รัฐศาสตร์ ม.อุบล ใช้อะไรบ้าง

คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เริ่มต้นจัดการเรียนการสอนภายใต้สังกัดคณะนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ตั้งแต่ พ.ศ. 2547 ต่อมา พ.ศ.2548 ได้ดำเนินการโครงการจัดตั้งวิทยาลัยรัฐประศาสนศาสตร์ เพื่อจัดการเรียนการสอนหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตร์ ระดับปริญญาเอก โดยในขณะนั้นคณาจารย์สาขาวิชารัฐศาสตร์ได้สอนวิชาพื้นฐาน

ต่อมาปรากฏว่าตลาดแรงงานทางสาขาวิชารัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ได้ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ตามทิศทางของการกระจายอำนาจจากราชการส่วนกลางไปยังราชการส่วนท้องถิ่น และการปฏิรูปการบริหารงานภาครัฐตามแนวทางการจัดการภาครัฐแนวใหม่ อันเป็นองค์ความรู้เฉพาะต่อวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาท้องถิ่น สังคม และประเทศชาติโดยตรง ขณะเดียวกันความต้องการของผู้เรียนในพื้นที่มีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

จากบริบทดังกล่าว มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีซึ่งเป็นศูนย์กลางการจัดการเรียนการสอนและการวิจัยทางสาขาวิชารัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ จึงจัดตั้งคณะรัฐศาสตร์ตามความเห็นชอบจากมติที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2549

ปัจจุบันคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี มีฐานะเป็นส่วนงานภายในกำกับของมหาวิทยาลัย บริหารงานภายใต้ข้อบังคับมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ว่าด้วยการบริหารและการดำเนินงานของส่วนงานภายในที่มีสถานะเทียบเท่าคณะ พ.ศ.2554 โดยมีการแบ่งส่วนงานภายในคณะรัฐศาสตร์ แยกเป็น 3 ส่วนงาน คือ สาขาวิชาการปกครอง สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ และสำนักงานเลขานุการ ซึ่งคณะได้จัดการเรียนการสอนระดับปริญญาตรี จำนวน 2 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการปกครอง หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ และจัดการเรียนการสอนระดับปริญญาโท ได้แก่ หลักสูตรรัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการปกครอง และหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ ทั้งนี้ หลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษาได้รับการอนุมัติปิดหลักสูตรจากสภามหาวิทยาลัยอุบลราชธานีเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2559 โดยมีผลตั้งแต่ภาคการศึกษาต้น ปีการศึกษา 2559 เป็นต้นไป 

สวัสดีค่า พี่ชื่ออ้อน นางสาวนพพร โจระสา จากคณะรัฐศาสตร์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์ เอกการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีค่ะ  

รู้ตัวจริง ๆ เลย คือ ตอนอยู่ ม. 5 ค่ะ เพราะว่าในตอนนั้นเรารู้ตัวว่าเราชอบเรียนวิชาสังคม กับภาษาไทย และผลการเรียนในสองวิชานี้ก็ทำออกมาได้ดี เลยเริ่มมองหาคณะที่เกี่ยวข้องกับทางสายสังคม พอหลังจากที่ลองหาทั้งหมดก็รู้สึกว่าชอบคณะรัฐศาสตร์ที่สุด ก็เลยลองดูข้อมูลของคณะนี้ดูค่ะ

ก็เริ่มจากการดูข้อมูลเกี่ยวกับคณะก่อน ว่าการเรียนในคณะเป็นยังไง เรียนเกี่ยวกับอะไรบ้าง จบแล้วสามารถต่อยอดยังไงได้บ้าง ต้องใช้คะแนนอะไรในการสอบเข้าบ้าง และที่สำคัญมาก ๆ คือ การลองคำนวณคะแนนสอบ และเกณฑ์คะแนนที่มหาวิทยาลัยกำหนด เพื่อดูว่าเรามีโอกาสติดในคณะนี้มากน้อยแค่ไหน จะได้ตัดสินใจถูก แล้วหลังจากนั้นก็ลุยอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบเต็มที่เลยค่ะ ในส่วนของวิชาสังคมมีเรียนกวดวิชาเพิ่มบ้าง บวกกับอ่านหนังสือที่เกี่ยวกับรัฐศาสตร์โดยเฉพาะด้วยค่ะ

