หลายๆ คนอาจสนใจให้บุตรหลานเรียนในวิชาชีพทางด้านไอที ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะคิดว่าอาชีพไอทียังมีโอกาสที่ดี จากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีดิจิทัลและการเข้ามาของระบบเอไอ แต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนสับสนคือสาขาทางด้านไอทีในมหาวิทยาลัยมีหลากหลายมาก เช่น สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ และล่าสุดก็มีคนพูดถึงสาขาวิทยาศาสตร์ข้อมูล
นอกจากนี้ เริ่มมีคำถามว่าจำเป็นต้องเรียนในหลักสูตรปกติเพื่อให้ได้ใบปริญญามาประกอบอาชีพหรือสามารถเรียนออนไลน์ได้ จากนั้นสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยหรือจบปริญญาทางด้านเหล่านี้
เรื่องนี้ยังมีความเข้าใจผิดคิดว่างานไอทีง่ายและคนไอทีทุกคนสามารถทำงานด้านไอทีได้สารพัดอย่าง แต่แท้จริงแล้ววิชาชีพทางด้านไอทีก็เหมือนวิชาชีพอื่น เช่นกันกับทางด้านการแพทย์ เศรษฐศาสตร์ที่มีสาขาย่อยจำนวนมาก และต้องการผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
การเรียนในระดับปริญญาตรีของสาขาไอทีอาจได้ความรู้พื้นฐานทางด้านไอทีเท่านั้น แต่การจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในแต่ละเรื่องนั้นต้องเรียนเจาะลึกและต้องมีประสบการณ์ในการทำงานพอสมควร
อาชีพไอทีในอนาคตก็ใช่ว่าจะสดใสไปทุกสาขา เพราะบางสาขาอาจมีความต้องการลดน้อยลงเช่นเดียวกับอาชีพอื่น โดยเฉพาะด้านที่ยังมีอนาคตที่ดี
ผมได้อ่านบทความจากหลายแหล่งซึ่งรวบรวมตำแหน่งงานด้านไอทีที่ยังต้องการอยู่จำนวนมาก และเป็นงานที่มีอนาคตค่อนข้างดีมี 10 ด้าน ดังนี้
1. Product Manager : งานที่ต้องการทักษะในการวางแผนเพื่อพัฒนาระบบไอที โดยต้องมีทักษะและความเข้าใจเรื่องของการจัดการบริหารโครงการและผลิตภัณฑ์ต่างๆ
2. AI Engineer : คนที่จะทำการบริหารจัดการและวางแผนการพัฒนาระบบเอไอให้กับองค์กรซึ่งจะต้องมีความรู้ทางด้านการพัฒนาโปรแกรมและทฤษฎีด้านเอไอต่างๆ
3. Software Developer : นักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่สามารถเขียนโปรแกรมได้ยังเป็นที่ต้องการอีกมาก โดยในปี 2566 มีการคาดการณ์ว่าทั้งโลกจะมีความต้องการคนทำงานในตำแหน่งนี้ถึง 27.7 ล้านคน
4. Cloud Architect : ในปัจจุบันการพัฒนาไอทีมุ่งสู่เทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้งมากขึ้นและตลาดงานต้องการคนที่มีทักษะและมีความรู้ในเรื่องของการออกแบบระบบไอทีที่ใช้ Public Cloud Computing ของค่ายดังๆ จำนวนมาก เช่น ไมโครซอฟท์, เอดับบลิวเอส และกูเกิล
5. DevOp Engineer : การพัฒนาซอฟต์แวร์ในปัจจุบันใช้เทคโนโลยีที่ทำให้ระบบการพัฒนาและการติดตั้งสามารถทำไปพร้อมกันได้ ซึ่งจำเป็นจะต้องมีความรู้ทางด้านการใช้เครื่องมือในกลุ่มที่เรียกว่า DevOp และแนวทางการพัฒนาซอฟต์แวร์แบบใหม่
6. Blockchain Engineer : เทคโนโลยีด้านบล็อกเชนจะถูกนำมาใช้ทางด้านการเงินและธุรกิจต่างๆ มากขึ้น และคาดว่าในปี 2566 จะมีการลงทุนโซลูชันทางด้านนี้ถึง 15.9 พันล้านดอลลาร์ ตำแหน่งงานทางด้านนี้จึงจะเป็นที่ต้องการอย่างมากในอนาคต
