การลงทะเบียนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เพื่อรับเบี้ยยังชีพผู้สูงผู้อายุประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายบินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2552 หลักฐานประกอบการขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
- บัตรประจําตัวประชาชน หรือบัตรอื่นที่ออก โดยหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่าย
- ทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน (ที่เป็นปัจจุบัน)
- สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร ในนามผู้มีสิทธิ/ผู้ได้รับมอบอํานาจจากผู้มีสิทธิ (สําหรับกรณีประสงค์รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุผ่านธนาคาร)
“ในกรณีผู้สูงอายไม่สามารถมาลงทะเบียนด้วยตนเองได้ สามารถมอบอํานาจเป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้อื่นเป็นผู้ยื่นคําขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายแทนได้"
คุณสมบัติ
1. สัญชาติไทย
2. มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2505
3. ไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่
- ผู้รับเงินบํานาญ เบี้ยหวัด บํานาญพิเศษ หรือเงินอื่นใดในลักษณะเดียวกัน
- ผู้สูงอายุที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของรัฐ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
- ผู้ได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทน รายได้ประจํา หรือผลประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่รัฐหรือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดให้เป็นประจํา
ไม่รวมถึงผู้พิการหรือผู้ป่วยเอดส์ ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วย การจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2548
หรือผู้ที่ได้รับสวัสดิการอื่นตามมติ คณะรัฐมนตรี การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันได
อายุ 70- 79 ปี 700 บาท/เดือน
อายุ 80- 89 ปี 800 บาท/เดือน
อายุ 90 ปีขึ้นไป 1,000 บาท/เดือน
ระยะเวลาการลงทะเบียน กรณีผู้สูงอายุที่มีอายุ 59 ปี สามารถลงทะเบียนตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 - เดือนพฤศจิกายน 2563 และเดือน มกราคม 2564
ไปจนถึงเดือนกันยายน 2564 โดยจะได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุใน เดือนถัดไป เมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ หมายเหตุ : เกิดก่อน 2 กันยายน 2505 (อายุ 59 ปี)
เนื่องจากผู้สูงอายุที่เกิตตั้งแต่ วันที่ 2 กันยายน 2505 - 1 ตุลาคม 2505 เป็นผู้สูงอายุที่จะมีสิทธิรับเงินเบี้ย ยังชีพผู้สูงอายุในเดือนถัดไป
จากเดือนที่มี อายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ คือเดือนตุลาคม 2565 ซึ่งเป็นปีงบประมาณ 2566 ดังนั้น กลุ่มผู้สูงอายุดังกล่าวต้องลงทะเบียน ขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุตั้งแต่เดือน ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป
การรับเบี้ยความพิการ
