4086 CPALL บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)
12/10/2022 -14.45 % ไตรมาส ปี (หน่วยล้านบาท) CPALL แชร์
ไตรมาส ปี (หน่วยล้านบาท) CPALL แชร์ ไตรมาส ปี CPALL ล็อกอิน หรือ สมัครสมาชิก เพื่อดูข้อมูลหุ้นเชิงลึก ฟรี!54.75
ผลตอบแทน 1 ปี
สรุปการเติบโต 40 ไตรมาส
สรุปการเงิน 40 ไตรมาส
อัตราส่วนทางการเงิน
แชร์
สถิติสำคัญ
ไตรมาส
ปี
CPALL
ล็อกอิน หรือ สมัครสมาชิก
เพื่อดูข้อมูลหุ้นเชิงลึก ฟรี!
แชร์
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ CPALL
จำนวนหุ้น
%
แชร์
Disclaimer: เนื่องจากข้อมูลยังอยู่ในช่วงทดสอบ Beta ทางฟินโนมีนาไม่รับรองถึงความถูกต้องสมบูรณ์ของข้อมูลดังกล่าว
เศรษฐกิจ
กรมพัฒน์ พบบริษัทร้างในกทม.กว่าหมื่นราย จ่อถอดชื่อออก
13 ส.ค. 2564 เวลา 11:16 น.1.3k
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
เตรียมเล็งขีดชื่อนิติบุคคลกว่าหมื่นรายเป็นสถานะร้าง สาเหตุไม่ส่งงบ ไม่ชำระบัญชีติดต่อกัน 3 ปี เผย พบนิติบุคคลใน กทม.10,810 ราย หวั่นมิจฉาชีพใช้เป็นช่องว่างหลอกลวงประชาชน
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าอยู่ระหว่างการปรับปรุงฐานข้อมูลนิติบุคคลให้เป็นปัจจุบัน สร้างความน่าเชื่อถือความมั่นใจให้แก่ภาคธุรกิจที่เข้ามาตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคล รวมถึงป้องกันความเสียหายจากกลุ่มมิจฉาชีพต่างๆ ที่แอบอ้างความน่าเชื่อถือจากการจดทะเบียนนิติบุคคลไปหลอกลวงและแสวงหาประโยชน์โดยนิติบุคคลนั้นไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายจริง โดยเมื่อวันที่ 16 ก.ค. 2564 กรมฯ ได้ออกประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร เรื่อง จะขีดชื่อห้างหุ้นส่วนบริษัทออกจากทะเบียนจำนวน 10,810 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นนิติบุคคลที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร สำหรับนิติบุคคลที่ตั้งอยู่ในต่างจังหวัด กรมฯ ได้ประสานสำนักงานพาณิชย์จังหวัดให้ดำเนินการตรวจสอบเช่นกันเพื่อจะได้มีแนวทางปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน
นายทศพล กล่าวว่า สำหรับนิติบุคคลที่จะถูกขีดชื่อในครั้งนี้ กรมฯ ได้พิจารณาจากมูลเหตุหรือข้อสันนิษฐานใน 2 กรณี คือ 1. กรณีไม่ส่งงบการเงินติดต่อกัน 3 ปี นับตั้งแต่ปี 2560-2562 ซึ่งเป็นเหตุให้เชื่อว่าไม่ได้ทำการค้าขายหรือดำเนินธุรกิจแล้ว พบว่ามีจำนวน 5,795 ราย 2. กรณีจดทะเบียนเลิกแล้วแต่ไม่มีตัวผู้ชำระบัญชีทำการอยู่หรือไม่ได้จัดทำรายงานการชำระบัญชี หรือไม่ได้ยื่นจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีต่อนายทะเบียนภายในระยะเวลา 3 ปี นับแต่เลิกห้างหุ้นส่วนบริษัท พบว่ามีจำนวน 5,015 ราย”
หากพ้นกำหนดเวลา 90 วันนับแต่วันที่ออกประกาศ นิติบุคคลดังกล่าวจะถูกขีดชื่อออกจากทะเบียนและสิ้นสภาพนิติบุคคล เว้นแต่จะแสดงเหตุให้เห็นเป็นอย่างอื่น อย่างไรก็ดี แม้นิติบุคคลจะมีสถานะร้างและสิ้นสภาพการเป็นนิติบุคคลไปแล้ว แต่ความรับผิดชอบยังคงไม่ได้สิ้นสภาพตามไปด้วย และอาจคืนสู่ทะเบียนได้โดยการร้องขอต่อศาลภายใน 10 ปี นับแต่วันที่นายทะเบียนขีดชื่อออกจากทะเบียน สำหรับประชาชนที่ต้องการ จะตรวจสอบรายชื่อนิติบุคคลที่เข้าข่ายจะถูกขีดชื่อสามารถดูข้อมูลได้ที่เว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th หัวข้อ คู่มือทำธุรกิจ เลือกจดทะเบียนธุรกิจ และประกาศถอนทะเบียนร้างและคืนสู่ทะเบียน
