เครื่องซักผ้า และเครื่องซักอบผ้า เป็นหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่มีความจำเป็น ช่วยดูแลเสื้อผ้าให้สะอาด หอมสดชื่น ทั้งยังประหยัดพลังงานและเวลา ซึ่งการเลือกซื้อเครื่อง เครื่องซักผ้า หรือ เครื่องซักอบผ้านั้นมี 3 ปัจจัยหลักที่ควรคำนึงถึง
ขนาดเครื่องซักผ้าและความจุ
สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องนำมาพิจารณาเพื่อเลือกซื้อเครื่องซักผ้า และเครื่องซักอบผ้าคือความจุของเครื่อง
ความจุ 4-6 กก. เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็ก ประมาณ 1-2 คน หรือประมาณเสื้อผ้า 5 ชุดต่อการซักในแต่ละครั้ง
สำหรับบ้านที่มีจำนวนสมาชิก 3-4 คน ควรเลือกซื้อเครื่องซักผ้าขนาด 7-8 กก. หรือประมาณเสื้อผ้า 7 ชุดต่อการซักในแต่ละครั้ง
เครื่องซักผ้าและเครื่องซักอบผ้าขนาด 9 กก. ขึ้นไป เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีจำนวนสมาชิกมาก หรือประมาณเสื้อผ้า 8 ชุดต่อการซักในแต่ละครั้ง
ชนิดของเครื่องซักผ้า
เครื่องซักผ้านั้นมีชนิดที่ต่างกัน :
เครื่องซักผ้าฝาหน้า : เครื่องซักผ้าชนิดนี้จะมีฝาของเครื่องสำหรับนำเสื้อผ้าใส่เข้าที่ด้านหน้าของเครื่อง สามารถซักผ้าชิ้นใหญ่ได้สะดวก
เครื่องซักผ้าฝาบน : มักจะมีราคาที่ประหยัดกว่าเครื่องซักผ้าฝาหน้า แต่มักจะทำลายเนื้อผ้าหากใส่เสื้อผ้ามากเกินไป
เครื่องซักอบผ้า : เป็นการรวมเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าเข้าในเครื่องเดียว จึงประหยัดเนื้อที่และค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่องซักผ้า
ฟังก์ชั่นอื่นๆ
ประหยัดน้ำและพลังงาน : เครื่องซักผ้าและเครื่องซักอบผ้ารุ่นใหม่ ช่วยคุณประหยัดน้ำและพลังงานได้มาก
ดูแลเสื้อผ้าอย่างนุ่มนวล : เครื่องซักผ้าและเครื่องซักอบผ้ารุ่นใหม่ มีโปรแกรมการซักพิเศษที่สามารถช่วยดูแลเสื้อผ้าบอบบางหรือผ้าขนสัตว์เป็นพิเศษ
อ่านเพิ่มเติม : วิธีการใช้เครื่องซักผ้า
เลือกซื้อเครื่องซักผ้าอีเลคโทรลักซ์ที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ
เครื่องซักผ้าอีเลคโทรลักซ์ ช่วยให้คุณดูแลเสื้อผ้าได้อย่างสะอาดและทะนุถนอม อาทิ ฟังก์ชั่น HygienicCare ช่วยขจัดสารก่อภูมิแพ้และเชื้อโรค, มอเตอร์ EcoInverter ที่ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ เครื่องซักผ้า หรือ เครื่องซักอบผ้าอีเลคโทรลักซ์ ช่วยคุณประหยัดค่าใช่จ่ายและให้การดูแลเสื้อผ้าเป็นเรื่องง่าย
ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องซักผ้าอีเลคโทรลักซ์
พฤติกรรมในการซักผ้าและวิธีการใช้เครื่องซักผ้าของคุณนั้นส่งผลต่อการดูแลเสื้อผ้า การประหยัดน้ำและไฟฟ้า วันนี้เรามาเรียนรู้กันว่าเครื่องซักผ้ามีวิธีการใช้งานอย่างไรที่จะช่วยให้ได้คุณประโยชน์สูงสุด
ก่อนอื่นเรามาเตรียมความพร้อมกันหรือท่านใดอยากเลือกซื้อเครื่องซักผ้าอีเลคโทรลักซ์ที่มีฟังก์ชั่นการทำงานต่างๆ ที่ช่วยให้การดูแลเสื้อผ้าง่ายยิ่งขึ้นแถมยังซักได้สะอาดถนอมผ้าก็เข้าลิงค์นี้ได้เลยเครื่องซักผ้าอีเลคโทรลักซ์มาลองดูกันว่าเครื่องซักผ้าใช้ยังไงให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
