การ ตรวจ สอบ ความเป็นส่วนตัว

ตำแหน่งของคุณ

Google ทราบตำแหน่งของฉันหรือไม่

เมื่อใดก็ตามที่คุณใช้อินเทอร์เน็ต แอปและเว็บไซต์จะสามารถประมาณตำแหน่งที่คุณอยู่ได้คร่าวๆ ซึ่ง Google ก็ทำได้เช่นเดียวกัน และ Google อาจทราบตำแหน่งที่แน่นอนของคุณด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าอุปกรณ์ของคุณ (ดูส่วนตำแหน่งของฉันแน่นอนเพียงใด)

เมื่อคุณค้นหาบน Google โดยใช้ Search, Maps หรือ Google Assistant อาจมีการใช้ตำแหน่งปัจจุบันของคุณเพื่อแสดงผลการค้นหาที่เป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้นให้แก่คุณ ตัวอย่างเช่น หากคุณค้นหาร้านอาหาร ผลการค้นหาที่เป็นประโยชน์มากที่สุดก็น่าจะเป็นร้านอาหารที่อยู่ใกล้กับจุดที่คุณอยู่

ดูวิธีจัดการตำแหน่งของคุณ

ฉันจะเปิดหรือปิดตำแหน่งได้อย่างไร

เมื่อคุณค้นหาบน Google เราจะประมาณพื้นที่ทั่วไปที่คุณอยู่ขณะทำการค้นหาเสมอ ซึ่ง Google สามารถประมาณตำแหน่งของคุณได้โดยใช้ที่อยู่ IP ของอุปกรณ์ เช่นเดียวกับแอปหรือเว็บไซต์ใดก็ตามที่คุณใช้ซึ่งมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ส่วน Google รู้ได้อย่างไรว่าฉันอยู่ที่ไหน

คุณเลือกได้ว่าจะส่งตำแหน่งที่แน่นอนหรือไม่เวลาใช้ Google โดยเปิดหรือปิดสิทธิ์เข้าถึงตำแหน่งสำหรับแอปและเว็บไซต์แต่ละรายการ รวมถึงอุปกรณ์ของคุณ

หากคุณตั้งค่าที่อยู่บ้านหรือที่ทำงานไว้และ Google ประมาณว่าคุณอยู่ที่บ้านหรือที่ทำงาน ระบบจะใช้ที่อยู่ที่แน่นอนสำหรับการค้นหา

ตำแหน่งของฉันแน่นอนเพียงใด

พื้นที่ทั่วไปที่คุณอยู่

เมื่อคุณค้นหาบน Google เราจะประมาณพื้นที่ทั่วไปที่คุณอยู่ขณะทำการค้นหาเสมอ วิธีนี้ช่วยให้ Google แสดงผลการค้นหาที่เกี่ยวข้องให้แก่คุณได้ รวมถึงรักษาบัญชีของคุณให้ปลอดภัยด้วยการตรวจจับกิจกรรมที่ผิดปกติ เช่น การลงชื่อเข้าใช้จากเมืองใหม่

พื้นที่ทั่วไปมีขนาดใหญ่กว่า 3 ตร.กม. และมีผู้ใช้อย่างน้อย 1,000 คน จึงทำให้พื้นที่ทั่วไปของการค้นหาไม่มีการระบุตัวคุณและช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัว

ตำแหน่งที่แน่นอนของคุณ

Google สามารถใช้ตำแหน่งที่แน่นอนของคุณได้หากคุณให้สิทธิ์ ตัวอย่างเช่น Google จำเป็นต้องใช้ตำแหน่งที่แน่นอนของคุณเพื่อแสดงผลการค้นหาที่เกี่ยวข้องที่สุดสำหรับการค้นหาอย่างเช่น "ร้านไอศกรีมใกล้ฉัน" หรือเส้นทางเดินเท้าแบบเลี้ยวต่อเลี้ยวไปยังร้านค้า

ตำแหน่งที่แน่นอนหมายถึงตำแหน่งที่คุณอยู่ เช่น ณ ที่อยู่หนึ่งๆ

Google รู้ตำแหน่งของฉันได้อย่างไร

ตำแหน่งของคุณมาจากแหล่งที่มาที่หลากหลายซึ่งนำมาใช้ร่วมกันเพื่อประมาณตำแหน่งที่คุณอยู่

