รู้หรือไม่? ต่อใบขับขี่ ทำใบขับขี่ใหม่ ต้องใช้ใบรับรองแพทย์
การทำใบขับขี่เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับคนขับรถ เพราะหากไม่มีใบขับขี่หรือไม่ไปต่อใบขับขี่เมื่อหมดอายุ ก็ อาจถูกปรับเนื่องจากผิดกฎหมาย อีกทั้งยังมีปัญหาเมื่อต้องเคลมประกันในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุด้วย ซึ่งล่าสุด กรมการการขนส่งทางบกมีการอัพเดตข้อมูลในการต่ออายุใบขับขี่ด้วย
วันนี้ เกร็ดความรู้จากโตโยต้า ลีสซิ่ง จึงมีข้อมูลเกี่ยวกับการทำใบขับขี่ และต่อใบขับขี่ประจำปี 2565 มาฝากกัน
โดยการต่อใบขับขี่แบบ 2 ปี เป็น 5 ปี หรือการต่อใบขับขี่แบบชั่วคราวสำหรับผู้ทำใบขับขี่ครั้งแรก จะต้อง ใช้เอกสาร ดังนี้
• ใบขับขี่ใบเดิม
• บัตรประชาชน (ฉบับจริง)
• ใบรับรองแพทย์ที่ออกก่อนวันยื่นคำขอต่อใบขับขี่ไม่เกิน 1 เดือน
ส่วนการต่อใบขับขี่แบบทั่วไปจาก 5 ปี เป็น 5 ปี ต้องต่ออายุเมื่อใกล้หมดหรือหมดอายุ ตามระยะเวลาที่กรมการขนส่งฯ กำหนดไว้ ใช้เอกสารในการทำใบขับขี่ใหม่ ดังนี้
• ใบขับขี่ใบเดิม หรือใบแทน
• บัตรประชาชน (ฉบับจริง)
• ใบรับรองแพทย์ที่ออกก่อนวันยื่นคำขอต่อใบขับขี่ไม่เกิน 1 เดือน
ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นมา กรมการขนส่งฯ ได้กำหนดหลักเกณฑ์เพิ่มเติมว่าผู้ที่จะต่อใบขับขี่จะต้องมีใบรับรองแพทย์ประกอบด้วย จากนั้นทางกรมการขนส่งฯ จะออกคำขอต่อใบขับขี่ให้ จึงทดสอบสมรรถภาพร่างกาย สายตา และปฏิกิริยาการตอบสนองของเท้า สุดท้ายจึงถ่ายรูปเพื่อทำใบขับขี่ใบใหม่ ส่วนค่าใช้จ่ายในการต่อใบขับขี่อยู่ที่ 505 บาท ทำใบขับขี่ใหม่ 500 บาท
และค่าคำขอทำใบขับขี่ 5 บาท
ทำไมต้องมีใบรับรองแพทย์?
สาเหตุที่ต้องใช้ใบรับรองแพทย์ในการต่อใบขับขี่นั้น เพื่อเป็นการรับรองว่าผู้ขับขี่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่ป่วยด้วยโรคร้ายแรงหรือสมรรถภาพร่างกายไม่พร้อมสำหรับการขับขี่ เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้ขับขี่เอง ไปจนถึงความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่น ๆ ดังนั้นหากใครต้องไปทำใบขับขี่อย่าลืมไปตรวจสุขภาพเพื่อขอใบรับรองแพทย์ และต้องไม่เกิน 1 เดือนจึงจะสามารถใช้ได้ ส่วนขั้นตอนการดำเนินการอื่น ๆ
สามารถทำตามขั้นตอนเดิมได้ตามปกติ
ส่วนการอบรมออนไลน์เพื่อต่ออายุใบขับขี่สามารถทำได้ตามปกติ แต่หลังอบรมเสร็จในขั้นตอนการยื่นเอกสารจะต้องเตรียมใบรับรองแพทย์ไปด้วยเช่นกัน จากนั้นจึงดำเนินการเข้าอบรมและจองคิวต่อใบขับขี่
นอกจากการมีใบขับขี่ตามที่กฎหมายกำหนดแล้ว เรื่องความปลอดภัยขณะขับขี่บนท้องถนนก็เป็นสิ่งที่ผู้ขับขี่ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งการทำประกันภัยรถยนต์เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะหากเกิดเหตุไม่คาดฝันใด ๆ ก็ยังสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้
และหากกำลังมองหาประกันรถยนต์อย่างครบวงจร* สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ //toyotainsurancebroker.com/index.php
หมายเหตุ - *รายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้น เป็นไปตามที่บริษัทประกันภัยกำหนด บริษัท โตโยต้า อินชัวรันซ์ โบรกเกอร์ จำกัด ให้บริการด้านนายหน้าประกันภัยในเครือโตโยต้า ลีสซิ่ง
อ่านเกร็ดความรู้อื่น ๆ ได้ที่
//www.tlt.co.th/news/knowledge
!! สำคัญและโปรดอ่านทำความเข้าใจ !! หมายเหตุ คลินิกเวชศาสตร์ท่องเที่ยวและการเดินทาง โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน
ให้บริการออกเอกสารรับรองการตรวจโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพื่อใช้สำหรับการเดินทางหรือการยื่นวีซ่า หรือใช้เพื่อเตรียมตัวผ่าตัด โดยหากท่านมีความจำเป็นต้องใช้เอกสารดังกล่าว กรุณาทำตามขั้นตอนนี้ ขอใบรับรองแพทย์ COVID19 ใช้ก่อนการเดินทาง/ใช้ขอวีซ่า 1. พิจารณาความจำเป็นในการเดินทางของท่าน ว่าจำเป็นต้องเดินทางในช่วงนี้หรือไม่ การขอใบรับรองแพทย์ COVID19
2. ศึกษาข้อกำหนดของประเทศปลายทางให้ละเอียด แนะนำให้อ่านบทความนี้ คำแนะนำในการเดินทางไปต่างประเทศในช่วง COVID19 และการขอใบรับรองแพทย์ก่อนเดินทาง
3. สำหรับการตรวจ COVID-19 ทางคลินิกมีบริการตรวจ 2 วิธี ได้แก่
a. Real time RT-PCR
b. COVID-19 Rapid - Antigen test
4. การนัดหมาย
• การตรวจทั้ง 2 วิธี ให้ทำการนัดหมายล่วงหน้าที่โดยคลิกที่นี่
ระบบนัดตรวจ COVID online
• ทางคลินิกจะทำการเก็บสิ่งส่งตรวจ เป็นรอบๆ ดังนี้
o วันจันทร์ - ศุกร์ มี 3 รอบคือ 9.00น. 11.00น. และ 14.00น.
o วันเสาร์ - อาทิตย์ มี 1 รอบ คือ 10.30น.
o ปิดทำให้บริการในวันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ (ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2565)
• ท่านต้องทำการนัดหมายตามช่วงเวลาที่ปรากฏในตาราง
และกรุณามาถึงคลินิกอย่างน้อย 15 นาทีก่อนเวลาเก็บสิ่งส่งตรวจ เนื่องจากท่านต้องกรอกเอกสารและพบแพทย์ก่อน
• ในบางรายอาจจะต้องรอให้ถึงรอบ เช่น แม้ว่าท่านจะผ่านการคัดกรอง และพบแพทย์เสร็จแล้วตอน 8.30 ท่านจำเป็นต้องรอตอน 9 น. เพื่อเก็บสิ่งส่งตรวจ (swab)
• กรณีที่ท่านมีข้อสงสัย ท่านสามารถสอบถามได้ทาง Email หรือ Chat box ในหน้า website โดยกรุณาให้รายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทางของท่าน เช่น สายการบิน เวลาเดินทาง ประเทศที่ท่านจะต้องเปลี่ยนเครื่องและประเทศปลายทางของท่านเพื่อประกอบการให้คำแนะนำ
5. วันที่มาตรวจ
• ท่านต้องแสดงหลักฐานยืนยันการนัดหมาย และเอกสารยืนยันการบิน (ตั๋วเครื่องบิน) แก่เจ้าหน้าที่เมื่อถูกร้องขอ