ถ้าเทียบแล้วแตกต่างกันมากค่ะ ก่อนเรียนเรารู้สึกว่า การเมือง เป็นเรื่องรัฐบาล และประเทศที่ต้องจัดการ ตอนนั้นเราก็มองว่าเป็นเรื่องไกลตัวเรามาก แต่พอหลังจากที่ได้เรียน คือ เรารู้เลยว่าการเมืองไม่ใช่แค่เรื่องของรัฐบาล แต่เป็นเรื่องของประชาชนทุกคน สิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวเราทุกอย่างเกี่ยวข้องกับการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการจัดสรรทรัพยากร การบริหารคน การจัดสรรผลประโยชน์ต่าง ๆ ทุกอย่างมีผลกระทบต่อกันหมด ดังนั้นการเมืองไม่ได้เป็นเรื่องของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันหมดค่ะ

รัฐศาสตร์จะเรียนเกี่ยวกับ การเมืองการปกครอง การบริหารคน บริหารองค์กร รวมถึงเรียนเรื่องกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปกครองด้วย ยิ่งถ้าเป็นคนที่ชอบเกี่ยวกับการเมือง บอกเลยว่าจะยิ่งอินกับเนื้อหาการเรียนมาก ซึ่งจะทำให้รู้สึกสนุกไปกับการเรียนค่ะ ส่วนสาขาที่อ้อนเรียน คือ “สาขาการปกครองท้องถิ่น” สาขานี้จะพิเศษตรงที่ ตั้งแต่ขึ้นปี 2 เราจะได้ลงภาคสนามจริงบ่อยมาก โดยการลงภาคสนามเราจะได้ทำกิจกรรมกับชุมชนต่าง ๆ ได้ลองทำงานร่วมกับชาวบ้าน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแบบจริงจังเลย เพื่อให้เรามีประสบการณ์ด้านการทำงาน และการแก้ไขปัญหานั่นเอง

ในสาขาการปกครองท้องถิ่นจะมีการฝึกงานช่วงปี 4 เทอม 2 ใช้เวลาในการฝึกทั้งหมด 3 เดือนค่ะ โดยเรื่องของการฝึกงานทางมหาวิทยาลัยจะให้อิสระเรื่องได้เลือกฝึกงานตามสายงาน หรือสายที่ตัวเองสนใจ เราสามารถฝึกที่ได้ก็ได้แล้วแต่เราเลย ตอนนั้นอ้อนเลือกฝึกงานสายข้าราชการโดยตรงเลยค่ะ ก็เลยได้ใช้ความรู้ด้านที่เรียนมาอย่างเต็มที่ รวมถึงก็ได้เรียนรู้จากการฝึกงานด้านยุทธศาสตร์ชาติ นโยบายที่ทำเพื่อประชาชนจริง ๆ รวมถึงการทำแผนงานระดับชาติด้วย ก็ถือว่าการฝึกงานทำให้เราได้ประโยชน์เยอะมาก ๆ ค่ะ 

ด้านของการทำงานเราสามารถเลือกทำงานได้หลากหลาย ทั้งข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ บริษัทเอกชนในฝ่ายบุคคล ขึ้นอยู่กับความสนใจของเราล้วน ๆ เลย เพราะการเรียนรัฐศาสตร์จะสอนให้เรามีความเป็นผู้นำ และเป็นผู้ตามที่ดี ทำให้เราสามารถเอาทักษะในด้านนี้ไปประยุกต์ใช้กับการทำงานได้