- ตรวจสอบป้ายการดูแลเสื้อผ้าที่ติดอยู่
- แยกผ้าตามประเภท
- ตั้งโปรแกรมการซักให้เหมาะสม
- เติมสารซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่ม
ขั้นตอนที่ 1 : ตรวจสอบป้ายการดูแลเสื้อผ้าที่ติดอยู่
เสื้อผ้าเกือบทั้งหมดจะสามารถซักด้วยเครื่องซักผ้าได้ แต่ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีฉลากการดูแลพิเศษ อย่างพวกผ้าขนสัตว์หรือผ้าที่บอบบางหรือไม่ เสื้อบางตัวต้องซักแห้งหรือซักมือเท่านั้น เสื้อบางตัวไม่ควรซักในน้ำร้อนหรือด้วยสารฟอกขาว ซึ่งเครื่องซักผ้ารุ่นใหม่นั้นจะมีโปรแกรมที่ออกแบบสำหรับการดูแลเนื้อผ้าที่หลากหลาย การตรวจสอบฉลากที่เสื้อผ้านั้นจะช่วยให้คุณแยกผ้าเพื่อตั้งโปรแกรมรอบการซักที่เหมาะสมกับผ้าได้
ขั้นตอนที่ 2 : แยกเสื้อผ้าตามประเภท
เสื้อผ้าควรแยกประเภทในการซัก ชนิดของเสื้อผ้าแต่ละชนิดต้องการการดูแลที่แตกต่างกัน จึงไม่ควรที่จะรวมเสื้อผ้าทั้งหมดในการซักครั้งเดียว เพราะการแยกเสื้อผ้าซักจะช่วยดูแลเสื้อผ้าของคุณให้ไม่เสียทรง สีสันสดใสและดูเหมือนใหม่ได้ยาวนาน สามารถแยกซักผ้าแต่ละประเภทในแต่ละวันโดยแยกตามตะกร้าที่แตกต่างกันไว้
แยกเสื้อผ้าตามสี
แยกเสื้อผ้าสีเข้มและสีอ่อน หรือหากต้องการดูแลเสื้อผ้าให้ดีที่สุด ควรแยกผ้าขาว ผ้ายีนส์ เพื่อซักแยกจากกัน ป้องกันสีตกใส่เสื้อผ้าตัวอื่น เสื้อผ้าชิ้นใหม่ให้กลับด้านในออกด้านนอกเพราะมีโอกาสที่สีจะตกจากการซักครั้งแรกได้มาก
แยกเสื้อผ้าตามชนิดของเนื้อผ้า
ไม่ควรนำเสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าต่างชนิดกัน ซัก ปั่น และอบแห้งในรอบการซักเดียวกัน ควรแยกชนิดและน้ำหนักของผ้าออกจากกัน
และไม่ควรรวมผ้าที่มีน้ำหนักมากเช่น ผ้าเช็ดตัวและผ้าห่มในรอบการซักเดียวกับชุดชั้นใน หรือเสื้อผ้าชิ้นบอบบาง ผ้าที่มีเส้นใยที่หลุดร่วงได้เช่น ผ้าไมโครไฟเบอร์หรือลูกฟูกควรแยกการซักออกเพื่อป้องกันขุยผ้าติดเสื้อผ้าชิ้นอื่น
นำเสื้อผ้าชิ้นบอบบางและชิ้นเล็กไว้ในถุงซักถนอมเนื้อผ้า
ขั้นตอนที่ 3 : ตั้งโปรแกรมการซักให้เหมาะสม
โปรแกรมการซักคือสิ่งที่ควบคุมว่าเสื้อผ้าของคุณจะได้รับการซักและปั่นแห้งด้วยวิธีการไหน ใช้พลังงานและใช้น้ำมากน้อยเพียงใด จึงควรเลือกซื้อเครื่องซักผ้าที่มีโปรแกรมการซักที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ เพื่อให้ไม่ต้องเดาในทุกครั้งที่กดปุ่มเลือกโปรแกรมการซัก
ตั้งค่าอุณหภูมิให้เหมาะสม
อุณหภูมิของน้ำส่งผลโดยตรงกับอายุการใช้งานของเสื้อผ้า น้ำร้อนกำจัดเชื้อแบคทีเรียได้ดี แต่สิ้นเปลืองพลังงาน ทำให้สีซีดจาง มีรอยคราบ และทำให้เสื้อผ้าหดตัว จึงเหมาะสำหรับการซักผ้าเช็ดตัวหรือผ้าสำหรับเช็ดทำความสะอาด ส่วนน้ำเย็นเหมาะสำหรับการซักเสื้อผ้าทั่วไปเพราะถนอมเนื้อผ้าได้ดีกว่า และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
แต่หลายคนอาจจะกังวลว่าน้ำเย็นอาจจะทำให้ซักผ้าได้ไม่สะอาดเต็มที่ ซึ่งจากผลการทดสอบนั้นพบว่าเพียงลบอุณหภูมิของน้ำจาก 40 เป็น 30 องศานั้น จะช่วยลดคาร์บอนได้ถึง 25 กก.
ต่อบ้าน/ต่อปี จึงควรเลือกใช้เครื่องซักผ้าที่คุณมั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพในการซักแม้ซักด้วยน้ำเย็นก็ตาม
เลือกโปรแกรมซัก
การเลือกโปรแกรมการซักผ้าที่ไม่เหมาะสมกับผ้าที่ซักอาจทำความเสียหายให้กับเสื้อผ้าได้ จึงควรตรวจสอบฉลากคำแนะนำการดูแลเสื้อผ้าที่ติดอยู่ เพื่อให้ซักผ้าได้อย่างสะอาดพร้อมถนอมเนื้อผ้า โปรแกรมการซักนั้นออกแบบมาสำหรับเสื้อผ้าที่แตกต่างกันแต่ละชนิด จึงควรเลือกโปรแกรมที่เหมาะสมในการซัก และแยกว่าเสื้อผ้าในการซักครั้งนั้นของคุณส่วนมากเป็นผ้าขาว ผ้าสี หรือผ้าชิ้นบอบบาง
ในแต่ละรอบการซักของเครื่องซักผ้าจะประกอบด้วยความเร็ว
2 ชนิด คือ ความเร็วในการซักและรอบความเร็วในการปั่นหมาด
ซึ่งโปรแกรมการซักในแต่ละโปรแกรมจะมีรอบความเร็วที่แตกต่างกัน แต่มีหลักการง่ายๆ ที่เหมือนกันคือ รอบปั่นที่เร็วกว่าจะมีพลังในการทำความสะอาดมากกว่า และรอบปั่นที่ช้ากว่าจะถนอมเนื้อผ้ามากกว่า
โดยในแต่ละโปรแกรมการซักของเครื่องซักผ้าแต่ละแบรนด์นั้นมีความแตกต่างกัน ซึ่งโดยพื้นฐานจะมีโปรแกรม อาทิ การซักปกติหรือผ้าฝ้าย, โปรแกรมการซักเพื่อเตรียมรีด และโปรแกรมสำหรับผ้าชิ้นบอบบาง ซึ่งข้อมูลต่อไปนี้จะแนะนำฟังก์ชั่นต่างๆ ของ เครื่องซักผ้าอีเลคโทรลักซ์ :
รอบการซัก | ชนิดของเสื้อผ้า |
ผ้าฝ้าย | ผ้าฝ้ายสีขาว และสี |
ผสม | ผ้าใยสังเคราะห์ รวมกับเนื้อผ้าอื่นๆ |
FullWash 60 | ผ้าฝ้ายสี เช่น เสื้อเชิร์ต กระโปรง ผ้าเช็ดตัว ชุดชั้นใน และผ้าที่มีคราบเปื้อนปานกลาง |
ผ้าขนสัตว์ / ซักด้วยมือ | โปรแกรมที่ได้รับการทดสอบแล้วว่าสามารถซักผ้าขนสัตว์ที่บอบบางได้ สำหรับซักเสื้อผ้าที่ฉลากระบุว่าซักด้วยโปรแกรมผ้าขนสัตว์หรือซักด้วยมือ |
ผ้าบอบบาง | โปรแกรมสำหรับซักผ้าชิ้นบอบบาง เช่น ผ้าใยสังเคราะห์ชนิดต่างๆ |
เครื่องซักผ้ารุ่นใหม่ๆ ในท้องตลาดมีโปรแกรมและฟังก์ชั่นที่ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลาย เครื่องซักผ้าอีเลคโทรลักซ์มีโปรแกรมที่เหมาะสมกับแต่ละการใช้งาน เช่น ซักด่วน Quick Cycles, Woolmark สำหรับซักผ้าที่ต้องซักด้วยมือ หรือผ้าขนสัตว์ และ HygienicCare ที่ขจัดเชื้อโรคได้ถึง 99.9%
อ่านเพิ่มเติม :
- ข้อควรรู้เกี่ยวกับเครื่องซักผ้าฝาหน้า
- คำแนะนำการเลือกซื้อเครื่องซักผ้า
ขั้นตอนที่ 4: เติมสารซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่ม