• ให้ท่านนำสำเนา passport มาด้วย 1 ฉบับ เพื่อความถูกต้องในการลงข้อมูลในใบรายงานผลและใบรับรองแพทย์
• พยาบาลจะทำการคัดกรอง วัดสัญญาณชีพ และให้พบแพทย์ก่อนเพื่อพิจารณาความจำเป็นในการตรวจก่อนการเก็บสิ่งส่งตรวจจริง ขั้นตอนนี้จะใช้เวลาประมาณครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมง
6. วีธีการตรวจ COVID และการรับผลตรวจ
- หลังตรวจเสร็จท่านจะได้รับเอกสาร 2 อย่าง ได้แก่ 1) ผลการตรวจ COVID-19 และ 2) ใบรับรองแพทย์
- การตรวจทั้ง 2 วิธี (real time RT-PCR และ rapid antigen test) เป็นการตรวจที่ได้มาตรฐาน สามารถใช้อ้างอิงสำหรับการเดินทางทั้งในและต่างประเทศได้
- ในใบรับรองแพทย์จะระบุข้อมูลของท่าน ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล วัน-เดือน-ปี เกิด สัญชาติ หมายเลขหนังสือเดินทาง วันและเวลาที่เก็บสิ่งส่งตรวจ ชนิดของการตรวจและผลการตรวจ รวมถึงระบุว่าท่านมีอาการที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 หรือไม่
- ผลการตรวจและใบรับรองแพทย์จะออกให้เป็นภาษาอังกฤษ ถ้าต้องการใบรับรองแพทย์ภาษาไทย กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่ในวันที่มาตรวจ
• Real time RT-PCR
o เก็บตัวอย่างจากบริเวณจมูกและลำคอ
o ผลการตรวจ COVID19 PCR จะใช้เวลาประมาณ 1 วัน (ได้รับผลการตรวจประมาณ 10.00 น ในเช้าวันถัดไป)
o ถ้าท่านไม่ต้องการรับใบรับรองแพทย์ ท่านสามารถขอให้ส่งเฉพาะผลการตรวจ PCR ทาง Email ได้ โดยผลการตรวจจะถูกส่งให้ทาง Email อย่างช้าในวันถัดไป (ทางคลินิกไม่สามารถส่งใบรับรองแพทย์ทางอีเมลล์ได้)
o สำหรับใบรับรองแพทย์ตัวจริง (Medical Certificate) ต้องมารับด้วยตัวเอง หรือมอบอำนาจให้ท่านอื่นมารับให้ โดยสามารถมารับได้ในเวลา 10.00 น. ของวันถัดไป และวันเสาร์-อาทิตย์ และบางวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 9.00-11.00น.
• COVID-19 Rapid Antigen test
o การตรวจด้วยวิธีนี้ จะต้องเป็นไปตามข้อบังคับของสายการบิน และประเทศที่ท่านจะเดินทางไปเท่านั้น
o Rapid antigen test ที่คลินิกใช้ มีความเที่ยงตรงและน่าเชื่อถือสูง (Sensitivity 91.4%, Specificity 99.8%) ดูรายละเอียดของ test
ได้ที่นี่
o เก็บตัวอย่างจากบริเวณจมูกเพียงอย่างเดียว
o ท่านสามารถรับผลการตรวจ และใบรับรองแพทย์ได้เลย โดยใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 2 ชั่วโมง หลังเก็บสิ่งส่งตรวจ
o กรณี ที่ผลการตรวจด้วย rapid antigen test ให้ผลบวก ท่านจะต้องทำการตรวจยืนยันซ้ำด้วยวิธี Real time RT-PCR (โดยท่านจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการตรวจซ้ำ)
7. ค่าใช้จ่าย
• Real time RT-PCR
o ค่าใช้จ่าย 2,600 บาท (ตั้งแต่ 1 พ.ย. 64)
