กูเตนบอร์กได้ประดิษฐ์เครื่องพิมพ์ ใช้ในการเผยแพร่ศาสนา การเมืองการปกครอง และใช้ในการติดต่อระหว่างภาครัฐและเอกชน
6. การประชาสัมพันธ์ยุคปัจจุบัน
ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกต่าง ๆ ในการประชาสำพันธ์เพื่อความสะดวก รวดเร็ว และทันสมัย
ประวัติและพัฒนาการของการประชาสัมพันธ์ในต่างประเทศ
1. ประเทศสหรัฐอเมริกา
– มีการตั้งโรงพิมพ์ และหนังสือพิมพ์ฉบับแรกในชื่อ The Bolton News Letter
– อับราฮัม ลินคอล์น ออกประกาศแถลงการณ์ปลุกเร้าประชามติ โดยหนังสือพิมพ์และการพูดในชุมชน
– ไอวี ลี นักหนังสือพิมพ์ และบิดาแห่งการประชาสัมพันธ์ ได้เสนอแนวคิดที่ถูกต้องของการประชาสัมพันธ์ว่า “ไม่ควรปิดหูปิดตาประชาชนหรือเพิกเฉยละเลยต่อประชาชน”
2. ประเทศอังกฤษ
– ภาคเอกชนได้โฆษณา สร้างข่าวผ่านหนังสือพิมพ์ ภาครัฐใช้ใบปลิว การแสดง ปาฐกถาเคลื่อนที่เพื่อประชาสัมพันธ์
– ก่อตั้งกระทรวงโฆษณา
– สำนักข่าวสารกลาง รับผิดชอบงานประชาสัมพันธ์ของรัฐบาล
ประวัติและพัฒนาการของการประชาสัมพันธ์ในประเทศไทย
-สมัยสุโขทัยคือศิลาจารึกของพ่อขุนรามคำแหง
-สมัยอยุธยาคือการส่งราชทูตไปเจริญสัมพันธ์ไม่ตีและการปลุกจิตสำนึกให้คนไทยรักชาติ
-สมัยกรุงธนบุรีคือการบำรุงขวัญให้ประชาชนกลับมาอาศัย
-สมัยร.3 มีการนำเครื่องพิมพ์เข้ามาในประเทศเริ่มจากหนังสือและหนังสือพิมพ์
-สมัยร.4ได้ทรงโปรดให้ตั้ง”โรงพิมพ์อักษรพิมพ์การ”
-สมัยร.7ได้มีการใช้วิทยุกระจายเสียงในการเผยแพร่ข่าวสารเรื่องประชาธิปไตย
-คณะราษฎรได้มีการก่อตั้งกองการโฆษณา-สำนักงานโฆษณาการ-กลุ่มการโฆษณา-กลุ่มประชาสัมพันธ์
ความแตกต่างระหว่างการประชาสัมพันธ์และการโฆษณา
การประชาสัมพันธ์
-มุ่งสร้างชื่อเสียงเกลียดติกุลและภาพพุทธที่ดีของบริษัท
-เป็นการหวังผลยืนนานโดยสร้างผลดีไว้ด้วยการให้ความรู้ความคิดเห็นชี้แจงบอกกล่าวหรือสร้างสิ่งประทับใจสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะชนเพื่อให้เกิดความประทับใจ
-ใช้ความจริงเข้าสู้ห้ามใช้ความเท็จเพราะความนิยมเลื่อมใสศรัทธาจะช่วยเพิ่มยอดขายให้สินค้าหรือบริการทางอ้อม
-เป็นกระบวนการการสื่อสารสองทาง
การโฆษณา
-มุมโฆษณาเพื่อขายสินค้าและบริการให้ได้มากที่สุด
-เป็นการหวังผลชั่วคราวโดยการทำโฆษณาทุกรูปแบบเพื่อการขายสินค้าหรือบริการทุกอย่างให้ได้มากที่สุด
-หวังผลด้านกำไรแต่เพียงอย่างเดียวจึงให้กลยุทธ์ทุกรูปแบบเพื่อการขายสินค้าแม้จะเป็นการกล่าวเกินจริง
-เป็นกระบวนการการสื่อสารทางเดียวคือการติดต่อไปยังลูกค้าและประชาชนทางเดียวเพื่อมุ่งผลประโยชน์ของตนเองฝ่ายเดียวโดยไม่คำนึงถึงผลร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประเภทของการประชาสัมพันธ์
-การประชาสัมพันธ์ภายในคือการสร้างความเข้าใจและความสัมพันธ์อันดีกับกลุ่มบุคคลภายในสถาบันเองเพื่อให้เกิดความรักไข้กลมเกลียวสามัคคีกันในหมู่เพื่อนร่วมงาน
