เช็คเงินประกันราคาข้าว ตรวจสอบเงินประกันรายได้เกษตรกร ราคาอ้างอิงและชดเชยส่วนต่างราคาให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/2565 รอบที่ 1 (งวดที่ 13) สำหรับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนปลูกข้าวระบุวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยว ระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2564 – 6 มกราคม 2565
- ‘วันต่อต้านคอร์รัปชันสากล’ นายกฯ ชวน “คนไทยไม่ทนต่อการทุจริต”
- ลงทะเบียน ‘หมอหนี้เพื่อประชาชน’ ปรึกษาแก้หนี้ช่วงโควิด โดย ธปท.
ช่องทาง เช็คเงินประกันราคาข้าว
เกษตรกรสามารถตรวจสอบผลการโอนเงินได้ทางแอป ธ.ก.ส. A-Mobile ตลอด 24 ชั่วโมง และจะมีข้อความแจ้งเตือนเงินเข้าบัญชีผ่าน LINE Official BAAC Family
กรณีที่ลูกค้าสมัครใช้บริการ BAAC Connect รวมถึง สามารถเบิกถอนเงินสดผ่านตู้ ATM ของ ธ.ก.ส. ทั่วประเทศ
วิธี เช็คเงินประกันราคาข้าว โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65
- ไปที่เว็บไซต์ตรวจสอบผลการรับการสนับสนุนตามโครงการรัฐ ของ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร >> //chongkho.inbaac.com
- กรอกเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก แล้วกดปุ่ม ‘ค้นหา’
- ระบบจะแสดงผลการรับการสนับสนุน
- สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนสำเร็จและได้รับเงินแล้ว หน้าจอจะแสดงผล “โอนเงินเรียบร้อยแล้ว”
- กรณีไม่พบข้อมูลการขึ้นทะเบียน โปรดติดต่อหน่วยงานที่รับขึ้นทะเบียนเกษตรกรตามชนิดพืชที่ได้รับสิทธิ์ตามโครงการเพื่อรับสิทธิ์ต่อไป
ประกาศราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่าง สำหรับงวด 13
กรมการค้าภายใน ได้เปิดเผยข้อมูลของคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวได้มีมติ ในการประชุม ครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2565 เห็นชอบการกำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างประกันราคาข้าวให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 รอบที่ 1 (งวด 13) ดังนี้
ข้อ 1. ราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงประจำวันที่ 7 มกราคม 2565 เพื่อใช้ในการชดเชยส่วนต่าง “ประกันราคาข้าว” ให้แก่เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 รอบที่ 1 (งวดที่ 13) ให้แก่เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 ที่ระบุวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวก่อนวันที่ 31 ธันวาคม 2564 – 6 มกราคม 2565 สำหรับข้าวเปลือกชนิดต่างๆ ณ ความชื้นไม่เกิน 15% ดังนี้
- ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 11,292.82 บาท
- ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 10,905.67 บาท
- ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 9,936.27 บาท
- ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 8,244.65 บาท
- ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 9,802.09 บาท
ข้อ 2. การชดเชยส่วนต่างระหว่างราคา “ประกันรายได้เกษตรกร” กับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง มีอัตราส่วนต่างที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรใช้ในการจ่ายให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว สำหรับการจ่ายเงิน งวดที่ 13 ในวันที่ 7 มกราคม 2565 ดังนี้
- ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 3,707.68 บาท
- ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 3,094.33 บาท
- ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 1,063.73 บาท
- ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 1,755.35 บาท
- ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 2,197.91 บาท
ธ.ก.ส. โอนเงินช่วยเหลือชาวนาผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 25642565 แล้ว ราว 4.63 ล้านครัวเรือน
นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในรัฐบาลเล่าเรื่อง กับทีมนารีสโมสร ถึงความคืบหน้าโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2564/2565 หรือเงินช่วยเหลือชาวนา ที่จ่ายเงินให้ชาวนาผู้ปลูกข้าวในอัตรา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 20 ไร่ หรือครัวเรือนละ ไม่เกิน 20,000 บาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากภาระต้นทุนที่สูงขึ้น และจูงใจให้เกษตรกรดูแลรักษาข้าวให้มีคุณภาพ ว่า จากมติ ครม.ล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ได้อนุมัติกรอบวงเงินเพิ่มเติมอีกกว่า 594 ล้านบาท เพื่อช่วยพื้นที่เป้าหมายการปลูกที่เพิ่มขึ้นประมาณ 583,000 ไร่ ทำให้ยังมีเกษตรกรที่ตกค้างรอเงินช่วยเหลือชาวนา ซึ่งอนุมัติงบเพิ่มเติมครั้งนี้ทำให้มีพี่น้องชาวนาได้รับเงินช่วยเหลือประมาณ 4,700,000 ครัวเรือน
ล่าสุด ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้โอนเงินให้เกษตรกรแล้ว ประมาณ 4,630,000 ครัวเรือน ส่วนที่เหลือที่ได้เพิ่มเติมจากการอนุมัติรอบใหม่นี้ ธ.ก.ส. จะทยอยจ่ายเข้าบัญชีพี่น้องชาวนาต่อไป ตามกรอบเวลาที่ได้ขยายออกไป จากเดิมที่สิ้นสุด 30 เมษายน 2565 เป็นสิ้นสุด 31 สิงหาคม 2565 ระหว่างช่วงเวลานี้ขอให้พี่น้องชาวนาหมั่นนำสมุดธนาคารไปปรับ (อัพบุ๊ก) เพื่อให้ทราบว่ามียอดเงินเข้าหรือไม่
ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : นฤมล อุดมพร / สวท.
ผู้เรียบเรียง : ธนพิชฌน์ แก้วกา
แหล่งที่มา : Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย