สารบัญ
- เช็กโปรโมชั่นฉีดไขมันและฟิลเลอร์ที่นี่
- Facebook iconแชร์
- Twitter iconทวีต
- LINE iconส่งไลน์
- Facebook iconแชร์
- Twitter iconทวีต
- LINE iconส่งไลน์
ปัญหาใต้ตาที่ควรแก้ไข
ปัญหารอยคล้ำใต้ตา
สาเหตุที่มองเห็นรอยคล้ำใต้ตา เนื่องจากผิวหนังบริเวณใต้ตานั้นมีความบางจนสามารถทำให้มองเห็นเส้นเลือดที่มีเลือดไหลผ่านหลอดเลือดดำ (Vein) ที่อยู่ใต้ผิวหนังรอบดวงตา เมื่อเลือดบริเวณรอบดวงตาไหลเวียนไม่สะดวก จะทำให้เกิดการขยายตัวของเส้นเลือดดำ หรือมีเม็ดสี (Melanin) สะสมที่บริเวณใต้ดวงตามากกว่าปกติ ซึ่งอาจเกิดจากมีการอักเสบของผิวใต้ดวงตา จึงปรากฏให้เห็นรอยคล้ำใต้ตา
ปัญหาถุงใต้ตาบวม
เป็นอาการบวมน้ำหรืออาการคั่งน้ำรอบดวงตา ซึ่งเกิดจากการสะสมของเหลวภายในร่างกายไปคั่งอยู่บริเวณใต้ตา เช่น น้ำและไขมัน เนื่องจากอายุที่มากขึ้น คอลลาเจนและอีลาสตินก็จะค่อย ๆ เริ่มเสื่อม จนทำให้ผิวหนังรอบดวงตาหย่อนคล้อย ส่งผลให้เกิดการสะสมของน้ำและไขมันมากขึ้น ยิ่งสะสมมาก น้ำหนักและขนาดของถุงใต้ตาก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นจนปรากฏให้เห็นถุงตาบวมเด่นชัด
อีกสาเหตุหนึ่งของการสะสมน้ำภายในถุงใต้ตา อาจเกิดจากปัจจัยโรคต่าง ๆ เช่น โรคภูมิเเพ้, การติดเชื้อในโพรงไซนัส, ความดันโลหิตสูง หรือมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของบุคคล ได้แก่ การรับประทานอาหารที่มีรสเค็มหรือการร้องไห้ เป็นต้น
ปัญหาริ้วรอยใต้ตา
ปัญหาริ้วรอยต่าง ๆ นั้นเกิดจากการสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสตินที่คอยพยุงผิว จึงทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่นและความกระชับ เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยรอบดวงตาและริ้วรอยใต้ตา เนื่องจากผิวหนังรอบดวงตามีความบอบบางกว่าบริเวณอื่น ๆ จึงทำให้เป็นบริเวณที่มีริ้วรอยได้เร็วกว่าและง่ายกว่าผิวหนังบริเวณอื่นๆ ร่วมกับปัจจัยต่าง ๆ ที่เข้ามากระตุ้นทำให้เกิดริ้วรอยใต้ตา
ฉีดไขมันใต้ตา คืออะไร
ฉีดไขมันใต้ตา คือ การฉีดฟิลเลอร์ชนิดนี้ มักใช้ไขมันในร่างกายของคนไข้เองมาฉีดเพื่อเติมเต็มเพื่อแก้ปัญหาใต้ตา ซึ่งการฉีดไขมันใต้ตา จะประกอบด้วย 2 ขั้นตอน คือ การดูดไขมัน และการฉีดไขมัน ซึ่งทำในคราวเดียวกัน การใช้สารเติมเต็มจากร่างกาย หรือ การฉีดไขมันใต้ตานั้น ให้ผลลัพธ์แบบกึ่งถาวร อาจต้องมีการฉีดซ้ำเพื่อผลลัพธ์ที่ถาวร
เนื่องจากการฉีดไขมันนั้น เป็นการปลูกถ่ายที่ย้ายไขมันจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดของร่างกาย อัตราการติดของไขมันนั้นจึงไม่ 100% และไขมันนั้นก็สามารถสลายไปได้ หากได้รับการดูแลหลังฉีดไขมันที่ไม่ถูกวิธี การฉีดไขมันใต้ตากับฟิลเลอร์ใต้ตามีความแตกต่างกัน ทั้งขั้นตอน และการดูแลตัวเองหลังทำ
ดังนั้น ก่อนตัดสินใจฉีดไขมันใต้ตา ควรศึกษาเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาควบคู่กันไป เพื่อ เปรียบเทียบการฉีดไขมันใต้ตา กับ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ว่าวิธีการเติมเต็มแบบใดที่เหมาะสมกับเราที่สุด
อ่านเพิ่มเติม 7 ข้อควรรู้ก่อนฉีดไขมันใต้ตา
บทความแนะนำสำหรับผู้สนใจฉีดไขมันหน้า
ฉีดไขมันหน้าคืออะไร ฉีดไขมันหน้าที่ไหนดีฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การเติมสารเติมเต็มกลุ่ม “ไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid)” เข้าบริเวณใต้ตาที่มีปัญหาริ้วรอยหมองคล้ำใต้ตาที่กระดูกใต้ตายุบตัวลง ทำให้เนื้อบริเวณใต้ตานั้นดูคล้ำ ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย หน้าดูโทรม อ่อนล้าและดูมีอายุ หรือ ใช้แก้ปัญหาใต้ตาคล้ำจากกรรมพันธุ ที่เป็นสาเหตุของอาการตาโหล ตาคล้ำดำได้
ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขด้วยการฉีดสารเติมเต็ม เพื่อให้ใต้ตานั้นดูตื้นขึ้น และรอยคล้ำก็ดูจางลงด้วย ทำให้ใบหน้ากลับมาสดใส อ่อนเยาว์ ดูมีชีวิตชีวาอีกครั้ง แต่การฉีดสารเติมเต็ม ก็ยังมีสารเติมเต็มชนิดอื่นนอกจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ดังนั้น จึงควรทราบการ เปรียบเทียบการฉีดไขมันใต้ตา กับ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ทำให้เราเห็นถึงข้อแตกต่างของการแก้ไขปัญหาใต้ตาทั้ง 2 วิธีนี้ ซึ่งสามารถเลือกวิธีที่เหมาะสมกับเราได้ตามต้องการ แต่อย่างไรก็ตามทั้ง การฉีดไขมันใต้ตา และการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรทำโดยแพทย์ที่มีความชำนาญเท่านั้น เพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่ส่งผลเสียภายหลัง
ฉีดไขมันใต้ตา หรือ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สองหัตถการนี้ แบบไหนดีกว่ากัน? หมอต้องบอกว่าทั้ง 2 หัตถการนี้ สามารถแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อย ใต้ตาลึก ใต้ตาคล้ำ ต้นเหตุของใบหน้าแก่ก่อนวัย ดูโทรม ให้กลับมาสดใสดูอ่อนวัยได้เช่นกัน แต่มีข้อดี-ข้อเสียต่างกันครับ
เพื่อคลายข้อสงสัย ในบทความนี้หมอจะขออธิบายถึงข้อแตกต่างของทั้ง 2 หัตถการไว้ เพื่อที่คนไข้สามารถนำไปใช้ ประกอบการตัดสินใจว่าทำวิธีไหนดี วิธีไหนคุ้มที่สุดสำหรับตัวคนไข้เองครับ
สารบัญ ฉีดไขมันใต้ตา
ฉีดไขมันใต้ตา VS ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ต่างกันอย่างไร ?
