บ้านขนมระฆังทอง ถนนวิจิตรนคร ร้านของฝากของจังหวัดศรีสะเกษ เด่นดังเรื่องขนมรูปทรงดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์จังหวัด คือ 'ขนมดอกลำดวน' เป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน หวานน้อย กรอบนุ่ม นอกจากความอร่อยแล้ว ยังมีสีสวยหวานละมุนอีกด้วย แพ็คเกจดูดีเหมาะเป็นของฝากอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังมีขนมเปี๊ยะ ขนมรังไหมไส้สับปะรดกวน ขนมปั้นสิบ ขนมไข่ ฯลฯ และในช่วงฤดูกาลทุเรียน ทางร้านมีขนมเปี๊ยะไส้ทุเรียนด้วย แป้งนิ่มมาก ไส้หอ...อ่านต่อ
1 Like
0 CommentShare
19
6 ก.พ. 2020ดูแล้ว 610
Quality Review
เดลิเวอรี / รับที่ร้าน
ขนมเปี๊ยะสดอร่อยสุดๆขึ้นชื่อในจังหวัดศรีสะเกษ
🥚ขนมเปี๊ยะสดอร่อยสุดๆของขึ้นชื่อในจังหวัดศรีสะเกษเลยก็ว่าได้ ใครๆมาต้องซื้อกลับไปฝากทุกคน...ไม่ได้มีแต่ขนมเปี๊ยะอย่างเดียวนะคะ 💮ขนมดอกลำดวนก็หอมนุ่มทานแล้วละลายในปาก😋 ที่ร้านมีอีกหลายอย่างให้เลือกซื้อ เช่น ขนมเปี๊ยะกุหลาบไส้ถั่วไข่เค็ม ขนมเปี๊ยะไส้ทุเรียน คุกกี้หอมแดง ฯลฯ ใครผ่านมาทางนี้ห้สมพลาดร้านบ้านขนมระฆังทองนะคะ😊ดูเพิ่มเติม
จังหวัดศรีสะเกษอยู่ระหว่างการจัดงาน “เทศกาลทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษและของดีศรีสะเกษ ปี 2565” โดยงานจะมีการจัดถึงวันที่ 15 มิ.ย. 2565 ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ ประชาชนทั่วประเทศสามารถเดินทางไปร่วมในเทศกาลทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษและของดีศรีสะเกษ หากไม่สะดวกเดินทางไปที่งาน ก็สามารถสั่งสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ได้โดยตรง
เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.2565 ที่ผ่านมา นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ นำคณะซึ่งประกอบด้วยผู้แทนส่วนราชการและผู้แทนเกษตรกรเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่ทำเนียบรัฐบาล และได้มอบของดีขึ้นชื่อของจังหวัดที่กลายเป็นสินค้าพรีเมี่ยมติดตลาด ได้แก่ ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ กาแฟโรบัสตาศรีสะเกษ และเนื้อโคขุน เพื่อประชาสัมพันธ์ผลผลิตทางการเกษตรที่ได้คุณภาพ เป็นสินค้าขึ้นชื่อของจังหวัดศรีสะเกษ
โดยนายกรัฐมนตรีได้ชื่นชมผลผลิตของเกษตรกรและกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่มีการพัฒนาที่เข้มแข็ง และได้ร่วมชิมทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ กาแฟโรบัสตาศรีสะเกษ และผลิตภัณฑ์จากเนื้อโคขุนจากจังหวัดศรีษะเกษด้วย
“ไตรศุลี ไตรสรณกุล” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คนศรีสะเกษแท้ๆบอกเล่าถึง “ของดีจังหวัดศรีสะเกษ" ว่าปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของจังหวัดที่ได้รับการยอมรับ มีชื่อเสียง และเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศอยู่ 3 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ทุเรียนภูเขาไฟ กาแฟโรบัสตา และเนื้อโคขุน
โดยในส่วนของทุเรียนภูเขาไฟ ซึ่งอัตลักษณ์ของทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษนั้น เนื้อทุเรียนกรอบนอก นุ่มใน หอมละมุนลิ้น กลิ่นไม่ฉุน เส้นใยละเอียด รสชาติมันค่อนข้างหวาน การปลูกที่ได้มาตรฐาน GAP และได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ “ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ” ทำให้ปัจจุบันเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ
จังหวัดศรีสะเกษมีพื้นที่ปลูกทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษทั้งหมด 14,828 ไร่ มีจำนวนเกษตรกรจำนวน 2,350 ราย คิดเป็น 1.7% ของพื้นที่ปลูกทุเรียนของทั้งประเทศ พื้นที่ให้ผลผลิต 5,596 ไร่ ปริมาณผลผลิตปี 2565 จำนวน 7,369 ตัน มูลค่ารวมกว่า 1,200 ล้านบาท ซึ่งปลูกในเฉพาะพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกันทรลักษ์ ขุนหาญ และศรีรัตนะ อันเป็นบริเวณพื้นที่ภูเขาไฟโบราณแถบเทือกเขาพนมดงรัก ดินจึงมีคุณลักษณะพิเศษเฉพาะ ส่งผลให้ทุเรียนมีอัตลักษณ์เด่น รสชาติดี เนื้อทุเรียนกรอบนอก นุ่มใน หอมละมุนลิ้น กลิ่นไม่ฉุน เส้นใยละเอียด รสชาติมันค่อนข้างหวาน
หากสนใจสั่งซื้อทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษทางช่องทางออนไลน์ ได้ที่เว็บไซด์ "lavadurian.com"
ส่วน“กาแฟโรบัสต้าศรีสะเกษ” มีลักษณะโดดเด่น คือรสขมน้อย ความหวานมาก มีบอดี้กำลังดี คาเฟอีนสูง และมีกลิ่นรสผลไม้เด่นชัด เป็นได้ผลผลิตจากการส่งเสริมเกษตรกรผ่านศูนย์เรียนรู้การผลิตแบบครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ การผลิตได้มาตรฐาน GAP และ GMP ซึ่งปัจจุบันทั่วจังหวัดศรีสะเกษมีพื้นที่เพาะปลูก 360 ไร่ เกษตรกรจำนวน 400 ราย
สำหรับ “เนื้อโคขุน” ได้ผ่านการเลี้ยงด้วยระบบฟาร์มป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสม หรือระบบ GFM โดยศรีสะเกษเป็นจังหวัดที่มีการเลี้ยงโคเนื้อ 564,259 ตัว มากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ มีมูลค่ากว่า 12,000 ล้านบาท โดยเกษตรกร100,646 ครัวเรือน ทำให้มีการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมโคเนื้ออย่างครบวงจร มีระบบการผลิตที่มีคุณภาพ ทำให้ได้โคเนื้อแดงที่มีเนื้อนุ่ม เนื้อโคขุนมีไขมันแทรกกำลังดี รสชาติคล้ายเนื้อวากิว ที่มีชื่อเสียง เป็นที่ต้องการของตลาดและผลิตได้ไม่พอกับความต้องการของตลาดที่มีความต้องการสินค้าคุณภาพมากขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากนี้ศรีสะเกษยังมีรายได้จากด้านการท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่กำลังเป็นกิจกรรมที่ได้รับความสนใจมากขึ้น คาดว่า ในช่วงเดือนมิ.ย.-ก.ค. ภายในจังหวัดจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวเชิงเกษตรประมาณ 80 ล้านบาท แยกเป็นรายได้จากการจำหน่ายสินค้าเกษตร 30 ล้านบาทและภาคการท่องเที่ยวและบริการ 50 ล้านบาท และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต