โครงการหนูน้อยสุขภาพดี doc

วันนี้ 1 กันยายน 2560 นายฉัตรชัย เทียมลม นายก อบต.หนองยาว เปิดโครงการหนูน้อยสุขภาพดี ประจำปี 2560
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันโรคติดต่อและโรคระบาดภายในตำบล อาทิเช่น โรค มือ เท้า ปากเพื่อส่งเสริมการดูแลสุขภาพและความสะอาดของร่างกาย และให้ความสำคัญต่อการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพอีกด้วยค่ะ โดยนางสาวชนิดา ถึงสุขประศาสตร์ (คุณหมอเต่า) พยาบาลวิชาชีพ รพ.สต.หนองยาว และนางศุภชญา วรรณปะโก (คุณหมอเล็ก) จพ.ทันตสาธารณสุขชำนาญการ ตรวจดูแลสุขภาพเด็กในวันนี้ ณ. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต. หนองยาวค่ะ โดยโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนหลักประกันสุขภาพองค์การบริหารส่วนตำบลหนองยาวค่ะ

ข่าว ณ. วันที่ 4 ก.ย. 2560 เวลา 09.57 น. โดย คุณ นุศรา สายบัว

ผู้เข้าชม 836 ท่าน

ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล

11-9-62 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสังกัดองค์การบริหารส่วนตำบลภูผาม่าน จัดโครงการหนูน้อยสุขภาพดี ประจำปี 2562
หลักการและเหตุผล

การดูแลสุขภาพและสุขอนามัยในเด็กแรกเกิดถึงช่วงอายุ5 ปีเป็นช่วงระยะเวลาที่เด็กเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วมากเป็นช่วงเวลาสำคัญที่สุดของการสร้างรากฐานชีวิตและจิตใจของมนุษย์ นอกจากร่างกายจะเจริญเติบโตอย่างเร็วแล้วสมองของเด็กก็เจริญเติบโตสูงสุดในช่วงวัยนี้ด้วย ผู้ปกครองส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญกับเด็กในการส่งเสริมการเจริญเติบโต ทางด้านร่างกาย เช่น รูปร่างน้ำหนัก ส่วนสูง และปล่อยให้พัฒนาการของเด็กเกิดขึ้นเองตามวัยแต่ในปัจจุบันความรู้จากการศึกษาและความตื่นตัวในวิทยาการสมัยใหม่ให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมพัฒนาการเด็กมากขึ้น ซึ่งนอกจากปัจจัยที่มีผลต่อพัฒนาการเด็ก เช่นพันธุกรรมที่ได้รับจากพ่อแม่แล้ว สิ่งแวดล้อมกับการเลี้ยงดูโดยการสร้างเสริมกิจกรรมกับเด็กผ่านการเล่นเป็นการส่งเสริมพัฒนาการเด็กที่ผู้ปกครองควรทาในชีวิตประจำวันของเด็กรวมถึงให้การติดตามพัฒนาการของเด็กให้เหมาะสมตามวัยเป็นสิ่งที่ผู้ปกครองจะละเลยไม่ได้สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะส่งผลให้เด็กเติบโตขึ้นอย่างมีความสุขและมีคุณภาพต่อไป
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กซึ่งเป็นสถานที่ที่เด็กอยู่รวมกันเป็นจำนวนมากเมื่อเจ็บป่วยจะสามารถแพร่เชื้อโรคติดต่อ สู่กันได้ง่ายในเด็กเล็กมีภูมิต้านทานต่ำจะป่วยได้บ่อยโรคที่พบบ่อยได้แก่โรคติดต่อทางเดินหายใจโรคมือเท้าปาก โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน และโรคเหา เป็นต้นส่งผลกระทบต่อพัฒนาการและสุขภาพโดยรวมของเด็ก การระบาดของโรคมือเท้าปากอาจต้องปิดโรงเรียนค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลผู้ปกครองต้องหยุดงานเพื่อดูแลเด็กที่บ้านทำให้ขาดรายได้ จากเหตุผลดังกล่าวศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านซำภูทองใต้ จึงได้จัดทำโครงการหนูน้อยสุขภาพดีพัฒนาการสมวัย ประจำปีงบประมาณ  2562  เพื่อให้ความสำคัญกับการส่งเสริมพัฒนาการเด็กให้มีความเหมาะสมตามวัยและดำเนินงานด้านการเฝ้าระวังการป้องกันและควบคุมโรคในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กให้มีประสิทธิภาพซึ่งนอกจากจะช่วยการเกิดโรคติดเชื้อเฉียบพลันระบบหายใจ ในเด็กโรคมือเท้าปากโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลันและโรคเหาแล้วยังเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือกับการระบาดของโรคติดเชื้อซึ่งอาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
สนับสนุนงบประมาณโดย สปสช.ตำบลภูผาม่าน

หนูน้ อยสุขภาพดีด้วยหลัก 3 อ.
(ออกกำลังกาย อารมณ์ อาหาร)
สำหรับผู้ปกครองเด็กปฐมวัย

วันเสาร์ ที่ 12 มีนาคม 2565 เวลา 09.00 - 12.00 น.
ณ ห้องประชุมออนไลน์ ผ่านระบบ Google Meet

โดยนิ สิตชั้นปี ที่4 สาขาวิชาการศึ กษาปฐมวัย
คณะศึ กษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ

ออกกำลังกาย
พาเพลิน

Brain Gym การฝึ กบริหารสมอง

Brain Gym (การบริหารสมอง) คือ การพัฒนาสมอง แบ่งออกเป็ น 4 กลุ่ม คือ
ทั้งสองซีกให้มีการทำงานที่ดีมากขึ้น โดยใช้การฝึ ก

อย่างง่ายๆ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการได้ยิน 1. การเคลื่อนไหวสลับข้าง
การมองเห็น เพิ่มประสิทธิภาพในการจดจำ
ช่วยให้สมองตื่นตัว และยังช่วยผ่อนคลายความ 2. การยืดส่วนต่างๆของร่างกาย
ตึงเครียด ช่วยให้รู้สึกสดใสพร้อมที่จะเรียนรู้
3. การเคลื่อนไหวเพื่อการกระตุ้น

4. ท่าบริหารร่างกายแบบง่ายๆ

ออกกำลังกายพาเพลิน ประโยชน์ ของการออกกำลังกาย
สำหรับเด็ก
การออกกำลังกายในเด็ก
1. ช่วยในการเจริญเติบโตและพัฒนาการ เพิ่มการสร้างมวล
ในปั จจุบันพบว่าเด็ก ๆ มีปั ญหาทางสุขภาพสูง กระดูก ซึ่งมีผลต่อความสูงของเด็ก ส่งเสริมความแข็งแรงของ
มากกว่าเมื่อก่อนมาก ทั้งการมีน้ำหนั กตัวเกิน เป็ นโรคที่ ระบบกล้ามเนื้ อและข้อต่อต่างๆ ของร่างกาย
เกี่ยวกับภูมิแพ้หรืออาจจะไม่สบายบ่อย ๆ ซึ่ง
เหตุการณ์เหล่านี้ สามารถบ่งบอกได้เป็ นอย่างดีว่าเด็ก 2. ควบคุมน้ำหนั กตัว จากการช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกิน
ๆ ควรจะต้องมีการออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่ 3. การออกกำลังกายช่วยให้สมองส่วนการเรียนรู้ทำงานได้
เหมาะสมเพื่อช่ วยเสริมสร้างให้ มีสุ ขภาพร่างกายที่ อย่างมีประสิ ทธิภาพมากขึ้น
สมบูรณ์แข็งแรง นอกจากนี้ การออกกำลังกายยังช่วย 4. ส่งเสริมสุขภาพจิต ลดความตึงเครียด ทำให้เกิดความ
กระตุ้นและส่ งเสริมพัฒนาการของเด็ กได้ ทั้งทาง สนุกสนาน
ร่างกายและจิตใจอีกด้วย 5. การออกกำลังกายเป็ นการเปิ ดโอกาสให้เด็กได้พบเห็น
และเรียนรู้กับสิ่ งแวดล้อมใหม่ ๆ รวมถึงได้รู้จักกับเพื่อนใหม่
จึงมีความเชื่อมั่นในตนเอง และกล้าแสดงออก

