ปวด ท้องน้อย ด้านซ้าย ตั้ง ครรภ์ 9 เดือน

การเจริญและการพัฒนาของทารก

ช่วงนี้สมองเด็กจะเจริญเติบโตเร็วมาก เด็กจะเจริญอย่างรวดเร็ว ปอดเด็กเจริญเต็มที่พร้อมที่จะคลอด หัวเด็กจะกลับลงพร้อมคลอด ภูมิคุ้มกันจากแม่จะเข้าสู่ลูก เด็กจะเคลื่อนไหวมากขึ้น ปอดแข็งแรงมาก เด็กจะยาวประมาณ 20 นิ้ว หนัก 2.5-4 กิโลกรัมช่วงอายุครรภ์ 37-42 สัปดาห์เด็กสามารถคลอดได้ตลอดเวลา ขนและไขตามตัวจะหลุดออกจากตัว เด็กจะกลืนน้ำคร่ำ และถ่ายออกมาดำที่เรียกว่า meconium

ระยะนี้คุณแม่ จะรู้สึกอึกอัดเพราะเด็กตัวโต และดันกระเพาะ และกำบังลมทำให้แน่นท้องหายใจตื้นและเร็ว อาจจะมีอาการจุกเสียดหน้าอก และท้องผูก

อาการคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ 9 เดือน

อาการของคุณแม่ไม่ต่างจากการตั้งครรภ์ 8 เดือน

  • อาการปวดหลังเนื่องจากขนาดมดลูกที่ใหญ่ขึ้น
  • มีมูกสีขาวไหลออกมาทางช่องคลอด (Mucus Plug) โดยมักเริ่มไหลออกมาก่อนการคลอดประมาณ 2 สัปดาห
  • ปวดจุกหัวเหน่าเนื่องจากเด็กเคลื่อนมาในช่องเชิงกราน
  • คุณแม่จะหายใจสะดวกขึ้น เด็กดิ้นน้อยลงเนื่องจากเด็กเคลื่อนเข้มาในช่องเชิงกราน
  • ข้อเท้าและเท้าบวม แต่หากสังเกตว่ามีอาการบวมอย่างฉับพลัน หรือบวมตำแหน่งอื่นร่วมด้วยอย่างมือ ใบหน้าและรอบดวงตา น้ำหนักขึ้นผิดปกติ ควรไปพบแพทย์ทันที เนื่องจากอาจเป็นสัญญาณของภาวะครรภ์เป็นพิษ (Preeclampsia)
  • อ่อนเพลีย
  • ท้องผูกเนื่องจากหัวเด็กกดลำไส้ใหญ่
  • ปัสสาวะบ่อย
  • อาการท้องลดหรือตำแหน่งหน้าท้องของคุณแม่ลดต่ำลง เนื่องจากทารกเริ่มเคลื่อนตัวลงมาใกล้บริเวณกระดูกเชิงกรานมากขึ้น คุณแม่จะเริ่มหายใจได้สะดวกขึ้น แต่อาจรู้สึกปวดบริเวณอุ้งเชิงกราน รู้สึกถึงแรงกดที่บริเวณท้อง และปัสสาวะบ่อยขึ้น
  • ปวดท้องหลอก
  • ปวดหลัง อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ และฝันร้ายจากความวิตกกังวลในช่วงใกล้คลอด

อาการเตือนใกล้คลอด

ในระยะนี้เด็กพร้อมที่จะคลอดได้ตลอดเวลา คุณแม่ต้องจดเบอร์โทรศัพท์ของแพทย์ที่ดูแลท่านไว้ให้ใกล้โทรศัพท์ หรือในตำแหน่งที่หยิบง่าย และอาจจะต้องจดเบอร์โทรของโรงพยาบาลที่ใกล้ คุณแม่ต้องของคำแนะนำจากแพทย์ว่าเมื่อไรจึงจะต้องรีบเข้าโรงพยาบาล เกิดอาการอะไรบ้างที่ต้องแจ้งแพทย์ ช่วงนี้อาจจะมีอาการปวดท้องเตือนซึ่งจะแตกต่างจากอาการปวดท้องคลอดจริงดังนี้

