ทรง Bangs หรือก็คือการไว้หน้าม้านั่นเอง บอกเลยว่าใครอยากเปลี่ยนลุคให้ดูเด็กลง แนะนำให้ตัดหน้าม้าเลย หรือหากใครหน้าผากกว้าง ทรงนี้ก็ช่วยพลางได้เหมือนกัน หากใครอยากให้ดูเกาหลีมากขึ้น ละมุนมากขึ้น อาจจะดัดเล็กน้อยเพื่อเพิ่มสไตล์ก็ได้เช่นกัน เป็นทรงผมชายอีกหนึ่งที่ให้ลุคละมุน อีกทั้งยังดูแลและเซตง่ายอีกด้วย
@penz.skincare ทรงผมที่คนผมตรงตัดแล้วผมเป็นธรรมชาติมากก #รีวิวบิวตี้ #รีวิวทรงผม #ทรงผมชาย
♬ เสียงต้นฉบับ - Jarinya - จินน้อย 💜
📣 รวม 11 ทรงผมชายยอดฮิต! อยากได้ทรงไหน ยื่นให้ช่างดูได้เลย . . . วันนี้เฮียร์มาแนะนำทรงผมผู้ชาย ที่กำลังมาแรง ตัดแล้วรอด แถมเสริมเสน่ห์ เสริมบุคลิกให้อีกด้วย ว่าแต่จะมีทรงไหนบ้าง มาเลือกดูกันเลย
แนะนำ 11 ทรงผมผู้ชายยอดฮิต 2021
1. ทรง Mullet
ทรง Mullet (มัลเล็ต) หรือ ผมรากไทรยุคป๊อบ ถูกจับมาดีไซน์ใหม่ให้ยูนีคและโมเดิร์นกว่าเดิม จุดเด่นยังอยู่ที่ผมด้านหลังที่ยาวถึงท้ายทอย (แต่ไม่ยาวเฟื๊อยหรอมแหรม) ด้านข้างตัด Undercut ไล่ระดับ ตัดทรงนี้แล้วจะได้ลุคคูลๆ เท่แบบมีกิมมิค
2. ทรง Two Block
ทรงผม Two Block (ทูบล็อค) ทรงยอดฮิตจากเกาหลี ที่สามารถเข้ากับหน้าผู้ชายไทยได้เป็นอย่างดี พัฒนามาจาก Undercut ด้านหน้าไว้เป็นหน้าม้า ด้านข้างไถไล่ระดับ ส่วนด้านหลังตัดให้ทุยๆ ปรับให้เข้ากับรูปหน้าและเส้นผมของชาวเอเชียมากขึ้น เข้ากับหน้าคนได้เป็นอย่างดี และกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในไทย
3. ทรง Comma
ทรง Comma (คอมม่า) ทรงผมที่ฮิตมากที่เกาหลีช่วงนี้ หลักๆ คือทำผมด้านหน้าให้เหมือนตัว Comma (') ส่วนด้านข้างตัดแบบ Two Block ถือว่าเป็นทางออกใหม่ๆ สำหรับใครที่เบื่อผมหน้าม้าแบบเดิมๆ ผมทรงหนี้ทำให้หน้าดูยาวกว่าเดิมด้วย
4. ทรง Undercut
ทรง Undercut (อันเดอร์คัท) หรือทรงเปิดข้างนั้น เป็นที่นิยมอย่างมากในยุค 80 - 90 และเริ่มกลับมาฮิตใหม่อีกครั้ง เป็นทรงไถผมด้านข้าง และด้านหลังให้สั้น ส่วนด้านบนไว้ยาว เซ็ตได้ตามสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นคนผมตรง หรือหยักศก ก็สามารถตัดทรงนี้ได้ทั้งนั้น อีกทั้งยังเหมาะกับรูปทรงหน้าของคนเอเซียอีกด้วย
5. ทรง Top Knot
ทรง Top Knot ทรงมัดผมกระชากใจสาวๆ สายเซอร์แบบผู้ดีใส่สูท ทรงนี้เหมาะกับผู้ชายที่อยากเซอร์และดูโดดเด่น โดยจะต้องรวบผมด้านบนเก็บไว้ตรงกลางและมัดจุก จากนั้นให้ไถผมที่เหลือออกให้หมด โดยสามารถไว้หนวดเคราเพิ่มเติมด้วยเพื่อความเข้มขึ้นได้
6. ทรง Dreadlock
ทรง Dreadlock (เดรดล็อก) ทรงนี้เป็นเดทร็อคแบบสั้น โดยไถด้านหลังและด้านข้างแบบไล่ระดับแบบ Low Fade หรือจะ Undercut ก็ได้ ขณะที่ทรงผมส่วนบนจะถักเป็นเดทล็อคแบบกลมที่ค่อนข้างแน่น โดยผมที่ถักจะมีความยาวระดับหนึ่ง แต่ไม่ยาวมาก
7. ทรง Slicked Back
ทรง Slicked Back การทำทรงนี้เราต้องเลี้ยงผมด้านหน้าให้ยาวระดับเลยคิ้วก่อนไปตัด ด้านข้างตัดสั้นไล่ระดับลงมาเรื่อยๆ หลังจากนั้นให้เซ็ตผม ด้วยการหวีไปด้านหลัง
8. ทรง Skinhead
ทรง Skinhead (สกินเฮด) เป็นทรงผมสั้นชาย ที่มีลักษณะสั้นเกรียนติดหนังหัว โดยใช้ปัตตาเลียนไถผมให้สั้นเท่ากันทั้งศีรษะ อาจประยุกต์ตัดร่วมกับผมทรงอื่นๆ ได้ด้วย เช่น Undercut , Fade และ Crop
9. ทรง Classic Fade
ทรง Classic Fade (คลาสสิกเฟด) ทรงนี้อาจจะคล้ายทรงอันเดอร์คัทอยู่ แต่ต่างกันที่ทรงนี้จะมีการไล่ระยะความยาวจากบนลงล่าง
10. ทรง Pompadour
ทรง Pompadour (ปอมปาดอร์) มีลักษณะคล้ายๆ ทรง Fade หรือเหมือนกับรองทรงสูงแบบที่ไว้ผมด้านบนยาวมากๆ เหมาะสำหรับคนหน้าสั้นที่ต้องการทำให้หน้าตัวเองดูยาวขึ้น โดยผมทรงนี้จะต้องใช้เวลาในการเซ็ตพอสมควร ตั้งแต่การไดร์ผมและปาดผมไปด้านหลังโดยจัดแต่งให้ทรงผมดูมีวอลลุ่ม อาจใช้หวีปาดเรียบไปด้านข้างได้ตามใจชอบ
11. ทรง Quiff
ทรง Quiff (ควิฟ) เป็นทรงผมสั้นชี้ โดยจะตัดให้ผมด้านข้าง และด้านหลังสั้น ส่วนผมด้านบนจะไว้ความยาว เพื่อให้สามารถเซ็ตเสยไปด้านข้าง หรือเสยตั้งไปทางด้านหลังได้ โดยจุดเด่นของทรงผมควิฟก็คือ เป็นสไตล์ที่ค่อนข้างดูโมเดิร์น ไม่ว่าตัดในยุคไหนก็ยังดูทันสมัยตลอดเวลา แมทช์ได้กับทุกแบบเสื้อผ้า แถมยังมีวิธีการเซ็ตที่ไม่ยุ่งยากอีกด้วย
📣 แนะนำ ปัตตาเลี่ยนไร้สาย Enchen Boost USB Electric Hair Clipper
📣 นอกจากบทความดีๆ แล้ว เฮียร์ขอแนะนำโปรโมชั่นดี ในแบบนักช้อปตัวจริงต้องรู้ !! ⭐️ ส่องโปรโมชั่นทั้งหมดได้ที่นี่ >> //salehere.co.th/promotions รับรองว่าคุณจะไม่พลาดโปรโมชั่นเด็ดๆ อย่างแน่นอน 🛒