การออกกำลังกายที่เหมาะสมตามวัย

อายุ 2-6 ขวบ อายุ 10 ขวบขึ้นไป

วัยนี้ เริ่มมีการเรียนรู้ และมีพัฒนาการ อายุ 6-10 ขวบ วัยนี้ พัฒนาการด้านต่าง ๆ มีเพียงพอ
ทางด้านการวิ่ง การกระโดด กิจกรรมที่ สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ทุกชนิ ด เล่นกีฬา
ที่ช่วยพัฒนาประสาทมือ แขนขา สายตา
เหมาะสม ได้แก่ กระโดดกระต่ายขาเดียว การทรงตัว เล่นกีฬาเป็ นทีมรวมถึงการ
กระโดดสองขา วิ่งไล่จับ กระโดดเชือก แข่งขันกีฬาประเภทต่าง ๆ ได้ เช่น แชร์
เตะลูกบอล การปี นป่ ายเครื่องเล่น เป็ นต้น บอล บาสเกตบอล วอลเลย์บอล ปิ งปอง ขี่
จักรยาน โดยเลือกให้เหมาะสมกับความ
วัยนี้ มีพัฒนาการทางด้านการเคลื่อนไหวที่ สามารถ และความปลอดภัยเป็ นหลัก
ครบถ้วนสมบูรณ์ ควรเลือกกีฬาที่ทำให้เด็กได้
ยืดหยุ่นร่างกาย อาจเริ่มทำกิจกรรมที่มีความ
ซับซ้อนมากขึ้น เล่นกิจกรรมที่แบ่งข้างกันเล่น
เป็ นทีม มีกฎกติกาอย่างง่าย ๆ เช่น เปลี่ยน

จากการโยนรับลูกบอลธรรมดาเป็ นการโยน

ลูกบอลลงห่วงหรือตะกร้า เตะลูกบอลให้เข้า

ประตู

การส่ งเสริมการออกกำลังกาย
สำหรับเด็ก

1. ส่งเสริมให้เด็กได้ทำกิจกรรมนั นทนาการ อย่างน้ อยสัปดาห์ละ 2-3 วัน โดยอาจหา
กิจกรรมที่ทำร่วมกันได้ทั้งครอบครัว เช่น ไปวิ่งเล่นที่สวนสาธารณะ

2. ส่งเสริมให้เด็กทำกิจกรรมง่ายๆในชีวิตประจำวัน เช่น ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน รดน้ำ
ต้นไม้ วิ่งเล่นกับสุนั ขที่บ้าน เดินขึ้นบันได วิ่งเก็บของ เป็ นต้น

3. สลับสับเปลี่ยนลักษณะการออกกำลังกายหลาย ๆ รู ปแบบ เพื่อให้กล้ามเนื้ อส่วนต่าง
ๆ ของร่างกายได้มีการใช้อย่างทั่วถึงทุกส่วน และไม่ให้เกิดความรู้สึกเบื่อ

4. จัดหาเครื่องเล่นหรืออุปกรณ์การออกกำลังกายที่เหมาะสมกับวัยของเด็ก
5. เลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี
6. ให้ความสำคัญกับความสนุกสนาน และความชอบในการร่วมกิจกรรมเป็ นหลัก
เพราะสาเหตุส่ วนใหญ่ที่ เด็ กไม่อยากออกกำลังกายก็เพราะไม่มีความชอบและไม่สนุ กสนาน
7. ไม่ควรเปรียบเทียบระดับความสามารถกับเด็กคนอื่นๆ หรือให้ความสำคัญกับผลของ
การแพ้-ชนะ แต่ควรดูในเรื่องของความเหมาะสม

ข้อควรระวังในการออกกำลังกาย

สำหรับเด็ก

1. ก่อนออกกำลังกายทุกครั้ง ควรวอร์มอัพและคูลดาวน์ ทุกครั้ง โดยทำท่ากาย
บริหารต่างๆ ได้แก่ ท่ากระโดดปรบมืออยู่กับที่ กระโดดสลับเท้า ก้มแตะสลับปลาย
เท้าเป็ นต้น

2. เด็กควรเริ่มออกกำลังกาย จากที่เบาก่อนแล้วจึงค่อยๆเพิ่มความหนั กขึ้นภายหลัง
3. เด็กควรออกกำลังกายให้รู้สึกเริ่มเหนื่ อยในระดับปานกลางขึ้นไป คือ รู้สึก
หายใจเร็วขึ้น เหงื่อซึม ควบคุมให้อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่หักโหมจนเกินไป
4. เลือกชนิ ดกีฬาที่ไม่ยากเกินกว่าร่างกายเด็กจะรับไหว เพราะอาจส่งผลให้เด็ก
อ่อนเพลีย เหนื่ อยล้า
5. ควรออกกำลังกายวันละไม่เกิน 1 ชั่วโมง แบ่งการออกกำลังกายออกเป็ น 30
นาที พักอย่างน้ อย 5 นาที
6. ภาวะที่เด็กเป็ นไข้ตัวร้อน มีภาวะขาดน้ำในร่างกาย ถ่ายเหลวหรืออาเจียน มี
อาการอ่อนเพลีย ไม่ควรให้ออกกำลังกาย ออกแรงกล้ามเนื้ อหรือเคลื่อนไหวร่างกาย
มากเกินไป
7. ระมัดระวังการบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย และหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายใน
ขณะที่อากาศร้อนจัด
8. ควรจัดหาน้ำดื่มให้เพียงพอสำหรับความต้องการของเด็ก

สร้างความสุ ขด้ วยอารมณ์

เข้าใจตนเอง เข้าใจผู้อื่น อารมณ์เป็ นเรื่องที่ทุกคนต้องให้ความ

การให้เด็กรู้ถึงการแสดงออกทางอารมณ์ สำคัญเป็ นอย่างมากไม่น้ อยกว่าสุขภาพกาย
ความรู้สึกที่เหมาะสมผ่านภาพแสดงสีหน้ า
เป็ นวิธีหนึ่ งที่ช่วยให้เด็กเข้าใจความรู้สึก เพราะหากใจเราป่ วยก็ทำให้กายเราป่ วยไปด้วย
ซึ่งแน่ นอนว่ามนุษย์เรามีหลากหลายอารมณ์
ของตนเองและผู้อื่นได้ดียิ่งขึ้น ขึ้นอยู่กับแต่ละสถานการณ์
ดังนั้ น จึงจำเป็ นอย่างยิ่งที่เราจะต้องให้
ความสำคัญในเรื่องอารมณ์

ชวนเด็กสั งเกตอารมณ์ ของตนเอง มีความสุ ข เสี ยใจ
โกรธ ขอบคุณ
ทำตามขั้นตอน ดังนี้ ภูมิใจ ตื่นเต้น
1. ให้เด็กชี้สีหน้ าของภาพที่ตรงกับความรู้สึกในขณะนั้ น กลัว หงุดหงิด
2. พ่อแม่ผู้ปกครองอ่านความรู้สึกของสีหน้ านั้ นให้เด็กฟั ง สนุกสนาน ก้าวร้าว
และชวนคุยโดยถามว่าอะไรทำให้เด็กรู้สึกเช่นนั้ น
3. ชวนเด็กหาทางรับมือกับอารมณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะ
อารมณ์ที่เป็ นด้านลบ เพื่อให้เด็กจดจำความรู้สึกที่เกิดขึ้น
และช่ วยให้ สามารถเข้าใจอารมณ์ ความรู้สึ กของคนอื่นได้

