Hdmi เสียงไม่ออกทีวี win 10

เป็นปัญหาที่เจอกันค่อนข้างบ่อย สำหรับหลายๆ คนที่เริ่มขยับมาใช้คอมต่อทีวีกันมากขึ้น ซึ่งในอดีตเราก็มักจะใช้สาย VGA และสาย Audio ควบคู่กัน สำหรับการต่อจอทีวีกันในอดีต เพื่อให้สามารถใช้ได้ทั้งภาพและเสียงพร้อมๆ กัน แต่ในช่วงหลายปีมานี้ HDMI เข้ามาแทนทีเกือบหมดเแล้ว สำหรับบางคนที่ลองใข้งาน มักจะเจอปัญหาภาพได้ แต่เสียงไม่ออก แบบนี้ทำอย่างไรได้บ้าง

เบื้องต้นให้เช็คสายสัญญาณและการเชื่อมต่อก่อนเลยว่า มีการต่อพ่วงที่ถูกต้องมั้ย รวมถึงตัวจอภาพเองด้วย ควรเช็ค Input ของเสียงหรือ Audio จากแหล่งที่มาที่เป็น PC ได้ตรงหรือไม่

หากไม่แน่ใจให้ลองเช็คที่สาย หากมีสายเส้นอื่น ลองนำมาเปลี่ยนใช้ดูก่อน ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจเกิดจากสาย HDMI โดยตรง แต่ส่วนใหญ่ถ้าเสียก็จะไม่มาทั้งภาพและเสียง

ให้ลองกดปุ่ม Function เพื่อสลับหน้าจอจากคอมพิวเตอร์ เช่น Fn+F3 หรือ F5 หรือ F10 แล้วแต่โน๊ตบุ๊คหรือคอมแต่ละรุ่น

อีกวิธีหนึ่งที่ได้ผลดีและมักจะแก้ปัญหาได้ง่ายๆ ก็คือ ให้เข้าไปตั้งค่าใน Playback devices ด้วยขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

1.คลิกขวาที่รูปลำโพงหรือ Speaker ที่อยู่ใน System tray มุมล่างขวาของหน้าจอ เลือกที่ Playback devices

2.ไปที่แท็ป Playback จากนั้นคลิกขวาที่ Digital Audio (HDMI) แล้วเลือก Set as Default Devices คลิกที่ Ok เพื่อเป็นการยืนยัน ก็เป็นอันเสร็จสิ้น

ในกรณีที่ในหน้าต่าง Sound มองไม่เห็นอุปกรณ์ ให้ลองเช็คจากสาย HDMI ดูอีกครั้ง ติดตั้งถูกช่อง HDMI1 หรือ HDMI2 ที่ Source จากจอทีวีถูกหรือไม่

คุณลักษณะที่ดีที่สุดของ High-Definition Multimedia Interface หรือ HDMI คือ คุณสามารถใช้ทีวีจอใหญ่เป็นจอภาพสำหรับอุปกรณ์ Windows 10 ได้ แต่ผู้ใช้บางคนบ่นเกี่ยวกับปัญหาที่พวกเขาเผชิญปัญหาบางอย่างขณะเชื่อมต่อทีวีจอใหญ่กับอุปกรณ์ของตน มีข้อความแสดงข้อผิดพลาดปรากฏขึ้น ‘ไม่พบอุปกรณ์เสียง HDMI’ บนหน้าจอ หากคุณประสบปัญหาที่คล้ายกันในเครื่องของคุณ ให้ทำตามวิธีแก้ไขปัญหาง่ายๆ เหล่านี้เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว

• แก้ไข 1 – เชื่อมต่อทีวีอีกครั้ง
  • • • • บันทึก-
• แก้ไข 2 – อัปเดตการ์ดเสียง
• แก้ไข 3 – ตั้งค่าอุปกรณ์ HDMI เป็นค่าเริ่มต้น
• แก้ไข 4 – เริ่มบริการ Windows Audio ใหม่
• แก้ไข 5 – ย้อนกลับไดรเวอร์กราฟิก
• แก้ไข 6 – ปรับการตั้งค่าเสียงทีวี
• แก้ไข 7 – เปิดใช้งานตัวควบคุมเสียง
• แก้ไข 8 – ถอนการติดตั้งและติดตั้งตัวควบคุมเสียงใหม่
• แก้ไข 9 – เรียกใช้ตัวแก้ไขปัญหาเสียง

แก้ไข 1 – เชื่อมต่อทีวีอีกครั้ง

ทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อเชื่อมต่อใหม่และตรวจสอบเพิ่มเติม

