นิยาย นางเอก ทํา งานกลางคืน ธัญ วลัย

ออยเป็นเด็กต่างจังหวัด เธอเข้ามาศึกษาชั้นปริญญาตรีในกรุงเทพ ฐานะทางบ้านของเธอค่อนข้างขัดสน เธอกำพร้าพ่อตั้งแต่เด็ก มีแม่เป็นคนเลี้ยงเธอจนเธอเติบใหญ่

แม่ของเธอเปิดร้านขายข้าวแกงอยู่ที่ต่างจังหวัด เป็นคนหาเช้ากินค่ำ ทุกวันนี้ออยต้องทำงานพิเศษเพื่อหาเงินมาจ่ายเป็นค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายส่วนตัว

ปัจจุบันเธอเรียนอยู่ชั้นปีที่สอง คณะบริหารที่มหาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง เธอสอบเข้ามหาลัยรัฐบาลไม่ติด เนื่องจากเธอต้องช่วยแม่ทำงานเสมอ ทำให้เธอไม่มีเวลาอ่านหนังสือสอบ บ่อยครั้งที่เธอต้องขาดเรียน

ออยทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย เธอมีทรัพย์เป็นหน้าตา มีดวงตาที่กลมโต ริมฝีปากอวบอิ่ม และมีรูปร่างเร้าใจที่ผู้หญิงทุกคนที่เห็นต้องอิจฉา ส่วนที่ผู้หญิงควรจะมีเธอก็มี ส่วนที่ผู้หญิงควรจะเว้าเธอก็เว้า เธอมีทรวงอกอวบอิ่ม เอวคอด สะโพกผาย ผมยาวดำมันขลับถึงกลางหลัง

หลังจากเลิกงาน ออยกลับถึงห้องพักอย่างเหน็ดเหนื่อย ดาเพื่อนร่วมห้องของเธองัวเงียตื่นขึ้นมา "กี่โมงแล้วจ้ะออย"

"4ทุ่มจ้ะ" ออยผลัดผ้ากับผ้าเช็ดตัวเตรียมตัวอาบน้ำ

"งานนี้เลิกดึกจังเลยนะจ้ะ พรุ่งนี้มีเรียนตอนเช้าอีก ออยอย่าหักโหมมากนะจ้ะ เดี๋ยวจะไม่สบายไป" ดากล่าวเตือนเพื่อนสาวด้วยความเป็นห่วง

"จ้ะ" ออยยิ้มแหยๆ งานพนักงานเสริฟอาหารเป็นงานที่เหนื่อยมากเลยทีเดียว แต่เธอจำเป็นต้องทำ ดาไม่ต้องทำงานเหมือนเธอ ครอบครัวของดาที่ต่างจังหวัดเป็นคนมีฐานะ มีเงินทองใช้ไม่เคยขาดมือ ค่าเทอมและค่าใช้จ่ายส่วนตัวของดา ทางบ้านจะโอนเงินมาให้ทุกๆเดือน

หลายวันต่อมา เวลาเลิกเรียน ออยและดาพากันเดินออกจากมหาลัยเพื่อกลับที่พัก ที่พักของพวกเธอเป็นอพาร์ทเม้นชื่อ เดอะ เลิฟเวอร์ ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับมหาลัย สามารถเดินไปมาถึงกันได้

"เอ้อ ออยจ้ะ ดาเกือบลืมไป เมื่อวานดาเพิ่งคิดได้ว่าดามีน้าที่เปิดศูนย์บำบัดผู้ป่วยอยู่อะจ้ะ น้าของดาชื่อเจี๊ยบ ดาสนใจไปทำงานพิเศษเป็นผู้ช่วยนักบำบัดไหมจ้ะ เมื่อวานดาโทรถามน้าแล้ว น้าเจี๊ยบบอกว่าถ้าสนใจให้ไปสัมภาษณ์งานได้เลยจ้ะ" ดากล่าวอย่างกระตือรือร้น

"จริงเหรอดา ออยสนใจมากเลย " ออยยิ้มกว้างอย่างดีใจ ถ้าเธอได้ทำงานอื่นแทนงานสาวเสริฟที่ทำอยู่ทุกวันนี้คงดีไม่น้อย แม้งานที่ทำอยู่จะได้เงินดีเพราะได้ทิปจากลูกค้า แต่เธอก็ต้องทำงานถึงกลางค่ำกลางคืนทุกวัน งานดูแลผู้ป่วยไม่น่าจะเกินความสามารถของเธอ

"พรุ่งนี้ออยว่างไหมจ้ะ น้าเจี๊ยบบอกว่าถ้าว่างก็ไปสัมภาษณ์วันพรุ่งนี้ได้เลยจ้ะ" ดารู้สึกสงสารเพื่อนสาวของเธอนัก แต่ละวันออยทำงานจนดึกจนดื่น และบางวันก็มีเรียนตอนเช้า เธอเห็นออยทำงานกลับห้องดึกดื่นทุกวัน อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้