เด็กแต่ละคนจะมีลักษณะพัฒนาการทางอารมณ์ที่
แตกต่างกันตามสภาพสิ่ งแวดล้อม หากเด็กได้รับ
ความไม่พอใจ เด็กก็จะสะสมอารมณ์ไม่พอใจไว้

ทำให้เด็กไม่มีความสุข มีอารมณ์ตึงเครียด
ดังนั้ น เราควรให้ความสำคัญกับอารมณ์ของเด็กๆ

ส่งความสุข ความสดใสผ่านกิจกรรม สามารถสแกนQr
ดูวิดีโอได้เลยนะคะ

แก้วอารมณ์ดี พับกระดาษบอกความรู้สึ ก อารมณ์มีสี

อาหารดีมีประโยชน์

อาหารดี
มีประโยชน์

อาหาร

อาหารเป็ นปั จจัยสำคัญต่อการมีสุขภาพที่ดี เนื่ องจากช่วยเสริมสร้าง
การเจริญเติบโตของร่างกายและเซลล์สมอง ซ่อมแซมอวัยวะส่วนที่
สึกหรอ ให้ทำงานได้ตามปกติ ทำให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง เด็ก
ปฐมวัยเป็ นวัยที่ร่างกายมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว การที่เด็กจะมี
โภชนาการที่ดีนั้ น เด็กต้องได้รับอาหารที่ถูกหลักโภชนาการหรือมี

สารอาหารครบถ้วน และมีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของ
ร่างกาย เพื่อให้ร่างกายสามารถนำสารอาหารไปใช้ในการเสริมสร้าง

การเจริญเติบโตของร่างกายได้ อย่างมีประสิ ทธิภาพ

อาหารหลัก 5 หมู่ คืออะไร

ข้าว แป้ ง น้ำตาล ให้คาร์โบไฮเดรต พืชผักต่าง ๆ ผลไม้ต่าง ๆ
เป็ นแหล่งวิตามินและเกลือแร่ รวมทั้งช่วย ให้สารอาหารประเภทวิตามินและเกลือแร่ คล้ายกับอาหาร
ให้พลังงานแก่ร่างกาย ควรจัดให้เด็กกินทุก เรื่องระบบขับถ่าย ควรจัดให้เด็กกินทุกมื้อ หลักหมู่ที่ 3 และอาหารหมู่นี้ เป็ นสารอาหารที่ร่างกาย
มื้อโดยเฉพาะมื้อเช้าเพราะแป้ งจะย่อยสลาย หลากหลายตามฤดูกาลเพื่อความประหยัด ต้องการในปริมาณน้ อย แต่ก็ไม่สามารถขาดได้ เพราะถ้า
ขาดวิตามินก็จะทำให้ร่างกายของเราผิดปกติ ประโยชน์
เป็ นน้ำตาลกลูโคส ซึ่งเป็ นอาหารสมองให้ และได้วิตามิน แร่ธาตุครบถ้วน ของวิตามิน มีดังนี้
1.ช่วยบำรุ งสุขภาพของผิวหนั งให้สดชื่น
เด็กสามารถนำไปใช้ได้ทันทีหลังจากไม่ได้รับ 2.ช่วยบำรุ งสุขภาพปาก เหงือก และฟั น
อาหารเป็ นเวลานานตลอดทั้งคืน 3.ช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง มีความต้านทานต่อเชื้อโรค
4.ช่วยทำให้อวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกายทำงานได้ปกติ
เนื้ อสัตว์ ไข่ นม ถั่วเมล็ดแห้ง ปกติ
5.ช่วยทำให้ระบบการย่อยและการขับ
ให้โปรตีนช่วยให้ร่างกายเจริญ
เติบโต เสริมสร้างกล้ามเนื้ อ และ ไขมันและน้ำมันพืชและสั ตว์
ซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอ ควร เป็ นแหล่งพลังงานและช่วยให้วิตามินที่
กินเนื้ อสัตว์ไม่ติดมัน นมสดวันละ ละลายในน้ำมัน (วิตามิน เอ ดี อี และเค)
ดูดซึมได้ดีขึ้น ควรเลือกไขมันชนิ ดไม่อิ่ม
2-3 แก้ว และไข่วันละ 1 ฟอง
ตัว เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันรำข้า