ที่อยู่ IP อิงจากภูมิศาสตร์คร่าวๆ เช่นเดียวกับรหัสพื้นที่ของหมายเลขโทรศัพท์ ซึ่งหมายความว่าแอปหรือเว็บไซต์ใดก็ตามที่คุณใช้ รวมถึง google.com จะประมาณพื้นที่ทั่วไปที่คุณอยู่ได้จากที่อยู่ IP ของคุณ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเป็นผู้กำหนดที่อยู่ IP ให้กับอุปกรณ์ของคุณ และคุณต้องมีที่อยู่ IP นี้จึงจะใช้อินเทอร์เน็ตได้

หากคุณให้สิทธิ์แอปหรือเว็บไซต์ของ Google ในการเข้าถึงตำแหน่งของอุปกรณ์ อาจมีการใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อช่วยให้ทราบว่าคุณอยู่ที่ไหน อุปกรณ์เกือบทุกรุ่นมีการตั้งค่าตำแหน่งอยู่ในระบบปฏิบัติการ โดยทั่วไปจะอยู่ในการตั้งค่า

Google สามารถประมาณพื้นที่ทั่วไปที่คุณอยู่โดยอิงตามการค้นหาก่อนหน้าบน Google ตัวอย่างเช่น หากคุณมักจะค้นหาร้านพิซซ่าขณะอยู่ที่เชียงใหม่ ก็น่าจะหมายความว่าคุณต้องการดูผลการค้นหาร้านพิซซ่าในเชียงใหม่

หากคุณตั้งค่าที่อยู่บ้านหรือที่ทำงานไว้ Google อาจใช้ที่อยู่ดังกล่าวเพื่อประมาณตำแหน่งของคุณ ตัวอย่างเช่น หากคุณตั้งค่าที่อยู่บ้านไว้ และที่อยู่ IP, กิจกรรมก่อนหน้านี้ หรือข้อมูลตำแหน่งจากแหล่งที่มาอื่นๆ ชี้ให้เห็นว่าคุณอาจอยู่ใกล้บ้าน เราก็จะใช้ตำแหน่งที่ตั้งของบ้านเป็นตำแหน่งโดยประมาณของจุดที่คุณอยู่

ใครดูตำแหน่งของฉันได้บ้าง

ขึ้นอยู่กับคุณ หากใช้การแชร์ตำแหน่งของ Google คุณจะสามารถแชร์ตำแหน่งแบบเรียลไทม์กับเพื่อนและครอบครัวบนแอปและเว็บไซต์ต่างๆ ของ Google

ตรวจสอบว่าคุณกำลังแชร์ตำแหน่งอยู่หรือไม่

การแชร์ตำแหน่งจะปิดอยู่โดยค่าเริ่มต้น หากต้องการแชร์ตำแหน่งแบบเรียลไทม์ คุณต้องเลือกและยืนยันผู้ที่คุณต้องการแชร์ตำแหน่งด้วยและระยะเวลาที่จะแชร์ตำแหน่ง โดยคุณสามารถหยุดแชร์ตำแหน่งได้ทุกเมื่อ

ดูการแชร์ตำแหน่งแบบเรียลไทม์กับผู้อื่น

กลับไปที่หัวข้อ

การแชร์บน Google

คนอื่นจะเห็นอะไรบ้างเมื่อฉันแชร์ข้อมูลบน Google

ข้อมูลเกี่ยวกับคุณที่ผู้อื่นเห็นบนแอปและเว็บไซต์ของ Google จะขึ้นอยู่กับข้อมูลที่คุณแชร์และวิธีที่คุณแชร์ข้อมูลดังกล่าว

การแชร์แบบสาธารณะ

หากคุณมีส่วนร่วมในแอปอย่างเช่น Google Maps ผู้อื่นจะเห็นชื่อและรูปภาพของคุณ ตัวอย่างเช่น หากคุณให้คะแนนร้านไอศกรีมที่คุณชื่นชอบ ผู้อื่นจะเห็นคะแนนที่คุณให้ ชื่อ และรูปภาพของคุณหากสำรวจร้านดังกล่าวบน Google Maps

การแชร์แบบส่วนตัว

หากคุณแชร์สิ่งต่างๆ อย่างเช่น รูปภาพ วิดีโอ และเอกสารกับผู้อื่น ชื่อและรูปภาพของคุณจะแสดงต่อผู้ที่คุณส่งข้อมูลให้ควบคู่ไปกับสิ่งที่คุณแชร์

โปรดพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนแชร์ข้อมูลกับผู้อื่นและศึกษาระดับการเข้าถึงที่คุณให้กับบุคคลเหล่านั้น ตัวอย่างเช่น เมื่อแชร์การเข้าถึงข้อมูลอย่างโฟลเดอร์ใน Google ไดรฟ์ หรืออัลบั้มใน Google Photos ผู้คนอาจเข้าถึงข้อมูลในนั้นต่อไปได้เมื่อคุณเพิ่มเนื้อหาใหม่ๆ

Google แชร์ข้อมูลส่วนบุคคลของฉันกับคนอื่นหรือไม่

เราไม่แชร์ข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัท องค์กร หรือบุคคลทั่วไปนอก Google ยกเว้นในบางกรณี เช่น กรณีที่กฎหมายกำหนด

หากคุณมีบัญชี Google ที่โรงเรียน (บัญชี Google Workspace for Education) ผู้ดูแลระบบของโรงเรียนที่เป็นผู้จัดการบัญชีของคุณจะมีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูล

ผู้ดูแลระบบของโรงเรียนอาจเข้าถึงข้อมูลต่อไปนี้ในบัญชี Google Workspace for Education ของคุณได้

• เข้าถึงและเก็บรักษาข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในบัญชีของคุณ เช่น อีเมล
• ดูสถิติเกี่ยวกับบัญชีของคุณ เช่น จำนวนแอปที่คุณติดตั้ง
• เปลี่ยนรหัสผ่านบัญชีของคุณ
• ระงับหรือสิ้นสุดการเข้าถึงบัญชีของคุณ
• รับข้อมูลบัญชีของคุณเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ระเบียบข้อบังคับ กระบวนการทางกฎหมาย หรือคำขอของรัฐบาลซึ่งมีผลบังคับใช้
• จำกัดความสามารถในการลบหรือแก้ไขข้อมูลหรือการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของคุณ

เมื่อคุณให้สิทธิ์กับเรา

ตัวอย่างเช่น หากคุณใช้ Google Assistant เพื่อสั่งพิซซ่า เราจะขอสิทธิ์ก่อนที่จะแชร์ชื่อหรือหมายเลขโทรศัพท์ของคุณกับร้านอาหาร ดูวิธีที่ Google ช่วยให้คุณแชร์ข้อมูลอย่างปลอดภัยกับแอปและบริการของบุคคลที่สาม

แชร์กับผู้ดูแลระบบโดเมนตามที่อธิบายไว้ข้างต้น

สำหรับการประมวลผลภายนอก: เราให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัทที่ร่วมงานกับเราในการประมวลผลข้อมูลโดยอิงตามวิธีการที่เรากำหนด ตัวอย่างเช่น เราใช้บริษัทภายนอกเพื่อช่วยในการสนับสนุนลูกค้า และจำเป็นต้องแชร์ข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัทดังกล่าวเพื่อให้บริษัทตอบคำถามของผู้ใช้

สำหรับเหตุผลทางกฎหมาย

เราจะแชร์ข้อมูลส่วนบุคคลออกภายนอก Google หากเชื่อว่ามีความจำเป็นต่อการดำเนินการดังต่อไปนี้

• ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ระเบียบข้อบังคับ กระบวนการทางกฎหมาย หรือคำขอของรัฐบาลซึ่งมีผลบังคับใช้
• บังคับใช้ข้อกำหนดในการให้บริการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการตรวจสอบการละเมิดที่อาจเกิดขึ้น
• ตรวจจับ ป้องกัน หรือจัดการกับการประพฤติมิชอบ ปัญหาด้านความปลอดภัยหรือด้านเทคนิค
• ป้องกันอันตรายต่อสิทธิ ทรัพย์สิน หรือความปลอดภัยของ Google รวมทั้งผู้ใช้ หรือสาธารณะตามที่กฎหมายกำหนดหรืออนุญาต

กลับไปที่หัวข้อ

ข้อมูลและการปรับเปลี่ยนในแบบของคุณ

Google รวบรวมข้อมูลอะไรเกี่ยวกับฉันบ้าง

เมื่อคุณใช้เว็บไซต์และแอปของ Google เราจะรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์และแอปแก่คุณ ทำให้เว็บไซต์และแอปดังกล่าวเป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้นสำหรับคุณ และเพื่อเหตุผลอื่นๆ ตามที่อธิบายไว้ในส่วน Google รวบรวมข้อมูลไปทำไม

คุณสามารถใช้การตั้งค่าเพื่อจำกัดข้อมูลที่เรารวบรวมและวิธีที่เราใช้ข้อมูลดังกล่าว ตัวอย่างเช่น หากไม่ต้องการให้เราบันทึกประวัติการใช้งาน YouTube ในบัญชี Google คุณสามารถปิดประวัติการใช้งาน YouTube ดูฉันจะเลือกสิ่งที่อนุญาตให้ Google บันทึกได้อย่างไร

ข้อมูลคืออะไร

ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณรวมถึงข้อมูลต่างๆ ที่คุณให้กับเรา ซึ่งสามารถระบุตัวตนคุณได้ เช่น ชื่อหรืออีเมลของคุณ และยังรวมถึงข้อมูลอื่นๆ ที่ Google ลิงก์กับคุณได้อย่างสมเหตุสมผล เช่น ข้อมูลที่เราเชื่อมโยงกับคุณในบัญชี Google ของคุณ

ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณประกอบด้วยข้อมูล 2 ประเภท ได้แก่

เมื่อสร้างบัญชี Google คุณต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับเรา เช่น ชื่อและรหัสผ่านของคุณ

คุณยังสามารถบันทึกเนื้อหาที่คุณสร้าง อัปโหลด หรือได้รับจากผู้อื่น เช่น ข้อความอีเมลและรูปภาพได้ด้วย

เรารวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมของคุณในบริการของเรา ซึ่งอาจรวมถึงข้อความที่คุณค้นหาและวิดีโอที่คุณดู ผู้คนที่คุณติดต่อหรือแชร์เนื้อหาด้วย ตลอดจนประวัติการท่องเว็บใน Chrome เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น

เรารวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับแอป เบราว์เซอร์ และอุปกรณ์ที่คุณใช้เพื่อเข้าถึงบริการของ Google ซึ่งช่วยให้เราให้บริการฟีเจอร์ต่างๆ อย่างการหรี่แสงหน้าจอเมื่อแบตเตอรี่เหลือน้อย

เราประมวลผลตำแหน่งของคุณ เช่น เมื่อคุณใช้ฟีเจอร์อย่างคำแนะนำแบบเลี้ยวต่อเลี้ยว ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ส่วนตำแหน่ง

Google รวบรวมข้อมูลไปทำไม

เรารวบรวมข้อมูลที่จำเป็นเพื่อให้บริการของเรา ทำให้บริการดังกล่าวเป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้นสำหรับคุณ และเพื่อเหตุผลอื่นๆ ตามที่อธิบายไว้ใน "วิธีที่เราใช้ข้อมูล"

ตัวอย่างเช่น Google Maps ช่วยให้คุณเดินทางไปถึงจุดหมายได้โดยไม่ต้องเผชิญกับการจราจรที่ติดขัด เนื่องจาก Google Maps ใช้ข้อมูลตำแหน่งของคุณ (ข้อมูลของคุณ) ประกอบกับข้อมูลสาธารณะ (แผนที่และข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่สาธารณะ)

ให้บริการของเรา

เราใช้ข้อมูลเพื่อให้บริการของเรา เช่น การประมวลผลคำที่คุณค้นหาเพื่อแสดงผลการค้นหา

ดูแลรักษาและปรับปรุงบริการของเรา

ข้อมูลช่วยให้เราสามารถดูแลรักษาและปรับปรุงบริการของเรา ตัวอย่างเช่น ช่วยให้เราติดตามการหยุดทำงานได้ นอกจากนี้ การศึกษาข้อความค้นหาที่มีการสะกดผิดบ่อยที่สุดยังช่วยให้เราปรับปรุงฟีเจอร์ตรวจตัวสะกดที่ใช้ในบริการทั้งหมดของเราได้ด้วย

พัฒนาบริการใหม่ๆ

ข้อมูลช่วยให้เราสามารถพัฒนาบริการใหม่ๆ ตัวอย่างเช่น การศึกษาวิธีที่ผู้คนจัดระเบียบรูปภาพของตนในแอปรูปภาพแอปแรกของ Google อย่าง Picasa ช่วยให้เราออกแบบและเปิดตัว Google Photos ได้