"ว่างจ้ะ ขอบคุณดามากนะ" ออยยกมือทั้งสองกุมมือดาไว้กล่าวขอบคุณเพื่อนสาวอย่างซาบซึ้ง เพื่อนของเธอใจดีกับเธอมาก ออยซาบซึ้งทุกครั้งที่ดาคอยยื่นมาช่วยเหลือ

"ยินดีจ้ะ" ดากุมมือออยตอบ

เช้าวันรุ่งขึ้น ออยตื่นแต่เช้า ลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปสัมภาษณ์งาน เธอสวมเสื้อเชิตแขนยาวสีฟ้าอ่อน กระโปรงสีดำ สวมร้องเท้าหุ้มส้นสีดำมีส้นเล็กน้อย สวมถุงน่องแลดูสุภาพ แต่งหน้าเล็กน้อยไม่ให้ปากซีด เธอไปถึงที่นัดหมายก่อนเวลานัดครึ่งชั่วโมง

ศูนย์บำบัดผู้ป่วยของน้าเจี๊ยบ เป็นคฤหาสน์หลังใหญ่แถวชานเมือง เป็นคฤหาสน์สองชั้น จากที่ดูคร่าวๆน่าจะมีห้องไม่ต่ำกว่ายี่สิบห้อง มีสระว่ายน้ำสระใหญ่ ออยอ้าปากกว้างอย่างตะลึงในความโออ่าและความหรูหราของสถานที่

"บำบัดราคี เนอซซิ่งโฮม" ออยอ่านป้ายตรงหน้าเบาๆรู้สึกฉงนกับชื่อของศูนย์บำบัดไม่น้อย

เมื่อไปถึงมีผู้หญิงคนหนึ่งมาต้อนรับเธอ พาเธอไปที่ห้องๆหนึ่ง ซึ่งน่าจะเป็นห้องทำงานของน้าเจี๊ยบ

ออยยกมือไหว้ทักทายน้าเจี๊ยบที่นั่งรออยู่หลังโต๊ะทำงาน "สวัสดีค่ะ คุณน้า"

นิยาย 4 เรื่อง ของ "แผ่ความสุข"

อ่านได้แล้ววันนี้ที่ "ธัญวลัย"

CH.01

 

            CN CLUB

            ท่ามกลางเสียงดนตรีที่ดังอื้ออึงจนหัวแทบระเบิด คงมีใครหลายคนกำลังระเบิดอารมณ์ความสนุกภายใต้ผับแห่งนี้แต่ไม่ใช่ฉันล่ะคนหนึ่ง ฉันเดินหลบเหล่าผีเสื้อราตรีที่ส่ายสะโพกโยกย้ายอย่างบ้าคลั่งเข้าไปยังโต๊ะที่ต้องการ ค็อกเทลหลายแก้วบนถาดในมือกำลังสั่นตามเสียงเพลงที่ดังออกมาจากลำโพงตัวใหญ่แต่นั่นก็ไม่ทำให้มันตกลงมาจากถาดหรอก

            แนะนำตัวก่อน ฉันชื่อ แคล เป็นนักศึกษาอยู่มหาลัย Aspire Us. ตอนนี้อยู่ปีสองเอง ที่มาทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟที่นี่เพราะฉันต้องการเอาเงินไปรักษาน้องชายซึ่งกำลังรอผ่าตัดโรคหัวใจอยู่ที่โรงพยาบาล เรามีกันแค่สองคน พ่อกับแม่เสียชีวิตไปนานแล้ว ก็อย่างที่รู้ๆ กันนั่นแหละว่าค่าผ่าตัดน่ะไม่ใช่น้อยๆ ใช่ไหม ดังนั้นการมาทำงานที่ผับแห่งนี้เป็นอะไรที่ได้เงินเร็วและเยอะที่สุดแล้ว

            น้องชายฉันเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่วน่ะ ตอนแรกที่รู้ฉันก็ช็อกไปเลยเหมือนกันแต่พอตั้งหลักได้ก็รีบหางานทำที่ได้เงินเร็วที่สุดจนมาเจอที่นี่ จากตอนแรกฉันทำงานตามร้านอาหารทั่วไปเงินเดือนก็ไม่ได้เยอะเท่าไหร่ พอมาที่นี่มันต่างกันราวฟ้ากับเหวเลย ได้เยอะแถมทำงานกี่โมงก็ได้ด้วย

            CN CLUB เป็นผับที่ขึ้นชื่อในแถบนี้มาก ที่น่าสนใจคือสามารถเข้ามาได้ตลอดทั้งวันตั้งแต่เช้ายันค่ำ ไม่ว่าข้างนอกจะสว่างอย่างไรแต่ภายในจะคงไว้ซึ่งความมืดตลอด เลยทำให้เหมือนเป็นตอนกลางคืน ผสมผสานกับแสงสีเสียงเข้าไปก็ยิ่งทำให้เพอร์เฟคเข้าไปอีก

            และอีกเหตุผลก็คือฉันต้องการหาเงินส่งเสียตัวเองเรียนด้วย ไหนจะค่าใช้จ่ายต่างๆ อีก พอมีค่าผ่าตัดของน้องชายเข้ามาเป็นรายจ่ายเพิ่มขึ้น การทำงานที่เดิมจึงต้องยุติไป

            อ้อ รู้สึกว่าเจ้าของผับที่นี่จะเป็นหัวหน้าแก๊งอะไรสักอย่างด้วยนะ ฉันก็ไม่ได้สนใจมากนักแต่เคยได้ยินคนพูดกันว่าเขาหน้าตาดูดี ออกแนวหยิ่งๆ และเวลาโมโหก็ร้ายลึกใช่เล่น

            พลั่ก!! เพล้ง!!

            อุ๊ย! ขอโทษค่ะ...  

            ทำงานภาษาอะไรวะเนี่ย!

            เสียงทุ้มต่ำตะคอกใส่ฉันจนขนาดที่ว่าเพลงในนี้ดังแล้ว..ฉันยังได้ยินเสียงเขาเลย เมื่อกี้ตอนที่กำลังเดินหลบฝูงคนอยู่นั้น อยู่ๆ เขาก็โผล่มาทางขวาพอดีทำให้ฉันไม่ทันตั้งตัว แก้วค็อกเทลที่จะนำไปเสิร์ฟเลยชนกับเขาเข้าอย่างจัง ส่งผลให้เสื้อเขาไล่ลงไปถึงกางเกงเปียกเป็นแนวยาว

            แถมแก้วทั้งหมดก็ตกแตกบนพื้นอีกต่างหาก ซวยจริงๆ เลย ค่าเสียหายมันเท่าไหร่ล่ะเนี่ย

            ขอโทษค่ะ ขอโทษคุณด้วยนะคะ

            ฉันหันไปขอโทษผู้หญิงคนที่มากับเขาด้วย ชุดนักศึกษาของเธอก็เปียกเหมือนกันแต่เธอโบกไม้โบกมือทำท่าว่าไม่เป็นไร ดูจากท่าทางแล้วคงเป็นคนที่ไม่ค่อยอะไรกับใครล่ะมั้ง แต่ผู้ชายที่มาด้วยนี่สิ..เขาไม่ยอมง่ายๆ แฮะ

            พนักงานชื่อแคลงั้นเหรอ ทำไมไม่เคยเห็นหน้า เขาออกแรงกระชากแขนฉันให้เข้าไปใกล้ เขาคงสังเกตชื่อฉันจากป้ายที่ติดอยู่บนหน้าอก น่าแปลก..ผู้ชายคนนี้ดูไม่น่าเลวร้ายอะไรเลยนี่นา ทั้งผมสีเทาซอยสไลด์รับกับนัยน์สีเทา ส่วนสูงที่สมบูรณ์แบบ ริมฝีปากหยักลึกออกคล้ำนิดๆ ใบหน้าคมคายได้รูป ทุกอย่างล้วนดูดีไปหมดไม่เข้ากับนิสัยห่ามๆ นี่เลย เธอคิดว่าตัวเองเป็นใคร มาทำฉันเปียกไปหมดแบบนี้ แถมยังทำเธอเปียกอีก!

            เขาเบือนหน้าไปทางผู้หญิงคนนั้น อ๋อ เข้าใจแล้ว นี่คงจะเป็นผู้หญิงของเขาสินะแต่ฉันก็ขอโทษไปแล้วไม่ใช่หรือไง มันใช่ความผิดฉันตั้งแต่แรกซะที่ไหน อีกอย่างเขาก็เป็นคนเข้ามาชนฉันเองนะ

            ก็ขอโทษไปแล้วนี่คะ คุณยังจะเอาอะไรอีก ฉันไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้นสักหน่อย ถ้าเป็นตามปกติล่ะก็ฉันคงไม่พูดสุภาพแบบนี้หรอก ป่านนี้คงทำอะไรสักอย่างโทษฐานที่มากระชากแขนแบบไม่มีมารยาทแบบนี้ไปแล้ว แต่ ณ จุดนี้ฉันทำแบบนั้นไม่ได้เพราะตัวเองยังอยู่ในเครื่องแบบพนักงาน

            กฎของพนักงานที่นี่ ไม่ว่าจะมีเรื่องปากเสียงใดๆ ก็ตามต้องเป็นฝ่ายโอนอ่อนและขอโทษลูกค้าก่อนเสมอไม่ว่าจะเป็นความผิดของตนหรือไม่

            ฉันต้องทำตามกฎนี่ ดังนั้นฉันเลยยิ้มหวานให้เขาซึ่งมันตะหงิดๆ ใจชะมัดยาด จากนั้นก็พยายามดึงแขนตัวเองออกมาแต่หมอนี่กลับออกแรงบีบมันมากขึ้น

            นี่ฉันเจ็บนะ! เป็นคนนะไม่ใช่ตุ๊กตา!