การเลือกสารซักผ้าที่เหมาะสมกับชนิดของเสื้อผ้าจะช่วยให้ทำความสะอาดและดูแลเสื้อผ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ประเภท HE ซึ่งเป็นสูตรประสิทธิภาพสูง ฟองน้อย และใช้น้ำน้อยกว่า ซึ่งเครื่องซักผ้าบางรุ่นระบุว่าต้องใช้สารซักผ้าชนิดนี้โดยเฉพาะ
ควรศึกษาข้อมูลการเติมสารซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม หรือสารทำความสะอาดอื่นจากคู่มือการใช้งานเครื่องซักผ้าของคุณ ทั้งนี้ควรตรวจสอบปริมาณการใช้งานที่เหมาะสมจากข้อมูลบนบรรจุภัณฑ์ด้วย
สำหรับเครื่องซักผ้าฝาหน้า
โดยปกติแล้วเครื่องซักผ้าฝาหน้าจะมีช่องจ่ายสารซักผ้าและน้ำยาต่างๆ ที่คุณสามารถเติมสารซักผ้าทั้งชนิดผง ชนิดน้ำ น้ำยาปรับผ้านุ่ม สารฟอกขาว หรือขจัดคราบฝังแน่นลงในช่องนี้ ไม่ควรเติมจนเกินเส้นปริมาณมากสุด เครื่องซักผ้าบางรุ่นจะมีช่องสำหรับใส่เจลบอลโดยเฉพาะ แต่หากไม่มีก็สามารถนำเจลบอลใส่ในถังซักก่อนนำเสื้อผ้าใส่เข้าไป
>>> อ่านเพิ่มเติม : สารซักผ้าที่เหมาะกับเครื่องซักผ้าฝาหน้า
เครื่องซักผ้าอีเลคโทรลักซ์ในบางรุ่นมีเทคโนโลยี AutoDose
ที่จะควบคุมปริมาณสารซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่มให้เหมาะกับปริมาณเสื้อผ้าอย่างแม่นยำโดยอัตโนมัติ เพื่อป้องกันการทำลายเนื้อผ้า
ดูข้อมูลเกี่ยวกับการใช้เครื่องซักผ้าฝาหน้า
สำหรับเครื่องซักผ้าฝาบน
หากเครื่องซักผ้าฝาบนของคุณมีช่องจ่ายสารซักผ้า ให้เติมสารซักผ้าทั้งแบบผงหรือแบบน้ำ
และน้ำยาปรับผ้านุ่มลงในช่องจ่าย บางรุ่นจะมีช่องสำหรับใส่สารฟอกขาวโดยเฉพาะ ไม่ควรเติมจนเกินเส้นปริมาณมากสุด หากเครื่องซักผ้าของคุณไม่มีช่องจ่ายสารซักผ้า ให้เติมเข้าไปในถังซักก่อนนำเสื้อผ้าใส่เข้าเครื่อง
ซึ่งควรเปิดน้ำเข้าถังซักก่อนเพื่อให้สารซักฟอกละลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การซักผ้าอย่างมีประสิทธิภาพนั้น ไม่ควรใส่ผ้าแน่นเครื่อง ควรมีพื้นที่ว่างเหลืออยู่ภายในให้น้ำหมุนเวียนได้อย่างเต็มที่ โดยลองวัดพื้นที่ว่างจากผ้าชิ้นบนสุดจนถึงขอบถังซักให้เหลือประมาณ 1 ฝ่ามือ
และควรกระจายผ้าในถังซักให้หลวมๆ ไม่อัดแน่น และศึกษาข้อมูลการใช้งานถึงความจุเครื่องซักผ้าเพื่อความแน่ใจ
เพื่อการซักผ้าให้สะอาดอย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องซักผ้าบางรุ่นให้คุณระบุปริมาณเสื้อผ้าที่บรรจุลงในถังซัก :
- ผ้าน้อย : ประมาณ ⅓ ของถังซัก
- ผ้าปานกลาง : ประมาณ ½ ของถังซัก
- ผ้ามาก : ประมาณ ¾ ของถังซัก
ชมวีดีโอการนำผ้าเข้าถังซัก ของเครื่องซักผ้าอีเลคโทรลักซ์ :