Checkout branches with pull requests and view CI statuses
See all open pull requests for your repositories and check them out as if they were a local branch, even if they're from upstream branches or forks. See which pull requests pass commit status checks, too!
อัปเดต 25/01/2017 เพิ่ม วิธีย้ายรูปจาก iPhone iPad ลงคอมอย่างง่าย ด้วย SHAREiT รองรับ Windows และ macOS สามารถตามอ่านกันได้เลย
หลายท่านเก็บภาพถ่ายไว้ที่ iPhone เยอะมากแล้วคราวนี้เนื้อที่มันก็เต็มจะโหลดแอปหรือว่าทำอะไรต่อก็ไม่ได้ ฉะนั้นแนะนำง่ายๆ ให้ทำการก๊อบลงไปเก็บที่คอมพิวเตอร์ซะแล้วก็ลบออกจาก iPhone อีกที วิธีการก็ทำได้ดังนี้
สิ่งที่ต้องมี
- ติดตั้ง iTunes ลงคอมฯ ดาวน์โหลดได้ที่ www.itunes.com
- สาย USB สำหรับเชื่อมต่อ
- พื้นที่ในฮาร์ดดิสของคอมพิวเตอร์ให้เพียงพอแต่การเก็บภาพ
วิธีการ
1. ดาวน์โหลดแล้วติดตั้ง iTunes เพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถมองเห็น iPhone ที่เชื่อมต่อเข้าไปในคอมได้ ถ้าไม่ลง iTunes คอมจะไม่รู้จัก iPhone ที่เสียบเข้าไป
2. หลังติดตั้ง iTunes เสร็จให้เสียบ iPhone เข้าไปที่คอมผ่านพอร์ต USB ทั่วไป จากนั้นรอให้ระบบค้นหาและติดตั้งไดร์เวอร์เสียก่อน ครั้งแรกอาจจะนานหน่อย
3. หลังคอมเจอ iPhone แล้วให้เปิด My Computer ขึ้นมาหรือจะกด Windows+E ก็ได้ จากนั้นเลือกไปที่ iPhone
4. ดับเบิ้ลคลิกเข้าไปที่ Internal Storage แล้วจะเห็นโฟนเดอร์ DCIM ก็ทำการคัดลอกทั้งโฟลเดอร์ออกมาวางที่คอมได้เลย
ใน DCIM จะมีโฟลเดอร์ย่อยอยู่เราก็ค่อยตามเข้าไปดูว่ารูปนั้นจะรูปที่ไหนบ้างก็ค่อยๆ จัดการกันอีกที
ข้อควรจำ รูปที่อยู่ใน DCIM นั้นจะเป็นรูปที่อยู่ใน Camera Roll เท่านั้น ส่วนรูปจาก iCloud Photos จะไม่มาด้วยนะครับ ส่วนรูปที่อยู่ใน LINE จะต้องเซฟลงที่ Camera Roll ก่อน ถ้าไม่งั้นก็ไม่ออกมาเช่นกัน
อันนี้เป็นพื้นฐานสุดๆ สำหรับมือใหม่นะเพราะมันยังมีที่ซับซ้อนกว่านี้หน่อยก็เดี๋ยวจะเอามาเขียนให้ดูเป็นอีกทางเลือกนะครับ
อัปเดตวิธีที่ 2 ใช้งานโปรแกรม i-Funbox
- สิ่งที่ต้องมีคือ iTunes ติดตั้งลง Windows หรือ Mac (ต้องลงไม่งั้นจะมองไม่เห็น iPhone)
- โปรแกรม iFunbox ดาวน์โหลดได้ที่ iFunbox.com
- เชื่อมต่อ iPhone เข้าไปจากนั้น iFunbox จะมองเห็นเครื่อง iPhone
- เลือกไปที่เมนู Camera (หากมีหลาย Camera ก็เพราะรูปเยอะ) ทำการเลือกรูปทั้งหมดแล้วกด Copy to Mac หรือ Copy to PC ตามต้องการ
ลองชมคลิปตัวอย่างครับ
ทำได้ไม่ได้แจ้งด้วยนะครับ
ศิษย์เก่าวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ม. ขอนแก่น ผู้ก่อตั้ง iPhoneMod.net ตั้งแต่ปี 2009
อดีต Dell Technical Support รู้จัก Apple เพราะ Macbook Pro และใช้ iPhone ตั้งแต่รุ่น 3G จนถึงปัจจุบัน
เมื่อ Microsoft เปิดตัว Windows 11 แล้วบอกว่า ใครที่ใช้วินโดว์ตั้งแต่ Windows 7 ขึ้นไปสามารถอัปเกรดได้ฟรี หลายคนก็ดีใจยกใหญ่เลย ทีนี้ มาเช็คกันดีกว่าว่า เครื่องเราสามารถรองรับการใช้งาน Windows 11 หรือไม่
1.โหลดโปรแกรมชื่อ PC Health Check มาติดตั้งก่อนครับ
2.เมื่อดาวน์โหลดมาแล้ว ให้ทำการติดตั้งครับ
3.เมื่อติดตั้งเสร็จ หน้าตาโปรแกรมจะขึ้นมาตามภาพด้านล่าง ให้เรากด Check now เพื่อดูว่าคอมพิวเตอร์เราสามารถรัย Windows 11 ได้ไหม
4.จากนั้นแอปจะบอกว่าเครื่องรองรบ Windows 11 หรือไม่ หากใครรองรับก็โชคดีไปครับ
สำหรับคนที่โปรแกรมบอกว่า ไม่สามารถรัน Windows 11 ได้ แม้สเปคเครื่องจะรองรับ ผมลองหาวิธีแก้ไขจากเว็บต่างประเทศมาให้ ลองดูตามวิธีนี้ครับ
สำหรับพีซีบางเครื่อง ต้นตอของปัญหากับ PC Health Check คือมี Secure Boot และ TPM ที่ปิดใช้งานใน UEFI ซึ่งเป็นระบบพื้นฐานที่ช่วยให้ระบบปฏิบัติการของเราทำงานกับฮาร์ดแวร์ของพีซีได้ แต่คอมพิวเตอร์บางเครื่องจะปิดส่วนนี้ไว้ครับ เราต้องไปเปิด
- กด Reset ที่คอมพิวเตอร์ แล้วกด F2 เพื่อเข้าหน้า UFFI หรือหลายคนมักเรียกว่า BIOS (เครื่องอื่นอาจเป็นปุ่มอื่นนะครับ แต่นแนะนำว่า กดปุ่มใดก็ได้เพื่อเข้ามาหน้า BIOS ให้ได้ก่อน (ฮ่า ๆ )
- จากนั้นไปที่ หัวข้อ Security หัวข้อ TPM เลือก Enabled
3.จากนั้นไปที่ Boot ที่หัวขอ Secure Boot เลือก Enabled ครับ จากนั้นลองเทส PC Health Check อีกทีครับ
อ่าน How to อื่น ๆ