ไปยุโรปกับทัวร์

สวัสดีค่าาา!!!! วันนี้แอดฯ จะมารีวิว การไปเที่ยวยุโรป [ อิตาลี สวิตฯ ]ฉบับไปพร้อมทัวร์ ครั้งแรก เย้++++++  ทริปนี้ มีชื่อว่า อิตาลี สวิตเซอร์แลนต์ ตะลุยทิตลิส พิชิตสแตนเซอร์ฮอร์น Go On ริกิ เป็นยังไงค่ะ แค่ชื่อทริปก็ติ่นเต้นแล้ว ทริปนี้เราจะเดินทางทั้งหมด 7 วัน 4 คืนนะคะ ตั้งแต่ วันที่ 13-19 พ.ย.2562 โดยสายการบินเอมิเรตส์ค่ะ ถ้าพร้อมแล้ว มาเริ่มเดินทางกันเลย!!!!!!

อันดับแรก ขอเริ่มตั้งแต่ช่วงทำวีซ่าเลยนะคะ เนื่อจากทริปนี้ต้องยื่นวีซ่าเชงเก้นประเทศอิตาลีค่ะ เพราะอยู่อิตาลีนานสุด สำหรับเรื่องวีซ่า ถ้าไปกับทัวร์ไม่ต้องกลัวว่าจะยุ่งยากค่ะ เพราะ ทางบริษัททัวร์จะนัดวันยื่นให้ลูกค้าเอง พูดง่ายๆคือ ลูกค้ามีหน้าที่แค่เตรียมเอกสารเท่านั้น และในกรณีที่ต้องมีการแสดงตัวตนที่สถานฑูตก็รอวัน เวลานัดหมายจากทางบริษัททัวร์ค่ะ

ตัวอย่างวีซ่าเชงเก้น

ปล. เมื่อจ่ายค่าทัวร์ครบแล้ว วีซ่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางบริษัททัวร์จะมีใบเตรียมตัวให้ลูกค้า ก่อนเดินทาง 5-7 วัน

เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็ไปกันเลยยยย!!!!!!

 DAY 1 [ วันพุธ ที่ 13 พ.ย. 62 ]

วันแรกก็จะติ่นเต้นมากเป็นพิเศษ นี่ขนาดยังไม่ได้ก้าวขึ้นเครื่องนะยังตื่นเต้นขนาดนี้ 555+ มาเข้าเรื่องกันเถอะ สถานที่ตามนัดหมายคือ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น4 ประตู9 แถวT สายการบินเอมิเรตส์ (EK) เวลา 17.00 น.  พอถึงสนามบินก็สังเกตป้ายต้อนรับของบริษัททัวร์ตามที่แจ้งในใบเตรียมตัวไว้นะคะ จะมีไกด์รอตอนรับอยู่ค่ะ จากนั้นไกด์ก็จะอธิบายนู้น นี่ นั่น แบบคร่าวๆ ให้เราฟังและให้ตั๋วเครื่องบิน (Boarding Pass) จำนวน 2 ใบ  ( ใบแรก : กรุงเทพ-ดูไบ ใบที่สอง ดูไบ-มิลาน ) เนื่อจากทริปนี้มีการพักเครื่องที่ดูไบค่ะ เมื่อได้รับตั๋วเครื่องบินแล้ว ก็ไปโหลดกระเป๋าได้จ้า ก็จะมีพนักงานส่งกรุ๊ปของบริษัททัวร์พาเราไปโหลดกระเป๋าที่เคาเตอร์สายการบินจ้ะ ไม่ต้องห่วงว่าจะไปไม่ถูก เมื่อถึงเค้าเตอร์สายการบินก็ยื่นตั๋วเครื่องบินและพาสปอร์ตให้พนักงานสายการบิน เพื่อทำการเช็คอินและโหลดกระเป๋า ตอนชั่งกระเป๋าก็ลุ้นมากว่าน้ำหนักจะเกินมั้ย เพราะสายการบินเอมิเรตส์ จำกัดน้ำหนัก ไม่เกิน 30 กก. หรือหากเกินนิดหน่อยก็สามารถแชร์กับคนในกรุ๊ปได้จ้าาาา แต่สรุปว่า ไม่เกินจ้ารอด เมื่อทำทุกอย่างเรียบร้อย ก็ไปผ่านกระบวนการตม.กันค่ะ (กระบวนการนี้ไม่สามรถถ่ายรูปได้นะคะ ห้ามเผลอเซลพี่กันนะ) จากนั้นก็ไปเดินเล่น นอนเล่น นั่งเล่น หรือทำอะไรก็ได้อะ 555++ ระหว่างรอขึ้นเครื่อง แต่ดูเวลาดีดีนะ อย่าทำอะไรจนเพลินนะ แนะนำว่าให้เข้าเกท(Gate) ก่อนเครื่องออกประมาณ 30 นาทีค่ะ ระหว่างที่รอ รอ รอ รอ มาได้สักพัก ก็ถึงเวลาอันเป็นสมควรแล้ว ไปขึ้นเครื่องกันเลยยย!!!!!!!

     บรรยากาศบนเครื่องบิน (EK373 : กรุงเทพ-ดูไบ)

ในขณะที่เรากำลังจะขึ้นเครื่อง จะมีพนักงานเช็คความถูกต้องของตั๋วว่า คุณมาถูกเกท(Gate)มั้ย ใช่เครื่องบินที่คุณจะเดินทางหรือป่าว บลาๆ โดยยื่นตั๋วให้พนักงานตรวจใบเดียวพอค่ะ ของแอดฯ คือไฟล์ EK373 (กรุงเทพ-ดูไบ) ก่อนเข้าสู่เครื่องบิน ตรงประตูเครื่องก็จะมีพนักงานตอนรับ และคอยแจ้งว่าเราจะต้องเดินไปทางไหนต่อ เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายบนเครื่อง

เมื่อถึงที่นั่งของเรา ก็จะเห็นว่ามีอุปกรณ์ต่างๆวางอยู่บนที่นั่ง สิ่งเหล่านั้น คือ หูฟัง หมอนเล็กๆ และผ้าห่ม หากไม่มีอย่างใดอย่างหนึ่งสามารถแจ้งพนักงานบนเครื่องได้ค่ะ สำหรับใครที่เป็นคนนอนดึก ชอบดูหนัง บนเครื่องก็จะมีสื่อความบันเทิงบนเครื่อง ฟังชั่นนี้ เรีกว่า ICE (ไอซ์)

     สาระน่ารู้ เกี่ยวกับ (ICE) ไอซ์ บนเครื่องบิน (เฉพาะสายการบินเอมิเรตส์)

     I คือ Information ประกอบไปด้วยข้อมูล เช่น ระยะเส้นทางการบิน ระยะเวลาถึงจุดกมาย กล้องติดเครื่องบิน เป็นต้น

     C คือ Communications ประกอบไปด้วยข้อมูล สื่อสังคมต่างๆ เช่น วิทยุ สำนักข่าวCNN สำนักข่าวBBC เป็นต้น     

     E คือ Entertainment ประกอบไปด้วยข้อมูล เช่น หนังต่างประเทศหลากหลายสัญชาติ ไม่ว่าจะเป็นหนังเก่าหรือหนังใหม่มีหมด

พอเครื่องขึ้นได้สักพัก ก็ถึงเวลาที่รอคอยค่ะ 555++ นั่นคือ ช่วงบริการอาหารและเครื่องดื่ม ก่อนอาหารจะมาเสิร์ฟ พนักงานจะเดินแจกเมนูอาหารว่ามีอะไรบ้าง มื้อนี้ประกอบไปด้วยไก่พริกไทยดำ+มันบด ของหวาน น้ำเปล่า ขนมปัง เนย และแยมสตอเบอรี่  ถ้าถามเรื่องรสชาติ ก็โอเคค่ะ ถืออว่าถูกปากคนไทยอยู่ ให้ผ่าน เมื่อท้องเริ่มอิ่ม หนังตาก็เริ่มหย่อน ก็หลับยาวๆ รอถึงดูไบ