ให้บริการที่ปรับเปลี่ยนในแบบของคุณ ซึ่งรวมถึงเนื้อหาและโฆษณา

เราใช้ข้อมูลเพื่อให้บริการเนื้อหาที่ปรับเปลี่ยนในแบบของคุณ ตัวอย่างเช่น คำแนะนำเกี่ยวกับวิดีโอที่คุณอาจชอบ เราอาจแสดงโฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ให้แก่คุณโดยอิงตามความสนใจ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าและอายุของคุณ

วัดประสิทธิภาพ

เรายังใช้ข้อมูลเพื่อวัดประสิทธิภาพและศึกษาวิธีที่ผู้คนใช้บริการของเราด้วย

สื่อสารกับคุณ

เราอาจใช้อีเมลของคุณเพื่อส่งการแจ้งเตือนให้คุณเมื่อตรวจพบกิจกรรมที่น่าสงสัย

ปกป้อง Google, ผู้ใช้ และสาธารณะ

เราใช้ข้อมูลเพื่อช่วยให้ผู้คนปลอดภัยมากยิ่งขึ้นบนโลกออนไลน์ เช่น การตรวจหาและการป้องกันการประพฤติมิชอบ

Google ใช้ข้อมูลเพื่อปรับเปลี่ยนสิ่งต่างๆ ให้เหมาะกับแต่ละบุคคลอย่างไร

"การปรับเปลี่ยนในแบบของคุณ" หมายถึงการใช้ข้อมูลที่เรารวบรวมเพื่อปรับเปลี่ยนแอปและเว็บไซต์ของเราให้เหมาะกับคุณ ตัวอย่างเช่น

• คำแนะนำเกี่ยวกับวิดีโอที่คุณอาจชอบ
• เคล็ดลับความปลอดภัยที่ปรับให้เข้ากับวิธีที่คุณใช้แอปและเว็บไซต์ของ Google (ดูการตรวจสอบความปลอดภัย)

นอกจากนี้ เราใช้ข้อมูลเพื่อปรับโฆษณาตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ ยกเว้นในกรณีที่การตั้งค่าดังกล่าวปิดอยู่หรือสำหรับผู้ใช้บางวัย เป็นต้น

Google ปรับโฆษณาที่ฉันเห็นตามโปรไฟล์ของฉันหรือไม่

เราพยายามทำให้โฆษณาที่เราแสดงเป็นประโยชน์มากที่สุด แต่เราไม่ได้ปรับโฆษณาตามโปรไฟล์ของผู้ใช้สำหรับคนบางวัยหรือสำหรับผู้ที่ปิดใช้การตั้งค่านี้

เรายังสามารถทำให้โฆษณาเป็นประโยชน์ได้แม้ไม่ได้ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ ตัวอย่างเช่น คุณอาจเห็นโฆษณาจากบริษัทรองเท้าผ้าใบหากกำลังดูหน้าผลการค้นหา "รองเท้าใหม่" โฆษณาอาจอิงตามปัจจัยทั่วไปอย่างเช่น ช่วงเวลาของวัน ตำแหน่งทั่วไปของคุณ และเนื้อหาในหน้าที่คุณกำลังดู

กลับไปที่หัวข้อ

คุณควบคุมได้

ฉันจะเลือกสิ่งที่อนุญาตให้ Google บันทึกไว้ในบัญชีของฉันได้อย่างไร

เมื่อคุณใช้บริการของ Google เช่น Photos จะมีการตั้งค่าที่ให้คุณเลือกว่าต้องการสำรองข้อมูลและซิงค์รูปภาพหรือไม่

นอกจากนี้ยังมีการตั้งค่าที่ช่วยปรับเปลี่ยนประสบการณ์การใช้งานแอปและเว็บไซต์ต่างๆ ของ Google ให้เหมาะกับคุณด้วย การตั้งค่าหลักๆ 2 อย่าง ได้แก่ กิจกรรมบนเว็บและแอป และประวัติการใช้งาน YouTube

เมื่อเปิดตัวควบคุมเหล่านี้

• ระบบจะบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมของคุณบนแอปและเว็บไซต์ของ Google ไว้ในบัญชี Google ของคุณ และ
• จะมีการใช้ข้อมูลที่บันทึกไว้เพื่อปรับเปลี่ยนประสบการณ์การใช้งาน Google ให้เหมาะกับคุณ

บันทึกกิจกรรมของคุณบนเว็บไซต์และแอปของ Google อย่างเช่น Search และ Maps รวมถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่น ตำแหน่ง นอกจากนี้ยังบันทึกประวัติการเข้าชมใน Chrome และกิจกรรมที่ซิงค์ไว้จากเว็บไซต์ แอป และอุปกรณ์ที่ใช้บริการของ Google ด้วย