7. Software Architect : การที่มีผู้ใช้ไอทีมากขึ้นทำให้การออกแบบระบบซอฟแวร์มีความซับซ้อนขึ้น จึงต้องการผู้เชี่ยววชาญที่มีความเข้าใจสถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์ที่สามารถรองรับระบบขนาดใหญ่ได้
8. Big Data Engineer : ในปัจจุบันองค์กรจำนวนมากให้ความสำคัญกับเรื่องของการนำข้อมูลขนาดใหญ่มาวิเคคาะห์ จึงทำให้ตำแหน่งงานของคนที่มีทักษะทางด้านการจัดการข้อมูลและเข้าใจเทคโนโลยีใหม่ๆทางด้านข้อมูลขนาดใหญ่เป็นที่ต้องการมากขึ้น
9. IoT Solution Architect : เทคโนโลยีไอโอทีได้ถูกนำมาใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม จึงมีความต้องการคนที่มีทักษะในการออกแบบระบบไอโอทีสามารถเขียนโปรแกรมและนำเทคโนโลยีเอไอมาประยุกต์ใช้กับงานไอโอทีได้
10. Data Scientist : เป็นอาชีพที่หลายคนบอกว่าน่าสนใจที่สุดในปัจจุบันและกำลังเป็นที่ต้องการของตลาด เพราะธุรกิจต่างๆ ต้องการนำข้อมูลมาวิเคราะห์และคาดการณ์อนาคตต่างๆ
ตำแหน่งงานที่กล่าวมาทั้งหมดคืองานไอทีที่น่าสนใจในอนาคต จึงขอแนะนำให้คนที่สนใจจะทำงานในด้านไอทีได้ไปศึกษาเพิ่มเติมและมุ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่อย่างไรก็ตามอาชีพไอทีเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นคนทำอาชีพนี้ก็ต้องพร้อมที่จะปรับตัวเองและต้องเรียนรู้ไปตลอดชีวิต
เผยแพร่: 13 มี.ค. 2560 16:04 โดย: ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. รัฐกร พูลทรัพย์
ผศ.ดร.รัฐกร พูลทรัพย์
อาจารย์ประจำหลักสูตรการจัดการมหาบัณฑิต บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศ
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)
อาชีพอะไรดี อาชีพอะไรทำแล้วมีความสุขและมีรายได้ดี เป็นเรื่องที่เราทุกคนสนใจไม่ว่าท่านจะมีอายุเท่าไหร่ ในปัจจุบันการเลือกสายอาชีพที่ดีจะเป็นการสร้างโอกาสในอนาคตให้กับท่านและคนรอบตัวของท่านได้เป็นอย่างดี หลายๆ ท่านคงสงสัยว่าเป็นเพราะเหตุใด เรามาลองพิจารณาดูว่า หากท่านเรียนในสายอาชีพที่กำลังขาดแคลนและเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน ย่อมเป็นที่แน่ชัดว่าท่านจะมีงานทำ มีรายได้ดี และมีสิทธิ์ในการเจรจาต่อรองกับนายจ้างได้ ตัวอย่างเช่น สายอาชีพแพทย์ เป็นสายอาชีพที่ขาดแคลนและเป็นที่ต้องการมาตลอด แต่อย่างที่ทราบนะครับว่า ถึงแม้ว่าแพทย์จะเป็นสายอาชีพที่มีรายได้ดี แต่ก็ทำงานหนัก เมื่อนำมาคำนวณเวลาทำงานเทียบกับรายได้แล้ว รายได้ของสายอาชีพแพทย์ก็อาจจะไม่ได้สูงไปกว่าสายอาชีพอื่นๆ เลย หลายท่านคงสนใจว่ามีสายอาชีพอื่นๆ อีกไหม ที่กำลังขาดแคลน เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน มีรายได้ดี และทำงานไม่หนักเกินไป ซึ่งสามารถทำให้ท่านทำงานและใช้ชีวิตได้อย่างคุ้มค่า
