การจัดประเภทของสัญญาเช่า สามารถแบ่งได้ 2 ประเภท ดังนี้ 1. สัญญาเช่าการเงิน คือ สัญญาเช่าที่โอนความเสี่ยงและผลตอบแทนทั้งหมด หรือเกือบทั้งหมดที่ผู้เป็นเจ้าของพึงได้รับจากสินทรัพย์ไปให้แก่ผู้เช่า จากความหมายดังกล่าว สามารถที่จะสรุปเป็นสัญญาเช่าการเงินได้ดังนี้ เป็นสัญญาเช่าระยะยาว ที่ผู้เช่าเปรียบเสมือนเจ้าของสินทรัพย์ มีการโอนความเสี่ยงและผลตอบแทนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมดที่ผู้เป็นเจ้าของพึงได้รับจากทรัพย์สินให้แก่ผู้เช่า เมื่อครบกำหนดสัญญาเช่า กรรมสิทธิ์ในทรัพย์ยังคงเป็นของผู้ให้เช่า ผู้เช่าเลือกซื้อสินทรัพย์ที่เช่านั้นหรือไม่ก็ได้ ในการเลือกซื้อราคาที่ซื้อมักจะต่ำกว่าราคายุติธรรมของสินทรัพย์นั้น ณ วันที่สิทธิการเลือกซื้อมีผลบังคับใช้
ปกติสัญญาเช่ามักจะให้ผู้เช่าประกันความเสียหาย และผู้เช่าจะต้องเสียค่าบำรุงสินทรัพย์ที่เช่าเอง 2. สัญญาเช่าดำเนินงาน คือ สัญญาเช่าที่ไม่ใช่สัญญาเช่าการเงินหรือสัญญาเช่าดำเนินงาน ซึ่งก็คือสัญญาเช่าที่ไม่ได้มีการโอนความเสี่ยง และผลตอบแทนทั้งหมด หรือเกือบทั้งหมดที่เป็นเจ้าของพึงได้รับจากสินทรัพย์ให้แก่ผู้เช่า สามารถสรุปเป็นสัญญาเช่าดำเนินงานได้ดังนี้ เป็นสัญญาเช่าที่ผู้เช่าไม่ได้มุ่งหวังจะเป็นเจ้าของสินทรัพย์ หรือมีกรรมสิทธิ์เหนือสินทรัพย์นั้น
อายุของสัญญาเช่ามักจะสั้นกว่าอายุการให้ประโยชน์เชิงเศรษฐกิจ เมื่อสิ้นสุดสัญญาเช่า ผู้เช่าอาจจะนำสินทรัพย์นั้นไปให้ผู้อื่นเช่าต่อได้อีก ในการบำรุงรักษาสินทรัพย์ที่เช่า หรือการซ่อมแซมสินทรัพย์ที่เช่า ผู้ให้เช่าจะต้องเป็นผู้ที่รับผิดชอบ ผู้เช่าสามารถบอกเลิกสัญญานั้นก่อนกำหนดได้ หากเห็นว่าสินทรัพย์ที่เช่านั้นหมดประโยชน์ลง (Visited 3,473 times, 11 visits today)
ความต่างระหว่าง บัญชีและภาษีอากร กรณี สัญญาเช่าดำเนินการ สัญญาเช่าการเงิน และเช่าซื้อ
1. ทรัพย์สินที่เช่า | - บันทึกเป็นทรัพย์สินถาวร | - ไม่ถือเป็นทรัพย์สินถาวร |
2. ค่าเสื่อมราคา | - บันทึกค่าเสื่อมราคาเป็นค่าใช้จ่าย | - ไม่ถือเป็นรายจ่าย |
3. ดอกเบี้ยจ่าย | - บันทึกตัดดอกเบี้ยเป็นค่าใช้จ่าย ตามวิธีทางการบัญชี | - ไม่ถือเป็นรายจ่าย |
4. ค่าเช่าทรัพย์สิน | - ไม่ได้บันทึกบัญชี | - ถือเป็นการเช่าทรัพย์สิน ค่าเช่าถือเป็นรายจ่ายได้ |
5. ใช้สิทธิซื้อทรัพย์สินเมื่อสิ้นสุดสัญญาเช่า | - บันทึกบัญชีโดยไม่กระทบบัญชีรายได้และค่าใช้จ่าย | - ถือเป็นทรัพย์สินถาวรด้วยราคาที่ซื้อ - คิดค่าเสื่อมราคา |
6. ขายทรัพย์สินดังกล่าว | - บันทึกกำไรหรือขาดทุนโดยคำนวณจากมูลค่าสุทธิของทรัพย์สินทางบัญชี | - เกิดกำไร/ขาดทุนโดยคำนวณจากมูลค่าสุทธิของทรัพย์สินทางภาษี |
- สัญญาเช่าดำเนินงาน (Operating lease) | - บันทึกทรัพย์สินที่ให้เช่าเป็นที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ - บันทึกค่าเช่าเป็นรายได้ตลอดอายุสัญญาเช่า - บันทึกค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สินที่ให้เช่า | - เหมือนกับบัญชี |
- สัญญาเช่าทางการเงิน (Finance lease) | - บันทึกเป็นลูกหนี้ - ค่าเช่ารับแบ่งเป็น 2 ส่วน - ส่วนที่ไปลดเงินต้น - กรณีเป็นผู้ผลิตหรือผู้ขาย บันทึกกำไรขาดทุนจากการขายเช่นเดียวกับการขายปกติ | - บันทึกค่าเช่ารับ (ดอกเบี้ยและเงินต้น) เป็นรายได้ - ไม่มีกำไรขาดทุนจากการขายทรัพย์สินขณะเริ่มสัญญา - บันทึกค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์เป็นค่าใช้จ่าย - อาจมีกำไรขาดทุนจากการขายทรัพย์สินเมื่อมีการซื้อขายทรัพย์สิน |
- เช่าซื้อ(Hire purchase) | - ถือเป็นการขายผ่อนชำระ - รับรู้รายได้ในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชีตามงวดที่ถึงกำหนดชำระ | - กำไรที่เกิดจากการขายต้องนำมารวมคำนวณเป็นรายได้ทั้งจำนวนในรอบระยะเวลาบัญชีที่มีการให้เช่าซื้อหรือขายผ่อนชำระ - ดอกผลเช่าซื้อหรือขายผ่อนชำระให้นำมารวมคำนวณเป็นรายได้แต่ละงวดตามวิธีการทางบัญชีที่รับรองทั่วไป |
- สัญญาเช่าดำเนินงาน (Operating lease) | - บันทึกค่าเช่าเป็นค่าใช้จ่ายตามงวดเวลาการใช้ประโยชน์ | - เหมือนกับบัญชี |
- สัญญาเช่าทางการเงิน (Finance lease) | - บันทึกเป็นทรัพย์สินและหนี้สิน ค่าเช่าจ่าย แบ่งเป็น 2 ส่วน - ดอกเบี้ยจ่าย - ส่วนที่ไปลดเงินต้น - ตั้งค่าเสื่อมราคาทรัพย์สิน | - ไม่บันทึกทรัพย์สิน - ไม่มีค่าเสื่อมราคาทรัพย์สิน - บันทึกค่าเช่า ซึ่งประกอบด้วยเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นค่าใช้จ่าย |
- เช่าซื้อ(Hire purchase) | - บันทึกเป็นทรัพย์สินและหนี้สินโดยมูลค่าทรัพย์สินเท่ากับราคาเงินสด ส่วนดอกเบี้ยจ่ายรับรู้เป็นค่าใช้จ่ายตามงวดที่ถึงกำหนดชำระ - ตั้งค่าเสื่อมราคาทรัพย์สิน | - บันทึกเป็นทรัพย์สินและหนี้สิน โดยมูลค่าทรัพย์สินเท่ากับราคาที่พึงชำระทั้งหมด(ราคาเงินสดบวกด้วยดอกเบี้ย) - ตั้งค่าเสื่อมราคาทรัพย์สิน |