บรรยากาศการเดินทางไปต่อเครื่องในสนามบินดูไบ ก่อนไปขึ้นรถไฟ

     บรรยากาศบนรถไฟฟ้า ขณะเดินทางไปอาคารสำหรับผูโดยสารที่จะต่อเครื่อง

หลังจากที่หลับบนเครื่องหลายตื่นมาก ในที่สุด เราก็เดินทางมาถึงสนามบินดูไบ เวลา 00.05 น. (เวลาท้องถิ่น) สนามบินดูไบ เป็นสนามบินที่กว้างมากและซับซ้อนมาก ต้องนั่งรถไฟฟ้า เพื่อเปลี่ยนอาคาร ไปยังเกทที่เราจะต่อเครื่อง แต่ถ้าไปกับบริษัททัวร์ไม่ต้องกลัวว่าจะหลงค่ะ เพราะไกด์จะพาเราไปยังเกทอย่างปลอดภัยและทันเวลาแน่นอน เรามีเวลาพักเครื่องประมาณ 2 ชม. ระหว่างนี้ก็ทำภารกิจส่วนตัวให้เรียบร้อย แล้วใครจะนอนพักหรือไปเดินเล่นก็ตามสบายค่ะ แต่แอดฯ ขอนอนเก็บแรงก่อนนะ อิอิ อ่อ!!! ลืมบอก สนามบินดูไบมี Wifi ฟรี 1 ชม. นะคะ พอหลับได้หนึ่งตื่นก็ได้เวลาขึ้นเครื่องพอดี ไปค่ะ ขึ้นเครื่องไปมิลานกันดีว่า!!!! เย้++++++++

บรรยากาศบนเครื่องบิน (EK101 : ดูไบ-มิลาน)

ขณะที่เรากำลังจะขึ้นเครื่อง ก็จะมีพนักงานเช็คความถูกต้องของตั๋วอีกเช่นเคย โดยรอบนี้ยื่นตั๋วให้พนักงานตรวจใบเดียวพอค่ะ คืออีกใบที่ยังเหลืออยุ่ ของแอดฯ คือไฟล์ EK101 (ดูไบ-มิลาน) ก่อนเข้าสู่เครื่องบิน ตรงประตูเครื่องก็จะมีพนักงานตอนรับ แต่จะเป็นเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ Hello!! Hi!! และคอยแจ้งว่าเราจะต้องเดินไปทางไหนอีกเช่นเคย เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายบนเครื่อง ส่วนบรรยากาศบนเครื่องบิน (EK101) ก็เหมือนเดินค่ะ แค่เครื่องบินลำเล็กกว่าเดิม แต่ขนาดความกว้างที่นั่งเท่าเดิมนะคะ นั่งสบาย แต่แอดฯ รู้สึกโชคดีตรงที่ว่าแถวที่นั่ง แอดฯได้นั่งคนเดียวจ้า ยาวๆไปเลยยย  เอ้ย!!!!!  เรียกว่านอนคนเดียวยาวๆเลยดีกว่าค่ะ555+++

พอเครื่องขึ้นได้สักพักก็มีการเสิร์ฟอาหารอีกครั้ง มื้อนี้จะเป็นมันฝรั่ง+มัดบด และซอสอะไรสักอย่าง บอกไม่ถูก แต่รสชาติก็โอเคนะคะ อาหารมื้อนี้จะดูมีเครื่องเทศเข้ามีผสม แล้วก็มีขนมปัง+แยม+เนย และผลไม้ตบท้าย บอกได้ว่ามีความอิ่มหนำสำราญมากก 555+ หลังจากที่ท้องอิ่ม ความง่วงก็มาเยือนอีกครั้ง แล้วแอดฯ ก็หลับยาวจริงๆ จนถึงสนามบินมิลาน……….. เดี่ยวเจอกันที่สนามบินมิลาน EP.2 นะคะ

————————————————————————-

เป็นยังไงกันบ้างค่ะ จบไปหนึ่งวัน กับการเริ่มต้นทริปยุโรป [ อิตาลี สวิตฯ ] ครั้งแรก ฉบับไปพร้อมทัวร์ EP.1 วันแรกๆ ก็จะเพลียหน่อยนะคะ แต่รับรองว่า EP.2 เที่ยวแบบจัดเต็มแน่นอนค่ะ จะไปเที่ยวไหนบ้างรอชมได้เลยค่าาา

บริษัทใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสบการณ์และความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ ให้สามารถเข้าถึงง่าย สะดวกในการใช้งาน และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การกด “ยอมรับ” ถือว่าคุณได้อนุญาตให้เราใช้คุกกี้ ตามนโยบายคุกกี้ของบริษัท Read More