            ไม่ต้องเอาเรื่องเธอหรอกน่าเคไนน์ ก็เธอไม่ได้ตั้งใจนี่นา ผู้หญิงที่มากับตาบ้านี่เข้ามาห้ามและช่วยดึงแขนออกจากเงื้อมือเขาแต่มันก็ยากเพราะหมอนี่ไม่ยอมปล่อยท่าเดียว

            เงียบไปเลยอาโน! คนทำผิดก็ต้องรับโทษ!

            แล้วคุณจะให้ฉันทำยังไงคะ ฉันเช็ดตัวให้ก็ได้นะคะ ฉันจ้องตาไอ้ผู้ชายที่ชื่อ เคไนน์ ตรงหน้ากลับ แม้ถ้อยคำของฉันจะแสดงออกไปทางสุภาพๆ แต่สายตาฉันไม่ได้มีแววสุภาพอยู่เลยจะบอกให้

            ก็ช่วยไม่ได้นะ กฎบอกแค่ให้ขอโทษและโอนอ่อนไม่ใช่เหรอแต่ไม่ได้บอกว่าห้ามมองแบบจิกกัดนี่!

            เช็ดตัวเหรอ กระจอกว่ะ! เขาลากสายตามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าเหมือนพยายามจะนึกอะไรบางอย่างและสุดท้ายก็มองไปที่ผู้หญิงของเขา น้ำเสียงเรียบตึงเอ่ยประโยคที่สร้างความตกตะลึงให้ฉันจนถึงที่สุด คุกเข่า! กราบเท้าพวกเราเดี๋ยวนี้!!

            อะไรนะ!!!  

            พระเจ้าช่วย..ตั้งแต่เกิดมาเพิ่งเคยเจอใครที่โอเว่อร์ได้มากขนาดนี้ กะอีแค่ทำค็อกเทลหกราดไม่เท่าไหร่ต้องทำถึงขั้นกราบเท้า เขาคิดว่าตัวเองวิเศษวิโสมาจากไหน!

            เค พอได้แล้วน่า มันเกินไปแล้วนะ!” ผู้หญิงที่มากับเขาทุบแขนหมอนี่ไปทั่วตามด้วยการหยิก ฉันรู้สึกขอบคุณเธอจริงๆ แต่จะขอบคุณกว่านี้ถ้าการกระทำของเธอมันสามารถช่วยได้เพราะนอกจากจะไม่มีผลอะไรแล้ว นัยน์ตาสีเทาของเขายังจ้องลึกราวกับกองเพลิงโทสะที่กำลังถูกเติมเชื้อไฟ

            ฉันยอมรับเลยว่าไม่เคยเจอใครทำกับตัวเองแบบนี้ แค่แตะต้องตัวสักนิดก็ไม่เคยแต่หมอนี่เป็นใคร บีบซะจนแขนฉันแทบจะหักคามือเขาอยู่แล้ว!

            กราบเท้าเดี๋ยวนี้!!

            พลั่ก! กึก!

            ฉันยู่หน้าเมื่อถูกคนใจทรามผลักลงมาบนพื้น โชคดีที่ตรงนี้ไม่ได้มีคนยืนอยู่ไม่งั้นฉันคงได้ไปชนคนอื่นอีก แต่โชคร้ายก็คือเศษแก้วที่แตกเมื่อกี้มันบาดมือฉันเข้าให้เต็มๆ พูดง่ายๆ ว่ามือตัวเองกดลงไปกับเศษแก้วเลยนั่นแหละ

            เจ็บชะมัด...

            ฉันแบมือตัวเองออกก่อนจะเห็นของเหลวสีแดงเข้มไหลหยดลงบนพื้นผ่านตามง่ามมือ ภาพตรงหน้าทำให้ฉันต้องเงยหน้ามองคนตัวสูงด้วยแววตาไม่เป็นมิตรแบบสุดๆ อยากจะด่าแต่ก็ทำไม่ได้เพราะยังอยู่ในเครื่องแบบพนักงาน ทำได้เพียงเม้มปากระงับคำพูดเท่านั้น

            ทั้งที่เป็นแค่คนแปลกหน้า..แต่ทำไมถึงโหดร้ายขนาดนี้!