  • อาการปวดท้องจะสม่ำเสมอ วิธีการตรวจคือเมื่อเริ่มปวดท้องให้คุณนับหรือจับเวลาตั้งแต่เริ่มปวดท้องจนปวดท้องครั้งต่อไป จะพบว่าอาการปวดจะมาอย่างสม่ำเสมอ
  • ในหนึ่งชั่วโมงปวดมากกว่า 5 ครั้ง
  • แต่ละครั้งปวดนาน 30-70 วินาที
  • หากคุณเคลื่อนไหวจะปวดมากขึ้น

หากมีอาการดังกล่าวให้รีบแจ้งแพทย์

สำหรับท่านที่มีอาการปวดท้องเตือน ท่านต้องเฝ้าดูอาการดังต่อไปนี้

  • เลือด หรือน้ำออกจากช่องคลอดหรือไม่
  • มดลูกหดเกร็งตลอดเวลา
  • ปวดหลังตลอดเวลาไม่หาย
  • รู้สึกว่าเด็กไหลลงช่องคลอด
  • มีไข้
  • ปวดศีรษะ
  • ตาพร่ามัว

หากคุณแม่ไม่แน่ใจ ให้โทรปรึกษาแพทย์ด้วยตัวเอง เพื่อที่จะได้อธิบายอาการได้อย่างถูกต้อง และรับฟังคำแนะนำ

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดกับผู้ตั้งครรภ์

ระยะนี้แพทย์จะนัดตรวจทุกสัปดาห์ วัดความดันโลหิต ชั่งน้ำหนัก ตรวจปัสสาวะ ตรวจภายในวัดขนาดของมดลูก ความสูงของมดลูก และตรวจว่าปากมดลูกเปิดหรือยัง แพทย์จะถามเรื่องความถี่และความแรงของอาการมดลูกบีบตัว

การคลอดใช้เวลานานเท่าไร

ครรภ์แรกจะใช้เวลาประมาณ 15 ชั่วโมงแต่อาจจะนานถึง 20 ชั่วโมง กระบวนการคลอดแบ่งออกเป็นสามระยะ

  • ระยะที่1เริ่มตั้งแต่เริ่มปวดท้องคลอดจนกระทั่งปากมดลูกเปิดเต็มที่และปากมดลูกบาง
  • ระยะที่2เริ่มตั้งแต่ปากมดลูกเปิดเต็มที่จนกระทั่งตัวเด็กโผล่ออกมา ใช้เวลาเป็นนาทีจนเป็นชั่วโมง
  • ระยะที่3เริ่มตั้งแต่ตัวเด็กคลอดออกมาจนกระทั่งรกคลอดออกมา

เตรียมเรื่องห้องและเครื่องแต่งตัว

ควรจะเตรียมเรื่องที่นอน ห้อง เสื้อผ้า เครื่องใช้สำหรับเด็กให้เรียบร้อย สำหรับอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมอาจจะถามแพทย์ พยาบาล หรือคนที่มีประสบการณ์จะได้ไม่ตกหล่น

