ข้อมูลสุขภาพ
โรคและการรักษา
รู้จักแคลเซียมให้ดีกว่าเดิม
2 นาทีในการอ่าน
แชร์
แคลเซียมมีประโยชน์มากมาย การทำความรู้จักแคลเซียมจึงเป็นเรื่องควรต้องใส่ใจ
เรื่องแคลเซียมต้องรู้
- ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์แคลเซียมเองได้ สามารถหาแคลเซียมได้จาก 2 แหล่ง ได้แก่
- อาหาร เช่น นม, กุ้งแห้ง, กะปิ, ปลาเล็กปลาน้อย, ปลาสลิด, หอยนางรม, ผักใบเขียวที่มีลักษณะแข็ง (คะน้า, ใบยอ, ใบชะพลู), งาดำ ฯลฯ
***ข้อจำกัดในบางคนที่แพ้นม (ท้องอืด, ท้องเสีย), การกินหอยนางรมและปลาทอดเสี่ยงต่อไขมันในเลือดสูง - อาหารเสริม มี 3 ตระกูล ดูจาก ‘นามสกุล’ ได้แก่
- Calcium ‘Carbonate’ ดูดซึมได้ 10% ท้องอืด, ท้องผูก
- Calcium ‘Citrate’ ดูดซึมได้ 50% ต้องกินพร้อมอาหาร (ทำงานได้ต่อเมื่อมีกรดในกระเพาะเท่านั้น)
- Calcium ‘L theonate’ ดูดซึมได้ 90% กินตอนท้องว่างได้
- อาหาร เช่น นม, กุ้งแห้ง, กะปิ, ปลาเล็กปลาน้อย, ปลาสลิด, หอยนางรม, ผักใบเขียวที่มีลักษณะแข็ง (คะน้า, ใบยอ, ใบชะพลู), งาดำ ฯลฯ
- ปริมาณแคลเซียมที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละช่วงอายุ
- อายุ < 40 ปี 800 mg / วัน = นม 3 – 4 แก้ว
- วัยทอง (~50 ปี) 1000 mg / วัน = นม 4 – 5 แก้ว
- ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์, อายุ > 60ปี 1200 mg / วัน = นม 6 – 7 แก้ว
- ผู้หญิงมีโอกาสกระดูกหักจากโรคกระดูกพรุนมากถึง 30 – 40% ส่วนผู้ชาย 10%
- 10 ปีแรกหลังหมดประจำเดือน กระดูกจะบางลงเร็วมาก เกิดจากการขาดฮอร์โมนเพศหญิง หรือ Estrogen การเสริม Calcium จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก เพื่อช่วยเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกและป้องกันโรคกระดูกพรุน
- ปัญหาของคนที่ซื้อแคลเซียมทานเอง
- กินแคลเซียมชนิดที่ดูดซึมไม่ดี ทำให้มีอาการท้องอืด ท้องผูก
- กินมากเกินความจำเป็น ทำให้เกิดการสะสมของหินปูนในเต้านม ไต หลอดเลือด
- การดูดซึมขึ้นอยู่กับชนิดของแคลเซียมที่เลือกรับประทาน
**ต้องเสริมวิตามินดีควบคู่ไปด้วย เพราะวิตามินดีเป็นเหมือนคู่หูของแคลเซียม ช่วยให้ลำไส้ดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น
**ไม่ควรกินแคลเซียมคู่กับ- ยาปฏิชีวนะบางกลุ่ม (Tetracycline, Quinolone)
- ยาลดความดันบางกลุ่ม (Thiazide Diuretics, Calcium Channel Blockereg Nifedipine, Diltiazem, Verpamil)
- แคลเซียมจะเข้าไปยับยั้งการออกฤทธิ์ของยากลุ่มนี้
- ไม่ควรรับประทานแคลเซียมเกิน 1500 mg / วัน
- ปรึกษาคุณหมอประจำตัวก่อนเลือกรับประทาน
- กินแคลเซียมมากเกินไป
หากกินแคลเซียมในปริมาณที่มากเกินไปจนเกิดการสะสม จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดนิ่วในไต หินปูนในเต้านม มะเร็งเต้านม หินปูนในหลอดเลือด และหลอดเลือดตีบตัน - เลือกแคลเซียมแบบที่ดูดซึมง่าย
การกินแคลเซียมควรเลือกแบบที่ดูดซึมง่าย ผลข้างเคียงน้อย และต้องกินควบคู่กับวิตามินดี
ปัจจัยเสี่ยงขาดแคลเซียม
ปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่ส่งผลให้ร่างกายขาดแคลเซียม ได้แก่
- กินแคลเซียมไม่พอ
- ไม่ออกกำลังกาย
- ดื่มกาแฟเกินขนาด
- ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป
- ขาดฮอร์โมน Estrogen ก่อนวัยหมดประจำเดือน เช่น ต้องผ่าตัดรังไข่ 2 ข้างออก
- มีโครงร่างเล็ก
- มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคกระดูกพรุนหรือกระดูกหักจากโรคกระดูกพรุน
- เคยกระดูกหักมาก่อน
ข้อมูลโดย
แชร์
• เสริมกลุ่มวิตามิน และแร่ธาตุที่ช่วยเสริมการทำงานของ Calcium และ Collagen Type II ไว้อย่างครบถ้วน เช่น Phosphorus (ฟอสฟอรัส),Boron (โบรอน), Magnesium (แมกนีเซียม), Manganese (แมงกานีส), Vitamin K (วิตามิน เค),Vitamin D3, Silicon (ซิลิคอน), Inositol (อินโนซิทอล)1 .Calcium L-Threonate (แคลเซียมแอล-ทรีโอเนต) เป็นแคลเซียมในรูปแบบที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาสำหรับใช้ในภาวะกระดูกพรุนโดยเฉพาะ โดย L-Threonateเป็น Bio-carrier ในการนำพา calcium จึงทำให้ถูกดูดซึมได้ถึง 95 % ขณะที่แคลเซียมทั่วไปดูดซึมได้เพียง 10-15% จึงจัดเป็นแคลเซียมที่ดูดซึมได้ดีที่สุดในปัจจุบัน และ Calcium L-Threonateเป็นแคลเซี่ยมที่เตรียมให้อยู่ในฟอร์มที่ละลายน้ำได้ดีกว่าแคลเซี่ยมชนิดอื่นๆ จึงไม่เหลือหินปูนตกค้าง ไปตกตะกอน หรือไปเกาะตามอวัยวะต่างๆ ของร่างกายและทำให้เกิดผลร้ายต่อร่างกาย เช่น นิ่วในถุงน้ำดี ไม่ทำให้เกิดอาการท้องผูก อีกทั้งยังทานสะดวก เพราะสามารถดูดซึมได้ดีไม่ว่าจะทานในช่วงไหนของวัน ซึ่งปกติแคลเซียมชนิดอื่นต้องทานหลังอาหารเพื่ออาศัยความเป็นกรดในกระเพาะอาหารช่วยในการดูดซึม
2. Selective Collagen Type II (Salmon’s Skin)คอลลาเจน ไทด์ทู จากหนังปลาแซลมอนเป็นคอลลาเจนชนิดเดียวกับที่พบในเซลล์กระดูกอ่อนบริเวณข้อต่อของมนุษย์ แตกต่างจากคอลลาเจนที่พบในเซลล์ผิวหนัง ซึ่งจะเป็นคอลลาเจนชนิดที่ 1, 3 และ 4 (Collagen Type I, III, and IV)คอลลาเจนที่พบในกระดูกอ่อน มีหน้าที่ในการรองรับน้ำหนัก ช่วยทนต่อแรงกระแทก ถ้าคอลลาเจนชนิดนี้ลดตัวลงจะมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับภาวะการเกิดข้อเสื่อม และข้ออักเสบ (Osteoarthritis)
3. L-Arginine (แอล-อาร์จินีน) เป็นกรดอะมิโนที่สำคัญในการผลิตโกรทฮอร์โมน มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อผู้ที่อยากสูง
4. เสริมกลุ่มวิตามิน และแร่ธาตุที่ช่วยเสริมการทำงานของ Calcium และ Collagen Type II ไว้อย่างครบถ้วน เช่น Phosphorus (ฟอสฟอรัส),Boron (โบรอน), Magnesium (แมกนีเซียม), Manganese (แมงกานีส), Vitamin K (วิตามิน เค),Vitamin D3, Silicon (ซิลิคอน), Inositol (อินโนซิทอล)