โครงงาน สิ่ง ประดิษฐ์จากเปลือกข้าวโพด

แผ่นรองแกว้ จากเปลอื กข้าวโพด Corn Husks Coaster ณชิ กานต์ โชคสุขสถาพร โครงการน้เี ป็นส่วนหนง่ึ ของการศกึ ษาตามหลักสตู ร ประกาศนียบัตรวิชาชพี ช้ันสงู สาขาวชิ าการโรงแรม ประเภทวิชาอตุ สาหกรรมท่องเทย่ี ว วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาเชยี งใหม่ ปีการศึกษา 2563 แผน่ รองแกว้ จากเปลือกข้าวโพด Corn Husks Coaster ณชิ กานต์ โชคสขุ สถาพร โครงการนเ้ี ป็นสว่ นหนึง่ ของการศึกษาตามหลกั สตู ร ประกาศนยี บัตรวชิ าชพี ช้ันสูง สาขาวชิ า การโรงแรม ประเภทวิชา อุตสาหกรรมทอ่ งเท่ยี ว วทิ ยาลัยอาชีวศกึ ษาเชยี งใหม่ ใบรับรองโครงการ วิทยาลยั อาชีวศึกษาเชียงใหม่ เรอื่ ง แผน่ รองแกว้ จากเปลอื กข้าวโพด โดย นางสาวณชิ กานต์ โชคสุขสถาพร รหสั 6237010052 ได้รับการรับรองให้นับเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตร วิชาชพี ชั้นสูง สาขาวชิ าการโรงแรม ประเภทวชิ า อตุ สาหกรรมทอ่ งเทยี่ ว .....................................หวั หนา้ แผนกวชิ า ……………………………….รองผ้อู ำนวยการฝ่ายวชิ าการ (นางอัปสร คอนราด) (นายณรงศักดิ์ ฟองสนิ ธ์ุ) วันที่…เดอื น………พ.ศ……….. วนั ที่…เดือน………พ.ศ………. กรรมการสอบโครงการ ................................................... กรรมการ (นางสาวนพรรณพ ดวงแกว้ กูล) กิตตกิ รรมประกาศ โครงการเรื่อง แผ่นรองแก้วจากเปลือกข้าวโพด ของนักศึกษาแผนกวิชาการโรงแรม วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงใหม่ ฉบับนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เนื่องจากได้รับ ความกรุณา ความอนุเคราะห์ การสนับสนุนและการให้คำแนะนำแนวทางในการดำเนนิ งานจากหลายท่าน ขอขอบพระคุณ นายประภากร วัชราคม ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงใหม่ นายณรงค์ศักดิ์ ฟองสินธุ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ และนางอัปสร คอนราด หัวหน้าแผนก สาขาวิชาการโรงแรม ขอขอบพระคุณ นางสาวนพรรณพ ดวงแก้วกูล ครูที่ปรึกษาวิชาโครงการ ที่ให้คำปรึกษา โครงการ แนะนำและให้ข้อคิดต่างๆ ในโครงการ ตลอดจนแก้ไขข้อบกพรอ่ ง จนรายงานโครงการฉบับ น้เี สร็จสมบรู ณ์ และสำเรจ็ ลุลว่ งไปด้วยดี ณชิ กานต์ โชคสุขสถาพร ชือ่ : ณิชกานต์ โชคสขุ สถาพร ชือ่ โครงการ : แผ่นรองแกว้ จากเปลือกขา้ วโพด สาขาวิชา : การโรงแรม ประเภทวิชา : อตุ สาหกรรมท่องเทีย่ ว หัวหน้าแผนกวิชา : นางอัปสร คอนราด อาจารย์ประจำวชิ า : นางสาวนพรรณพ ดวงแกว้ กูล ปกี ารศึกษา : 2563 บทคัดย่อ โครงการ เรื่อง แผ่นรองแก้วจากเปลือกข้าวโพด มีวัตถุประสงค์เพื่อลดปริมาณการท้ิง เปลือกข้าวโพด เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับวัตถุดิบเหลือจากเปลือกข้าวโพด เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์แผ่นรอง แก้วจากเปลือกข้าวโพด จากผลการวิเคราะห์แบบสอบถามประเมินความพึงพอใจแผ่นรองแก้วจาก เปลือกข้าวได้ผลการวิเคราะห์ข้อมูลดังนี้ จำนวนกลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถามประเมินความพึง พอใจ ผลการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวน ร้อยละของกลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสำรวจโดยมีตัวแปรจำแนก ตามอายุ พบวา่ ส่วนใหญเ่ ป็นอยู่ในช่วงอายุ 20-24 ปี จำนวน 35 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 70 รองลงมา คอื ช่วงอายุ 15-19 ปี จำนวน 13 คน คิดเป็นร้อยละ 26 และน้อยที่สุดมีจำนวนเท่ากัน คือช่วงอายุ 25- 29 ช่วงอายุ 30-34 ช่วงอายุ 35-39 และ อายุ 40 ปีขึ้น จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 2 และจาก ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจแผน่ รองแกว้ จากเปลอื กข้าวโพด ไดผ้ ลการวเิ คราะห์ โดยเรยี งลำดบั ผล การวิเคราะห์ความพึงพอใจของผู้ตอบแบบประเมินความพึงพอใจ พบว่า แผ่นรองแก้วจากเปลือก ข้าวโพดสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้ตอบแบบประเมินความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด (������̅=4.55) โดยเรียงลำดับผลการวิเคราะห์ตามความพึงพอใจพบว่าแผ่นรองแก้วจากเปลือกข้า วโพดมีความ น่าสนใจเกณฑ์การประเมนิ อยใู่ ระดับมาก (������̅=4.24)แผน่ รองแก้วจากเปลือกขา้ วโพดสามารถกันน้ำได้ ไม่เกิดเชื้อรา เกณฑ์การประเมินอยู่ในระดับมากทที่สุด (������̅=4.46) ลวดลายการสานเปลือกข้าวโพดมี ความแข็งแรงทนทานเกณฑ์การประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด (������̅=4.44) แผ่นรองแก้วจากเปลือก ข้าวโพดมีความสวยงามเกณฑ์การประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด (������̅=4.54)โครงการแผ่นรองแก้วจาก เปลือกข้าวโพดเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์แบบใหม่ เกณฑ์การประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด(������̅=4.5) แผ่นรองแก้วจากเปลือกข้าวโพดสามารถลดปริมาณการทิ้งขยะจากเปลือกข้าวโพดได้ เกณฑ์การ ประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด (������̅=4.48) สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์แผ่นรองแก้ว เกณฑ์การประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด (������̅=4.52) ขนาดของแผ่นรองแก้วจากเปลือกข้าวโพด มีความเหมาะสมแก่การใช้งานเกณฑ์การประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด( ������̅ =4.59)แผ่นรองแก้วจาก เปลือกขา้ วโพดสามารถนำมาใประโยชน์ได้ เกณฑ์การประเมินอยู่ในระดบั มากที่สุด (������̅=4.59) เปลือก ขา้ วโพดสามารถเพิ่มมูลคา่ จากเดิมได้เกณฑก์ ารประเมินอยใู่ นระดับมากทสี่ ุด (������̅=5.42) ตามลำดบั Name : Miss Nitchakan Choksuksathaphon Project name : Corn Husks Coaster Field of study : Hotel Subject type : Tourism industry Department Head : Mrs. Apsorn Conrad Subject teacher : Ms. Naphannop DuangkaewKool School year : 2020 Abstract The project on corn shell coaster is aimed at reducing the amount of corn peel dumping to add value to raw materials from corn shell to develop glass coaster products from corn shell. Number of samples answered in satisfaction assessment questionnaire Analyzing the number of data, percentage of samples surveyed with variables classified by age. It found that the majority were between the ages of 20 and 24, with 35 people accounting for 70% of the ages of 15-19, 13 of them 26 percent and the least the same number: 25-29 age ranges between 30-34 ages 35-39 and 40 years old. 1 person, 2% and from The results of the corn shell glass plate satisfaction analysis were analyzed by sorting the results of the satisfaction analysis of respondents in the satisfaction assessment. It was found that the glass plates from the corn shell satisfied the most satisfied respondents (������̅=4.55) by sorting the results of the analysis according to satisfaction. (������̅=4.24) Corn shell coaster is waterproof, no mold. The assessment criteria are at the highest level (������̅ =4.46). Corn shell weave pattern is strong, durable, assessment criteria are at the highest level (������̅=4.44). Glass plates from corn shells are beautiful, the evaluation criteria are at the highest level (������̅=4.54), the glass plate project from corn shell is a new product development. The assessment criteria are at the highest level (������̅=4.5) Coaster from corn shell can reduce the amount of litter from corn shell. The assessment criteria are at the highest level (������̅=4.48). Can add value to coaster products The assessment criteria are at the highest level (������̅=4.52). Size of coaster from corn shell It is suitable for use of the assessment criteria at the highest level (������̅=4.59) Glass plates from corn shells can be available for use. The assessment criteria are at the highest level (������̅=4.59). Corn shells can increase in value from the original level by the most levels (������̅=5.42) respectively. สารบญั หนา้ ก เร่ือง ข ใบรับรองโครงการ ค กิตติกรรมประกาศ บทคดั ยอ่ 1 สารบัญตาราง 1 สารบญั ภาพ 2 บทที่ 1 บทนำ 2 2 1.1 ความเปน็ มาและความสำคัญของโครงการ 1.2 วตั ถุประสงค์ของการศึกษา 3 1.3 ขอบเขตของโครงการ 5 1.4 ประโยชนท์ ค่ี าดวา่ จะไดร้ ับ 10 1.5 นยิ ามศัพทเ์ ฉพาะ 13 บทท่ี 2 เอกสารและงานศึกษาท่เี กี่ยวข้อง 17 2.1 ความรูเ้ ก่ียวกับปัญหามลพษิ จากเผาซังขา้ วโพด 2.2 ความรู้เกีย่ วกบั การรณรงค์การนำซังขา้ วโพด 21 2.3 ความรู้เกี่ยวกบั ประเภทแผ่นรองแก้วจากเปลอื กขา้ วโพด 21 2.4 ความรเู้ ก่ียวกับวิธกี ารสานเปลอื กข้าวโพด 22 2.5 งานวิจยั ทเี่ กยี่ วข้อง 23 บทที่ 3 วิธีดำเนินการศึกษา 23 3.1 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 3.2 เครือ่ งมือในการดำเนินศึกษา 25 3.3 ขัน้ ตอนวธิ ีดำเนินงาน 3.4 การรวบรวมขอ้ มูล 3.5 สถติ ิการวเิ คราะห์ข้อมูล บทที่ 4 ผลการศกึ ษา 4.1 ผลการวเิ คาระห์แบบสอบถามความพึงพอใจแผน่ รองแก้ว จากเปลอื กข้าวโพด สารบัญ (ต่อ) หน้า เร่ือง 31 บทท่ี 5 สรปุ ผล อภิปรายและขอ้ เสนอแนะ 32 33 5.1 สรปุ ผล 5.2 อภิปรายผล 5.3 ขอ้ เสนอแนะ บรรณานกุ รม ภาคผนวก ภาคผนวก ก โครงร่างโครงการ ภาคผนวก ข เคร่ืองมอื ภาคผนวก ค แบบรายงานผลการนำไปใชป้ ระโยชน์ ประวัตผิ ูจ้ ัดทำ สารบัญตาราง หน้า 25 ตารางท่ี 26 ตารางท่ี 1 ตารางแสดงผลการวเิ คราะหข์ ้อมูลส่วนบคุ คลด้านเพศ 27 ตารางท่ี 2 ตารางแสดงผลการวเิ คราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลด้านชว่ งอายุ ตารางที่ 3 ตารางแสดงผลการวเิ คราะหก์ ารจดั ลำดบั ความพึงพอใจของผตู้ อบแบบ 29 ประเมิน ตารางที่ 4 ตารางแสดงผลการวิเคราะหก์ ารจดั ลำดบั ความพึงพอใจของผ้ตู อบแบบ ประเมินแผน่ รองแกว้ จากเปลือกข้าวโพด สารบัญภาพ หนา้ 4 ภาพท่ี 6 ภาพท่ี 1 การเผา่ พืชไร่ 7 ภาพท่ี 2 ซังข้าวโพด 7 ภาพท่ี 3.เปลอื กข้าวโพด 8 ภาพที่ 4 ข้าวโพด 8 ภาพที่ 5 ต้นข้าวโพด 9 ภาพที่ 6 ใบขา้ วโพด 9 ภาพท่ี 7 ดอกข้าวโพด 10 ภาพที่ 8 ผลขา้ วโพด 10 ภาพท่ี 9 แผน่ รองแกว้ จากเปลือกข้าวโพด 11 ภาพท่ี 10 แผ่นรองแกว้ ท่ีทำมาจากผ้า 11 ภาพท่ี 11 แผ่นรองแกว้ ที่ทำจากไม้ 12 ภาพท่ี 12 แผ่นรองรองแก้วที่ทำจากเซรามิก 12 ภาพที่ 13 แผ่นรองรองแกว้ ที่ทำจากเซรามกิ 13 ภาพที่ 14 แผน่ รองแกว้ ที่ทำจากหนิ อ่อน 14 ภาพที่ 15 ทรี่ องแกว้ ที่ทำจากซลิ ิโคน 14 ภาพที่ 16 การจักสาน 15 ภาพที่ 17 การสาน 15 ภาพที่ 17 การถัก 16 ภาพที่ 16 การเตรยี มเปลอื กข้าวโพด 16 ภาพท่ี 17 การทำความสะอาดเปลือกขา้ วโพด ภาพที่ 18 การต้ม และย้อมสเี ปลอื กขา้ วโพด บทท่ี1 บทนำ 1.1 ความเป็นมาและความสำคญั ของโครงการ ข้าวโพดเลยี้ งสัตวม์ คี วามสำคญั ตอ่ เกษตรไทยมายาวนานขา้ วโพดเป็นพชื เศรษฐกจิ ชนิดหนึ่งที่ เกษตรกรปลูกกันมากกว่าพืชไร่อื่นๆและเป็นส่วนสำคัญในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ที่มีความต้องการ ในการใช้ในปริมาณที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในการนำเมล็ดข้าวโพดมาใช้เป็นอาหารสัตว์ จะเหลือต้น ข้าวโพดซังและลำต้นเปลือกข้าวโพด ซึ่งวัสดุเหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่ได้นำมาใชป้ ระโยชนอ์ ื่นวัสดุเศษเหลือ นี้จะเปลี่ยนสภาพเป็นปุ๋ยทางธรรมชาติหากมีประมาณที่มากจนเกินไปก็ไม่สามารถ ย่อยสลายได้ง่าย ดว้ ยตัวเองอาจเกดิ มลพิษต่อสิ่งแวดล้อมด้วย ไมว่ า่ จะเป็นการเผาให้เกดิ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ส่งผม ต่อดินเป็นกรดหรือด่างหลายหน่วยงานจึงมีการรณรงค์ให้ใช้วัสดุเหลือใช้จากการเก ษตรกรให้เกิด ประโยชน์สูงสุดสาขาวิชาการโรงแรมมีการเรียนการสอนเฉพาะทางในด้านวิชาชีพการโรงแรม ประกอบดว้ ยทักษะงานต่างๆ ดังนี้งานต้อนรับส่วนหน้า งานทำความสะอาดห้องพัก งานครัวและการประกอบอาหาร โรงแรม และงานบริการอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งงานบริการอาหารนั้น มีการบริการทั้งรูปแบบ ตะวันออกและตะวันตกโดยการบริการอาหารแบบตะวันตก แก้วเป็นหลัก จึงต้องมีอุปกรณ์ไว้คอยให้ ถูกชนิดแผ่นรองแก้วถือได้ว่าเป็นเครื่องใช้ในการบรกิ าร ซึ่งส่วนใหญ่เปน็ การสานจากไม้ธรรมชาติ ไม่ วา่ จะเปน็ ไม้ไผ่ หวาย ผกั ตบชวา ดังนัน้ ผจู้ ัดทำจงึ ไดม้ แี นวทางศึกษาคุณสมบัติของเปลอื กขา้ วโพดความคงทนของ เปลือกข้าวโพดเพ่ือจะนำมาพัฒนาเป็นผลติ ภัณฑ์แผ่นรองแกว้ จากเปลือกข้าวโพดไว้ให้นักเรียน นักศึกษาสาขาวชิ าการโรงแรมใช้ประกอบการฝกึ ปฏบิ ตั ิและการนำเปลือกข้าวโพดมาต่อยอดให้เกิด ประโยชน์สูงสุดยังเปน็ ชว่ ยลดปัญหาขยะเส็งวสั ดเุ หลือทิง้ จากการเกษตรกรรมและเปน็ การสร้าง มูลคา่ เพิ่มใหก้ บั เปลือกข้าวโพดอกี ด้วย 1.2 วัตถปุ ระสงค์ของโครงการ 1.2.1 เพอ่ื ลดปรมิ าณการท้ิงขยะของเปลอื กข้าวโพด 1.2.2 เพอ่ื เพม่ิ มูลคา่ ให้กับวัตถุดิบเหลือทิ้งให้กับเปลือกขา้ วโพด 1.2.3. เพอ่ื พฒั นาผลติ ภัณฑ์แผน่ รองแกว้ จากเปลือกขา้ วโพด 2 1.3 ขอบเขตโครงการ เปา้ หมายของโครงการ 6.1 เชิงปริมาณ - แผน่ รองแกว้ จากเปลอื กขา้ วโพดจำนวน 10 ใบ - กลุ่มตัวอยา่ ง ครูอาจารย์ นักเรียน – นักศึกษา สาขาวิชาการโรงแรม วทิ ยาลยั อาชวี ศกึ ษาเชียงใหม่จำนวน 100 คน 6.2. เชงิ คณุ ภาพ - ได้แผน่ รองแกว้ จากเปลือกข้าวโพดที่มีความทนทาน สวยงาม สามารถนำไปใชไ้ ด้จรงิ 6.3. ระยะเวลาและสถานทใ่ี นการดำเนินงาน ระยะเวลาดำเนนิ งาน - ตั้งแตว่ นั ที่ 16 พฤศจิกายน 2563 ถงึ วันท่ี 28 กมุ ภาพนั ธ์ 2564 สถานที่ดำเนินงาน - อาคารปฏิบตั ิการโรงแรม วิทยาลัยอาชีวศกึ ษาเชยี งใหม่ - ทอี่ ยอู่ าศยั ของผจู้ ดั ทำ บา้ นเลขท่ี 50 ม.8 ต.บา้ นทับ อ.แมแ่ จม่ จ.เชียงใหม่ 50270 1.4 ประโยชน์ท่ีคาดวา่ จะได้รบั 1) สามารถนำผลิตภณั ฑ์มาใช้ให้เกิดประโยชน์จรงิ ในชวี ิตประจำวนั 2) สรา้ งความพึงพอใจให้แกผ่ ู้พบเห็น 1.5 นิยามศัพท์ แผ่นรองแก้วจากเปลือกข้าวโพด เป็นการนำเปลือกข้าวโพดที่เหลือใช้มาทำเป็นผลิตภัณฑ์ สานแผ่นรองแกว้ ใช้ในการฝกึ ปฏิบัตงิ าน การบริการงานในครวั บทท่ี 2 แนวคิดทฤษฎแี ละงานศึกษาท่ีเก่ยี วขอ้ ง ในการศึกษาเรื่องแผน่ รองแก้วจากเปลือกขา้ วดพด ผู้จัดทำโครงการได้รวบรวมแนวคิดทฤษฎี และหลักการตา่ ง ๆ จากเอกสารและงานศึกษาท่ีเกีย่ วข้อง ดงั นี้ 2.1 ความร้เู กยี่ วกับปญั หามลพิษจากเผาซังข้าวโพด 2.2 ความรู้เกยี่ วกับการรณรงค์การนำซงั ขา้ วโพด 2.3 ความรู้เกี่ยวกับประเภทแผ่นรองแกว้ จากเปลอื กข้าวโพด 2.4 ความรเู้ กย่ี วกับวธิ ีการสานเปลือกข้าวโพด 2.5 งานวิจยั ท่ีเกยี่ วขอ้ ง 2.1 ความรูเ้ ก่ยี วกบั ปัญหามลพิษจากเผาซงั ขา้ วโพด 2.1.1 จากการกนิ สปู่ ัญหาหมอกควนั ปัญหาด้านมลพิษ ที่เกิดจากการใช้พลังงานในปัจจุบัน มีค่าเท่ากับ 1.83 , 4.75 และ 7.57ร้อยละโดยน้ำหนัก ซึ่งอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน ปริมาณการเผา ไหม้ของแท่งเชื้อเพลิงจากซังข้าวโพด มีค่า 46.88, 65.80 และ 45.70 ร้อยละโดยน หนัก และปริมาณคาร์บอนคงตัว การเผาไหม้ได้นาน 1 ชั่วโมง 30 นาที ให้ความร้อนเพิ่มมากขึ้นและไม่เกิดฝุ่นควันฟุ้งกระจาย ไม่เป็นมลพิษ สาหรับวิธีการ ทำถ่านอัดแท่งจากซังข้าวโพด ทำโดยการนำซังข้าวโพดที่เหลือทิ้งไปเผาแล้วนำเข้าเครื่องบดจน กลายเป็นผงหยาบๆปัญหามลพิษทางเสียงเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องด้านเศรษฐกิจและสังคม การผลิตถ่าน การผลิตฟองน้าจากยางพาราและทดสอบสมบัติมีรายละเอียด การเตรียมถ่านซัง ข้าวโพด นำซังข้าวโพดที่ทำความสะอาดแล้วมาตากแดดให้แห้งสนิท เผาซังข้าวโพดปัญหามลพษิ ทาง เสียงเป็นปัญหาสิง่ แวดลอ้ มที่เกี่ยวขอ้ งด้านเศรษฐกิจและสังคม ฝุ่นพิษที่เราเผชิญอยู่ทุกวันมีที่มาจาก หลายสาเหตุ โดยมตี ้นทางหลักจากท้ังการคมนาคมขนส่ง การเผาในท่ีโลง่ การผลิตไฟฟ้า หรือโรงงาน อุตสาหกรรมต่างๆ และสำหรับกรุงเทพมหานครฯ ต้นทางของฝุ่นพิษที่สำคัญคือบรรดาเครื่องยนต์ ดีเซลจากนั้นรถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคล โดยเฉพาะรถที่มีอายุตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป ซึ่ง ทั่วประเทศมีสัดส่วนถึง 61 เปอร์เซ็นต์ของรถที่วิ่งอยู่บนท้องถนนขณะนี้ แต่ถ้าเราลองมองให้ไกล ออกไปยังอีกหลายพื้นที่ จะพบว่ามีอีกหลายเมืองใหญ่ในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นพษิ เช่นกัน อาทิ จังหวัดเชียงใหม่ ที่มีลักษณะคล้ายแอ่งกระทะ ด้วยมีภูเขาใหญ่ล้อมรอบเมืองทุกๆ ปลายหน้า หนาว เข้าหน้าร้อน เมืองเชียงใหม่จึงเต็มไปด้วยฝุ่นละอองขนาดเล็ก อันมีต้นทางใหญ่มาจากการ ‘เผาไร่’ เพื่อปรับหน้าดิน โดยเฉพาะไร่ข้าวโพดเชิงอุตสาหกรรมที่นยิ มข้าวโพดเลี้ยงสัตวห์ รือข้าวโพด ไร่ (Field Corn)ที่รู้จักในปัจจุบันมีข้าวโพดหัวบุ๋ม(Dent Coorn) และข้าวโพดหัวแข็ง (Fint Corn) ซึง่ เปน็ การเรยี กตามลกั ษณะเมลด็ ข้าวโพดหัวบ๋มุ หรอื หัวบุบ ข้าวโพดชนดิ นีเ้ มอ่ื เมลด็ แหง้ แลว้ ตรงสว่ น 4 หัวบนสุดจะมีรอยบุ๋มลงไป ซึ่งเป็นส่วนของแป้งสขี าว ข้าวโพดชนิดนี้สำคัญมากและนิยมปลูกกันมาก ใน ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะทางแถบคอร์นเบลท์ สีของเมล็ดมีตั้งแต่ขาวไปจนถึงเหลือง เนื่องจากมีหลายสายพนั ธุมีโปรตนี น้อยกว่าพวกข้าวโพดหวั แข็งขา้ วโพดหวั แข็ง ข้าวโพดพันธ์ุนี้ส่วนขน สุดของเมล็ดมักมีสีเหลืองจัดและเมื่อแห้งจะแข็งมาก ภายในเมล็ดมีสารที่ทำให้ข้าวโพดมีสีเหลือง จดั เป็นสารให้สีท่ีชอื่ ครปิ โตแซนทนี (Cruptoxanthin) สารนเี้ ม่ือสตั ว์ได้รับรา่ งกายสัตว์จะเปลี่ยนสาร น้ใี ห้เป็นไวตามนิ เอ นอกจากนี้สารนีย้ ังช่วยให้ไข่แดงมสี แี ดงเขม้ ชว่ ยใหไ้ กม่ ผี ิวหนัง ปาก เนอ้ื และแข้ง มีสเี หลอื งเขม้ ข้ึน เปน็ ทน่ี ยิ มของตลาดโดยเฉพาะแถบอเมรกิ าส่วนองั กฤษนั้นนิยมใช้ขา้ วโพดขาว ภาพท่ี 1 การเผ่าพืชไร่ ทมี่ า //www.raot.co.th/ewt_news ข้าวโพด สาเหตแุ หง่ การทำลายปา่ นำ้ แล้งและหมอกควันพษิ คนในสังคมหลงเชื่อมานานแล้ว ว่า ปัญหาหมอกควันพิษในภาคเหนืออันเกิดขึ้นทุกปีในชว่ งหน้าแล้ง มาจากการเผาปา่ เพื่อหาเห็ด หา ผกั หวานของชาวบ้าน แต่สาเหตุสำคญั คอื การเผาซากไร่ขา้ วโพด และเผาป่าเพื่อทำไร่ข้าวโพด ในพ้ืนที่ ป่าต้นน้ำที่ไม่มีใครกล้าพูดถึง เราเผาป่าต้นน้ำหลายล้านไร่เพื่อเปลี่ยนเป็นข้าวโพด ทำอาหารสัตว์ ส่งออกขายเมืองนอกทำกำไรให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่ทางเกษตรมหาศาล กับสิ่งที่แลกมาคือ หมอก ควันพิษ ดินถลม่ น้ำท่วม นำ้ แล้ง และความยากจนเป็นหนส้ี ินของเกษตรกรรายย่อยหลายปีก่อน เคย ขับรถมุ่งหน้าจากอำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ไปสู่อำเภอสวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ คือ อำเภอแม่แจ่ม หนทางคดเคี้ยว แต่สองข้างทางเป็นภูเขาป่าใหญ่ บางช่วงมีลำธารทอดขนานไปกับ ถนนเห็นสภาพปา่ แล้วต้องไขกระจกรถออกมาสดู อากาศและชมความสมบูรณ์ความเขียวขจีของป่าต้น น้ำ จำได้ว่าเคยหยุดพักทอดสายตาดูแม่น้ำแม่แจ่ม ไหลผ่านอำเภอแม่แจ่มและไปออกสู่แม่น้ำปิงที่ อำเภอฮอดแต่วันนี้หากใครเดินทางไปแถวนั้น จะเห็นภาพจำได้ติดตาคือ ภูเขาหัวโล้นสุดลูกหูลูกตาผู้ บุกรุกเผาป่า ถางป่าเตรียมพื้นที่เพาะปลูกไร่ข้าวโพด พอหลังฤดูเก็บเกี่ยว ก็เผาซากไร่เพื่อเตรียม เพาะปลูกใหม่ 5 2.2 ความรู้เก่ียวกับการรณรงคก์ ารนำซงั ขา้ วโพด 2.2.1 รณรงคเ์ กษตรกร ทำปยุ๋ หมกั ตอซังข้าวโพด ลดการเผา ลดตน้ ทุนซงั ขา้ วโพดท่ีอาจจะดู ไร้ค่าแต่งานนี้กลับสร้างเงินสร้างราคาจากความเป็นคนช่างสังเกต โดยการนำมารีดน้ำออกจากขยะ และทำใหแ้ ห้งโดยการผ่านขบวนการเผาไหม้ เนอ่ื งจากชาวอาทิตย์อุทัยรณรงคใ์ หห้ ันมาใช้ถ่านท่ีผลิต จากขยะแทนที่จะเอาไม้มาเผาเป็น การรณรงค์ลดการเผาเศษพืชที่รู้จักในปัจจุบันมีข้าวโพดหัวบุ๋ม (Dent Coorn) และข้าวโพดหัวแข็ง (Fint Corn) ซ่ึงเป็นการเรียกตามลักษณะเมล็ดข้าวโพดหัวบุ๋ม หรือหวั บุบ ขา้ วโพดชนดิ นเ้ี ม่อื เมล็ดแหง้ แล้วตรงส่วนหวั บนสุดจะมีรอยบ๋มุ ลงไป ซ่งึ เป็นส่วนของแป้งสี ขาว ข้าวโพดชนิดนี้สำคัญมากและนิยมปลูกกันมากใน ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะทางแถบ คอร์นเบลท์ สีของเมล็ดมีตั้งแต่ขาวไปจนถึงเหลือง เนื่องจากมีหลายสายพันธุมีโปรตีนน้อยกว่าพวก ข้าวโพดหัวแข็งขา้ วโพดหัวแข็ง ข้าวโพดพันธนุ์ ีส้ ว่ นขนสดุ ของเมล็ดมกั มีสีเหลืองจดั และเม่ือแห้งจะแข็ง มาก ภายในเมล็ดมีสารที่ทำให้ข้าวโพดมีสีเหลืองจัดเป็นสารให้สีที่ชื่อ คริปโตแซนทีน (Cruptoxanthin) สารนี้เมื่อสัตวไ์ ดร้ ับร่างกายสัตวจ์ ะเปล่ียนสารนีใ้ ห้เปน็ ไวตามนิ เอ นอกจากนี้สารนี้ ยังช่วยให้ไข่แดงมีสีแดงเข้ม ช่วยให้ไก่มีผิวหนัง ปาก เนื้อ และแข้งมีสีเหลืองเข้มขึ้น เป็นที่นิยมของ ตลาดโดยเฉพาะแถบอเมริกาสว่ นองั กฤษนน้ั นิยมใชข้ า้ วโพดขาว 2.2.2 วิธกี ารใช้ขา้ วโพดเลยี้ งสัตว์ ใช้ได้หลายรูปแบบทั้งอาหารหยาบและอาหารข้น การใช้ในรูปอาหารหยาบคือ ใช้ต้น ใบ ซัง ทั้งสภาพสด และแห้งและหมักส่วนอาหารข้นใช้ได้ทั้งเมล็ด ทั้งในรูปแหล่งให้พลังงานและแหลง่ เสริม โปรตีน ซึ่งได้จากผลิตภัณฑ์ข้างเคียงจากอุตสาหกรรมแป้งข้าวโพด น้ำมันข้าวโพด และน้ำหวานจาก ข้าวโพด ซ่ึงผลิตภณั ฑ์ขา้ งเคยี งเหล่านี้มีหลายชนดิ 2.2.3 เมล็ดขา้ วโพดบด (Ground corn Cracked corn หรอื Corn meal) โดยปกติ หมายถงึ เม็ดข้าวโพดที่มีสีออกจากฝักแล้วนำมาบดหรือทำให้แตกออก การบดไม่ควรบดให้ละเอียดเกินไป เพราะสัตว์ไม่ชอบกิน ข้าวโพดทีบ่ ดแล้วจะเก็บไว้ได้นานต้องมีความชื้นไม่เกนิ 12 % ข้าวโพดบดผสม อาหารไดด้ ีถงึ 70-80 % โดยไมเ่ ปน็ อันตรายต่อสตั ว์ ถอื ว่าเปน็ อาหารชั้นท่ีดี ลักษณะข้าวโพดบดแบบ นี้มักนิยมบดใช้เองในฟารม์ ในต่างประเทศ ข้าวโพดบดจากกรรมวิธีการผลิตในปัจจุบัน หมายถึงข้าวโพดที่แยกเอาส่วน ของเปลอื กนอกของเมล็ด (Hull) และส่วนจดุ งอกหรือคัพภะ (Germ) ของเมลด็ ออกไปแล้วและนำมา บด เมล็ดข้าวโพดบดไม่ควรมีสิ่งแปลกปลอมมากเกิน 4 % สิ่งที่มักปนมาคือ ซังและเปลือกข้าวโพด สำหรับการเก็บเมล็ดข้าวโพด จะต้องเก็บในลักษณะที่เมล็ดแห้งจริง ๆ เมล็ดข้าวโพดนิยมใช้เป็น อาหารสุกร วัว สตั วป์ ีก มา้ ล่อ และแพะ-แกะ และนอกจากนี้ใชห้ มกั ทำแอลกอฮอล์ และประกอบเป็น อาหารคน เล่น ทำแป้งข้าวโพด สกัดเอาน้ำมันข้าวโพด ทำน้ำหวานจากข้าวโพด น้ำตาลหรือน้ำส้ม จากขา้ วโพด หรือบรโิ ภคในรูปข้าวโพดทั้งฝัก หรือข้าวโพดค่วั นอกจากจะนิยมรบั ประทานโดยไม่แปร 6 รปู แล้วอาจนำมาทำเป็นเคร่ืองกระป๋อง หรอื ต่างประเทศนิยมแช่แข็งเก็บไว้บริโภค คุณคา่ ของโภชนะ ในขา้ วโพดที่ปลูกในอเมริกา ค่อนขา้ งจะแปรปรวนขน้ึ อยู่กบั พันธุ์ และสถานทปี่ ลูก ข้าวโพดมีไวตามิน เอ สงู มาก แต่มีไวตามนิ บีรวมตำ่ กอ่ นจะบดขา้ วโพดต้องเลอื กสงิ่ แปลกปลอมออก คณุ ค่าทางอาหารของข้าวโพด มีแป้ง 65% เยื่อใยตำ่ มีพลงั งานแบบเมตาโบไลซ์ (ME)สงู มีไขมนั 3-6% มีกากไขมันไม่อ่ิมตัว สูง มีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดไขมันเหลวในสัตว์ได้ โปรตีนรวม 8-13% มีอยู่ 2 ชนิด คือซีนหรือ เซอีน (Zein) ซึ่งพบในเนื้อใน (Endosperm) ในปริมาณมาก แต่โปรตีนชนิดนี้ขาด (Lysine) และ (Tryptophan) ส่วนกลูเทนิน จะพบใน Endosperm น้อย และคัพภะ มีอยู่บ้าง แต่มีส่วนประกอบ ของ EAA ดีกว่าZein เพราะมีไลซีน และทรปิ โตเฟน ประกอบอยูใ่ นปริมาณทส่ี งู กวา่ นักผสมพันธุ์พืชได้พยายามผสมพันธุ์ และปรับปรุงพันธุ์ข้อบกพร่องเรื่อง EAA ของข้าวโพด และได้พนั ธ์ุ (OpaQue-2) มาแทน บางครงั้ เรยี ก ข้าวโพดไลซีนสูงและยังมกี ลูเทลินสงู กวา่ เซอีน เมื่อ เทียบกบั ขา้ วโพดธรรมดา ถา้ ใชแ้ ลว้ เสรมิ ด้วยเมไธโอนนี ในอาหารหนู คน สกุ ร ไก่ จะทำให้ใชข้ า้ วโพด ดียิ่งขึ้น มีคุณค่าทางอาหารสูงขึ้นนอกจากนี้มีพันธุ์ฟลาวรี่ –2 ซึ่งเป็นพันธุ์ใหม่ มีคุณค่าทางอาหารสูง กว่า Opaque-2 โดยมโี ปรตนี สงู กว่า ส่วนกรดอะมโิ น มีEAA หลายตัวสูงกว่าโดยเฉพาะ Methyonine ถึงแมจ้ ะมบี างตัวตำ่ กว่าเลก็ น้อยกต็ าม ภาพท่ี 2 ซงั ข้าวโพด ทีม่ า //energy-safety.ete.eng.cmu.ac.th ซังข้าวโพด ฝักข้าวโพดที่กะเทาะเปลือกและเมล็ด ออกแล้วนามาบดเลี้ยงสัตว์เคี้ยวเอื้องเช่น วัวนม หรือพ่อโค แม่พันธุ์โคเนื้อ เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์เคี้ยวเอื้องอ้วน เกินไป และยังช่วยเพิ่มปริมาณไขมัน นมให้สงู ขึน้ จัดเป็นอาหารหยาบท่ใี ห้พลังงาน เพราะเปน็ อาหารทม่ี เี ยอ่ื ใย 7 ภาพที่ 3 เปลอื กข้าวโพด ท่ีมา //energy-safety.ete.eng.cmu.ac.th การเปลี่ยนเปลือกเป็นปุ๋ย คือ การเปลี่ยนเปลือกข้าวโพดที่มีมากในบางพื้นที่ให้เป็นปุ๋ยหมัก เพื่อทำให้เกิดประโยชน์ในการบำรุงดิน และยังลดการเผาตอซังข้าวโพดที่สร้างมลพิษและหมอกควัน มากมาย สำหรับสูตรนี้จะใช้น้ำหมักรสจืด เพื่อชะล้างสารพิษที่มีมากในพื้นที่ปลูกข้าวโพดเนื่องจาก การใช้สารเคมี ภาพท่ี 4 ข้าวโพด ที่มา //library2.parliament.go.th ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปัจจุบันมีการปลูกแต่ก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ซื้อในตลาดโลก มากนักแต่เดิมมีการใช้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้ง ท่ี1ถือว่ามีการใช้ข้าวโพดในการ เลี้ยงสตั ว์มานานมากแล้วข้าวโพดทีใ่ ช้ในการเลีย้ งสตั ว์มีการปลูกอยู่หลายสายพันธ์ุแต่พนั ธุ์ที่นยิ มปลกู ในประเทศไทยคืพันธุ์กัวเตมาลา พียี 12(Rep.1) กัวเตมาลา พีบี 12(Rep.2) พีบี 5 ข้าวโพดเหนียว และโอเปค-2 มีเมล็ดตั้งแต่สีขาว สีเหลืองไปจนถงึ สีแดง ขนาดของเมล็ดขึ้นอยู่กับพันธุ์ โดยทั่วไปจะมี เส้นผ่าศูนย์กลางอยู่ในช่วง 0.5-0.8 ซม. ก่อนนำมาเลี้ยงสัตว์จึงต้องบดก่อนเพื่อช่วยให้การย่อยและ การผสมได้ผลดขี ึ้น ทบี่ ดแล้วจะมีขนาดประมาณ 1-8 มม 8 ภาพที่ 5 ต้นขา้ วโพด ทีม่ า //www.northpublicnews.com 1.ต้นข้าวโพด จัดเป็นไม้ล้มลุกจา พวกหญ้า มีถิ่นกา เนิดในทวีปอเมริกาใต้ในปัจจุบัน มีการ ปลูกท่ัวไปในเขตร้อนและเขตอบอุ่นท่ัวโลกลมีลำต้นนนั้ มลี ักษณะอวบกลมและต้ังตรงแข็งแรง มีความ สูงของตน้ ประมาณ 1-4เมตรผวิ ตน้ เรียบเน้อื ด้วยภายในฟ่ามคล้ายกับ ฟองน้ำ ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการ เพาะเมลด็ ภาพท่ี 6 ใบข้าวโพด ที่มา //www.thairath.co.th/news/local/1432731 2. ใบข้าวโพด ใบเป็นใบเด่ียวออกเรียงสลับ ใบมลี กั ษณะเรยี วยาวเป็นรูปขอบขนาน ปลายใบ แหลม โคนใบมนสว่ นขอบใบมนและมีขนอ่อน ๆ สขี าว เสน้ กลางใบมองเห็นไดช้ ดั เจน ใบมีขนาดกว้าง ประมาณ 2-10เซนตเิ มตรและยาวประมาณ 30-100 เซนติเมตร ส่วนก้านใบเป็นกาบหุ้มลำต้น 9 ภาพท่ี 7 ดอกข้าวโพด ทีม่ า //www.northpublicnews.com 3.ดอกข้าวโพด ออกดอกเป็นช่อ ดอกเพศผู้และดอกเพศเมียจะอยู่ในต้น เดียวกัน โดยดอก เพศผู้จะออกดอกเป็นช่อและออกที่ปลายยอด ส่วนดอกเพศเมียจะอยูต่ ่ำถัดลงมามาออกระหวา่ งกาบ ของใบและลำต้นเรียงเป็น 2แถว มีประมาณ 8-18 ดอก ดอกย่อยจะมีก้านเกสรเพศผู้จำ นวน 9-10 ก้านและมีอับเรณูสีเหลืองส้ม ยาวประมาณ 5 มิลลิเมตร ส่วนยอดเกสรเพศเมียเป็นเส้นบาง ๆ ย่ืน ออกมาเป็นจา นวนมากคล้ายกบั เส้นไหมจำนวนมาก (บา้ งกเ็ รยี กว่าหนวดข้าวโพด) โดยจะอยู่ระหว่าง กาบใบและลำตน้ และดอกเพศเมยี เม่ือเจริญเติบโตแล้วก็จะออกเป็นฝักหรอื เรียกวา่ ผล ภาพท่ี 8 ผลข้าวโพด ที่มา www.thaimaizeandproduce.org 4.ผลข้าวโพด ออกผลเปน็ ฝัก ผลถกู หมุ้ ไปด้วยกาบบาง ๆ หลายชั้นฝักอ่อนเป็นสีเขียวเมื่อแก่ แลว้ จะเปล่ียนเป็นสนี วลเรียกว่าเปลือกข้าวโพด ฝกั มลี ักษณะเป็นรปู ทรงกระบอกในหนึ่งฝักจะมีเมล็ด อยู่รอบฝกั เรียงเปน็ ระเบยี บรอบแกนกลางของฝักเมล็ดจะเกาะอยเู่ ป็นแถวประมาณ 8 แถว แต่ละแถว จะมีประมาณ 30เมล็ดและมีสีต่าง ๆ กัน เช่น สีนวลเหลืองขาว หรือสีม่วงดาเป็นแหล่งพลังงานที่ สำคัญในอาหารไก่ และสุกรโดยเฉพาะในอาหารไก่จะนิยมใช้มากเพราะนอก จะเป็นแหล่งใหพ้ ลังงาน แล้วในข้าวโพดเมลด็ สีเหลืองยังมีแคโรทีน ซึ่งช่วยทำให้สีของเน้ือไก่ และไข่แดงเข้มขึน้ ตามความนิยม ของผู้บรโิ ภคอีกดว้ ย 10 2.3 ความรู้เกี่ยวกับประเภทแผน่ รองแกว้ จากเปลือกขา้ วโพด เปลอื กขา้ วโพดนบั เป็นวสั ดุธรรมชาตชิ นิดหน่งึ ทม่ี อี ยใู่ นชุมชนชนบท ซง่ึ ปลูกกนั ในครวั เรอื นเพ่อื บรโิ ภค หรอื เป็นพชื เศรษฐกจิ สาหรบั จาหน่าย ปลูกมากๆ เพ่อื เป็นอาชพี ส่งขายหรอื ส่งออก ต่างประเทศ สามารถใชป้ ระโยชน์ไดท้ ุกสว่ น ตงั้ แต่เปลอื ก ฟัก และเมลด็ การนาผลผลติ ทอ้ งถนิ่ มาประยุกต์ใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ มมี ูลค่าเพม่ิ จงึ นบั เป็นสงิ่ สาคญั นอกจากจะช่วยส่งเสรมิ ผลผลติ ในทอ้ งถน่ิ แลว้ ยงั ชว่ ยใหเ้ กดิ ผลดที างดา้ นรายไดใ้ นครวั เรอื นตามมาอกี ดว้ ย ภาพท่ี 9 แผน่ รองแกว้ จากเปลอื กขา้ วโพด ทม่ี า www.thaimaizeandproduce.org แผ่นรองจานและแผ่นรองแก้วเป็นสงิ่ ทใ่ี ชป้ ระดบั ตกแต่งบนโต๊ะอาหารทม่ี สี ่วนทาใหอ้ าหารดูน่า รบั ประทานมากขน้ึ หากไดร้ บั การออกแบบทเ่ี หมาะสม นอกจากประโยชน์ทางดา้ นความสะอาด แล้ว แผ่นรองสามารถโปรโมตโปรโมชนั่ เมนูใหม่ หรอื ขอ้ มูลเก่ยี วกบั เมนูต่างๆเช่น วตั ถุดบิ ประโยชน์ทางโภชนาการ และอ่นื ๆ ภาพท่ี 10 แผ่นรองแกว้ ทท่ี ามาจากผา้ ทม่ี า www.thaimaizeandproduce.org ผา้ รองแกว้ มกั จะทาจากผา้ โดยสว่ นใหญ่กเ็ ป็นโพลเี อสเตอร์ ตวั โพลเี อสเตอรน์ นั้ มคี วามทนทาน มาก และมกี ารทาออกมาอย่างสวยงามมาก วสั