อาหารที่เหมาะสมในแต่ละช่วงวัย

ช่วงทารก

น้ำนมแม่เป็ นอาหารที่ดีและเหมาะสมที่สุดสำหรับทารก เพราะมีคุณค่าทางโภชนาการ
ครบถ้วน มีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติช่วยต้านทานเชื้อโรคต่าง ๆ

ช่วงก่อนวัยเรียน

หรือเด็กที่มีช่วงอายุ 1-5 ปี เด็กจะมีการเจริญเติบโตทางสมองและร่างกายเป็ นส่วนใหญ่ ควรให้กิน
อาหารครบ 5 หมู่ ดื่มนมวันละ 2–3 แก้ว โดยเลือกนมที่มีส่วนผสมที่เหมาะกับเด็กวัยนี้ ที่กำลังสนใจเรียน
รู้สิ่ งต่าง ๆ เช่น มีส่วนผสม DHA ช่วยเสริมพัฒนาการทางสมอง หรือมีส่วนผสมของสารที่ช่วยบำรุ งสายตา
อย่างลูทีน

ช่วงวัยเรียน

หรือเด็กที่มีช่วงอายุ 6 – 12 ปี ซึ่งร่างกายกำลังเจริญเติบโตอย่างคงที่ต้องได้รับอาหาร
ครบ 5 หมู่ ในปริมาณที่เหมาะสม รับประทานให้ครบ 3 มื้อ โดยเฉพาะมื้อเช้า
เพราะการไม่รับประทานอาหารเช้าจะทำให้ร่างกายขาดพลังงานที่จะไปเรียนรู้และทำ
กิจกรรมต่าง ๆ ในช่วงอื่น ๆ ของวัน

ปริมาณสารอาหารที่เด็กควรได้รับ

ภาวะทุพโภชนาการ

คือ ภาวะที่ร่างกายที่บริโภคอาหารและได้รับสารอาหารไม่เหมาะสมทั้งปริมาณ
และความครบถ้วนของอาหาร ซึ่งอาจจะได้รับน้ อยหรือมากกว่าความต้องการ
จึงทำให้ร่างกายเกิดภาวะผิดปกติขึ้น แบ่งออกเป็ นภาวะโภชนาการต่ำ(Undernutrition)
และภาวะโภชนาการเกิน (Overnutrition)

ภาวะโภชนาการต่ำ หมายถึง สภาวะร่างกายที่เกิดจากการได้รับ ภาวะโภชนาการเกิน หมายถึง สภาวะร่างกายที่ได้รับสาร
อาหารไม่เพียงพอ หรือได้รับสารอาหารไม่ครบ หรือมีปริมาณ อาหารทั้งหมดหรือบางอย่างเกินความต้องการของร่างกาย
ต่ำกว่าท่ีร่างกายต้องการ เช่น เกิดโรคขาดสารอาหาร ทำให้เกิดการสะสมไว้และทำให้เกิดโรคตามมา เช่น ภาวะ
ภาวะเตี้ยแคระเกร็น ผอมแห้ง เป็ นต้น น้ำหนั กเกิน โรคอ้วน เป็ นต้น

แนวทางการจัดจานเอาใจเด็กๆ

ปลานิ ลทอดกระเทียม ข้าวผัดอเมริกัน ปลาอินทรีราดซอสบล็อกโคลี่

QR code แบบประเมิน
โครงการ "หนูน้ อยสุขภาพดีด้วยหลัก 3 อ.
(ออกกำลังกาย อารมณ์ อาหาร) สำหรับผู้ปกครองเด็กปฐมวัย