ทั้งนี้การปรับปรุงฐานข้อมูลสถานะของนิติบุคคลถือเป็นภารกิจสำคัญที่กรมฯ ได้ดำเนินการต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือของข้อมูลนิติบุคคลอันจะส่งผลต่อการวิเคราะห์การเจริญเติบโตในภาคธุรกิจและตัดโอกาสการถูกหลอกลวงของประชาชน ดังนั้น ขอฝากไปยังนิติบุคคลจะต้องดำเนินธุรกิจให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งการจัดทำงบการเงินประจำปีและยื่นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าถือเป็นหน้าที่สำคัญของนิติบุคคล รวมไปถึง กรณีที่ธุรกิจมีความจำเป็นจะต้องยุติลง แต่ก็ยังคงมีหน้าที่ในการจดทะเบียนเลิกและชำระบัญชีให้ เสร็จสิ้นเช่นกัน สุดท้ายนี้ การศึกษาคู่ค้าหรือการเลือกลงทุนกับธุรกิจใดจำเป็นจะต้องตรวจสอบข้อมูลหรือสถานะให้ดีเพื่อป้องกันความผิดพลาด โดยประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคลด้วยตนเองตลอด 24 ชั่วโมง ได้ที่เว็บไซต์กรมฯ www.dbd.go.th เลือกหัวข้อ บริการออนไลน์ และ DBD Datawarehouse+ หรือ แอพพลิเคชั่น DBD Service โดยไม่มีค่ามีค่าใช้จ่าย
ผู้ประกอบการที่เพิ่งจดทะเบียนบริษัทใหม่ต้องทราบเอาไว้ว่าเมื่อคุณเปิดเป็นบริษัทแล้ว หน้าที่ที่สำคัญอย่างหนึ่งที่คุณจะต้องทำนั่นคือการยื่นงบการเงินเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย ในบทความนี้ผมจะอธิบายถึงเรื่องที่เกี่ยวกับงบการเงินที่ผู้ประกอบการใหม่ควรทราบ ต้องการจดทะเบียนบริษัทด้วยตนเอง ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ ดูรายละเอียดได้ที่ : จดทะเบียนบริษัทออนไลน์ ท่านใดต้องการบริการรับทำบัญชี ทางเรามีโปรแกรมบัญชีออนไลน์ให้ใช้ฟรี สามารถออกเอกสารหน้าตาสวยงามผ่านโปรแกรมได้ ดูรายละเอียดที่นี่ : รับทำบัญชี ดูคำอธิบายบทความในรูปแบบ VDO ที่ :
ประวัติผู้เขียน / ผู้สอน
- ปริญญาตรีบัญชี ธรรมศาสตร์
- ปริญญาโทเศรษฐศาสตร์การเงิน NIDA
- ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต (CPA)
- ประกาศนียบัตรการรายงานทางการเงินไทย (DipTFR)
- Audit Manager ที่ EY (ประสบการณ์ 8 ปี ใน Big4)
- ดูใบประกาศทางวิชาชีพ
- ดูรีวิวจากลูกค้า
- About me
สารบัญ
- การยื่นงบการเงินประจำปี
- หากไม่ได้ยื่นงบการเงินจะเกิดผลอย่างไรบ้าง
- ผู้ทำบัญชีและผู้สอบบัญชีคือใคร
- ขั้นตอนในการยื่นงบการเงินสำหรับผู้ประกอบการ
- สรุป
การยื่นงบการเงินประจำปี
งบการเงิน คือรายงานทางการเงิน ที่ทำให้ผู้ใช้งบการเงินทราบถึงฐานะทางการเงิน ผลการดำเนินงาน และกระแสะเงินสดของกิจการ ประโยชน์ของงบการเงินมีหลายประการ เช่น ช่วยให้ข้อมูลแก่ผู้บริหารเพื่อนำไปใช้ในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ หรือ ช่วยให้ข้อมูลแก่นักลงทุนเพื่อนำไปใช้ในการตัดสินใจลงทุนในกิจการที่สนใจ เป็นต้น