เราใช้กิจกรรมของคุณเพื่อให้คุณค้นหาได้เร็วยิ่งขึ้น ได้รับคำแนะนำที่ดียิ่งขึ้น รวมทั้งประสบการณ์การใช้งานใน Maps, Search และบริการอื่นๆ ของ Google ที่ปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับคุณมากขึ้น

บันทึกวิดีโอที่คุณดูและสิ่งที่คุณค้นหาเวลาใช้ YouTube

ประวัติการใช้งาน YouTube ของคุณจะใช้เพื่อปรับเปลี่ยนประสบการณ์การใช้งาน YouTube และแอปอื่นๆ ให้เหมาะกับคุณ เช่น ผลการค้นหา

ฉันจะลบข้อมูล "กิจกรรมของฉัน" ได้อย่างไร

คุณสามารถลบข้อมูลที่บันทึกไว้ในบัญชี Google ของคุณ ข้อมูลที่คุณเลือกลบอย่างถาวรจะถูกนำออกจากระบบของเรา เราปฏิบัติตามขั้นตอนที่ละเอียดถี่ถ้วนเพื่อดูแลให้ระบบนำข้อมูลนี้ออกจากเซิร์ฟเวอร์ของเราโดยสมบูรณ์หรือเก็บข้อมูลนี้ไว้ในรูปแบบที่เชื่อมโยงกับคุณไม่ได้

ไปที่กิจกรรมของฉันเพื่อดูกิจกรรมที่บันทึกไว้ในบัญชี Google ของคุณ เช่น สิ่งที่คุณค้นหา อ่าน และดู คุณสามารถลบกิจกรรมบางอย่างหรือกิจกรรมทั้งหมดภายในช่วงเวลาหนึ่งออกได้

นอกจากนี้คุณยังเลือกให้ระบบลบกิจกรรมโดยอัตโนมัติได้อีกด้วย

ฉันจะดาวน์โหลดข้อมูลของฉันได้อย่างไร

เนื้อหาของคุณรวมถึงข้อมูลอย่างเช่น อีเมล รูปภาพ วิดีโอ เอกสาร ชีต ความคิดเห็น รายชื่อติดต่อ และกิจกรรมในปฏิทิน

ไปที่ดาวน์โหลดข้อมูลของคุณเพื่อสร้างที่เก็บถาวรสำหรับเนื้อหาของคุณ ทั้งเพื่อสำรองข้อมูลหรือนำไปใช้กับอีกบริษัทหนึ่งในกรณีที่คุณต้องการลองใช้บริการอื่น

ฉันสามารถควบคุมอะไรได้บ้างเมื่อออกจากระบบไปแล้ว

คุณมีส่วนควบคุมที่ช่วยให้เลือกได้ว่าจะใช้ Google อย่างไร แม้แต่ตอนที่ออกจากระบบไปแล้ว เมื่อออกจากระบบแล้ว โปรดไปที่ g.co/privacytools เพื่อเปลี่ยนการตั้งค่าเหล่านี้

การปรับแต่งการค้นหา

ใช้การค้นหาบน Google ของคุณจากเบราว์เซอร์นี้เพื่อรับผลการค้นหาและคำแนะนำที่เกี่ยวข้องมากยิ่งขึ้น

ประวัติการค้นหาและการดู YouTube

ใช้กิจกรรมบน YouTube เช่น วิดีโอที่คุณดูหรือสิ่งที่คุณค้นหา เพื่อปรับเปลี่ยน YouTube ให้เหมาะกับคุณ

คุณยังสามารถบล็อกคุกกี้บางรายการหรือทั้งหมดในเบราว์เซอร์ได้ด้วย แต่การดำเนินการนี้อาจทำให้ฟีเจอร์บางอย่างบนเว็บไม่ทำงาน ตัวอย่างเช่น เว็บไซต์จำนวนมากกำหนดให้มีการเปิดใช้คุกกี้เมื่อคุณต้องการลงชื่อเข้าใช้

ผู้ใช้ที่ออกจากระบบแล้วยังเลือกได้ด้วยว่าต้องการเห็นโฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของตนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้ปรับโฆษณาตามโปรไฟล์สำหรับผู้ใช้บางวัย

กลับไปที่หัวข้อ