ในอดีตที่ผ่านมาไม่นานนี้ มีหลายอาชีพใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นมาตามยุคสมัยและวิวัฒนาการของเทคโนโลยีที่ปรับเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว สาขาหนึ่งในอดีตที่น่าสนใจ คือสายอาชีพด้านคอมพิวเตอร์ ในช่วงปี ค.ศ.1995-2001 สายอาชีพด้านคอมพิวเตอร์เป็นสายอาชีพที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะสายนักพัฒนาโปรแกรมและซอฟต์แวร์ เป็นยุคที่มีการลงทุนกับการพัฒนาซอฟต์แวร์บนเว็บไซต์ต่างๆ จำนวมมาก เรียกว่า ยุคด็อทคอม (Dot-Com) ในช่วงเวลาดังกล่าว คนที่ได้เรียนในสายอาชีพคอมพิวเตอร์ จะหางาน ได้งาน รายได้ดี มีการแย่งตัวบุคลากรที่มีความสามารถ มาทำงานในบริษัทใหม่ๆ (IPO) ซึ่งสมัยนี้อาจจะเรียกได้ว่า เป็นบริษัทสตาร์ทอัพ ก็ว่าได้ ในช่วงดังกล่าวมีชาวอินเดียจำนวนมากที่สนใจศึกษาในศาสตร์ด้านคอมพิวเตอร์และได้งานตำแหน่งดีๆ ในบริษัทใหญ่ๆ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นจำนวนมาก จนบางคนสามารถย้ายถิ่นฐานไปทำงานในประเทศสหรัฐอเมริกา มีรายได้ที่ดีและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น นี่ก็นับได้ว่าเป็นโอกาสที่ดีของกลุ่มคนดังกล่าวที่เลือกสายอาชีพได้เหมาะสมกับช่วงเวลาและความต้องการ
อีกตัวอย่างหนึ่งของสายอาชีพที่น่าสนใจในอดีตที่ผ่านมา คือ สายอาชีพนักคณิตศาสตร์ประกันภัย ซึ่งในภาษาอังกฤษเรียกว่า Actuary อาจจะเป็นสายอาชีพที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก แต่ก็เป็นสายอาชีพที่ดี แต่ขาดแคลนและเป็นที่ต้องการมาตลอดเช่นกัน สายอาชีพดังกล่าวเริ่มได้รับความนิยมตั้งแต่ประมาณปี ค.ศ. 2000 เป็นต้นมา ซึ่งเป็นสายอาชีพที่ทำงานด้านการคำนวณเบี้ยประกันภัยและวิเคราะห์ความเสี่ยงด้านการเงินต่างๆ ของบริษัทประกันภัย หากสามารถสอบได้ประกาศนียบัตรของสมาคม Society of Actuary บุคคลดังกล่าวก็จะมีรายได้ประมาณ 5-8 ล้านบาทต่อปี ในช่วงปี 2000 หากท่านใดเลือกเรียนในสายอาชีพดังกล่าวก็จะสามารถหางานทำได้ง่าย รายได้ดี และมีชีวิตการทำงานที่ดี แต่การทำงานในสายอาชีพดังกล่าว จำเป็นต้องชอบเรียนด้านคณิตศาสตร์และสถิติจึงจะประสบความสำเร็จ ในยุคนั้นคนจีนที่มีพื้นฐานด้านคณิตศาสตร์ที่ดี ได้แห่กันมาเรียนในสายอาชีพนี้กันจำนวนมาก เป็นโอกาสให้คนจีนหลายๆ คนได้ย้ายไปทำงานในประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศอื่นๆ ทั่วโลก
จุดนี้ก็มาถึงคำถามอันสำคัญว่า สายอาชีพอะไรต่อไปที่จะสร้างความรุ่งเรืองให้กับชีวิตและหน้าที่การทำงานของเรา ในปัจจุบันหลายๆ ท่านจะเห็นได้ว่า เรื่องราวของเทคโนโลยีนั้นมีอะไรเข้ามาใหม่ๆ มากมาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์อย่างมาก สังเกตได้จากในยุคนี้ คนในสังคมเมืองนั้นติดโทรศัพท์มือถือกันมาก ใช้ทุกที่ ทุกเวลา พอมีเวลาว่างก็จะหยิบโทรศัพท์มือถือมาดูตลอด ปรากฏการณ์ดังกล่าวทำให้รูปแบบของธุรกิจเปลี่ยนแปลงไป บางธุรกิจก็ล้มไป เช่น ร้านอัดขยายรูปภาพและร้านเช่า Video คนสมัยใหม่นิยมซื้อของ Online มากขึ้น ทำให้เกิดธุรกิจสตาร์ทอัพใหม่ๆ ขึ้นมาจำนวนมาก เพื่อรองรับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของสังคมและวิถีการดำเนินชีวิตของคนในยุคนี้ ในอนาคตอันใกล้เราจะเห็นได้ว่า ระบบคอมพิวเตอร์มีความอัจฉริยะมากขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากสาขาวิชาด้านปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) หรือ เอไอ (AI) ที่สร้างคอมพิวเตอร์ให้สามารถฟังและพูดได้เหมือนคน รถยนต์ที่ขับได้เอง โดรนบินส่งของ หุ่นยนต์ทำงานและกู้ภัยต่างๆ กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขายกันดาษดื่นเต็มไปหมด หากเราลองมาดูว่าสายอาชีพใดเป็นสายอาชีพที่ดี ที่สามารถรองรับธุรกิจและความต้องการในอนาคต อาจจะดูได้จากอาชีพยอดนิยม 10 อันดับในประเทศสหรัฐอเมริกา ปี 2016 จัดทำโดยเว็บไซด์ในประเทศสหรัฐอเมริกาชื่อ
Careercast.comได้มีการจัดอันดับสายอาชีพยอดนิยม ดังนี้
1. Data Science (วิทยาการข้อมูล) คือสายอาชีพใหม่ที่น่าสนใจ มุ่งเน้นด้านการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อที่จะหาความรู้จากข้อมูลที่มีมากมายในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นจากใน Social Network หรือ Sensor รับข้อมูลต่างๆ รวมถึงรูปภาพ คลิปวิดีโอจากกล้องต่างๆ ด้วย ความรู้ที่ได้มาจากข้อมูลดังกล่าวสามารถนำมาคาดการณ์แนวโน้มต่างๆ ในอนาคต กำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย จดจำรูปแบบการใช้หรือซื้อสินค้า Online เพื่อกระตุ้นการซื้อสินค้าให้มากขึ้น เป็นต้น นอกจากนี้ในแง่ของการทำงานของหุ่นยนต์ ยังอาศัยการวิเคราะห์ข้อมูลจาก Sensor ต่างๆ ในศาสตร์นี้ประกอบกับศาสตร์ด้านปัญญาประดิษฐ์ เพื่อตอบสนองและควบคุมการทำงานของหุ่นยนต์ให้เป็นไปตามเป้าหมาย ในปัจจุบันสายอาชีพดังกล่าวจึงได้รับความนิยมสูงสุด มีรายได้เฉลี่ยประมาณ 4-5 ล้านบาทต่อปี และคาดว่าจะมีความต้องการบุคลากรด้านนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 16%
2. Statistician (นักสถิติ) คือสายอาชีพด้านสถิติ ก็ยังคงบทบาทสำหรับศาสตร์การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ในเชิงสถิติและการจัดการ สาเหตุก็เช่นเดียวกับสายอาชีพ Data Science เนื่องจากปัจจุบันมีข้อมูลเป็นจำนวนมากเกินกว่าศักยภาพของคนที่จะวิเคราะห์และสรุปข้อมูล ศาสตร์ด้านสถิติจึงเป็นเครื่องมือช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูล สรุปข้อมูล และทำนายข้อมูล สายอาชีพนี้มีรายได้เฉลี่ยประมาณ 2-3 ล้านบาทต่อปี แต่มีอัตราการขยายตัวสูงมากถึง 34% นับเป็นหลักฐานที่ชัดเจนให้เห็นว่าธุรกิจในประเทศสหรัฐอเมริกา ใช้ข้อมูล สารสนเทศ และสถิติในการจัดการและบริหารงานมากกว่าการคาดเดาและประเมินสถานการณ์จากผู้ที่มีประสบการณ์ ทั้งนี้เนื่องจากการให้บริการธุรกิจในปัจจุบันมีการใช้ Web/Mobile Application เป็นหลักในการให้บริการ ประชากรหลักล้านทำงานอยู่บน Web/Mobile Application พร้อมๆ กันจากทั่วโลก ข้อมูลปริมาณมาหาศาลถูกส่งไปมาเพื่อประกอบการทำธุรกรรมต่างๆ ซึ่งเป็นการยากเกินกว่าผู้บริหารจะเข้าไปทำความเข้าใจ รูปแบบต่างๆ ของธุรกรรมที่เกิดขึ้น ดังนั้นการบริหารงานสมัยใหม่จึงต้องใช้สถิติล้วนๆ ในการจัดการ ยกตัวอย่าง เช่น ในสมัยก่อน ธนาคารก็จะเน้นให้เปิดสาขาเพื่อบริการลูกค้า ผู้จัดการสาขาของธนาคารก็สามารถเข้าไปสำรวจ หรือ สังเกตพฤติกรรมการทำงานและการให้บริการ เพื่อใช้ในการปรับปรุงการให้บริการได้ แต่ในปัจจุบันลูกค้าใช้บริการผ่าน Application ทั้งบน PC ผ่าน Browser และ Mobile Application บนโทรศัพท์มือถือ ผู้จัดการสาขาก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเข้าไปสำรวจหรือสังเกตพฤติกรรม เพียงแต่ดูข้อมูลสรุปทางสถิติให้เข้าใจ ก็สามารถดำเนินการปรับปรุงให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ ดังนั้น ข้อมูลและสถิติจึงเป็นหัวใจของการเปลี่ยนแปลงการทำงานในยุคสมัยนี้
3. Information Security Analyst (นักวิเคราะห์ความมั่นคงสารสนเทศ) คือ สายอาชีพที่น่าสนใจเช่นกัน การควบคุมความมั่นคงระบบสารสนเทศขององค์กรกลายเป็นปัจจัยสำคัญ ในการป้องกันผู้ไม่พึงประสงค์ที่เข้ามาแอบขโมยข้อมูลขององค์กร เข้ามาแกล้งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ขององค์กรล่ม เพื่อไม่สามารถให้บริการกับลูกค้าต่างๆ ได้ สายอาชีพนี้จะต้องเรียนรู้วิธีการติดตั้งอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ต่างๆ ที่ช่วยป้องกันภัยคุกคาม ไม่ให้มีรูรั่วในระบบคอมพิวเตอร์อันจะเป็นช่องโหว่ให้ถูกเข้ามาโจมตีได้ รวมไปถึงการวางแผนและวิเคราะห์ข้อมูลด้านความปลอดภัยต่างๆ ในองค์กรด้วย ท่านผู้อ่านลองพิจารณาตามดูว่า หากเราประกอบกิจการ ทำธุรกรรม E-Commerce เช่นซื้อขายสินค้าออนไลน์ เวลาทุกนาที ทุกชั่วโมงนั้นมีความหมายสำหรับการ ดูสินค้า สั่งสินค้า และติดตามสถานะการส่งสินค้าของลูกค้าจำนวนหลายหมื่นคนต่อวัน ถ้าหากระบบคอมพิวเตอร์เราเสีย เนื่องจากมีบุุคคลภายนอกแกล้งเขียนโปรแกรมเข้ามาทำลายเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราโดยส่งข้อความจำนวนมหาศาลมาที่คอมพิวเตอร์ของเราให้ทำงานไม่ไหว จนไม่สามารถให้บริการลูกค้าอื่นๆ ได้ หรืออาจจะส่งผลให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของเราหยุดทำงานไปสัก 2-3 ชั่วโมง ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับบริษัทจะมีมากน้อยเพียงไร นอกจากนี้หากมีผู้ไม่ประสงค์ดีแอบเข้ามานำข้อมูลบัตรเครดิตของลูกค้าเราไปชำระเงินโดยใช้ชื่อสินค้าและบริการต่างๆ ธุรกิจของเราก็จะเสียหาย ดังนั้นจึงเกิดความต้องการบุคลากรในสายอาชีพนี้ที่จะต้องได้รับการฝึกฝนนานหลายปี จึงจะเข้าใจรูปแบบการโจมตีที่หลากหลาย เข้ามาทำงาน และทำหน้าที่ป้องกันภัยให้เราได้ เปรียบเสมือน รปภ. ที่ดูแล อาคารสถานที่ แต่ต้องเป็น รปภ. ที่มีความรู้และทักษะด้านการระวังภัยด้าน Cyber Security สายอาชีพนี้จะมีรายได้ประมาณ 3 ล้านบาทต่อปี และอัตราการขยายงานประมาณ 18%