มีค่ะ โปรเจกต์จบอ้อนทำเกี่ยวกับการพัฒนาแนวทางในการรับมือกับภัยแล้งค่ะ ก็เป็นสายรัฐศาสตร์เต็ม ๆ เลย ทำเกี่ยวกับนโยบายในการแก้ไขป้องกันปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้นทางภาคอีสานแทบจะทุกปี ทำให้เราเรียนรู้นอกจากตำราเกี่ยวกับนโยบาย โครงการต่าง ๆ ที่ท้องถิ่นทำออกมาช่วยเหลือประชาชนว่าสิ่งเหล่านั้นได้ผลจริง หรือไม่ และควรพัฒนาไปในแนวทางไหนประมาณนี้ค่ะ

ที่มหาวิทยาลัยมีกิจกรรมเยอะมากค่ะ ปีแรกก็เจอการรับน้อง และการเข้าห้องเชียร์ก่อนเลยค่ะ คิดว่าน่าจะเจอแทบทุกมหาวิทยาลัย 55555 ตามด้วยกิจกรรมสานสัมพันธ์พี่น้องต่าง ๆ กิจกรรมเฟรชชี่ และพวกค่ายอาสาต่าง ๆ ก็มีเยอะมาก ขึ้นอยู่กับว่าใครสนใจกิจกรรมไหนก็สามารถไปเข้าร่วมได้ ส่วนใครที่ไม่สนใจทางมหาวิทยาลัยไม่ได้บังคับให้ต้องเข้าร่วมค่ะ ก็ไปทำอย่างอื่นได้

ก็สำหรับน้อง ๆ ที่กำลังเตรียมตัวสอบ หรืออาจจะเพิ่งหาคณะที่ตัวเองสนใจ จริง ๆ พี่อยากให้น้อง ๆ รู้ตัวก่อนว่าชอบ หรือสนใจในคณะนั้น ๆ จริงมั้ย ลองหาหนังสือที่มีเนื้อหาเหมือนกับคณะนั้น ๆ ว่าเราสามารถเรียนเนื้อหาแบบนี้ได้มั้ย สนุก หรืออินแค่ไหน ถ้าเราโอเคกับเนื้อหาก็ลองตั้งเป้าหมายเลย เพราะพี่เชื่อว่าถ้าน้อง ๆ สนใจ และชอบในสิ่งที่เรียนเราจะได้สิ่งที่เป็นมากกว่าความรู้ในคณะนั้นแน่นอน ในส่วนของคณะรัฐศาสตร์ ถ้าน้อง ๆ สนใจด้านการเมือง ก็อยากให้ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมดู ทั้งด้านเนื้อหาการเรียนของคณะ รวมถึงมหาวิทยาลัยที่อย่างเขาด้วย เพราะแต่ละที่มีการจัดการเรียนการสอนไม่เหมือนกัน ก็อยากให้ลองเช็กดูเพื่อตัวน้อง ๆ เอง ที่เหลือก็อยู่ที่การวางแผนเพื่อไปถึงเป้าหมายของน้อง ๆ แล้วล่ะ โชคดีนะทุกคนน

ถ้าน้อง ๆ คนไหนที่กำลังสนใจคณะรัฐศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยอุบลฯ หลังจากที่ฟังการรีวิวจากรุ่นพี่คณะแล้วก็เตรียมวางแผนรับมือกันได้เลย!! และถ้าน้อง ๆ คนสนกำลังมองมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ไว้ก็อย่าลืมหาข้อมูลคณะของแต่ละมหาวิทยาลัยด้วย เพราะว่าแต่ละมหาวิทยาลัยอาจมีการจัดการเรียนการสอนที่ต่างกันนั่นเอง หรือวิธีง่าย ๆ คือน้อง ๆ สามารถดาวน์โหลด TCASter App เก็บไว้ดูข้อมูลข่าวสารคณะ / มหาวิทยาลัยก็ได้น้า