o ค่าใช้จ่ายดังกล่าว จะรวม ค่าตรวจ lab ค่าแพทย์ ค่าบริการ และค่าใบรับรองแพทย์แล้ว โดยชำระในวันที่มาตรวจ ในวันที่มารับใบรับรองแพทย์ ไม่ต้องเสียค่าบริการอื่นๆเพิ่มเติม
o ยกเว้น การรับใบรับรองแพทย์นอกเวลาราชการ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 400 บาท
• COVID-19 Rapid Antigen test
o ค่าใช้จ่าย 1,000 บาท (ตั้งแต่ 1 พ.ย. 64)
o ค่าใช้จ่ายดังกล่าว จะรวม ค่าตรวจ lab ค่าแพทย์ ค่าบริการ และค่าใบรับรองแพทย์แล้ว โดยชำระในวันที่มาตรวจ
ขอใบรับรองแพทย์ว่าไม่มีอาการของ
COVID
เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในขณะนี้ และผู้ติดเชื้อจำนวนหนึ่งไม่แสดงอาการ หรือมีอาการเพียงเล็กน้อย ทางคลินิกจึงของดให้บริการการออกใบรับรองแพทย์ว่าไม่มีอาการของ COVID-19 ทั้งนี้ผู้ที่ต้องการใบรับรองแพทย์จะต้องเข้ารับการตรวจ real time RT-PCR หรือ rapid antigen test ด้วยเสมอ
โดยจะต้องทำการนัดหมายล่วงหน้าที่นี่
ขอใบรับรองแพทย์ COVID19 ใช้ก่อนผ่าตัด / ก่อนทำหัตถการ
ศึกษาข้อกำหนดในการผ่าตัดของท่านว่าต้องการใบรับรองแพทย์ COVID19 ไม่เกินกี่วันก่อนผ่าตัด (โดยทั่วไปจะไม่เกิน 72 ชม.) แล้วทำการนัดหมายล่วงหน้าที่ ระบบนัดตรวจ COVID online ของคลินิกเท่านั้น ส่วนข้อปฏิบัตอื่นๆ
เช่นเดียวกับการตรวจก่อนเดินทาง ท่านสามารถทำนัดหมายล่วงหน้าที่นี่
หมายเหตุ
- คลินิกเวชศาสตร์ท่องเที่ยวและการเดินทาง ให้บริการโดยแพทย์ แพทย์ประจำบ้าน และอาจารย์แพทย์ นักท่องเที่ยวแต่ละคนอาจจะได้รับคำแนะนำหรือการตรวจรักษาที่ไม่เหมือนกัน เนื่องจากปัจจัยต่างๆมากมาย รวมถึงความแตกต่างของแต่ละบุคคล สภาพแวดล้อม ภาวะการณ์ รวมถึงวิจารณญานของแพทย์แต่ละท่าน ซึ่งทุกอย่างจะดำเนินไปตามมาตรฐานทางการแพทย์
- คลินิกจะไม่สามารถรับประกันได้ว่า ท่านจะได้รับการตรวจวินิจฉัย หรือได้รับใบรับรองแพทย์ทันในทุกกรณี และคลินิกไม่สามารถรับรองได้ว่าใบรับรองแพทย์ที่ออกให้จะใช้ได้ในทุกกรณี เนื่องจากกฎ ข้อบังคับในการเดินทางมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทั้งจากสายการบิน จากประเทศต้นทาง ประเทศปลายทาง อย่างไรก็ตามก่อนทำการตรวจแพทย์จะช่วยท่านพิจารณาข้อกำหนดในการเดินทางแต่ละครั้ง
- เมื่อท่านรับใบรับรองแพทย์แล้ว กรุณาตรวจสอบชื่อ นามสกุล เลขที่ Passport วันเดือนปีเกิด และรายละเอียดทั้งหมดอีกครั้ง คลินิกจะไม่รับผิดชอบผลกระทบที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเสียเวลา การเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และผลกระทบในกรณีใดๆอันเกิดจากการที่ท่านไม่สามารถเดินทางได้ หรือต้องเลื่อนการเดินทาง เนื่องจากเอกสารไม่สมบูรณ์ หรือสายการบิน/ประเทศปลายทางมีการเปลี่ยนกฎเกณฑ์
Update 4 พฤศจิกายน 2564