.เกิดจากการที่ตับอ่อนผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้ไม่เพียงพอต่อการใช้ หรือเกิดภาวการณ์ดื้ออินซูลิน

เบาหวานประเภทที่ 3.เบาหวานขณะตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นโรคเบาหวานที่พัฒนาขึ้นระหว่างการตั้งครรภ์ จากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน โดยที่ผู้ป่วยไม่เคยเป็นโรคเบาหวานมาก่อน

สำหรับอาการของโรคเบาหวาน ได้แก่ รู้สึกหิวบ่อย กระหายน้ำ ปัสสาวะมีปริมาณมากและบ่อย เหนื่อย อ่อนเพลีย ผิวแห้ง เกิดอาการคันบริเวณผิวหนัง ตาแห้ง มีอาการชาที่เท้า หรือรู้สึกเจ็บแปลบ ๆ ที่ปลายเท้า หรือที่เท้า ร่างกายซูบผอมลงผิดปกติ โดยไม่ทราบสาเหตุ

หากมีอาการเหล่านี้ บวกกับพฤติกรรมในการทานอาหารที่ไม่ค่อยระวังเรื่องแป้งและน้ำตาล คุณอาจสันนิษฐานได้ว่ากำลังมีโอกาสเป็นโรคเบาหวานได้สูง เพราะฉะนั้นควรรีบพบแพทย์เพื่อการตรวจที่ละเอียด และรักษาต่อไป

การป้องกันโรคเบาหวาน สิ่งสำคัญของการป้องกันโรคเบาหวานทุกชนิด คือ ต้องคอยหมั่นระวังระดับน้ำตาลในเลือดและคอเลสเตอรอลให้อยู่เกณฑ์ปกติ เน้นการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และสารอาหารครบถ้วน มีกากใยสูง หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่ รวมถึงการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พบแพทย์ตามนัด เพื่อให้ท่านมีสุขภาพที่ดี และใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

คนไทยเป็นโรคเบาหวานกี่คน

ในประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคเบาหวาน 4.8 ล้านคน แต่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคเบาหวานเพียง 272 คน ส่งผลให้จ านวนผู้ป่วยต่อแพทย์มากเกินไป ท าให้ แพทย์มีเวลาในการให้ค าปรึกษาแก่ผู้ป่วยไม่ เพียงพอ ผลกระทบของการมีเวลาที่จ ากัด อาจท าให้ผลการ รักษาไม่บรรลุเป้าหมาย3 ซึ่งน าไปสู่การเกิดภาวะ แทรกซ้อนของโรคเบาหวาน14,15.

ทำไมคนไทยเป็นโรคเบาหวาน

ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้ความชุกของโรคเบาหวานเพิ่มขึ้นทุกปี โดยเฉพาะในเขตเมือง คือ ความอ้วนและน้ำหนักตัวเกิน โดยภาวะอ้วนของคนไทยมีอัตราเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย และผู้หญิงไทยมีภาวะอ้วนมากเป็นอันดับ 2 ในเอเชียรองจากมาเลเซีย โดยมีสาเหตุจากการกินอาหารไม่ถูกสุขภาวะ และขาดการออกกำลังกาย

สถานการณ์โรคไม่ติดต่อของไทยเป็นอย่างไร

สถานการณ์โรคไม่ติดต่อเรื้อรังเป็นสาเหตุของ การเสียชีวิตมากกว่าร้อยละ 70 ของการเสียชีวิต ทั้งหมด ทั้งนี้สถานการณ์โรคเบาหวานและความดัน โลหิตสูงมีแนวโน้มสูงขึ้น ประเทศไทยความชุกของ โรคเบาหวานในประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไปเท่ากับร้อย ละ 15.8 ในปี 2562 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 10.9 ในปี 2561 ส่วนความชุกของโรคความดันโลหิตสูงเท่ากับ ...

เบาหวานขึ้นตาเป็นยังไง

เบาหวานขึ้นตา (Diabetic Retinopathy) เป็นภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานที่อาจเป็นสาเหตุของการสูญเสียการมองเห็นหรือตาบอดได้ในที่สุด โดยเกิดจากการมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน ส่งผลให้หลอดเลือดที่จอตา (Retina) ได้รับความเสียหาย

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv แปลภาษาอาหรับ-ไทย lmyour แปลภาษา ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง แปลภาษาเวียดนามเป็นไทยทั้งประโยค Google Translate การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 4 หยน อาจารย์ ตจต เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf ห่อหมกฮวกไปฝากป้า คาราโอเกะ app แปลภาษาไทยเป็นเวียดนาม การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 3 บบบย ศัพท์ทหารบก แปลภาษาจีน การประปาส่วนภูมิภาค การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 1 ขุนแผนหลวงปู่ทิม มีกี่รุ่น ชขภใ ตม.เชียงใหม่ เซ็นทรัลเฟสติวัล พจนานุกรมศัพท์ทหาร รหัสจังหวัด อําเภอ ตําบล รหัสประจำจังหวัด 77 จังหวัด สอบโอเน็ต ม.3 จําเป็นไหม หนังสือราชการ ตัวอย่าง ห่อหมกฮวกไปฝากป้า คอร์ด อเวนเจอร์ส ทั้งหมด แปลภาษา มาเลเซีย ไทย ไทยแปลอังกฤษ ประโยค ่้แปลภาษา Egp G no Reconguista Google map ขุนแผนหลวงปู่ทิมรุ่นแรก ข้อสอบภาษาไทยพร้อมเฉลย ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง ค้นหา ประวัติ นามสกุล จองคิว ตม เชียงใหม่ ชื่อเต็ม ร.9 คําอ่าน ดีแม็กมือสองราคาไม่เกิน350000 ตัวอย่างรายงานการประชุมสั้นๆ