  • ซื้อหรือยืมเสื้อผ้าเด็กเตรียมไว้ก่อน และควรจะมีเสื้อผ้าที่ซักสะอาดพร้อมใช้ซัก 2-3 ชุด
  • เตรียมตะกร้าเก็บผ้าเด็กสัก 2-3 ใบ
  • เตรียมซื้อผ้าอ้อมสำหรับเด็กสัก 1-2โหลควรจะใช้ขนาดใหญ่
  • เตรียมซื้อผ้าอ้อมที่ใช้แล้วทิ้งซัก 1-2 กล่อง ต้องเลือกซื้อขนาดสำหรับทารก
  • ที่นอนเด็ก บางคนอาจจะเลือกเบาะธรรมดา บางคนเลือกเตียงสำหรับเด็ก แล้วแต่ความชอบหรือถนัด
  • ผ้าห่ม
  • แป้งทาตัวเด็ก
  • สำลีสำหรับเช็ดทำความสะอาดก้น และควรจะมีกระปุกสำหรับใส่สำลี
  • cotton bud สำหรับทำความสะอาดหู
  • กรรไกรตัดเล็บเด็ก ถุงมือเด็ก
  • อ่างสำหรับอาบน้ำ
  • สบู่ แชมพู
  • แอลกอฮอล์สำหรับเช็ดรอบสะดือ
  • ขวดนม ควรจะมีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่
  • หัวนมมีทั้งขนาด s-l ต้องเลือกให้เหมาะกับวัย เด็กโตก็ใช้เบอร์l
  • แปรงล้างขวดนม น้ำยาล้างขวดนม
  • เครื่องนึ่งทำความสะอาดขวดนม

การเตรียมตัวเข้าโรงพยาบาล

ให้เตรียมกระเป๋าก่อนครบวันคลอดสัก 2 สัปดาห์ซึ่งต้องมีอุปกรณ์ดังนี้

  • ชุดนอน
  • ชุดใส่กลับบ้าน
  • ชุดชั้นใน
  • แปรสีฟัน ยาสีฟัน หวี แป้ง
  • ชุดเด็กสำหรับใส่กลับบ้าน

การตั้งครรภ์ สัปดาห์ที่ 33 34 35 36 37 38 39 40

หน้าแรก ปวดท้องในขณะตั้งครรภ์ อาการปวดแบบไหนที่ควรไปพบแพทย์?

ปวดท้องในขณะตั้งครรภ์ อาการปวดแบบไหนที่ควรไปพบแพทย์?

คุณแม่

อาการปวดท้อง หรือปวดบีบ เป็นอาการปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ในขณะตั้งครรภ์ ถึงแม้ว่าอาการเหล่านี้จะเป็นเรื่องปกติ แต่ก็อาจเป็นสัญญาณของสิ่งที่ร้ายแรงกว่าที่ควรต้องให้คุณหมอเป็นผู้วินิจฉัย

อาการปวดแบบใดบ้างที่ไม่เป็นอันตราย?
ไม่มีอะไรที่คุณแม่ต้องกังวลถ้าหากความเจ็บปวดนั้นไม่รุนแรงและหายไปได้เองเมื่อคุณแม่เปลี่ยนอิริยาบถ นอนพักผ่อน หรือผายลม อาการปวดท้องที่ไม่เป็นอันตรายซึ่งอาจปวดแบบตื้อ ๆ หรือปวดแปลบอาจเกิดจาก:

  • อาการปวดเส้นเอ็น เกิดขึ้นเมื่อเส้นเอ็นยืดออกเพื่อรองรับหน้าท้องของคุณแม่ที่กำลังโตขึ้น ซึ่งอาจทำให้รู้สึกเหมือนเป็นตะคริว เจ็บ เสียดที่ด้านหนึ่งของหน้าท้องส่วนล่าง
  • ท้องผูก
  • มีแก๊สในท้องมากกว่าปกติ

อาการที่จำเป็นต้องไปพบแพทย์ทันทีมีอะไรบ้าง?
คุณแม่ควรไปพบคุณหมอที่โรงพยาบาลทันทีหากมีอาการปวดท้องพร้อมกับอาการดังต่อไปนี้:

  • มีเลือดออก
  • ปวดบีบเกร็งเป็นประจำ
  • มีตกขาวผิดปกติ
  • ปวดหลังส่วนล่าง
  • ปวดหรือแสบขณะปัสสาวะ
  • อาการปวดนั้นรุนแรง หรือไม่หายไปหลังจากที่คุณแม่พักเป็นเวลา 30 ถึง 60 นาทีแล้ว

ภาวะที่อาจทำให้เกิดอาการปวดท้องและจำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยอย่างเร่งด่วนได้แก่:

  • การตั้งครรภ์นอกมดลูก: คือภาวะที่ไข่ได้รับการปฏิสนธิและมีการฝังตัวนอกมดลูก อาจมีอาการปวดท้อง รวมถึงปวดที่หัวไหล่ และรู้สึกไม่สบายขณะปัสสาวะและอุจจาระ มักจะปรากฏอาการขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ 4 – 12 ของการตั้งครรภ์
  • การแท้งบุตร: มีอาการปวดบีบและมีเลือดออกก่อนสัปดาห์ที่ 24 ของการตั้งครรภ์ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการแท้งบุตรได้
  • ภาวะครรภ์เป็นพิษ: อาการปวดใต้ซี่โครงนั้นสามารถพบได้บ่อยในช่วงท้ายของการตั้งครรภ์ เนื่องจากทารกในครรภ์โตขึ้น และมดลูกดันขึ้นไปบริเวณใต้ซี่โครง แต่หากมีอาการเจ็บปวดเป็นเวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านขวา ก็อาจเป็นสัญญาณของภาวะครรภ์เป็นพิษได้ (คือมีความดันโลหิตสูงในการตั้งครรภ์) และคุณแม่จะต้องได้รับการตรวจในโรงพยาบาล อาจมีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง มีปัญหาในการมองเห็น และมีอาการบวมที่เท้า มือ และใบหน้าร่วมด้วย
  • คลอดก่อนกำหนด: หากคุณแม่ตั้งครรภ์น้อยกว่า 37 สัปดาห์ และมีอาการปวดท้องเป็นประจำ ควรปรึกษาคุณหมอ เพราะนี่อาจจะเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการคลอดก่อนกำหนด
  • ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด: ภาวะที่รกเริ่มหลุดออกจากผนังมดลูก ซึ่งมักจะทำให้มีเลือดออก และปวดท้องอย่างรุนแรงต่อเนื่อง ซึ่งไม่เหมือนกับอาการเจ็บครรภ์ทั่ว ๆ ไป และอาจเป็นเหตุฉุกเฉิน เพราะหมายความว่ารกอาจไม่สามารถทำหน้าที่ส่งอาหารและอากาศให้ทารกในครรภ์ได้อย่างสมบูรณ์
  • การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ (UTI): การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะเป็นเรื่องปกติสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ และสามารถรักษาได้ง่าย โรคนี้อาจทำให้เกิดอาการปวดท้องน้อย และบางครั้งก็รู้สึก เจ็บหรือแสบในขณะปัสสาวะ

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv แปลภาษาอาหรับ-ไทย lmyour แปลภาษา ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง แปลภาษาเวียดนามเป็นไทยทั้งประโยค Google Translate การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 4 หยน อาจารย์ ตจต เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf ห่อหมกฮวกไปฝากป้า คาราโอเกะ app แปลภาษาไทยเป็นเวียดนาม การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 3 บบบย ศัพท์ทหารบก แปลภาษาจีน การประปาส่วนภูมิภาค การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 1 ขุนแผนหลวงปู่ทิม มีกี่รุ่น ชขภใ ตม.เชียงใหม่ เซ็นทรัลเฟสติวัล พจนานุกรมศัพท์ทหาร รหัสจังหวัด อําเภอ ตําบล รหัสประจำจังหวัด 77 จังหวัด สอบโอเน็ต ม.3 จําเป็นไหม หนังสือราชการ ตัวอย่าง ห่อหมกฮวกไปฝากป้า คอร์ด อเวนเจอร์ส ทั้งหมด แปลภาษา มาเลเซีย ไทย ไทยแปลอังกฤษ ประโยค ่้แปลภาษา Egp G no Reconguista Google map ขุนแผนหลวงปู่ทิมรุ่นแรก ข้อสอบภาษาไทยพร้อมเฉลย ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง ค้นหา ประวัติ นามสกุล จองคิว ตม เชียงใหม่ ชื่อเต็ม ร.9 คําอ่าน ดีแม็กมือสองราคาไม่เกิน350000 ตัวอย่างรายงานการประชุมสั้นๆ