-การประชาสัมพันธ์ภายนอกคือการสร้างความเข้าใจและความสัมพันธ์อันดีกับประชาชนภายนอกกลุ่มต่างๆอันได้แก่ประชาชนทั่วไปและประชาชนที่องค์การสถาบันเกี่ยวข้องเช่นผู้นำความคิดเห็นผู้นำในท้องถิ่นลูกค้าและผู้บริโภค
วัตถุประสงค์ทั่วไปของการประชาสัมพันธ์
-เพื่อสร้างความนิยมให้เกิดขึ้นในหมู่ประชาชน
-เพื่อปกป้องอารักษ์ษาชื่อเสียงสถาบันมิให้เสื่อมเสีย
-เพื่อสร้างความสัมพันธ์ภายใน
ความสำคัญของการประชาสัมพันธ์
-การประชาสัมพันธ์ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์และสร้างค่านิยมของหน่วยงานได้ดีขึ้น หมายถึง การสร้างความรู้สึกประทับใจที่บุคคลหลายหลายกลุ่มมีต่อหน่วยงานนั้นนั้นรวมทั้งลูกจ้างลูกค้าและผู้บริโภคชุมชนพ่อค้าและรัฐบาลโดยสร้างความสัมพันธ์อันดีกับกลุ่มชนเหล่านี้
-การประชาสัมพันธ์ช่วยป้องกันรักษาชื่อเสียงของหน่วยงาน หมายถึง มีการพัฒนาปรับปรุงตัวเองรวมทั้งสินค้าและบริการต่างๆให้ตรงกับความต้องการของประชาชนและโอกาสที่ประชาชนจะได้รับความไม่สะดวกเกิดความเข้าใจผิดหรือมองในแง่ร้ายจะเป็นผลในการนำไปวิพากษ์วิจารณ์ให้เกิดเสียชื่อเสียงย่อมไม่ม มีการพัฒนาปรับปรุงตัวเองรวมทั้งสินค้าและบริการต่างๆให้ตรงกับความต้องการของประชาชนและโอกาสที่ประชาชนจะได้รับความไม่สะดวกเกิดความเข้าใจผิดหรือมองในแง่ร้ายจะเป็นผลในการนำไปวิพากษ์วิจารณ์ให้เกิดเสียชื่อเสียง
-การประชาสัมพันธ์ช่วยสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง หมายถึง การทำให้เกิดความร่วมมือกับหน่วยงานและฝ่ายบริหารเพราะการประชาสัมพันธ์เป็นการสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างฝ่ายบริหารกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง
-การประชาสัมพันธ์ช่วยการขายและการตลาด หมายถึง การประชาสัมพันธ์เป็นการปูพื้นค่านิยมทัศนคติที่ดีให้เกิดกับหน่วยงานเมื่อประชาชนมีค่านิยมความรู้สึกที่ดีแล้วก็มีใจพร้อมที่จะรับฟังข่าวสารการโฆษณาสินค้า
หลักการประชาสัมพันธ์
-การบอกกล่าวหรือชี้แจงเผยแพร่ให้ทราบ คือ การบอกกล่าวชี้แจงให้ประชาชนทราบถึง
นโยบาย
วัตถุประสงค์
การดำเนินงาน
ผลงาน บริการ และกิจกรรมต่างๆ
-การป้องกันและแก้ไขความเข้าใจผิด คือ การป้องกันความเข้าใจผิดทางด้านวิชาการประชาสัมพันธ์ถือเป็นการประชาสัมพันธ์เพื่อป้องกันซึ่งมีความสำคัญมากเพราะการป้องกันไว้ก่อนย่อมดีกว่าที่ต้องตามมาแก้ไขในภายหลัง
-การสำรวจประชามติ คือ หลักที่สำคัญของการประชาสัมพันธ์อีกประการหนึ่งก็คือจะต้องมีการสำรวจวิจัยประชามติ เพราะองการสถาบันจะดำเนินการประชาสัมพันธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพจะต้องรู้สึกถึงความรู้สึกนึกคิดของประชาชน
กระบวนการประชาสัมพันธ์
-การศึกษาข้อมูล
เป็นการหยั่งความคิดทัศนคติและปฏิกิริยาของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำและนโยบายของสถาบัน “อะไรคือปัญหาของเรา”
-การวางแผน
การนำเอาทัศนคติความคิดเห็นและความคิดปฏิกิริยาต่างๆมาพิจารณาวางนโยบายของสถาบันจะได้แผนงานที่ได้ประโยชน์ทุกฝ่ายเป็นขั้นที่ต้องตัดสินใจว่า”จะสามารถทำอะไรได้บ้าง”
-การสื่อสารการปฎิบัติงาน
การอธิบายให้ผู้ที่อาจ ได้รับผลกระทบหรือผู้ที่เราต้องการสนับสนุนเป็นการบอกว่า”เราทำสิ่งต่างๆเรานั้นไปทำไม”
-การประเมินผล
เป็นการประเมินผลว่าแผนงานที่ได้วางและเทคนิคที่ได้ทำส่งผลอย่างไร
รูปแบบกิจกรรมของงานประชาสัมพันธ์
-สื่อสัมพันธ์และมวลชนสัมพันธ์ร
คือ การให้ข้อมูลข่าวสารความเคลื่อนไหวกิจกรรมต่างๆขององค์กรกับผู้สื่อสารหรือสาธารณะชนโดยการใช้เครื่องมือประเภทข่าวแจกการแถลงข่าว
-การส่งเสริมการขายและการขาย
คือ การจัดแสดงสินค้าการจัดเทศกาลและการตกแต่งdisplay โดยใช้เครื่องมือทางด้านสิ่งพิมพ์ภาพและเสียง
-ชุมชนสัมพันธ์
คือ การทำงานร่วมกับกลุ่มต่างๆของชุมชนหรือกลุ่มผลประโยชน์
-รัฐบาลสัมพันธ์
คือ การช่วยเหลือการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกี่ยวข้องหรือสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในระดับต่างๆ
-การให้ข้อมูลแก่สาธารณะ
คือ การพัฒนาหรือสร้างสื่อต่างๆเพื่อช่วยให้ความรู้รายงานข้อมูลข่าวสารและช่วยเหลือแก่สาธารณะ
-การจัดกิจกรรมตามโอกาสพิเศษ
คือ การวางแผนและบริหารจัดการกิจกรรมต่างๆตามโอกาสทั้งภายในและภายนอกองค์กร
-ลูกจ้างสัมพันธ์
คือ การสร้างการสื่อสารที่เกี่ยวข้องกับองค์กรและสวัสดิการไปยังลูกจ้างพนักงานทุกระดับในองค์กร
-การบริหารจัดการกรณีต่างๆที่เกิดขึ้นนอกเหนือการควบคุมของก่อน
คือ การช่วยเหลือการให้ข้อมูลหรือการชี้แจงแก่สาธารณะชนกรณีที่เกิดประเด็นหรือเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อองค์กร
-ล็อบบี้
คือ การทำงานหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับผู้กำกับดูแลกฎหมายหรือระเบียบต่างๆที่มีอิทธิพลต่อการทำงานขององค์กร
บทบาท
บทบาทในการเป็นเครื่องมือสื่อสารทางเดียวจากองค์กรสู่กลุ่มเป้าหมาย
- บทบาทในการให้ข่าวสารข้อมูล
- บทบาทในการให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง
- บทบาทในการโน้มน้าวใจกลุ่มเป้าหมาย
- บทบาทในการให้ความบันเทิง
การโฆษณา
ความหมาย
รูปแบบของการสื่อสารโดยไม่ใช่บุคคล เกี่ยวกับองค์กร ผลิตภัณฑ์ บริการ หรือ แนวคิด ที่ต้องมีการชำระเงินโดยผู้อุปถัมภ์ที่ระบุชื่อ เพื่อการจูงใจหรือมีอิทธิพลต่อกลุ่มเป้าหมาย
สมาคมการตลาดแห่งสหรัฐอเมริกา(The Americ Marketing Association : AMA)
การโฆษณาเป็นการสื่อสารโน้มน้าวใจจากผู้ขายไปยังผู้ซื้อ โดยมิได้เป็นไปในรูปส่วนตัว
(A.R. Oxenfeldt and C. Swan)
รูปแบบของการใช้จ่ายเงินใดๆ โดยสามารถระบุผู้สนับสนุนได้ เพื่อก่อให้เกิดการนำเสนอและการส่งเสริมการขายสินค้า หรือบริการ หรือความคิดเห็นต่างที่มิใช่ตัวบุคคล
(Phillip Kotler)
รูปแบบการส่งเสริมการขายผ่านสื่อโฆษณา ที่มิใช่บุคคลและต้องชำระ เงินโฆษณาโดยผู้อุปถัมภ์ ซึ่งการโฆษณานีเมีความหมายแตกต่างไปจากการส่งเสริม การขายรูปแบบอื่นๆ เช่น การขายโดยพนักงาน และการส่งเสริมการจำหน่าย เป็นต้น
(Maurice I. Mandell)
กิจกรรมสื่อสารมวลชนที่เกิดขึ้น เพื่อจูงใจให้ผู้บริโภคมีพฤติกรรมอันเอื้ออำนวยต่อความเจริญของธุรกิจ การขายสินค้าหรือบริการ โดยอาศัยจากเหตุผล ซึ่งมีทั้งกลยุทธ์จริงอละเหตุผลสมมติ ผ่านทางสื่อโฆษณาที่ต้องรักษาเวลาและเนื้อที่ ที่มีการระบุผู้โฆษณาอย่างชัดแจ้ง
(ดร.เสรี วงษ์มณฆา)
จากนิยามข้างต้น สามารถสรุปความหมายของโฆษณาได้ว่า
- โฆษณาเป็นการสื่อสารที่ต้องมีการชำระเงินค่าพื้นที่หรือเวลาในการเผยแพร่
- โฆษณาเป็นการสื่อสารผ่านสื่อมวลชนเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจำนวนมาก
- โฆษณาเป็นการสื่อสารเพื่อมุ่งหวังในการโน้มน้าวใจกลุ่มเป้าหมายทั้งทางตรงหรือทางอ้อม
- โฆษณาเป็นการสื่อสารที่นำเสนอสาระสำคัญเกี่ยวกับสินค้า บริการ แนวความคิด หรือ องค์กร สถาบัน
- โฆษณาเป็นการสื่อสารที่ต้องมีการระบุชื่อผู้สนันสนุน ชื่อผู้อุปถัมภ์ หรือผู้ชำระเงิน
พัฒนาการของการโฆษณา
ยุคต่างๆ ของการโฆษณา
- ยุคก่อนการตลาด
สำหรับด้านการโฆษณาได้มีการพิมพ์โปสเตอร์แผ่นพับใบปลิวและเริ่มมีการโฆษณาในหนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้การโฆษณาได้รับความนิยมจากผู้ผลิตสินค้า มีการใช้เทคนิคเพื่อดึงดูดความสนใจ
- ยุคการสื่อสารมวลชน
เป็นยุคที่ผู้โฆษณาสารมารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายขนาดใหญ่มากขึ้น เนื่องจากมีการกำเนิดของสื่อมวลชนหลายชนิด เช่น หนังสือพิมพ์ นิตยสาร และวิทยุกระจายเสียง
- ยุคการวิจัย
ยุคนี้ได้มีบริษัทตัวแทน เกิดขึ้นอีกเป็นจำนวนมากและมีบุคลากรที่โดดเด่นในแวดวงโฆษณา
- ยุคปฏิสัมพันธ์
การใช้อินเตอร์เน็ตทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากการสื่อสารทางเดียวเป็นการสื่อสารแบบโต้ตอบกันได้สะดวกรวดเร็ว เป็นการทำโฆษณาในยุคนี้เน้นกระตุ้นอารมณ์ให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมไปกับเนื้อหาแล้วนำไปพูดต่อๆ กันให้เกิดเป็นประเด็นทางสังคม
ประวัติและพัฒนาการโฆษณาในต่างประเทศ
- ประวัติและพัฒนาการของการโฆษณาในยุโรป
– ชาวบาบิโลเนียนมีจารึกลงบนก้อนดินเพื่อเป็นสื่อแทนเพื่อจำหน่ายครีม, นักเขียนและช่างทำรองเท้า ซึ่งเป็นการโฆษณาที่เก่าแก่ที่สุด
– มีการใช้ผู้ป่าวประกาศ และพ้อค้าเร่ ประกาศเพื่อค้าขายทาสสัตว์ใช้งาน เช่น วัว ควาย