- การฉีดไขมันใต้ตา : เป็นการแก้ไขปัญหาริ้วรอยและร่องลึก ด้วยไขมันของคนไข้เอง โดยหมอจะทำการเลือกไขมันส่วนเกินของคนไข้ แล้วใช้ครื่องดูดไขมันดูดออกมา ก่อนนำไปปั่นแยกสกัดเอาสเต็มเซลล์ออกมาใช้ ผสมกับเนื้อเยื่อไขมันแล้วนำไปเติมเต็มบริเวณใต้ตา โดยส่วนมากไขมันส่วนเกินจากบริเวณต้นขาหรือหน้าท้อง
ฉีดไขมันใต้ตาโดย ดูดไขมันส่วนเกินจากต้นขาหรือหน้าท้อง
นำมาปั่นแยกเป็นของเหลว ก่อนนำมาใช้ฉีด
ข้อดี ฉีดไขมันใต้ตา
1. ลดความเสี่ยงต่ออาการแพ้
เพราะการฉีดไขมันใต้ตา เป็นการใช้ไขมันของตัวคนไข้เอง จึงไม่ใช่สิ่งแปลกปลอม จึงช่วยลดความเสี่ยงต่ออาการแพ้ได้ครับ
2. ใช้เวลาพักฟื้นน้อย
การฉีดไขมันใต้ตาจะใช้ระยะเวลาพักฟื้นหลังทำประมาณ 1-2 สัปดาห์ ถือว่าพักฟื้นน้อยมากเมื่อเทียบกับการผ่าตัดครับ
โดยหลังจากการฉีดแล้วอาจมีอาการบวมเล็กน้อย จากนั้นจะค่อย ๆ ลดลง ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานกว่า 1 ปี (ขึ้นอยู่กับบุคคลและเทคนิคที่ใช้ปลูกไขมัน) โดยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
ข้อเสีย ฉีดไขมันใต้ตา
1. กระบวนการค่อนข้างยุ่งยาก
ไม่สามารถทำได้ทันทีเหมือนการฉีดฟิลเลอร์ทั่วไป เพราะต้องมีการตรวจเช็คไขมันที่จะนำมาใช้ ต้องมีกระบวนการดูดไขมันออกมา และปั่นแยกเป็นของเหลว ก่อนนำมาใช้ฉีดไขมันใต้ตา
2. มีแผลในตำแหน่งที่ดูดไขมัน
คนไข้จะมีแผลในตำแหน่งที่มีการดูดไขมันมาเพื่อฉีด และผลลัพธ์ในการทำครั้งแรกมักไม่เห็นผลชัดเจน เพราะโดยธรรมชาติของร่างกาย ไขมันเป็นสารที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ ดังนั้นหลังฉีดอาจเกิดผิวไม่เรียบเพราะไขมันที่ฉีดไปถูกร่างกายนำไปใช้
3. อาจต้องมีการทำซ้ำ
หากต้องการได้ผลดี ต้องทำซ้ำ นั้นหมายถึงต้องเจ็บตัวหลายครั้งครับ และฉีดไขมันตัวเอง ไม่มีประสิทธิภาพในการยกเหมือนกับฟิลเลอร์
ในกรณีที่คนไข้มีปัญหาใต้ตาที่มีสาเหตุจาก การยุบตัวจากกระดูก การฉีดไขมันใต้ตาไม่สามารถแก้ปัญหาได้ครับ ต้องฉีดฟิลเลอร์เท่านั้น
บทความแนะนำ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง ?
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา : เป็นการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าในส่วนใต้ตาที่ยุบลงไป ตัวการของปัญหาใต้ตาคล้ำ ใต้ตาลึก ทำให้ดูแก่และโทรมลง
ฉีดฟิลเลอร์สามารถเติมร่องลึกใต้ตา รอยคล้ำจึงจางลง และใบหน้าดูเด็กลงได้
ข้อดี ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
1. หลังฉีดเห็นผลทันที
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถแก้ปัญหาริ้วรอย ร่องลึก บริเวณใต้ตาได้ดี เห็นผลลัพธ์ทันที และชัดเจนที่สุด
2. ฟิลเลอร์แท้ (HA) สามารถสลายได้หมด
ฟิลเลอร์แท้ไฮยาลูโรนิค เอซิด ( Hyaluronic Acid )สามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ 100% โดยไม่ทิ้งสารตกค้างไม่มีสารตกค้าง
3. ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น สามารถใช้หน้าได้ ในบางเคสอาจมีอาการบวมเข็มหลังฉีด แต่จะหายได้เอง ใน 2-3 วัน
ตัวอย่างรีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ข้อเสีย ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
1. ฟิลเลอร์ผลลัพธ์ไม่ถาวร
การฉีดฟิลเลอร์ไม่ใช่การรักษาแบบถาวรครับ จำเป็นต้องมีการฉีดซ้ำเพื่อผลลัพธ์ที่ต่อเนื่อง โดยผลลัพธ์อยู่ได้ตั้งแต่ 6-18 เดือน (ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองและปฏิบัติ)
2. อาจมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ
ในบางเคสที่ ผิวบาง ผิวช้ำง่าย อาจมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ หรือคันได้ในจุดที่ลงเข็ม แต่หากหลีกเลี่ยงการแตะ การเกา การกดนวดในจุดนั้นๆ อาการสามารถลดหายไปได้เองครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ? ราคาเท่าไหร่? ที่ไหนดี? และข้อห้ามหลังฉีดใต้ตา
button
6 คำตอบ ที่จะทำให้คุณรู้จักปัญหาใต้ตา และแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด
ทำไมบางคนฉีดไขมันใต้ตาแล้วเป็นคลื่น ผิวไม่เรียบ
หลังฉีดไขมันใต้ตาอาจมีไขมันบางส่วนที่สลายหายไป ตามกลไก ธรรมชาติที่ร่างกายสามารถดูดซึมไขมันไปใช้ได้ ทำให้ผลลัพธ์การฉีดไขมันใต้ตาไม่เป็นตามที่ต้องการ เช่น ฉีดน้อยไปก็อาจสลายหมด ไม่เห็นผลหรือเห็นเป็นคลื่น
ผิวไม่เรียบเนียนเพราะมีไขมันบางส่วนหลงเหลืออยู่ แต่หากฉีดมากไปก็อาจจะบวม เห็นเป็นก้อน ประกอบกับในบางเคส ฉีดเติมไขมันใต้ตากับหมอที่ไม่ชำนาญ หมอเติมผิดตำแหน่ง ก็อาจเกิดเป็นลำหรือก้อนที่ใต้ตาได้ครับ
ฉีดไขมันใต้ตาอันตรายหรือไม่ ?
ในการเติมไขมันใต้ตาที่ต้องระวังมาก คือ การฉีดเข้าหลอดเลือดครับ มีเคสที่เนื้อตายหรือตาบอดจากการฉีดไขมันสูงกว่าการฉีดฟิลเลอร์มาก เพราะไขมันไม่มีเอนไซม์ที่ใช้ย่อยสลายได้ในทันทีหากเกิดความผิดพลาด ฉีดเข้าหลอดเลือดก็มีอันตรายมาก ไม่มีทางแก้ครับ ต่างกับฟิลเลอร์ที่มีเอนไซม์ช่วยสลายได้ทันที
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดสลายฟิลเลอร์ กี่วันหาย มีวิธีการอย่างไร ทํายังไงให้ฟิลเลอร์สลาย
ฉีดไขมันใต้ตา ฟิลเลอร์ใต้ตา แบบไหนอยู่ได้นานกว่ากัน ?
โดยทั่วไป การฉีดไขมันใต้ตาสามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 1 ปี ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล และเทคนิคของแพทย์ผู้ฉีดครับ ซึ่งก็อาจเป็นไปได้ว่าในบางเคส การฉีดไขมันครั้งแรก อาจไม่ติดเนื่องจากร่างกายดึงไขมันส่วนนั้นไปใช้
ดังนั้นการฉีดไขมันใต้ตาจึงไม่สามารถหวังผลได้แน่นอน ในบางเคสหลังฉีดไขมันใต้ตา อาจอยู่ได้ 3-4 เดือนครับ ส่วนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อยู่ได้นาน 6-18 เดือน โดยการคงผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ/รุ่น ที่เลือกใช้ครับ
ฉีดไขมันใต้ตา บวมกี่วัน ?
การฉีดไขมันใต้ตา อาการบวมจากการทำหัตถการจะบวมอยู่ที่ 1-2 สัปดาห์ คนไข้จะรู้สึกตึง ๆ บวม ๆ หลังฉีด ส่วนการบวมจากไขมันจะยุบลงและเข้าที่ประมาณ 2-3 เดือน ครับ
แก้ริ้วรอยใต้ตาด้วยฟิลเลอร์ปลอดภัยจริงหรือ ?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีความปลอดภัยครับ ในกรณีที่ใช้ฟิลเลอร์แท้ ( hyaluronic acid ) สามารถสลายหมดไม่มีสารตกค้าง เจ็บน้อยและไม่เกิดแผล หากฉีดไปแล้วไม่พอใจสามารถใช้เอนไซม์ hyaluronidase สลายออกบางส่วนหรือทั้งหมดเพื่อแก้ไข ปรับแต่งได้ 100%
คุณต่าย เพ็ญพักตร์ ไว้ใจฉีดฟิลเลอร์ที่ V Square Clinic
ในกรณีที่ต้องการความเร่งด่วนและไม่อยากพักฟื้นนาน ไม่อยากเจ็บตัวซ้ำ ๆ หมอแนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแทนการฉีดไขมันตาครับ เพราะการฉีดไขมันใต้ตาคนไข้ต้องเจ็บตัว 2 ต่อ คือ เจ็บระบม ช้ำ บริเวณที่ดูดไขมันมาใช้ และเจ็บผิวบริเวณใต้ตาที่ฉีดเติมไขมัน เพราะวิธีการฉีดต้องฉีดไขมันลงไปหลาย ๆ ชั้นของหน้า และเข็มที่ใช้ยังมีขนาดใหญ่กว่าเข็มฉีดฟิลเลอร์
โปรแกรม ฟิลเลอร์
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ลดริ้วรอยใต้ตา ที่ V Square Clinic
ที่ V Square Clinic มีหมอที่มีประสบการณ์การปรับรูปหน้าและมีประสบการณ์การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา นานกว่า 5-10 ปี คอยให้คำปรึกษาทุกสาขา โดยทีมแพทย์มีองค์ความรู้โครงสร้างใบหน้าเป็นอย่างดี จึงมีความปลอดภัยสูง และทางคลินิกใช้ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์แท้ ที่ผ่านการรับรองจากอย. แล้วเท่านั้น ก่อนฉีดจะเกาะกล่องฟิลเลอร์ต่อหน้าคนไข้เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ 100 %
สำหรับใครยังไม่รู้วิธีดูฟิลเลอร์แท้หรือปลอม สามารถศึกษาข้อมูลได้จากบทความที่หมอเคยเขียนไว้ วิธีดูยาแท้โบท็อก ฟิลเลอร์ ยี่ห้อต่างๆ (Allergan/Nabota/Botulax) ได้เลยครับ
button
รีวิว ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ร่องแก้ม 2 CC
รีวิว ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ร่องแก้ม 2 CC
รีวิว ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ร่องแก้ม 3 CC
สรุป
การฉีดไขมันใต้ตามีความเสี่ยงและวิธีการค่อนข้างยุ่งยาก หากมองเรื่องของความรวดเร็ว คุ้มค่า ราคาไม่แพง ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาถือว่าคุ้มค่ากว่าครับ ทั้งนี้ควรฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ผ่านเคสมาหลากหลาย สามารถแนะนำยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์ได้อย่างเหมาะสม คนไข้ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ดีและดูเป็นธรรมชาติครับ