            มือเธอ! ผู้หญิงคนนั้นตาโตด้วยความตกใจพลันจะเข้ามาดูมือฉันแต่ไม่ทันได้เข้ามาก็ถูกคนใจร้ายกระชากแขนไว้ซะก่อน นัยน์ตาสีเทาที่กำลังมองเลือดบนมือฉันไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆ ทั้งสิ้นและไม่นานเขาก็ลากสายตากลับมาสบตากัน ริมฝีปากนั่นเหยียดยิ้มหยันแบบสะใจ นายทำเกินไปแล้วเคไนน์! ฉันโกรธนายแล้ว!

            หุบปากอาโน! นี่มันยังไม่ถึงครึ่งเลยด้วยซ้ำ! เขาหันไปตะคอกใส่ผู้หญิงของเขา จนเธอถึงกับหุบปากทันทีทันใดแต่สายตานั่นยังมองมาที่ฉันเหมือนเป็นห่วงมาก

            ไม่อยากเชื่อ..ผู้หญิงที่ใจดีแบบนี้มาคู่กับคนเลวๆ ได้ยังไง!

            จะบอกเป็นครั้งสุดท้าย..กราบเท้าเดี๋ยวนี้!!

            เขายังจะให้ฉันกราบทั้งที่มือก็เป็นแบบนี้เนี่ยนะ บ้าเอ๊ย!

            แต่ไม่ว่าจะมองยังไงหมอนี่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะยอมฉันเลย ฉันนึกไปถึงอนาคตว่าถ้าฉันไม่ทำจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง คำตอบก็คือถูกไล่ออกแน่ๆ แล้วฉันก็จะลำบากเรื่องค่าใช้จ่ายแต่ถ้าทำก็เป็นการลดศักดิ์ศรีตัวเองแบบถึงที่สุด ไม่ว่าจะทางไหนก็แย่ทั้งนั้น!

            ณ เวลานี้ฉันควรทำยังไงดี! คิดสิแคล! คิด!

            ภาพใบหน้าน้องชายที่นอนอยู่โรงพยาบาลเด่นชัดขึ้นมาในสมอง ฉันต้องกัดปากอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างฉันห่วงแค่น้องชายมากที่สุด ทางเลือกของฉันคงเหลือแค่ทางเดียวเท่านั้น

            ฉันพนมมือที่อาบไปด้วยเลือดขึ้นมา ความรู้สึกต้อยต่ำประดังประเดเข้ามาในหัวจนอยากกัดลิ้นตายกับการกระทำครั้งนี้จริงๆ เหมือนภาพตรงหน้าพร่ามัว..น้ำตานี้ไม่ใช่ความอ่อนแอแต่เป็นความเจ็บใจ ฉันว่าพรุ่งนี้ปากฉันต้องช้ำเพราะการกัดนี่แน่ๆ ไหนจะความแสบจากฝ่ามือที่กำลังทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ อีก

            อ๊ะ เรียวโทรมาแล้ว เราไปกันเถอะเคไนน์ จบเรื่องนี้เถอะนะ ทว่าในขณะที่กำลังจะก้มลงกราบ เสียงผู้หญิงคนนั้นก็ดังขัดพร้อมด้วยร่างสูงที่ลงมานั่งยองๆ ตรงหน้าฉัน ในตอนที่ระดับสายตาตรงกัน ฉันรู้สึกได้เลยว่านัยน์ตาสีเทานั้นมีเพียงความสมเพชที่ฉายชัด

            และไม่ทันตั้งตัวฝ่ามือหนาก็เอื้อมมากระชากผมฉันจากทางด้านหลังอย่างแรงจนต้องเงยหน้าขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ ความเจ็บตามร่างกายกำลังทำให้ฉันต้องอดกลั้น

            “จำใส่สมองไว้..น้ำหน้าอย่างเธอก็ต้องเจอแบบนี้!

            เคไนน์! พอได้แล้วน่า! ฉันขอโทษแทนเขาด้วยนะ..โอ๊ย!! ผู้หญิงคนนั้นมองหน้าฉันด้วยแววตารู้สึกผิดและไม่ทันจะได้พูดจบประโยค ร่างสูงก็ฉุดกระชากเธอให้เดินตามเขาไปยังทางออกอย่างรวดเร็ว ฉันมองตามหลังทั้งสองคนไปพร้อมด้วยน้ำตาที่ไหลรินลงมาจากขอบตาด้วยความเจ็บใจ

            จำเขาเอาไว้นะแคล..เขาคือคนที่แค่เจอหน้าครั้งแรกก็ทำร้ายกันขนาดนี้ คนที่มองเธอด้วยแววตาสมเพช คนที่บังคับให้เธอกราบเท้าเขา นัยน์ตาสีเทาที่น่ารังเกียจนั่น...

