ในคลิปก่อน ผมได้มีพูดถึงเรื่องประเภทของแผงโซล่าเซลล์ไปแล้วครั้งนึงในคลิป “แผงโซล่าเซลล์มีทั้งหมดกี่ชนิด เทคโนโลยีไหนจะเป็นเทคโนโลยีแห่งอนาคต” แต่ในคลิปนั้นบางคนที่ไม่ได้สนใจเทคโนโลยีเชิงลึก อาจจะรู้สึกว่ามันลึกลับซับซ้อนจนเกินไป โดยเฉพาสำหรับมือใหม่ ที่ต้องการใช้เทคโนโลยีปัจจุบันเท่านั้น
ผมจึงทำบทความใหม่เกี่ยวกับ ประเภทของแผงโซล่าเซลล์ ซึ่งจะพูดถึงแค่เทคโนโลยีที่ใช้กันในปัจจุบัน และมาเปรียบให้เห็นกันชัดๆว่าแผงโซล่าเซลล์ชนิดไหนเหมาะกับภูมิอากาศของประเทศไทยมากกว่า
สารบัญ
- ดูคลิป “แผงโซล่าเซลล์ มีกี่แบบ แบบไหนเหมาะกับประเทศไทย”
- แผงโซล่าเซลล์มีกี่ประเภท
- แผง Mono หรือ Poly เหมาะกับประเทศไทย
- แผงประเภทไหนที่เราควรเลือกใช้
- สรุป
บทความต่อไปนี้ ผมสรุปมาจากคลิปด้านล่างครับ ใครขี้เกียจอ่านก็ฟังในคลิปเอานะ ใครอยากฟังใน Youtube เข้าไปฟังได้ที่ “แผงโซล่าเซลล์ มีกี่แบบ Mono หรือ Poly ดีกว่ากัน”
ถ้าใครคิดว่ามีประโยชน์ อยากสนับสนุน ฟังสาระดีๆ ช่วยกด Like กด Share กด Subscribe
“Energy for Dummies” ให้ผมด้วยนะ
แผงโซล่าเซลล์มีกี่ประเภท
แผงโซล่าเซลล์ในโลกเลยจริงๆมีหลายประเภท หลายเทคโนโลยีมากๆ แต่เทคโนโลยีที่เราใช้ในปัจจุบัน และใช้มากที่สุดคือ โซล่าเซลล์ที่ทำจากซิลิคอน เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่สามารถผลิตในระดับอุตสาหกรรมได้ และยังมีประสิทธิภาพของแผงที่ดี
โดยแผงโซล่าเซลล์ที่ทำจากซิลิคอน จะแบ่งออกเป็น 3 ชนิดด้วยกัน คือ
- Mono-crystalline
- Poly-crystalline
- Thin-film
ถ้าเราจะใช้ทำระบบโซล่าเซลล์ ไม่ว่าจะเป็น on-grid หรือ off-grid ให้เลือก Mono หรือ Poly ไปเลย สำหรับปัจจุบันไปในอนาคตอีก 7-8 ปีคงไม่มีเทคโนโลยีอื่นมาแซงหน้า
ส่วนแผงชนิด Thin-film เราพอจะเห็นอยู่ประปรายโดยจะแบ่งย่อยไปอีกหลายประเภท มีทั้งที่ทำจาก ซิลิคอน และไม่ได้ทำจากซิลิคอน แต่เอาเป็นว่าเค้าไม่นิยมกัน นิยมในงานพวกที่ต้องการให้มันสวย เช่น กระจกบนอาคารพวกนี้ อาจจะมีใช้บ้างครับ
มีคนเอาเทคโนโลยี Thin-film มาทำเป็นแผงโซล่าเซลล์ หรือทำโซล่าฟาร์มเลยก็มี แต่ว่าไม่ค่อยทนเท่าไหร่ และอัตราการเสื่อมสภาพเร็วกว่าแผงแบบ Mono และ Poly จึงไม่ค่อยได้รับความนิยม
แผง Mono หรือ Poly เหมาะกับประเทศไทยมากกว่า
มีคำถามเยอะมากว่า แล้วแผง Mono หรือ Poly มันดีกว่ากัน ไว้ผมจะทดลองให้ดูนะ พอดีว่าผมยังหาแผงยี่ห้อเดียวกัน ขนาดเท่ากัน ที่อันนึงเป็น Mono อันนึงเป็น Poly ไม่ได้ จะได้ให้เห็นกันชัดๆไปเลย
แต่คนส่วนมากมักจะบอกว่าสำหรับประเทศไทย แผง Poly ดีกว่าแผง Mono เนื่องจากแผง Mono จะ sensitive หรือ ไวต่อแสงมากกว่า ทำให้ทำงานได้ดีกว่าแผง Poly ในช่วงเช้า และช่วงเย็น ในขณะที่แผง Poly ทำงานได้ดีกว่าในช่วงแดดเปรี้ยงๆ
ถ้าถามว่าเป็นไปได้มั้ย เรามาดูลักษณะแผงกันก่อน แผง Mono จะมีลักษณะดำๆเรียบๆ (รูปด้านบน) ในขณะที่แผง Poly มันจะเป็นผลึกๆ สีออกน้ำเงินเข้มน้อยกว่า Mono
หากใครพอมีความรู้เรื่องแผงโซล่าเซลล์ จะรู้ว่าแผงโซล่าเซลล์ไม่ค่อยชอบความร้อนเท่าไหร่ ดังนั้น ในช่วงแดดเปรี้ยงๆทำให้แผง Mono มันมีความร้อนของแผงที่สูงกว่าแผง Poly เนื่องมาจากสีที่เข้มกว่านั่นเอง จึงอาจทำให้ประสิทธิภาพต่ำกว่า ทฤษฎีนี้ก็มีความเป็นไปได้สูงเช่นกัน
แล้วเราควรเลือกแผงชนิดไหน
สำหรับผมไม่ว่าแผงชนิดไหนจะดีกว่ากัน หรือเหมาะกับประเทศไทยมากกว่า ผมคิดว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่าไหร่ ส่วนตัวให้เลือกที่ราคาต่อ Wp ที่ต่ำกว่า คิดว่าโดยรวมๆแล้วพลังงานที่ได้คงไม่ได้ต่างกันแบบมีนัยยะเท่าไหร่
แผงส่วนมากที่ผมใช้จะเป็นแผง Mono ด้วยซ้ำ เพราะว่าหาแผง Poly ไม่ค่อยได้ คงเป็นเพราะคนซื้อหมดนั่นแหละ ข้อดีอีกอย่างของแผง Mono คือผมว่าแผงมันสวยกว่าด้วยนะ
สรุป
แผงโซล่าเซลล์ที่เรานิยมใช้อยู่ในปัจจุบันมีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภทหลักๆ คือ Mono, Poly และ Thin-film โดยหากเราจะใช้กับงาน on-grid หรือ off-grid ทั่วๆไปให้เลือกแผงประเภท Mono หรือ Poly ไปเลย ไม่ต้องคิดมากครับ
ส่วนจะเลือก Mono หรือ Poly ดี ส่วนตัวคิดว่าพลังงานที่ได้โดยรวมคงไม่ต่างอะไรกันมาก อันไหนราคาต่อ Wp ต่ำกว่า ก็สามารถเลือกอันนั้นได้เลยครับ
แผงโซล่าเซลล์ โมโน ฮาฟเซลล์ ขนาด 450W (BQ solar)
คุณสมบัติ
- แผงโซล่าเซลล์ 450w
- ขนาด 2108*1048*35 mm
- น้ำหนัก 24.5 kg
- ประกันนานถึง 10ปี ประกันไฟออกจากบริษัท 15 ปี
- ผ่าน มาตรฐานโลก
- ทนความร้อนได้ดีขอบหนากระจกแตกยาก
- ทำงานได้ดี มีประสิทธิภาพถึงแดดอ่อน
- เทคโนโลยีใหม่ ทำงานได้ดี ถึงแดดร่ม ฝุ่นเกาะ มีสิ่งมาบดบังแผงด้านใดด้านหนึ่ง ประสิทธิภาพจะไม่ลดลงเท่าแผงปกติ เหมาะกับประเทศไทยที่สุด
- เป็นแผงชนิดที่กำลังนิยมในงานโปรเจคใหญ่ๆทั่วโลก ระดับโลก
- กระแสได้ดีกว่าแผงปกติทั่วไป เพราะเซลล์เล็กกว่าและเป็นเทคโนโลยีใหม่
- สามารถใช้งานคืนค่าไฟและในระบบสูบน้ำได้ใช้ได้ทุกงาน
- มี MC4 แถมให้หลังแผง 1 คู่
เห็นคำว่า Half-Cell เมื่อเร็ว ๆ นี้? อะไรคือความแตกต่าง?
ด้วยตลาดโลกแผงโซล่าเซลล์พลังงานแสงอาทิตย์ทั้งต่างประเทศ และ ในประเทศกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องและแนวโน้มใหม่ ๆ กลายเป็นกระแสหลักอย่างรวดเร็ว
โมดูลเซลล์เต็มกระแสหลักในปัจจุบัน (60 เซลล์) จะมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 35% ในปี 2571 ITRPV คาดการณ์ว่ารูปแบบเซลล์อื่น ๆ จะเข้ามาในไม่ช้า เทคโนโลยี Half Cell เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่เปลี่ยนเกมโซลาร์เซลล์
International Technology Roadmap of Photovoltaic (ITRPV) คาดการณ์ว่าส่วนแบ่งการตลาดของเซลล์ครึ่งเซลล์จะเพิ่มขึ้นจาก 5% ในปี 2020 เป็นประมาณ 40% ในปี 2571 ซึ่งบ่งชี้ว่าเทคโนโลยีPV Half Cell เป็นผู้เล่นที่แข็งแกร่งต่อเทคโนโลยีแผงโซล่าเซลล์
แผงโซล่าเซลล์แบบHalf Cell Modules คืออะไร?
แผงเซลล์เต็มแบบดั้งเดิม (60 เซลล์) ทำด้วยเซลล์ 60 หรือ 72 เซลล์บนแผงทั้งหมด โมดูลครึ่งเซลล์จะเพิ่มจำนวนเซลล์เป็นสองเท่าเป็น 120 หรือ 144 เซลล์ต่อแผง แผงมีขนาดเท่ากับแผงเซลล์เต็ม แต่มีเซลล์เพิ่มขึ้นสองเท่า การเพิ่มจำนวนเซลล์เป็นสองเท่าเทคโนโลยีนี้ทำให้เกิดช่องทางมากขึ้นในการดักจับผลิตพลังงานจากแสงแดดเพื่อส่งเข้าสู่อินเวอร์เตอร์
โดยพื้นฐานแล้วเทคโนโลยี Half-Cell คือกระบวนการตัดเซลล์ออกเป็นครึ่งหนึ่งเพื่อลดความต้านทานเพื่อให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น แผงเซลล์เต็มแบบดั้งเดิมที่มี 60 หรือ 72 เซลล์จะสร้างความต้านทานซึ่งสามารถลดความสามารถของแผงในการผลิตพลังงานได้มากขึ้น ในขณะที่ Half-Cells ที่มี 120 หรือ 144 เซลล์มีความต้านทานต่ำกว่าซึ่งหมายความว่ามีการจับและผลิตพลังงานมากขึ้น แผงครึ่งเซลล์มีเซลล์ขนาดเล็กในแต่ละแผงซึ่งจะช่วยลดความเครียดเชิงกลบนแผงควบคุม ยิ่งเซลล์มีขนาดเล็กโอกาสที่แผงไมโครแคร็กจะน้อยลงยิ่งไปกว่านั้นเทคโนโลยี Half-Cell ยังให้อัตรากำลังขับที่สูงกว่าและมักจะเชื่อถือได้มากกว่าแผงเซลล์เต็มแบบเดิม
เหตุใดจึงหันมาใช้เทคโนโลยี Half-Cell สำหรับการติดตั้งครั้งต่อไปของคุณ?
โอกาสในการสร้างพลังให้กับลูกค้าของคุณมากขึ้นและประหยัดค่าใช้จ่ายถือเป็นระดับแนวหน้าของการขายระบบ PV บนชั้นดาดฟ้า เทคโนโลยี Half-Cell สามารถยกระดับการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ของคุณไปอีกขั้น
ความนิยมครึ่งเซลล์ที่เพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเกิดจากข้อดีบางประการที่แตกต่างกันเช่น:
ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมในสถานการณ์แสงน้อย
เทคโนโลยีครึ่งเซลล์นั้นยอดเยี่ยมในสถานการณ์แสงน้อย เนื่องจากการออกแบบจำนวนเซลล์ที่เพิ่มขึ้นส่งกำลังให้อินเวอร์เตอร์มากขึ้น
เทคโนโลยีครึ่งเซลล์มีความทนทานมากขึ้นเพื่อประสิทธิภาพที่ยาวนาน
เทคโนโลยี HC มีความไวต่อการแตกร้าวน้อยกว่าเนื่องจากเซลล์แสงอาทิตย์มีขนาดเล็กลง ความเค้นเชิงกลของแผงควบคุมทั้งหมดจะลดลงซึ่งจะช่วยลดโอกาสในการเกิดรอยแตกขนาดเล็ก ดังนั้นแผง HC จึงมีความทนทานมากกว่าและมีแนวโน้มที่จะแตกร้าวน้อยกว่าในระยะเวลานาน
ทำงานได้ดีขึ้นในสภาวะที่มีความร้อนสูง
เทคโนโลยี Half-Cell ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าทำงานได้ดีภายใต้สภาวะความร้อนสูง อย่างที่เราทราบกันดีว่าออสเตรเลียไม่เคยตกอยู่ในสภาวะอากาศร้อน นี่คือเหตุผลที่เทคโนโลยี Half-Cell ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในตลาดพลังงานแสงอาทิตย์ของออสเตรเลีย เทคโนโลยี Half-Cell มีความไวต่อการทำงานผิดปกติของแผงควบคุมน้อยกว่า
จุดร้อนเป็นเรื่องปกติมากในแผงเซลล์แสงอาทิตย์ที่ผลิตไม่ดีและสามารถลดอายุการใช้งานของแผงเซลล์แสงอาทิตย์ได้อย่างมาก แผงโซลาร์เซลล์แบบครึ่งเซลล์มีความร้อนน้อยกว่าแต่ละเซลล์บนแผง จุดร้อนเป็นเรื่องธรรมดาและเป็นลบที่มาพร้อมกับระบบ PV แสงอาทิตย์ที่ได้รับความร้อนคงที่ในระดับสูง ในบางกรณีหลัก ๆ จุดร้อนอาจทำให้เกิดไฟไหม้บ้านของลูกค้าได้ การมีกล่องแยกแยกจะช่วยลดความร้อนของเซลล์และความเป็นไปได้ที่จะเกิดจุดร้อน