เมื่อคุณจดทะเบียนเป็นบริษัทแล้ว คุณต้องยื่นงบการเงินเป็นประจำทุกปี หากคุณจดทะเบียนในรูปแบบออนไลน์ DBD e-Registration คุณต้องปิดงบการเงินตามวันที่ที่คุณเลือกเอาไว้ตอนจดทะเบียน เช่น หากคุณเลือกรอบบัญชีเป็นวันที่ 31 ธันวาคม เมื่อถึงวันที่ 31 ธันวาคม ของทุกปีทางคุณต้องนำส่งงบการเงินเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย
บริษัทต้องยื่นงบการเงิน 2 ที่ได้แก่ 1.กรมพัฒนาธุรกิจการค้า 2.กรมสรรพากร
ในการยื่นงบการเงินที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ตามกฎหมายกำหนดให้บริษัทจะต้องประชุมอนุมัติงบการเงินภายใน 4 เดือน นับจากวันที่ปิดงบการเงิน และบริษัทจะต้องนำส่งงบการเงินภายในเดือน 1 นับจากวันที่ประชุมอนุมัติงบการเงิน
ในการยื่นงบการเงินที่กรมสรรพากร ตามกฎหมายกำหนดให้บริษัทต้องนำส่ง ภงด.50 และยื่นงบการเงินภายใน 150 วันนับจากวันที่สิ้นรอบบัญชี
หากไม่ได้ยื่นงบการเงินจะเกิดผลอย่างไรบ้าง
ความผิดในการไม่นำส่งงบการเงินเป็นความผิดทางอาญาประการหนึ่งในขั้นแรกทางคุณจะได้รับจดหมายจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้ไปนำส่งงบการเงินให้ถูกต้อง แต่หากยังไม่ได้ดำเนินการให้ถูกต้องถัดมาทางคุณจะได้รับหมายเรียกจากตำรวจให้เข้าพบเพื่อไปดำเนินการเสียค่าปรับ และดำเนินการยื่นงบการเงินในภายหลังให้ถูกต้อง
สำหรับค่าปรับในการส่งงบการเงินล่าช้า นั้นมี 2 กรณีคือ
- บริษัทที่ประชุมอนุมัติงบการเงินไม่ทันภายใน 4 เดือน บริษัทจะเสียค่าปรับ 6,000 บาท และกรรมการผู้มีอำนาจผูกพันบริษัทอีกคนละ 6,000 บาท
- บริษัทที่ประชุมอนุมัติงบทันภายใน 4 เดือน แต่ไม่ได้ยื่นงบการเงินภายใน 1 เดือนให้แก่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จะเสียค่าปรับเป็นกรณีดังนี้
ค่าปรับกรณียื่นงบล่าช้าไม่เกิน 2 เดือน : ผู้มีหน้าที่ทำบัญชี 1,000 บาท / กรรมการผู้จัดการผู้รับผิดชอบในการดำเนินการ 1,000 บาท
ค่าปรับกรณียื่นงบล่าช้าเกิน 2 เดือนแต่ไม่เกิน 4 เดือน : ผู้มีหน้าที่ทำบัญชี 4,000 บาท / กรรมการผู้จัดการผู้รับผิดชอบในการดำเนินการ 4,000 บาท
ค่าปรับกรณียื่นงบล่าช้าเกินกว่า 4 เดือนขึ้นไป : ผู้มีหน้าที่ทำบัญชี 6,000 บาท / กรรมการผู้จัดการผู้รับผิดชอบในการดำเนินการ 6,000 บาท
สำหรับท่านใดที่โดนหมายเรียกตำรวจก็อย่าเพิ่งตกใจไปในครับ ข้อแนะนำของผมคือให้ทางคุณรีบหาผู้ทำบัญชี เพื่อจัดทำและยื่นงบการเงินให้เร็วที่สุด หากมีค่าปรับที่ต้องเสียให้คุณเสียค่าปรับที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และให้เอาใบเสร็จค่าปรับที่คุณได้ชำระแล้วไปแสดงต่อตำรวจว่าทางคุณได้ดำเนินการชำระค่าปรับในการยื่นงบการเงินล่าช้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ผู้ทำบัญชีและผู้สอบบัญชีคือใคร
ในการยื่นงบการเงินจะมี 2 คนที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องกับบริษัท นั่นคือผู้ทำบัญชี และผู้สอบบัญชี
ผู้ทำบัญชีจะเป็นคนที่รวบรวมเอกสารของบริษัทในแต่ละเดือนมาบันทึกบัญชี เมื่อบันทึกบัญชีเสร็จ ตอนสิ้นปีผู้ทำบัญชีก็จะส่งข้อมูลที่ได้บันทึกเอาไว้ส่งให้แก่ผู้สอบบัญชี พร้อมเอกสารประกอบการบันทึกบัญชี