            เคไนน์...ผู้ชายสารเลว!!

            ไม่ได้เป็นอะไรมากจริงๆ นะจัส เชื่อแคลสิ

            ฉันกรอกเสียงตอบปลายสายไปเมื่อเผลอหลุดปากบอกเรื่องแผลที่มือนี่เข้าให้ คนปลายสายเล่นถามฉันถี่ยิบว่าอาการเป็นยังไงและตอนนี้โอเคหรือเปล่า บลาๆๆๆ จนฉันตอบแทบไม่หวาดไม่ไหว ไม่น่าหลุดปากไปบอกเลยจริงๆ นี่ถ้าฉันยังอมพะนำอยู่..ป่านนี้เขาคงขับรถมาหาฉันถึง CN CLUB แล้วมั้งเนี่ย

            [ก็ได้ เดี๋ยวพรุ่งนี้เจอกัน จัสจะดูให้เห็นกับตาว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก]

            ก็ยังดีกว่ามาตอนนี้แหละนะ...

            อือ งั้นแคลวางแล้วนะ จัสไปทำงานต่อเถอะ นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายก่อนที่สายจะตัดไป ฉันมองสภาพมือตัวเองที่ถูกพันด้วยผ้าพันแผลแบบลวกๆ ก่อนจะถอนหายใจ พอดีฉันต้องรีบไปเยี่ยมน้องชายที่โรงพยาบาลน่ะเลยพันมาแบบนี้ ความจริงที่ฉันเพิ่งบอกจัสไปไม่ใช่เลยสักนิด ฉันยังเจ็บแผลอยู่เลยแถมเจ็บมากเสียด้วย ไหนจะปวดบริเวณหัวกับต้นแขนอีก

            หวังว่าถึงพรุ่งนี้อาการที่มือจะดีขึ้นนะ...ฉันห่วงที่มืออย่างเดียวจริงๆ

            จัสที่ฉันพูดถึงเมื่อกี้คือ จัสติน หนุ่มอายุยี่สิบสี่ปี เขาเรียนจบแล้วและกำลังช่วยงานธุรกิจที่บ้านซึ่งเป็นธุรกิจส่วนตัว เขามีฐานะเป็นแฟนฉันเองแหละ เราคบกันมาปีกว่าแล้วนะโดยที่เราไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวกันเลยแม้แต่นิดเดียว ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเขาทนได้ยังไงแต่เขาบอกว่าเขาเข้าใจฉันและจะไม่ทำอะไรที่ฉันไม่ชอบเด็ดขาด

            เพราะแบบนี้แหละฉันถึงได้คบกับเขา ผู้ชายแบบนี้จะมีสักกี่คนบนโลกล่ะ อ้อ จัสรู้เรื่องน้องชายฉันนะ เขาพยายามจะช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายแล้วแต่ฉันปฏิเสธเพราะไม่อยากรบกวนอะไรขนาดนั้น ค่ารักษามันไม่ใช่ถูกๆ ที่สำคัญ...ฉันไม่อยากให้ครอบครัวเขามองว่าฉันคบกับเขาเพราะเงินด้วย ถ้าถึงขั้นจนตรอกจริงๆ ฉันถึงจะขอร้องเขาเรื่องนี้

            ส่วนเรื่องที่ว่าเราคบกันได้ยังไง...มันเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ตอนนั้นฉันทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในโรงแรม มีออเดอร์หนึ่งต้องไปเสิร์ฟริมสระน้ำ ฉันเผลอขึ้นเสียงใส่ลูกค้าไปเพราะหมอนั่นพยายามจะลวนลามฉัน เขาเลยผลักฉันลงไปในสระ ฉันเกือบตายแล้วถ้าไม่ได้จัสตินมาช่วยไว้ สิ่งที่ฉันกลัวที่สุดคือน้ำเนี่ยแหละ ไม่ว่าจะเป็นทะเล สระว่ายน้ำ หรืออะไรก็ตาม ทุกครั้งที่เห็นฉันจะผวาตลอด จากนั้นจัสตินก็ติดต่อฉันมาตลอดจนกระทั่งวันหนึ่งเขาขอฉันคบ ฉันก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรเพราะคิดว่าเขาก็เป็นคนที่ดีคนหนึ่ง

            กึก!