คนพิการ กําหนดรับลงทะเบียนคนพิการที่ยังไม่เคยลงทะเบียนมาก่อน และคนพิการย้ายภูมิลําเนาเข้ามาใหม่ในพื้นที่เขตสัมพันธวงศ์ รับเบี้ยความพิการ โดยลงทะเบียนในเดือนใดจะได้รับเงินเบี้ยยังชีพ ในเดือนถัดไป ในอัตรา ๘๐๐ บาทต่อคนต่อเดือน กรณีคนพิการที่มีอายุต่ํากว่า ๑๘ ปี และมีบัตรประจําตัวคนพิการ จากเดิมที่ได้รับ ๘๐๐ บาท ต่อคนต่อเดือน เป็น ๑,๐๐๐ บาทต่อคนต่อเดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๓ เป็นต้นไป ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๖๓ โดยให้คนพิการที่มีอายต่ํากว่า ๑๘ ปี ในวันที่ ๑ ของเดือน ในเดือนนั้นจะมีสิทธิได้รับเงินเบี้ยความพิการ ๑,๐๐๐ บาท หากวันที่ ๑ ของเดือน คนพิการมีอายุ ๑๘ ปีบริบูรณ์หรือมากกว่า ในเดือนนั้นจะมีสิทธิได้รับเงินเบี้ยความพิการ ๘๐๐ บาท ให้มายื่นคําขอขึ้นทะเบียน
ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ณ สำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ พร้อมหลักฐานดังต่อไปนี้
(๑) บัตรประจําตัวประชาชนหรือบัตรอื่นที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่าย (ผู้สูงอายุ)/ บัตรประจําตัวคนพิการ (คนพิการ)
(๒) ทะเบียนบ้าน (ที่เป็นปัจจุบัน) พร้อมสําเนา
(๓) สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร (ประเภทออมทรัพย์) พร้อมสําเนา
ในกรณีมีความจําเป็นที่ไม่สามารถมาลงทะเบียนได้ ผู้สูงอายุและคนพิการอาจมอบอํานาจ เป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้อื่นเป็นผู้ยื่นคําขอลงทะเบียนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการแทนได้ โดยให้เตรียมเอกสารเพิ่มเติม คือ หนังสือมอบอํานาจ(กรอกข้อมูลครบถ้วน) และสําเนาบัตรประจําตัว ประชาชนผู้มอบและผู้รับมอบพร้อมรับรองสําเนาให้ครบถ้วน
คือผู้พิการได้ยื่อเอกสารให้ อบต.ดำเนินการทำบัตรคนพิการให้ตั้งแต่ 5 มิย.58 และไปติดตามเจ้าหน้าที่ อบต.บอกไม่มีบัตรแต่มีชื่อในระบบข้อมูลคนพิการแล้วพิมพ์ใบรายงานข้อมูลคนพิการให้เมื่อวันที่ 10 สค. 59 ผู้ดูแลผู้พิการจึงกลับบ้าน แต่ไม่ได้รับเงินในบัญชีมีแต่เงินผู้สูงอายุเข้า ล่าสุดผู้พิการใด้ไปติดตามเรื่องด้วยตนเองเมื่อ 20 พค. 63 ที่สนง.พมจ. เจ้าหน้าที่ให้ดูหลักฐานว่ามีเจ้าหน้าที่ อบต.รับบัตรไปตั้งแต่วันที่ 9 มิย.63 จึงเดินทางไปติดต่อที่ อบต. เจ้าหน้าที่ อบต.ปฏิเสธบอกไม่มีจึงเอาหลักฐานการรับบัตรให้ดูเจ้าหน้าที่ก็บอกไม่รู้ลายเซ็นใคร และบอกว่ายังไม่ได้ขึ้นทะเบียนรับเงินเบี้ยพิการ พร้อมบอกให้กลับไปทำบัตรใหม่ที่ พมจ. ทางผู้พิการจึงเกิดความสงสัยว่ารับบัตรคนพิการมาแล้วทำไมไม่แจ้งให้ไปรับหรือไปขึ้นทะเบียนรับเงิน หรือมีใครแอบนำไปขึ้นทะเบียนรับเงินไปเองหรือไม่จึงอยากรู้ว่าจะสามารถจะเช็คได้อย่างไรว่ามีการลงทะเบียนรับเงินไปหรือไม่ กรุณาช่วยแนะนำหรือช่วยเช็คให้ได้หรือไม่ เลขบัตรประชาชนผู้พิการ 3720700982505 เนื่องจากผู้พิการอยู่คนเดียวไม่มีผู้ดูแลมาปรึกษาผู้ใหญ่บ้านและข้าพเจ้า
โดย :วันที่ : 21 พฤษภาคม 2563 | 7,340 ครั้ง
ไม่ได้ลงทะเบียนเยียวยา 5000
แต่จะเยียวยาผู้สูงด้านไหนบ้าง
วันที่ : 22 พ.ค. 2563 เวลา 00:46
โดย นายนฤพงษ์ สวัสดี
วันที่ : 23 พ.ค. 2563 เวลา 13:26
จะลงทะเบียนคนพิการให้ตาค่ะแต่ไม่มีบัตรประชาชน ถามญาติๆบอกบัตรหาย ตาอายุ88 ต้องทำบัตรใหม่มั้ยค่ะ เป็นคนไข้ติดเตียง