ผู้สอบบัญชีเมื่อได้รับข้อมูลต่างๆจากผู้ทำบัญชีแล้วก็จะทำการตรวจสอบว่าข้อมูลที่ผู้ทำบัญชีบันทึกนั้นถูกต้องตรงกับเอกสารหรือไม่ ถ้ามีส่วนที่ไม่ถูกต้องผู้สอบบัญชีก็จะทำการปรับปรุงรายการจนกว่างบการเงินจะถูกต้องในส่วนที่เป็นสาระสำคัญ เมื่อข้อมูลการบันทึกบัญชีต่างๆนั้นถูกต้องตรงตามเอกสารแล้วผู้สอบบัญชีก็จะจัดทำงบการเงิน และลงลายมือชื่อลงไปในงบการเงิน และส่งงบการเงินที่ลงลายมือชื่อแล้วกลับไปให้ผู้ทำบัญชี
เมื่อผู้ทำบัญชีได้รับงบการเงินที่ลงลายมือชื่อแล้ว ผู้ทำบัญชีก็จะยื่นงบการเงินดังกล่าวให้แก่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมสรรพากร ให้ทันตามที่กฎหมายกำหนด
ขั้นตอนในการยื่นงบการเงินสำหรับผู้ประกอบการ
ในส่วนนี้หากคุณเป็นผู้ประกอบการก็ไม่ต้องกังวลใจไปนะครับ เนื่องจากการยื่นงบการเงินทางเทคนิค จะมีผู้ทำบัญชีที่จะคอยดำเนินการให้อยู่แล้ว แต่สิ่งที่ผู้ประกอบการควรทราบนั้นมีดังนี้
- เมื่อคุณจดทะเบียนบริษัทเสร็จสิ้น ทางคุณจะได้รับ Username Password ในการนำส่งงบการเงน E-Filing ทาง Email ให้ทางคุณเก็บ Username Password ดังกล่าวไว้ และแจ้งข้อมูล Username Password ดังกล่าวให้แก่ผู้ทำบัญชี เพราะผู้ทำบัญชีจะต้องนำไปใช้ในการยื่นงบการเงินประจำปี
- บริษัทต้องจัดให้มีการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีเพื่ออนุมัติงบการเงินให้ทันภายใน 4 เดือนนับจากวันที่สิ้นรอบบัญชี
- ก่อนจัดประชุมบริษัทต้องประกาศข้อความหนังสือเชิญประชุมลงในหนังสือพิมพ์ท้องที่อย่างน้อย 1 ฉบับ และต้องส่งหนังสือเชิญประชุมผู้ถือหุ้นทางไปรษณีย์ตอบรับถึงผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 7 วัน ก่อนวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้น
- หลังจากประชุมอนุมัติงบการเงินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว บริษัทต้องดำเนินการนำส่งงบการเงินให้แก่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าภายใน 1 เดือนนับจากวันที่ประชุม และต้องนำส่ง ภงด.50 และยื่นงบการเงินภายใน 150 วันนับจากวันที่สิ้นรอบบัญชี
สรุป
หากคุณจดทะเบียนเป็นบริษัทแล้ว การยื่นงบการเงินเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่มีความสำคัญมาก จากประสบการณ์ของผม มีผู้ประกอบการหลายคนที่เปิดบริษัทขึ้นมาแล้วไม่ได้ทำอะไรต่อ โดยทิ้งร้างบริษัทไปเฉยๆไม่ได้จัดทำและนำส่งงบการเงินให้ถูกต้องตามกฎหมาย ผลสุดท้ายก็จะได้รับหมายเรียกจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและหมายเรียกจากตำรวจ ซึ่งจะต้องดำเนินการเสียค่าปรับมากมายในการนำส่งงบการเงินล่าช้า นอกจากนี้ถ้าไม่ได้นำส่งงบการเงินมาหลายๆปีและมาจัดทำงบการเงินทีเดียวก็จะมีภาระค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมากอีกด้วย ดังนั้นผมแนะนำทุกท่านให้ใส่ใจในเรื่องการยื่นงบการเงินและทำให้ถูกต้องตามกฎหมายจะได้ไม่มีปัญหาต่างๆตามมาครับ
สงสัยตรงไหนสามารถสอบถามมาได้นะครับ
ช่วยกันแชร์บทความให้หน่อยครับ