4. Audiologists (นักโสตสัมผัสวิทยา) เป็นผู้เชี่ยวชาญในการวิจัย, วินิจฉัยและรักษาปัญหาที่เกี่ยวข้องกับหู เนื่องจากสังคมได้เปลี่ยนเป็นสังคมของผู้สูงอายุมากขึ้น และหูเป็นอวัยวะที่มีปัญหาเรื้อรังในกลุ่มผู้สูงอายุ ดังนั้นจึงต้องการผู้เชี่ยวชาญด้านนี้เป็นจำนวนมากเพื่อดูแลผู้ป่วย รายได้ของนักโสตสัมผัสวิทยาในประเทศสหรัฐอเมริกาจะอยู่ที่ 3 ล้านบาทต่อปี และมีอัตราการขยายตัวประมาณ 29%
5. Diagnostic Medical Sonographer (นักวินิจฉัยทางการแพทย์) สายอาชีพนี้ถูกคาดการณ์ว่าจะมีความต้องการเพิ่มขึ้นประมาณ 24% เนื่องจากความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีของอุปกรณ์ Ultrasound ซึ่งมีความจำเป็นจะต้องมีผู้เชี่ยวชาญวินิจฉัยผลการตรวจ ซึ่งสายอาชีพนี้จะมีรายได้ประมาณ 2 ล้านบาทต่อปี
6. Mathematician (นักคณิตศาสตร์) เป็นสายอาชีพดั้งเดิม ที่ยังคงสร้างรายได้ดี และมีความต้องการสูงในประเทศสหรัฐอเมริกา ในปัจจุบันนักคณิตศาสตร์ถูกจ้างงานน้อยมาก อัตราการขยายตัวและความต้องการในตลาดแรงงานด้านนักวิเคราะห์ทางคณิตศาสตร์จะเพิ่มมากขึ้นในช่วง 10 ปีที่จะถึงนี้ ความต้องการส่วนใหญ่จะอยู่ในภาควิชาการ จนถึงในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งสายอาชีพนี้จะมีรายได้ประมาณ 3.5 ล้านบาทต่อปี
7. Software Engineer (นักพัฒนาซอฟต์แวร์) เป็นสายอาชีพที่ติดอันดับหนึ่งมาหลายปี และเป็นที่แน่นอนว่าคนที่เรียนสาขานี้จะมีงานเข้ามาให้ทำจนล้นมือเลยทีเดียว สายอาชีพมีความต้องการในตลาดแรงงานสูงเนื่องจาก ต่อไประบบซอฟต์แวร์จะครองโลก หมายความว่าอุปกรณ์ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์เครื่องกล อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จะใช้ซอฟต์แวร์เป็นตัวควบคุมการทำงานและรายงานสถานะให้กับอุปกรณ์ตัวอื่นๆ ทราบเพื่อประสานการทำงานกันอย่างลงตัว อย่างในปัจจุบันได้มีการสร้าง Smart City ซึ่งเป็นรูปแบบการประยุกต์เทคโนโลยีดิจิทัล หรือข้อมูลสารสนเทศและการสื่อสารในการเพิ่มประสิทธิภาพ และคุณภาพของบริการชุมชน เพื่อช่วยลดต้นทุน และลดการบริโภคของประชากร โดยยังคงเพิ่มประสิทธิภาพให้ประชาชนสามารถอยู่อาศัยในคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ เช่น ข้อมูลการจราจรและขนส่งแบบ Real-Time สายอาชีพดังกล่าวเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาระบบต่างๆ เพราะถือว่าเป็นแกนกลางในการพัฒนาระบบ เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลสารสนเทศ และผลลัพธ์ที่ถูกต้อง สามารถนำไปใช้งานได้รวดเร็วตรงตามวัตถุประสงค์ นอกจากนี้ยังมีศาสตร์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีกมากมาย เช่น Augmented Reality เป็นเทคโนโลยีที่สร้างภาพเสมือนผสมผสานภาพจริง ทำให้เกินนวัตกรรมใหม่ๆ ในอนาคตอันใกล้เราอาจจะใส่แว่นตาเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์อยู่สถานที่ใดก็ได้ในโลก จากนโยบายของภาครัฐในประเทศไทยเรื่อง Thailand 4.0 จะมุ่งเน้นให้ประเทศไทยพัฒนาศักยภาพด้านเทคโนโลยีดิจิทัลลงไปยังภาครัฐและเอกชน ให้ดำเนินกิจการสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น ดังนั้นสาขานี้จะเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยมีรายได้ประมาณ 3.5 ล้านบาทต่อปีในประเทศสหรัฐอเมริกา และมีอัตราการขยายตัวประมาณ 17%
8. Computer System Analyst (นักวิเคราะห์ระบบคอมพิวเตอร์) สายอาชีพนี้ก็เช่นกัน มีความต้องการในตลาดแรงงานสูงต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลานับ 10 ปี ลักษณะงานก็คือ เข้าไปศึกษาระบบการทำงานของหน่วยงานหรือองค์กร เพื่อแสวงหาแนวทางในการปรับปรุงการทำงาน หรือการดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพสูงสุด บุคลากรที่จะเรียนในสายอาชีพนี้จะต้องมีทักษะในด้านการสื่อสารและการวิเคราะห์เป็นอย่างดี สามารถนำเอาเทคโนโลยีในปัจจุบันมาประยุกต์ใช้ในการทำงานให้เกิดประสิทธิผล นอกจากนี้ยังต้องมีความสามารถในการออกแบบโปรแกรมและประสานงานกับ นักพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อผลิตผลงานที่มีคุณภาพและสอดคล้องกับการทำงานของธุรกิจ สายอาชีพนี้มีรายได้ประมาณ 2.8 ล้านบาทต่อปี และมีอัตราการขยายตัวอยู่ที่ 21%
9. Speech Pathologist (นักแก้ไขการพูด) คือสายอาชีพสำหรับผู้ที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการวินิจฉัย การบำบัดรักษา และฟื้นฟูผู้ป่วยที่มีความผิดปกติทางภาษาและการพูด เช่น พูดไม่ได้ พูดไม่ชัด เสียงผิดปกติ สายอาชีพนี้ในประเทศสหรัฐอเมริกาจะมีรายได้ประมาณ 2.5 ล้านบาทต่อปี และมีอัตราการขยายตัวอยู่ที่ 21% เช่นกัน
10. Actuary (นักคณิตศาสตร์ประกันภัย) สายอาชีพนี้ได้อธิบายรายละเอียดไว้ข้างต้นบทความนี้แล้วว่าลักษณะงานเป็นอย่างไร ในยุคนี้ก็ยังคงเป็นหนึ่งในสายอาชีพที่มีความต้องการสูงอยู่ โดยมีรายได้ประมาณ 2.5 ล้านบาทต่อปี และมีอัตราการขยายตัวอยู่ที่ 21% เช่นกัน
ถ้าท่านได้อ่านมาถึงช่วงสุดท้ายนี้ ท่านจะพบว่ามีสายอาชีพใหม่ๆ ที่น่าสนใจเกิดขึ้นมากมาย หากท่านเลือกเรียนในสายอาชีพที่มีความต้องการของตลาดสูง ย่อมเป็นตัวบ่งชี้ว่าท่านจะมีหน้าที่การงานที่ดี รายได้ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดี และสามารถสร้างคุณค่าให้กับครอบครัวและสังคมได้ สุดท้ายนี้ท่านผู้อ่านหลายท่านที่สนใจ อาจจะไม่ทราบว่าสายอาชีพดังกล่าวสามารถเรียนโทต่อได้ โดยคณะสถิติประยุกต์ นิด้า
//as.nida.ac.th/gsas/ เป็นหนึ่งในหลายมหาวิทยาลัยที่มีการจัดการเรียนการสอนป.โทในสายอาชีพข้างต้น ถึง 7 สาขาวิชา คือ Data Science,
Business Analytics and Intelligence, Statistics, Information Security Analyst, Software Engineer, Computer System Analyst, และ Actuarial Sciences and Risk Management ซึ่งจัดได้ว่าเป็นคณะที่มีการเรียนการสอนในสายอาชีพยอดนิยมดังกล่าวอยู่ในคณะเดียวกัน ก่อให้เกิดการบูรณาการด้านการศึกษาและส่งเสริมให้ผู้เรียนมีทักษะและความรู้ที่จะไปประกอบอาชีพในสายอาชีพดังกล่าวต่อไปได้อย่างประสบความสำเร็จ อนาคตของท่านขึ้นอยู่กับการตัดสินใจเรียนต่อของท่านในวันนี้
ว่ามันจะสร้างโอกาสในการประสบความสำเร็จให้ท่านมากน้อยแค่ไหน