– มีการเขียนโฆษณาลงบนตัวปาปิรุสมีเนื้อหาเกี่ยวกับการประกาศจับทาส
– เกิดรูปแบบการโฆษณาโดยใช่ตรา สินค้าและเครื่องหมายการค้า
– ราว ค.ศ. 1450 โจฮัท กูเต็นเบิร์ก ประดิษฐ์ตัวเรียงพิมพ์โลหะเป็นผลสำเร็จ
– ค.ศ. 1480 วิลเลี่ยม แคกซ์ตัน ได้มีการพิมพ์ใบปลิวขึ้นเป็นครั้งแรกเพื่อโฆษณาขายหนังสือ
– ค.ศ. 1525 ประเทศเยอรมันมีการตีพิมพ์โฆษณาใบปลิว ทำให้การโฆษณาเริ่มเป็นแพร่หลายมากขึ้น
– ค.ศ. 1614 เกิดกฏหมายควบคุมการโฆษณาฉบับแรกในประเทศอังกฤษ เพื่อห้ามไม่ให้ป้ายชื่อยื่นออกมาจากตัวอาคารมากกว่า 8 ฟุต
– โฆษณาในอเมริกาเกิดขึ้นภายหลังประเทศอังกฤษ 25 ปี เมื่อมีหนังสือพิมพ์ฉบับแรก ในปี ค.ศ. 1704 ซึ่งมีข้อความโฆษณาที่มีลักษณะเป็นประกาศ
– ค.ศ. 1741 เบนจามิน แฟรงคลิน ได้ออกนิตยสารและเขียนข้อความโฆษณาลงใน นิตยสารด้วยตัวเอง
– สมัยสงครามกลางเมืองในสหรัฐอเมริกา การโฆษณาถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการกองทัพ การต่อสู้ทางการเมือง
– ภายหลังสงครามกลางเมืองสงบลง เกิดการขยายตัวเมืองและอุตสาหกรรม การนำสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาขายในประเทศเพิ่มขึ้น
– ปลายทศรรษที่ 18 ธุรกิจโฆษณาเติบโตเป็นอย่างมากในสหรัฐอเมริกา
– ค.ศ. 1875 Francis Wayland Ayer ได้เปิดบริษัท N. W. Ayer & Son ขึ้น เพื่อให้บริการด้านการโฆษณาอย่างครบวงจรแห่งแรก
– ค.ศ. 1917 มีการรวมกลุ่มกันตั้งขึ้นเป็นสมาคมโฆษณา ชื่อ “American Association of Advertising Agencies” หรือที่รู้จักกันในนาม AAAA หรือ 4 As
ประวัติและการพัฒนาการของการโฆษณาในประเทศไทย
– เริ่มแรกผู้ผลิตได้ทำการโฆษณาเองในยุคต่อๆ มาเริ่มมีการใช้สัญญาช่วยในการสื่อสาร
– การโฆษณาของไทยได้ก้าวหน้ามาสู่สมัยรัชกาลที่ 3
– ในปีต่อมาเริ่มลงโฆษณาขึ้นครั้งแรก เป็นการโฆษณาที่ชำระเงินเกิดขึ้นครั้งเมื่อ พ.ศ. 2408
– ในสมัยรัชกาลที่ 6 “กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน” พระบิดาแห่งวงการโฆษณาไทย
– สมัยรัชกาลที่ 7 “กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน” ได้ทรงจัดทำแผนรณรงค์โฆษณาของคลังออมสินเป็นครั้งแรก
– สมัยรัชกาลที่ 8 เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 พัฒนาการของโฆษณาไทยได้ชะงักลง
-สมัยรัชกาลที่ 9 หลังสงคราม “การโฆษณา” จึงได้หวนกลับคืนมาสู่ภาวะปกติอีกครั้ง มีสินค้าใหม่ๆ จากต่างประเทศเข้ามาจำหน่ายทำให้เกิดการแข่งขันสร้างยอดขายมากขึ้น
– พ.ศ. 2495 ได้แก่ โกร๊ก แอ๊คเวอร์ไทซิ่ง จำกัด นับได้ว่าเป็นบริษัทโฆษณาสากลแห่งแรกในไทย
– ตามมาด้วยบริษัทแกร้นท์ แอ๊คเวอร์ไทซิ่ง จำกัด
– ในวงการโฆษณาได้ยกย่องให้นายโกร๊ก เป็นผู้บุกเบิกบริษัทโฆษณายุคใหม่
– พ.ศ. 2560 เกิดความเปลี่ยนแปลงในวงการโฆษณาไทยอย่างเห็นได้ชัดเจน เมื่อ “สื่อดิจิทัล” สามารถแย่งตำแหน่งในตลาดสื่อโฆษณามาอยู่ในอันดับที่ 2 แทนที่หนังสือพิมพ์
คุณลักษณะของโฆษณา
- เป็นกิจกรรมสื่อสารมวลชน
- เป็นการสื่อสารเพื่อจูงใจ
- เป็นการจูงใจด้วยเหตุสมจริงและสมมติ
- เป็นกิจกรรมที่ต้องใช้เงิน
บทบาทของโฆษณา
1. บทบาทของโฆษณา ด้านการตลาด
กระบวนการที่องค์กรธุรกิจสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคด้วยสินค้าหรือบริการ
2.บทบาทของโฆษณาด้านการสื่อสาร
โฆษณาเป็นการสื่อสารผ่านสื่อมวลชนรูปแบบหนึ่ง มีวัตถุประสงค์เพื่อสื่อสารข้อมูลที่สำคัญของสินค้าและบริการไปยังผู้บริโภค
3.บทบาทของโฆษณาด้านเศรษฐกิจ
ช่วยให้เกิดการกระจายสินต้าจากผู้ผลิตไปยังผู้บริโภค ก่อให้เกิดการกระจายรายได้ เมื่อผู้ประกอบการหรือเจ้าของสินค้าขายสินค้าได้ ก็จะมีรายได้และกำไรมาขยายกิจการ
4.บทบาทของโฆษณาด้านสังคม
โฆษณาช่วยให้ทราบว่ามีผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ๆเกิดขึ้น ช่วยให้เห็นพัฒนาการของสินค้าและบริการ และบางโฆษณาช่วยสอนให้ทราบถึงวิธีการใช้ เกิดการเรียนรู้ใหม่ๆเกี่ยวกับสินค้าและบริการดังกล่าว อีกทั้งยังเป็นกระจกสะท้อนสังคมให้เห็นถึงความนิยม แฟชั่นในปัจจุบัน
หน้าที่ของโฆษณา
1.ให้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือตราผลิตภัณฑ์
2.นำเสนอสิ่งจูงใจเพื่อกระตู้นให้เกิดปฏิกิริยาหรือการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง
3.โฆษณาทำหน้าที่ย้ำเตือน
ประเภท
1.จำแนกตามกลุ่มเป้าหมาย
- การโฆษณาที่มุ่งเน้นไปที่ผู้บริโภค
- การโฆษณาที่มุ่งเน้นไปที่องค์กรหรือหน่วยงานธุรกิจ
2.จำแนกตามขอบเขตทางภูมิศาสตร์
- การโฆษณาทที่ครอบคลุมในท้องถิ่น
- การโฆษณาที่ครอบคลุมในภูมิภาค
- การโฆษณาที่ครอบคลุมระดับประเทศ
- การโฆษณาที่ครอบคลุมระหว่างประเทศ
3.จำแนกตามสื่อโฆษณา
- การโฆษณาทางสื่อสิ่งพิมพ์
- การโฆษณาทางสื่ออิเลคทรอนิค
- การโฆษณาทางสื่อนอกสถานที่
- การโฆษณาทางจดหมายตรง
- การโฆษณาทางสื่อใหม่
4.จำแนกตามวัตถุประสงค์ของการโฆษณา
- Product Advertising
- Non-Product Advertising
- Commercial Advertising
- Non-commercial D\Advertising
- Primary-demand Advertising
- Selective-demand Advertising
- Direct-action Advertising
- Indirect-action Advertising
อุตสาหกรรมการโฆษณา
1. ผู้โฆษณา (Advertiser)
1.1 ผู้โฆษณาระดับประเทศ (National Advertiser)
1.2 ผู้โฆษณาในระดับท้องถิ่น (Retail/Local Advertiser)
2. บริษัทโฆษณา (Agency)
องค์กรธุรกิจที่ให้บริการด้านการสร้างสรรค์และพัฒนา วางแผน และทำงาน เพื่อผลิตโฆษณาตามที่ผู้ว่าจ้างต้องการ
3. สื่อ (The Media)
เป็นช่องทางในการเผยแพร่โฆษณา ควรใช้ให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ เพื่อผลประโยชน์สูงสุดจากกลุ่มเป้าหมาย