1. อันดับแรก ให้ปิดเครื่อง

2. หลังจากนั้น ให้ถอดสายเคเบิลทั้งหมดออกจากแหล่งพลังงาน

3. ปิดแหล่งจ่ายไฟ

4. ปิดทีวี ถัดไป ให้ถอดปลั๊กทีวีออกจากคอมพิวเตอร์ของคุณ

6. จากนั้นเสียบจอภาพอีกครั้ง เปิดทีวีของคุณ

7. เสียบปลั๊กพีซีหรือเปิดสวิตช์พาวเวอร์ซัพพลายยูนิตของคุณ

8. ตอนนี้ เปิดพีซีของคุณ

พอร์ตแสดงผลของคุณจะเริ่มทำงานอีกครั้ง

บันทึก-

1. ผู้ใช้บางคนได้แก้ไขปัญหาเพียงแค่กด Windows key+P. การดำเนินการนี้จะสลับการแสดงผลไปยังระบบของคุณและจะมีผลเช่นเดียวกัน

2. หากขั้นตอนข้างต้นไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ให้พิจารณาตรวจสอบจอภาพด้วยเครื่องอื่น

แก้ไข 2 – อัปเดตการ์ดเสียง

การอัปเดตการ์ดเสียงที่คุณใช้ควรแก้ไขปัญหาได้

1. กด Windows key+R.

2. หลังจากนั้นพิมพ์ “devmgmt.msc” และคลิกที่ “OK“.

3. เมื่อ Device Manager เปิดขึ้น ให้ขยาย “Sound, video and game controllers“.

4. หลังจากนั้น ให้คลิกขวาที่อุปกรณ์เสียงและคลิกที่ “Update driver“.

5. หลังจากนั้นคลิกที่ “Search automatically for drivers“.

การดำเนินการนี้จะติดตั้งไดรเวอร์เสียงล่าสุดในคอมพิวเตอร์ของคุณ

1. คลิกขวาที่ไอคอน Windows และคลิกที่ “Run“.

2. เขียน “mmsys.cpl” ในกล่องและคลิกที่ “OK“.

3. เมื่อหน้าต่างเสียงเปิดขึ้น ให้ไปที่ “Playbackแท็บ”

4. หลังจากนั้น ให้คลิกขวาที่อุปกรณ์เสียง HDMI และคลิกที่ “Set as default device“.

สิ่งนี้ควรตั้งค่าอุปกรณ์เป็นไดรเวอร์เสียงเริ่มต้นในคอมพิวเตอร์ของคุณ

NOTE–

หากคุณไม่เห็นอุปกรณ์เสียง HDMI ในแผงเสียง ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้-

เมื่อคุณเปิดแผงเสียงแล้ว ให้คลิกขวาและ check ตัวเลือก “Show Disabled Devices” และ “Show Disconnected Devices“.

แก้ไข 4 – เริ่มบริการ Windows Audio ใหม่

ลองเริ่มบริการ Windows Audio บนคอมพิวเตอร์ของคุณใหม่

1. พิมพ์ “Services” ในช่องค้นหา

2. หลังจากนั้นคลิกที่ “Services” ในผลการค้นหา

3. เมื่อเปิดบริการ ให้มองหา “Windows Audio” บริการ.

4. คลิกขวาที่บริการและคลิกที่ “Restart“.

เมื่อคุณเริ่มบริการ Windows Audio ใหม่แล้ว ให้ปิดหน้าต่างบริการ

ตรวจสอบการเชื่อมต่อ HDMI กับทีวีอีกครั้ง

แก้ไข 5 – ย้อนกลับไดรเวอร์กราฟิก

การย้อนกลับไดรเวอร์การ์ดเสียงบนคอมพิวเตอร์ของคุณ

1. กด Windows key+X.

2. หลังจากนั้นคลิกที่ “Device Manager“.

3. เมื่อ Device Manager เปิดขึ้น ให้ขยาย “Display adapters“.

4. หลังจากนั้น ดับเบิลคลิก บนไดรเวอร์กราฟิก NVIDIA

5. ที่นี่ คลิกที่ปุ่ม “Driverแท็บ”

6. เมื่อหน้าต่าง Properties คลิกที่ “Rollback driver“.

คนขับจะถูกย้อนกลับได้ง่ายมาก

แก้ไข 6 – ปรับการตั้งค่าเสียงทีวี

คุณต้องปรับการตั้งค่าเสียงทีวีจากการตั้งค่าทีวี

1. เชื่อมต่อหน้าจอทีวีของคุณด้วยสาย HDMI เข้ากับคอมพิวเตอร์

2. จากนั้นไปที่ “Menu > Settings > Audio“.

