At L'Oréal, we offer opportunities to our colleagues to discover and unleash the best of themselves. The Management Trainee Program provides you with the unique overview and insights to the business, brands and functions. The MT Program comprises of several rotations across different roles; depending on the location. The duration may last up to 18 months!
ช่วงนี้ก็ถึงเวลาที่เฟรชชี่น้องใหม่จากมหาลัยจะเริ่มโบยบินสู่สนามการทำงานที่แท้จริง ใครมีความฝันอะไรก็ได้ลงไปทำอย่างเต็มตัว แต่การจะต่อสู้ด้วยเส้นตรงตลอด ก็คงใช้เวลานานมากเกินไปหากเราอยากเจอทางที่สั้นลงและความสำเร็จที่มากขึ้น โครงการ Management Trainee คือคำตอบค่ะ วันนี้เราจะรวมโครงการว่าที่ผู้จัดการฝึกหัดสู่ผู้จัดการตัวจริง มีโครงการอะไรที่น่าสนใจบ้าง ไปดูกันค่า
Central Group
บริษัทยักษ์ใหญ่ที่รวมห้างสรรพสินค้าเกือบค่อนประเทศ ซึ่งฝ่ายที่เปิดรับปีนี้มีหลายฝ่าย ความท้าทายคือคุณจะได้ทำงานแทบทุกตำแหน่ง เพื่อให้รู้ถึงขั้นตอนแต่ละฝ่าย เมื่อคุณเป็นหัวหน้าจะได้เข้าใจว่าแต่ละตำแหน่งต้องดูแลยังไง และที่สำคัญคือได้เรียนรู้โมเดลธุรกิจแบบเข้มข้นพร้อมกับเพื่อนที่เก่งไม่แพ้กัน เรียกว่าเทรนด์ตัวเองด้านธุรกิจแบบเข้มข้นของจริง
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม >> //www.centralgroupma.com/
Nestle
ความโดดเด่นของ Nestle คือคุณสามารถเติบโตทำงานกับ Nestle ที่ต่างประเทศได้ เป็นหลักสูตรนานาชาติ และยังได้ฝึกแบบเข้มข้นทั้งการขาย การตลาด การเงิน วิทยาศาสตร์การอาหาร และวิศวกรรม เรียกว่าครบทุกฟังก์ชั่นของการเป็นผู้ประกอบการ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม >> //www.nestle.co.th/th/jobs/young-leader-program
Krungthai
โครงการนี้คือการร่วมออกแบบ คิดค้น พัฒนา Product ใหม่ๆ ของกรุงไทยทางด้านเทคโนโลยี และยังเปิดรับถึงอายุ 30 เรียนรู้งานกับทุกๆ ฝ่ายของบริษัท เพื่อให้เข้าใจถึงขั้นตอนในแต่ละฝ่าย ซึ่งตอนนี้กรุงไทยได้อัพเดทเป็น Krungthai NEXT ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจให้กับโครงการนี้ทวีคูณ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม >> //www.ktb.co.th/th/krungthai-update/announcement-detail/303
L’Oreal
ปีนี้ L’Oreal เปิดรับหลายฝ่าย เพื่อเทรนด์กลุ่มคนรุ่นใหม่ให้เข้ามาบริหารองค์กร ซึ่งสินค้าของ L’Oreal ไม่ได้น่าสนใจแค่เครื่องสำอางค์เท่านั้นแต่ยังมีสินค้าอีกหลายส่วนที่ท้าให้คุณเข้าไปดูแล ถึงระยะเวลาการเทรนด์จะน้อยกว่าที่อื่นแต่รับรองว่าเนื้อหาอัดแน่นไม่แพ้กัน
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม >> //careers.loreal.com/global/en/job/65538/Management-Trainee-Marketing
โครงการที่เสนอไปด้านบนเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งนะคะ ที่รอให้คุณไปสมัครเพื่อพัฒนาศักยภาพตัวเองและฐานเงินเดือนที่สูงปรี๊ด ยังมีอีกหลายโครงการ ซึ่งช่วงนี้ส่วนใหญ่กำลังเปิดรับสมัครอยู่ ใครกำลังสงสัยลองเข้าไปดูรายละเอียดตามลิงค์ที่แนบไว้ได้เลยนะคะ เพราะตอนนี้โลกธุรกิจเปิดรับให้คนรุ่นใหม่ไฟแรงเข้ามาบริหาร อย่าพลาดโอกาสนะคะ
คำตอบคือ ลอรีอัล ที่มี 32 แบรนด์สินค้าในมือทำธุรกิจมากกว่า 140 ประเทศทั่วโลก โดยในปี 2017 ที่ผ่านมามีรายได้เกือบๆ 990,000 ล้านบาทรายได้มหาศาลบวกกับ Branding ที่ใครๆ ยกนิ้วให้ในเรื่องความแข็งแกร่ง จึงไม่แปลกที่ในทุกๆ ปีโพลสำนักต่างๆ ที่มีดีกรีระดับโลก ทำการสำรวจบริษัทที่น่าทำงานที่สุดในโลกชื่อของ ลอรีอัล จะติดอยู่ในอันดับ Top Ten อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีพนักงานทั่วโลกอยู่ 83,000 คน
ทำให้ในแต่ละปีมีคนเขียนใบสมัครทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ทั่วโลกถึง 1.3 ล้านคนเลยทีเดียว แต่มีเพียง 80,000 คนที่ถูกเรียกสัมภาษณ์และมีเพียงแค่ 4,000 คนเท่านั้นที่ได้เข้าทำงานในตำแหน่งผู้จัดการ
หรือคิดง่ายๆ ถ้าเราไปเขียนใบสมัคร โอกาสที่จะได้เรียกตัวเข้าสัมภาษณ์งานมีประมาณ 7% เท่านั้น
คำถามคือแล้วตัวเลขสถิติในประเทศไทยนั้น เป็นอย่างไร โดยข้อมูล 5 เดือนที่ผ่านมา มีคนเขียนใบสมัคร 880 คน แต่สามารถรับเข้าทำงานได้แค่ 34 คน
แล้วทำไมใครๆก็อยากเข้าไปทำงานกับลอรีอัล อันดับแรกคงหนีไม่พ้นเรื่องค่าตอบแทน
หลายคนอาจคิดว่าการจะสมัครเข้าทำงานในบริษัทลอรีอัลประเทศไทยนั้นต้องมีเกรดเฉลี่ยระดับเกียรตินิยม จบจากมหาวิทยาลัยชื่อเสียงระดับประเทศ
ความจริงนั้นผิดถนัด จากคำเปิดเผยของผู้บริหาร บอกว่าทางบริษัทไม่เคยสนใจเรื่องเหล่านี้ แต่สิ่งที่โฟกัสอันดับแรกสุดคือ คนๆ นั้นมี Passion ในการทำงานกับองค์กรมากน้อยแค่ไหน แล้วมีความรักและพร้อมจะเรียนรู้ในธุรกิจความงามของบริษัทหรือไม่
ลอรีอัล ภารกิจแก้เกม พนักงาน ไหลออก
ในขณะที่ความท้าทายของลอรีอัลที่เผชิญอยู่ ณ เวลานี้ทั้งในระดับโลกรวมถึงในเมืองไทยคืออัตราพนักงานลาออกที่คิดเป็น 23% (เป็นตัวเลขระดับ Global)
ปฎิบัติการมัดใจพนักงานจึงเกิดขึ้น ไม่ว่าการให้พนักงานสามารถซื้อหุ้นของบริษัทได้ เพื่อให้รู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท,การให้อิสระในการทำงานที่หลายตำแหน่งไม่ต้องเข้าออฟฟิศ พร้อมกับมีการกำหนดทิศทางการก้าวไปข้างหน้าขององค์กรอย่างชัดเจนในทุกๆ ปี
รวมไปถึงการปรับผังตำแหน่งผู้บริหารในทุกๆ ประเทศ โดยจากเดิมจะเป็นชาวต่างชาติ 70% แต่ปัจจุบันจะเป็นคน Local ในประเทศนั้นๆ มากกว่า 50% รวมถึงปรับสมดุลย์ในตำแหน่งผู้บริหารฝ่ายต่างๆ เป็น ชาย 50% หญิง 50%
การปรับแนวคิดการบริหารพนักงานจากหน้ามือเป็นหลังมือดูเหมือนจะมาถูกทางจากเดิมที่จำนวนพนักงานลาออกคิดเป็น 23% ผลสำรวจล่าสุดเหลือเพียง 17%