            คิดไปคิดมาไม่ทันได้ดูทาง พอรู้ตัวอีกทีก็มีรถเปิดประทุนคันสีแดงวิ่งมาจอดเทียบข้างซะงั้น คนขับที่ฉันรู้สึกเหมือนเพิ่งเจอกันไปถอดแว่นสีดำออกก่อนจะลงมาจากรถ ด้วยความตกใจจึงทำให้ขาตัวเองออกแรงวิ่งไปตามฟุตบาทโดยอัตโนมัติ พอหันไปมองข้างหลังก็พบว่าเขากำลังวิ่งตามฉันมา นัยน์ตาสีเทา ผมสีเทานั่น..ไม่ผิดแน่นอน! เคไนน์!!

            บ้าน่า! เขาตามฉันมาทำไม แค่เรื่องในผับยังไม่พออีกเหรอ!

            โอ๊ย!! และสุดท้ายเขาก็ไวกว่า..มือหนากระชากแขนฉันหลังจากวิ่งไปได้ไม่เท่าไหร่ ความเจ็บตรงจุดเดิมซ้ำรอยเดิมจนต้องเบ้หน้า ปล่อยฉันนะ!!  

            ปล่อยก็โง่แล้ว..เรามีเรื่องต้องเคลียร์กัน ไม่รู้หรือไง! เขาเหยียดยิ้มแล้วออกแรงดึงฉันไปที่รถเขา ฉันเองก็ต้านสุดแรงแต่เหมือนไม่มีประโยชน์เลย เขาไม่สนใจเลยใช่ไหมว่าฉันจะเจ็บแค่ไหน อีกอย่าง..เราก็ไม่เห็นจะมีอะไรต้องเคลียร์กันแล้วด้วย!

            ฉันไม่มีอะไรจะเคลียร์กับนาย ปล่อยฉัน!!

            แต่ฉันมี..เธอคงไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเล่นอยู่กับใคร!

            เล่นเหรอ..เขาพูดเรื่องบ้าอะไร! ฉันไปเล่นอะไรกับเขา ฉันไม่ได้อยากยุ่งเกี่ยวกับเขาด้วยซ้ำ พอเลิกงานนี่เขาก็ตามฉันมาเอง ฉันไม่ได้อยากจะเจอเขาเลย!

            เลือดที่ฝ่ามือกำลังซึมผ้าพันแผลออกมาคงจะเกิดจากแรงบีบของเขา ฉันเจ็บจนน้ำตาแทบไหลแต่ก็จะร้องไห้ไม่ได้ จนกระทั่งเขาพาฉันเกือบมาถึงรถนั่นแหละฉันก็ล้วงเจอมีดพกในกระเป๋าสะพายพอดี ไม่รอช้า..ฉันจัดการแทงมันไปที่ต้นแขนเขาจนชุดนักศึกษามีเลือดซึมออกมา

            เคไนน์ปล่อยแขนฉันแทบจะทันทีก่อนจะตวัดสายตามามองแบบเดือดจัด ฉันออกตัววิ่งอีกครั้ง คราวนี้ต้องหนีให้ได้..ถ้าหนีไม่ได้ฉันตายแน่ ดูเหมือนเขาจะโกรธสุดๆ เลย

            หากทว่าพอวิ่งหนีมาได้ไม่กี่ก้าวเขาตามมาจับแขนฉันไว้ทัน!

            กล้ามากนะ! ร่างสูงกระชากฉันเข้าไปใกล้ตัว นัยน์ตาสีเทาเบนไปมองกระเป๋าสะพายของฉันก่อนจะจับมันโยนไปกลางถนน ฉันมองเลือดบนต้นแขนเขาที่ออกมาอย่างรวดเร็วด้วยความตกใจและไม่กี่วินาทีต่อจากนั้นร่างสูงใหญ่ก็พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่เต็มไปด้วยความโมโห ..ฉันไม่ปล่อยเธอไว้แน่!

            นาย! กรี๊ดดดด!!! ฉันหวีดร้องเมื่อถูกยกขึ้นมาอยู่บนบ่าเขา ที่รู้สึกอายที่สุดคือต้นขาที่โผล่พ้นกระโปรงพลีทนั่นแหละ เขากำลังจับมัน! ตั้งแต่เกิดมาแค่จับมือนิดหน่อยยังไม่มีผู้ชายคนไหนทำกับฉันเลย แต่นี่เขา..ทุกอย่าง!!

            หลังจากทุบหลังเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย สุดท้ายตัวเองก็ถูกปล่อยลงบนรถฝั่งด้านข้างคนขับ ฉันกำลังจะรุดตัวลงจากรถแต่เขาก็เอื้อมไปดึงเข็มขัดนิรภัยมาผูกข้อมือฉันไว้ซะก่อน ไม่อยากบอกว่ามันแน่นมากจนแทบกระดิกไม่ได้

            ปล่อยฉันนะ! นายจะบ้าหรือไง! รู้ไหมว่านายกำลังทำอะไรเนี่ย!

            หุบปาก!! เขาตวาดครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินอ้อมไปนั่งฝั่งคนขับ เลือดเริ่มไหลจากต้นแขนลงมาเรื่อยๆ ไม่อยากนึกว่าเขากำลังเจ็บแค่ไหน แต่ก็คงไม่ต่างจากฉันหรอก..ฉันเองก็เจ็บที่มือนี่เหมือนกัน!

            ฉันไม่ไปกับนายนะ! นายจะพาฉันไปไหน!  

            อยากรู้เหรอ..รอดูสิ! รับรองว่าเธอจะไม่มีวันลืม! ฉันยังไม่เข้าใจประโยคนั้นแม้ว่าจะฟังรู้เรื่องก็ตาม ริมฝีปากตรงหน้าเหยียดยิ้มนึกสนุก ฉันเริ่มขนลุกนิดหน่อยเพราะลมที่ตีหน้ารวมไปถึงทั้งตัวหนาวเย็นราวกับน้ำแข็ง หัวใจตัวเองเต้นรัวเร็วเพราะความกลัวเริ่มคลืบคลานเข้ามา

            ทั้งหมดนี่มันเรื่องบ้าอะไรกันแน่! เขามีจุดประสงค์อะไรกัน!!

            และคำตอบทั้งหมดก็คลี่คลายเมื่อรถเลี้ยวเข้ามา ณ สถานที่แห่งหนึ่ง มันเป็นสถานที่ที่แค่เห็นด้านหน้าก็รู้ว่าคืออะไร ฉันเบิกตากว้างพยายามแกะมือตัวเองออกจากเข็มขัดแต่ก็ทำได้ยากเหลือเกิน ฉันรู้ตัวแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองบ้าง

            ที่นี่มัน...ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!” คิดว่าไง...ตรงหน้าฉันคือโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง พนักงานเปิดม่านให้เอารถเข้าไปจอด..จังหวะเดียวกับที่น้ำตาตัวเองเริ่มซึมขอบตา นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้วนะ มันไปกันใหญ่แล้ว! “นายจะทำแบบนั้นกับฉันไม่ได้นะ!!

            พอจอดรถใบหน้าคมคายก็หันมาสบตากับฉัน  มุมปากเขายกขึ้นนิดหน่อยเหมือนไม่ได้หยี่ระอะไรกับความตกใจของฉันแม้แต่น้อย วินาทีนี้ยอมรับเลยว่าฉันกลัวไปต่างๆ นานาว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

            “คิดว่าแคร์เหรอ.. ร่างสูงเอ่ยพร้อมนัยน์ตานิ่งสนิท ครั้งสุดท้ายแล้ว...น้ำตาฉันไหลออกจากขอบตาเกินกว่าจะอดกลั้น ประโยคต่อมาของเขาสร้างความหวาดกลัวให้เกิดขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่าตัวจริงๆ ..บอกแล้วไงว่าฉันจะทำให้เธอ ลืม ไม่ลง!

- LOADING 100% -

สงสารนางเอกดีไหม 5555555555555555

มาลุ้นกันต่อชาร์ปหน้า เขินเฮียเค >< /// 

ปล. อย่าลืมไปคุยกับติดตามนิยายได้ในเพจนะคะ <3

> ลิงก์เพจ <

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv แปลภาษาอาหรับ-ไทย lmyour แปลภาษา ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง แปลภาษาเวียดนามเป็นไทยทั้งประโยค Google Translate การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 4 หยน อาจารย์ ตจต เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf ห่อหมกฮวกไปฝากป้า คาราโอเกะ app แปลภาษาไทยเป็นเวียดนาม การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 3 บบบย ศัพท์ทหารบก แปลภาษาจีน การประปาส่วนภูมิภาค การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 1 ขุนแผนหลวงปู่ทิม มีกี่รุ่น ชขภใ ตม.เชียงใหม่ เซ็นทรัลเฟสติวัล พจนานุกรมศัพท์ทหาร รหัสจังหวัด อําเภอ ตําบล รหัสประจำจังหวัด 77 จังหวัด สอบโอเน็ต ม.3 จําเป็นไหม หนังสือราชการ ตัวอย่าง ห่อหมกฮวกไปฝากป้า คอร์ด อเวนเจอร์ส ทั้งหมด แปลภาษา มาเลเซีย ไทย ไทยแปลอังกฤษ ประโยค ่้แปลภาษา Egp G no Reconguista Google map ขุนแผนหลวงปู่ทิมรุ่นแรก ข้อสอบภาษาไทยพร้อมเฉลย ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง ค้นหา ประวัติ นามสกุล จองคิว ตม เชียงใหม่ ชื่อเต็ม ร.9 คําอ่าน ดีแม็กมือสองราคาไม่เกิน350000 ตัวอย่างรายงานการประชุมสั้นๆ