3. ในการตั้งค่าเสียง ตั้งค่า ‘เสียง’ เป็น “HDMI” การตั้งค่า.

นี้ควรจะแก้ปัญหา

มิฉะนั้น ให้ลองสลับ ‘Dolby Volume Mode’ เป็น “Off” และ ‘ช่วงเสียง’ ระหว่างการตั้งค่า ‘กว้าง’ และช่วง ‘แคบ’ ตรวจสอบสถานะของปัญหา

แก้ไข 7 – เปิดใช้งานตัวควบคุมเสียง

High Definition Audio Controllers เชื่อมโยงกับอุปกรณ์เสียง HDMI ลองเปิดใช้งาน

1. กด Windows ที่สำคัญพร้อมกับ “X” กุญแจ.

2. เพียงคลิกที่ “Device Manager“.

3. คุณต้องคลิกที่ “View“.

4. จากนั้นคลิกที่ “Show hidden devices“.

5. จากนั้นคลิกที่ “System devices” เพื่อขยายความ

6. มองหา “High Definition Audio Device“. คุณจะสังเกตเห็นอุปกรณ์เสียงความละเอียดสูงหลายรายการในรายการ

7. คลิกขวาที่อันแรกแล้วคลิกที่ “Enable Device“.

ทำตามขั้นตอนเดียวกัน เปิดใช้งาน High Definition Audio Controllers อื่นๆ

สิ่งนี้จะเปิดใช้งานตัวควบคุมเสียงบนอุปกรณ์ของคุณ ลองใช้เสียง HDMI อีกครั้งและตรวจสอบ

แก้ไข 8 – ถอนการติดตั้งและติดตั้งตัวควบคุมเสียงใหม่

การถอนการติดตั้งตัวควบคุมเสียงและกราฟิกที่เสียหายอาจเป็นการหลอกลวง

1. เสียบสาย HDMI เข้ากับทีวีของคุณ

2. ตอนแรกต้องกด Windows ที่สำคัญพร้อมกับ “X” กุญแจ.

3. เพียงคลิกที่ “Device Manager“.

4. ขยาย “System Device“.

5. จากนั้น คลิกขวาที่ “High Definition Audio Controllers” และคลิกที่ “Uninstall device” เพื่อถอนการติดตั้งจากคอมพิวเตอร์ของคุณ

6. ถอนการติดตั้ง .ทั้งหมด ตัวควบคุมเสียงความละเอียดสูง อุปกรณ์ในลักษณะเดียวกัน

เมื่อคุณถอนการติดตั้งตัวควบคุมเสียงแล้ว คุณต้องถอนการติดตั้งตัวควบคุมเสียงกราฟิก

7. ขยาย “Sound, video and game controllers“. คลิกขวาที่ “NVIDIA High Definition Audio“* และคลิกที่ “Uninstall device“.

8. คุณต้องคลิกที่ “Uninstall” เมื่อมีข้อความยืนยันปรากฏบนหน้าจอของคุณ

เมื่อคุณถอนการติดตั้งไดรเวอร์ที่ระบุแล้ว ให้ปิดหน้าจอตัวจัดการอุปกรณ์ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสาย HDMI ยังคงเสียบอยู่กับทีวี Restart ระบบ.

Windows จะโหลดไดรเวอร์ที่จำเป็นและติดตั้งจากที่เก็บเริ่มต้น

*NOTE–

คุณอาจสังเกตเห็นไดรเวอร์เสียงอื่นตามไดรเวอร์กราฟิกของคุณ (เช่น Intel, AMD)

แก้ไข 9 – เรียกใช้ตัวแก้ไขปัญหาเสียง

หากไม่มีอะไรได้ผลสำหรับคุณ ให้ลองใช้ตัวแก้ไขปัญหาเสียง

1.ต้องกด Windows key+R.

2. ในการเข้าถึง เครื่องมือแก้ปัญหา ตั้งค่า เขียนโค้ดนี้แล้วกด Enter.

ms-settings:troubleshoot

3. เมื่อหน้าต่างตัวแก้ไขปัญหาปรากฏขึ้นบนหน้าจอของคุณ ทางด้านขวามือ ให้คลิกที่ “Additional troubleshooters“.

4. ในรายการตัวแก้ไขปัญหา ให้เลื่อนลงและคลิกที่ “Playing Audio“.

5. หลังจากนั้นคลิกที่ “Run the troubleshooter“.

ตอนนี้ Windows จะตรวจหาและแก้ไขปัญหาเสียงในคอมพิวเตอร์ของคุณ

ปัญหาของคุณจะได้รับการแก้ไขอย่างแน่นอน