ดุน้ีจะไม่ทาใหโ้ ต๊ะเสยี หายอย่างแน่นอน แต่มนั 11 เป็นผ้า ผ้าก็คือผ้าเพราะมนั จะไม่กนั น้าและดูดซับน้าได้ไม่ดีเท่าท่ีควร แม้ว่าผ้าตะสามารถ ป้องกนั การกลนั่ ตวั เป็นหยดน้าจากแกว้ น้าได้ แตถ่ า้ ทง้ิ ไวน้ านมนั กจ็ ะเป็นคราบได้ ภาพท่ี 11 แผ่นรองแกว้ ทท่ี ำจากไม้ ทีม่ า //www.thairath.co.th/news/local/1432731 จานรองแกว้ ทท่ี าจากไมเ้ ป็นทางเลอื กสาหรบั คนทช่ี ่นื ชอบความทนทาน ตวั ไมน้ ้ีมกั จะทาจากไม้ โอค๊ หรอื ไมอ้ ะคาเซยี หรอื ไมแ้ บบ MDF ซง่ึ MDF ย่อมาจาก Medium-Density Fibreboard มนั เป็นวสั ดุทใ่ี ชก้ นั ทวั่ ไปในการผลติ ทร่ี องแกว้ ซง่ึ เป็นการผสมผสานกนั ของไมเ้ น้อื แขง็ และเสน้ ใย ไมเ้ น้อื ออ่ น จานรองแกว้ แบบไมเ้ หมาะกบั สไตลแ์ บบคลาสคิ มนั มกั จะเป็นไมท้ เ่ี คลอื บดว้ ยแลก็ เกอรก์ นั น้าสามารถป้องกนั คราบสกปรกไดแ้ ละมคี วามแขง็ แรงเพยี งพอทส่ี ามารถวางแกว้ น้าได้ ทุกประเภท ภาพท่ี 12 แผน่ รองรองแกว้ ทท่ี าจากเซรามกิ ทมี่ า //www.thairath.co.th/news/local/1432731 ทร่ี องแกว้ แบบเซรามกิ เหมาะสาหรบั วางค่กู บั โตะ๊ สนามหรอื โตะ๊ ทานอาหารกลางแจง้ เพราะมนั มี ความทนทานมาก ไมว่ ่าจะเป็นมลภาวะหรอื สภาพอากาศกท็ นทานมาก ตวั แกว้ นนั้ มนี ้าหนกั เลก็ น้อยซง่ึ จะช่วยป้องกนั การปลวิ เมอ่ื ถูกลมพดั ได้ แค่เซรามกิ นนั้ แตกไดง้ า่ ยโปรดใชค้ วาม ระมดั ระวงั ในการใช้ 12 ภาพท่ี 13 แผ่นรองแกว้ ทท่ี าจากแกว้ ทม่ี า //energy-safety.ete.eng.cmu.ac.th จานรองแกว้ ทท่ี าจากแกว้ เป็นตวั เลอื กทวั่ ไปสาหรบั การวางถว้ ยหรอื แกว้ กาแฟ เพราะมนั สวยงามและหรหู รา มนั มกั จะเป็นแกว้ ใสทม่ี ลี วดลาย มนั ค่อนขา้ งเหมอื นเซรามกิ แต่มนั จะใสกว่า หนกั กว่าเลก็ น้อย แตก่ จ็ าเป็นตอ้ งใชอ้ ยา่ งระมดั ระวงั เพ่อื ป้องกนั การหล่นลงมาแตก ภาพท่ี 14 แผ่นรองแกว้ ทท่ี าจากหนิ อ่อน ทม่ี า //energy-safety.ete.eng.cmu.ac.th ทว่ี างแกว้ แบบหนิ ออ่ นนนั้ ตอบโจทยส์ าหรบั คนทต่ี อ้ งการความหรหู ราเพอ่ื ช่วยยกระดบั การ ออกแบบภายในของคุณ ทร่ี องแกว้ ทเ่ี ป้นหนิ อ่อนมนี ้าหนกั มลี วดลายหนิ อ่อนสวยงาม ถงึ แมว้ ่า มนั จะสวยมากแต่มนั กม็ คี วามเปราะบางและละเอยี ดออ่ นสามารถแตกไดเ้ ชน่ กนั 13 ภาพท่ี 15 ทร่ี องแกว้ ทท่ี าจากซลิ โิ คน ทม่ี า //www.paper-coasters.blogspot.com ทร่ี องแกว้ ซลิ โิ คนเป็นอกี หน่ึงทางเลอื กทส่ี ามารถใชไ้ ดท้ งั้ ในบา้ นและนอกบา้ น พวกมนั สามารถ กนั น้าไดอ้ ย่างยอดเยย่ี มและทนต่อความรอ้ นไดด้ มี าก สามารถหาซอ้ื ไดง้ า่ ย มรี าคาถกู อกี ทงั้ ยงั มี ความยดื หยนุ่ ตอ่ การฉกี ขาด มนั มรี ปู ทรงและมสี ใี หเ้ ลอื กอยา่ งหลากหลาย 2.4 ความร้เู กี่ยวกบั วิธีการสานจากเปลือกข้าวโพด เคร่อื งจกั สาน เป็นงานศลิ ปหตั ถกรรมพ้นื บา้ นของไทยท่มี มี าช้านานและผลติ กนั ทุกภาค ภาค ของประเทศไทย ซ่งึ สว่ นใหญ่จะใชว้ สั ดุทห่ี าไดใ้ นทอ้ งถนิ่ เป็นวตั ถดุ บิ ในการผลติ เช่น หวาย ไม้ ไผ่ ย่านลเิ พา กระจูด กก ฯลฯ เม่อื นามาผลติ เป็นเคร่อื งมอื ใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน โดยสนองความ ต้องการประโยชน์ใชส้ อยพน้ื ฐานเป็นสาคญั เคร่อื งจกั สานจงึ เป็นสงิ่ ทม่ี คี วามจาเป็น และมคี วาม สาพนั ธอ์ ยา่ ง ใกลช้ ดิ กบั วถิ ขี องคน ไทยจนกลายเป็นสว่ นหน่งึ ของศลิ ปวฒั นธรรมพน้ื บา้ นทม่ี กี าร สรา้ งสรรค์ และ สบื ทอดตอ่ เน่ืองกนั มาแต่อดตี นบั ตงั้ แต่การออกแบบลวดลาย รูปทรง โครงสรา้ ง ตลอดจนการเลอื กใชว้ สั ดพุ น้ื บา้ นไดอ้ ย่างเหมาะสมตามคตนิ ิยมทอ้ งถน่ิ นนั้ ๆ ทาใหเ้ คร่อื งจกั สาน พน้ื บา้ นของไทยมเี อกลกั ษณ์ เฉพาะงานแตกต่างกนั ไป เคร่อื งจกั สาน ทาจากวสั ดุทเ่ี ป่ือยสลายและผุพงั ไดง้ ่ายจงึ ไม่สามารถกาหนดอายุได้แน่นอน แม้ หลกั ฐานท่หี ลงเหลอื อยู่จะพบน้อยกว่าเคร่อื งปั้นดนิ เผา แต่มกี ารทาเคร่อื งจกั สานมาตงั้ แต่ยุค ก่อนประวตั ศิ าสตร์ โดยพบหลกั ฐานทางโบราณคดีท่เี ก่ยี วเน่ือง คอื ได้พบเคร่อื งปั้นดินเผา สมยั ใหม่ ลกั ษณะรปู ทรงคลา้ ยเคร่อื งจกั สานรูปสเ่ี หลย่ี มปากรปู กลมลวดลายดา้ นขา้ งมลี กั ษณะ คลา้ ยคลงึ กบั ลวดลายเคร่ืองจกั สาน ทาขน้ึ ดว้ ยวธิ ยี าดินเหนียวภายนภาชนะเคร่อื งจกั สานให้ หนาพอแลว้ นามาเผาเม่อื เผาเสรจ็ แลว้ ภาชนะจกั สานจะถูกเผาไหมห้ ายไปเหลอื แต่ภาชนะดิน เผาทม่ี ลี วดลายจกั รสานปรากฏอย่ทู ่พี น้ื ผวิ เคร่อื งจกั สานพ้นื ฐานของไทยส่วนใหญ่ใชไ้ มไ้ ผ่เป็น วตั ถุดบิ ในการจกั สาน นอกนนั้ ยงั มวี สั ดอุ ่นื ๆ ตามทอ้ งถน่ิ แต่ละภาคของไทย เช่น กก หวาย ใบ ลาน คล้า คลุม้ กระจูด แหย่ง เตย ลาเจยี ก ย่านลเิ พา ใบมะพร้าว เป็นต้น วสั ดุต่าง ๆ เหล่าน้ี 14 ก่อใหเ้ กดิ ลวดลายและรปู ทรงเคร่อื งจกั สานมลี กั ษณะเฉพาะ ตามเอกลกั ษณ์ของทอ้ งถนิ่ นนั้ ๆอกี ดว้ ย ภาพท่ี 16 การจกั สาน ทม่ี า //rattan.raicyber.com การจกั คือการนาวสั ดุมาทาให้เป็นเส้น เป็นแฉก หรอื เป็นร้วิ เพ่อื ความสะดวกในการสาน ลกั ษณะของการจกั โดยทวั่ ไปนัน้ ข้นึ อยู่กบั ลกั ษณะของวสั ดุแต่ละชนิดซ่ึงจะมวี ธิ กี ารเฉพาะท่ี แตกต่างกนั ไป หรอื บางครงั้ การจกั ไมไ้ ผ่หรอื หวายมกั จะเรยี กวา่ “ตอก” ซง่ึ การจกั ถอื ไดว้ า่ เป็น ขนั้ ตอนของการเตรยี มวสั ดุในการทาเครอ่ื งจกั สานขนั้ แรก ภาพท่ี 17 การสาน ทม่ี า //rattan.raicyber.com การสาน เป็นกระบวนการทางความคดิ สรา้ งสรรคข์ องมนุษยท์ น่ี าวสั ดุธรรมชาตมิ าทาประโยชน์ โดยใช้ความคดิ และฝีมอื มนุษย์เป็นหลัก การสานลวดลายจะสานลายใดนัน้ ข้ึนอยู่กับความ เหมาะสมในการใชส้ อย ซง่ึ มดี ว้ ยกนั 3 วธิ ี คอื - การสานดว้ ยวธิ สี อดขดั - การสานดว้ ยวธิ กี ารสอดขดั ดว้ ยเสน้ ทแยง - การสานดว้ ยวธิ ขี ดเป็นวง 15 ภาพท่ี 17 การถกั ทม่ี า //rattan.raicyber.com การถกั เป็นกระบวนการประกอบทช่ี ่วยให้การทาเคร่อื งจกั สานสมบูรณ์ การถกั เคร่อื งจกั สาน เช่น การถกั ขอบของภาชนะจกั สานไมไ้ ผ่ การถกั หูภาชนะ เป็นตน้ การถกั สว่ นมากจะเป็นการ เสรมิ ความแขง็ แรงของโครงสรา้ งภายนอก เช่น ขอบ ขา ปาก ก้น ของเคร่อื งจกั สาน และเป็น การเพมิ่ ความสวยงามไปดว้ ย รวมขนั้ ตอนวธิ กี ารท่หี ลากหลายในการประดษิ ฐ์ผลติ ภณั ฑ์จากเปลอื กขา้ วโพดไม่ว่าจะเป็นงาน ฝีมอื ของใช้ของชาร่วยและดอกไม้ประดิษฐ์ท่ีหลากหลายโดยได้บอกขนั้ ตอนวธิ ีการทาโดย ละเอียด เร่ิมตัง้ แต่การเตรียม การเลือกเปลือกข้าวโพด การต้ม การย้อมสี วัสุด- อปุ กรณ์ พรอ้ มวธิ กี ารทาและภาพประกอบการทาในแต่ละขนั้ ตอน - การเตรยี มเปลอื กขา้ วโพด - การเลอื กเปลอื กขา้ วโพด - การทาความสะอาดเปลอื กขา้ วโพด - การตม้ และยอ้ มสเี ปลอื กขา้ วโพด - วสั ดุ-อปุ กรณ์ ภาพท่ี 16 การเตรยี มเปลอื กขา้ วโพด ทม่ี า //bit.ly/3corFV2 16 ขนั้ ตอนการเตรยี มเปลอื กขา้ วโพด 1. คดั เลอื กเปลอื กข้าวโพดทไ่ี ม่ข้นึ รา ไม่มจี ุดด่างดา มาตดั แยกเป็นใบๆ 2. นาเปลอื กขา้ วโพดมาต้มจนเปลย่ี นสจี ากสเี ขยี วเป้นสขี าวหรอื สเี หลอื งอ่อนแลว้ ยกข้นึ มาบีบน้าออกท้งิ ไว้ให้หมาด 3. ผสมน้ายาฟอกผ้าขาว 1 ส่วนต่อน้า 5 ส่วน แช่เปลอื ก ขา้ วโพดทต่ี ม้ แลว้ ประมาณ 8 - 10 นาที บบี น้าออก นาไปแผ่ผง่ึ ลมใหแ้ หง้ ภาพท่ี 17 การทาความสะอาดเปลอื กขา้ วโพด ทม่ี า //www.thaismescenter.com คดั เปลอื กขา้ วโพด โดยเอาเฉพาะทอ่ี ย่ใู นสภาพดแี ละไม่ข้ึนรา นาไปลา้ งดว้ ยให้สะอาด แลว้ ผง่ึ แดดจดั ๆ บนลวดตาข่ายท่ยี กไว้สูงเหนือ พ้นื ประมาณ 3-4 วนั จนแห้งสนิท แสงแดดจะช่วย สลายคลอโรฟิลทม่ี อี ยู่ในเปลอื กข้าวโพด ทาให้เม่อื นาไปฟอกสจี ะได้เปลอื กขา้ วโพดท่มี ีความ ขาวมากขน้ึ และใชเ้ วลาในการฟอกสนี ้อยลง ภาพท่ี 18 การตม้ และยอ้ มสเี ปลอื กขา้ วโพด ทม่ี า //www.thaismescenter.com นาเปลอื กขา้ วโพดทฟ่ี อกสแี ลว้ มายอ้ มสตี ามต้องการ โดยมวี ธิ กี ารยอ้ มสี ดงั น้ี เทน้าใส่กะละมงั ประมาณ ¾ ส่วน นาข้นึ ต้มจนน้าเดอื ด เทสลี งไป คนจนสลี ะลายดี ใส่เกลอื ½ ถุงลงไป คนให้ 17 เกลือละลาย นาเปลือกข้าวโพดตามจานวนท่ีต้องการลงย้อม ต้มต่อไปประมาณคร่งึ ชวั่ โมง 23.10 ดวู า่ สตี ดิ เปลอื กขา้ วโพดแลว้ 2.5 งานวจิ ยั ที่เก่ียวขอ้ ง วัลภา แต้มทอง.(2563) “ผลของพันธุ์ข้าวโพด ชั้นเปลือกข้าวโพด และวิธีการแยกเส้นใยต่อ ผลผลติ และสมบัติทางกายภาพของเส้นใยเปลือกขา้ วโพด” การวจิ ัยนีม้ วี ตั ถปุ ระสงค์เพ่ือศึกษาผลของ พันธุ์ข้าวโพด ชั้นเปลือกข้าวโพด และวิธีการแยกเส้นใยต่อผลผลิต และสมบัติทางกายภาพของเส้นใย จากเปลอื กข้าวโพด โดยทดลองใชข้ ้าวโพด 3 พนั ธุ์ ไดแ้ ก่ พนั ธ์ุอินทรี 2 พันธ์ไุ ฮ-บริกซ์ 3 และพันธุ์เอที เอส 12 ชั้นเปลือกข้าวโพด 2 ชั้น ได้แก่ เปลือกชั้นนอกและเปลอื กชัน้ ใน และวิธีการแยกเส้นใย 6 วิธี ได้แก่ วิธีที่ 1 การใช้สารละลายด่างความเข้มข้น 2.5 กรัมต่อลิตร วิธีที่ 2 การใช้สารละลายด่างความ เข้มข้น 5.0 กรัมต่อลิตร วิธีที่ 3 การใช้สารละลายด่างความเข้มข้น 2.5 กรัมต่อลิตร และสารละลาย เอนไซม์ 0.5 % วิธีที่ 4 การใช้สารละลายด่างความเข้มข้น 2.5 กรัมต่อลิตร และสารละลายเอนไซม์ 1.0 % วิธีที่ 5 การใช้สารละลายด่างความเข้มข้น 5.0 กรัมต่อลิตร และสารละลายเอนไซม์ 0.5 % และวิธที ่ี 6 การใชส้ ารละลายด่างความเข้มข้น 5.0 กรมั ต่อลิตร และสารละลายเอนไซม์ 1.0 % จัดส่ิง ทดลองแบบ 3 2 6 แฟคทอเรียล ในแผนการทดลองแบบบล็อกสุ่มสมบูรณ์ทำการทดลอง 3 ซํ้า ผลการวจิ ัยพบว่า พันธ์ุขา้ วโพดมีผลต่อผลผลิตและขนาดเส้นใย (p 0.01) ช้ันเปลอื กข้าวโพดมีผลต่อ ความยาวและความหยิกงอของเส้นใย (p 0.01 และ 0.05 ตามลำดับ) วิธีการแยกเส้นใยมีผลต่อ ผลผลิต ความยาวและขนาดของเส้นใย (p 0.01) ปฏิสัมพันธ์ระหว่างพันธุ์ข้าวโพดกับชั้นเปลือก ข้าวโพดมีผลตอ่ ผลผลติ ความยาว ขนาดและความหยิกงอของเส้นใย (p 0.01 0.01 0.05 และ 0.05 ตามลำดับ) ปฏิสัมพันธ์ระหว่างพันธุข์ ้าวโพดกับวิธีการแยกเส้นใยมีผลต่อผลผลิต ความยาวและความ หยิกงอของเส้นใย (p 0.01 0.01 และ 0.05 ตามลำดับ) ปฏิสัมพันธ์ระหว่างชั้นเปลือกข้าวโพดกับ วิธีการแยกเส้นใยมีผลต่อผลผลิตเส้นใย (p 0.01) และปฏิสัมพันธ์ระหว่างพันธุ์ข้าวโพด ชั้นเปลือก ขา้ วโพดกับวิธกี ารแยกเสน้ ใยมีผลตอ่ ผลผลติ และความยาวเสน้ ใย (p 0.01) แก้วกัลยา โสตถิสวัสดิ์.(2562)“การปรับสภาพเปลือกข้าวโพดและกาบมะพร้าวเพื่อเพิ่ม ผลผลิตน้ำตาลรีดิวซ์”งานวิจัยนี้ไดศ้ ึกษาสภาวะที่เหมาะสมในการปรับสภาพเปลอื กข้าวโพดและกาบ มะพร้าวเพื่อเพิ่มผลผลิตน้ำตาลรีดิวซ์ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในกระบวนการผลิตไบโอเอทานอล โดย ทำการศกึ ษาองคป์ ระกอบหลักทางเคมีของเปลือกขา้ วโพดและกาบมะพร้าว พบวา่ วัสดุทั้งสองชนิดมี เฮมิเซลลูโลสเป็นองค์ประกอบหลักในปริมาณสูงที่สุด คือ 62.19±0.03 % และ 54.61±0.06 % ตามลำดบั รองลงมาคือเซลลูโลส (34.29±0.03 % และ 31.89±0.03 % ตามลำดับ) การศึกษาสภาวะ ที่เหมาะสมในการปรับสภาพเปลือกข้าวโพดและกาบมะพร้าว พบว่าการใช้กรดเจือจาง (1% (v/v) H2SO4) ภายใตอ้ ณุ หภูมิ 121ºC เปน็ เวลา 90 นาที มผี ลทำใหป้ รมิ าณผลผลิตน้ำตาลรีดวิ ซ์สูงมากท่ีสุด 18 อย่างมีนัยสำคัญ (p<0.05) คือ 94.28±2.58 และ 59.65±2.58 g/L ตามลำดับ รองลงมาคือการใช้ กรด (1% (v/v) H2SO4) ร่วมกับการใช้เอนไซม์เซลลูเลส (Cellulase, Cellic®Ctec 2) สำหรับผล การศึกษาลักษณะทางสัณฐานวิทยาของโครงสร้างพื้นผิวด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเลคตรอนชนิดส่อง กราด (Scanning electron microscope; SEM) สามารถยืนยันได้ว่าการใช้กรดเจือจางในการปรับ สภาพเปลอื กข้าวโพดและกาบมะพรา้ วด้วยกรดมีผลทำใหโ้ ครงสร้างการจัดเรียงตัวและพื้นผิวของเส้น ใยถกู ทำลายอย่างชัดเจน ณรกมล เลาห์รอดพันธ์.(2562) “การปรบั ปรุงคณุ ภาพของเปลือกขา้ วโพดต่อค่าองค์ประกอบ ทางเคมี และความสามารถในการย่อยได้ในหลอดทดลอง”การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา องค์ประกอบทางเคมีและการย่อยได้ในหลอดทดลองของการปรับปรุงคุณภาพเปลือกข้าวโพดด้วย จุลินทรยี ์ พด.1 และอีเอม็ โดยวางแผนการทดลองแบบสมุ่ สมบูรณ์ (CRD) แบ่งเป็น 5 กลุ่มการทดลอง คือฟางข้าวที่ไม่ได้ปรับปรุงคุณภาพ (RS) ทำการหมักฟางข้าวด้วย พด.1 ร่วมกับรำละเอียดที่ 0 วัน และ 14 วัน (T1 และ T2) และทำการหมักฟางข้าวด้วยอีเอ็มร่วมกับกากน้ำตาลที่ 0 วันและ 14 วัน (T3 และ T3) กลุ่มละ 3 ซ้ำ จากนั้นนำมาวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีและวัดค่าการย่อยได้โดยใช้ เทคนคิ การวัดแก๊ส ผลการทดลองพบวา่ ปริมาณโปรตนี ของกลุ่ม T1, T2, T3 และ T4 สูงกว่ากลมุ่ CH (P<0.01) แต่วัตถุแห้ง, เยื่อใยหยาบและเซลลูโลสของกลุ่ม CH สูงกว่าทุกกลุ่มการทดลอง (P<0.01) นอกจากนี้การหมักเปลือกซังข้าวโพดด้วย พด.1 เป็นเวลา 14 วันทำให้ค่า ME มีแนวโน้มลดลง (P=0.06) จากการทดลองสามารถสรุปได้ว่าการปรับปรุงคุณภาพของเปลือกข้าวโพดโดยการเติม พด. 1และอีเอ็มมีการเพิ่มขึ้นของระดับโปรตีนและไขมัน ยังส่งผลให้ปริมาณของเยื่อใยหยาบ NDF ADF ปรมิ าณเซลลูโลสมกี ารลดลง วัลภา แต้มทอง.(2560) “ผลของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ต่อค่าดัชนีความขาวและความ แข็งแรงของเปลือกข้าวโพด (EFFECT OF HYDROGEN PEROXIDE ON WHITENESS INDEX AND STRENGTH OF CORN HUSK)”การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของความเข้มข้นไฮโดรเจน เปอร์ออกไซด์ต่อคา่ ดัชนีความขาว และความแข็งแรงของเปลือกขา้ วโพดหวานพันธุ์อินทรี 2 ปัจจัยใน การทดลองคือความเข้มข้นของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 4 ระดับ คือ 2% 3% 4% และการไม่ฟอก ขาว ดำเนินการทดลอง 10 ซ้ำ ตามแผนการทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์ (Completed Randomized Design หรอื CRD) วิเคราะห์ค่าดัชนีความขาว และความแขง็ แรงของ เปลอื กขา้ วโพดฟอกขาวโดยใช้ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และเปรียบเทียบความ แตกตา่ งของค่าเฉลี่ยโดยใช้ Duncan's Multiple Range Test ผลการวิจัย พบว่าการฟอกขาวเปลือก ขา้ วโพดดว้ ยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ทุกระดับความเข้มข้น ทำใหค้ า่ ดัชนีความขาวของเปลือกข้าวโพด เพ่มิ ขน้ึ โดยเปลอื กขา้ วโพดทใี่ ช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ความเข้มข้น 4% มีค่าเฉลยี่ ดัชนีความขาวมาก 19 ทีส่ ดุ รองลงมาคือความเขม้ ข้น 3% และ 2% ตามลำดบั และความเขม้ ข้นของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ มีผลต่อค่าดัชนีความขาวอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p £ .05) สำหรับผลต่อความแข็งแรง พบว่า เปลือกข้าวโพดที่ใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ความเข้มข้น 2% 3% และ 4% ไม่มีความแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคญั ทางสถิติ นิตยา พัดเกาะ.(2560) “การศึกษาการทำแผ่นกระเบื้องหลังคาจากเส้นใยธรรมชาติ กรณีศึกษา : เส้นใยใบสับปะรด และ เส้นใยเปลือกข้าวโพด”การทำวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพ่ือ ศึกษาการทำแผ่นกระเบื้องมุงหลังคาจากเสน้ ใยสับปะรดและเส้นใยเปลือกข้าวโพดเปน็ วัตถดุ บิ ใช้กาว สังเคราะห์ยูเรียฟอร์มัลดีไฮด์ เรซิน (UF)13 %และกาวสังเคราะห์ไอโซไชยาเนต เรซิน(pMDI) 13 % ทำหน้าที่เป็นสารยึดติด โดยวิธีอัดร้อนผ่านแม่พิมพ์ชนิดลอนเล็ก ที่อุณหภูมิ 120 องศา เซลเซียส แรงดันในการอัด 150 กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร เวลาในการอัด 15 นาที ความ หนาแน่นที่กำหนด 900 กโิ ลกรมั ตอ่ ลกู บาศก์เมตร มขี นาด 400 X 400 มลิ ลเิ มตรและความหนาแผ่น 5 มิลลิเมตร ผลการศึกษาสมบัติการทำแผ่นกระเบื้องหลังคาจากเส้นใยธรรมชาติ พบว่าการทดสอบ สมบัติเชิงกายภาพ ค่าความหนาแน่นของแผ่นกระเบื้องหลังคาที่ใช้กาวสังเคราะห์ยูเรียฟอร์มัลดีไฮด์ เรซิน(UF) มีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 914.77 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ค่าความชื้นค่าเฉลี่ยอยู่ ระหว่าง 5.43 % ค่าการดูดซึมน้ำที่ 1 ชั่วโมงค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 21.99 % ค่าการดูดซึมน้ำท่ี 24 ชั่วโมงค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 31.30 % ค่าการพองตัวทางความหนาที่ 1 ชั่วโมงค่าเฉลี่ยอยู่ ระหวา่ ง 7.81 % คา่ การพองตวั ทางความหนาที่ 24 ชัว่ โมงคา่ เฉลี่ยอย่รู ะหวา่ ง 9.26 % การทดสอบ สมบัติเชิงกลได้ค่าความต้านทานแรงดัดค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 231.42 MPa ค่าความต้านทานมอดูลัส ยืดหยุ่นค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 68656.62 MPa ค่าความแข็งแรงการกระแทกค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 1.57 J การทดสอบสมบัติเชิงความร้อนได้ค่าการนำความร้อนค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 0.012 w/m.K และค่าความต้านทานความร้อนค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 0.34 m2.k/w ส่วนผลของการทดสอบแผ่น กระเบื้องหลังคาที่ใช้กาวสังเคราะห์ไอโซไชยาเนต เรซิน (pMDI)การทดสอบสมบัติเชิงกายภาพได้ค่า ความหนาแน่นมีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 924.71 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ค่าความชื้นค่าเฉลี่ยอยู่ ระหว่าง 3.65 % ค่าการดูดซึมน้ำที่ 1 ชั่วโมงค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 12.30 % ค่าการดูดซึมน้ำที่ 24 ชั่วโมงค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 24.66 % ค่าการพองตัวทางความหนาที่ 1 ชั่วโมงค่าเฉลี่ยอยู่ ระหว่าง 3.16 % ค่าการพองตัวทางความหนาท่ี 24 ช่ัวโมงคา่ เฉล่ยี อยูร่ ะหวา่ ง 8.48 % การทดสอบ สมบัติเชิงกลไดค้ ่าความต้านทานแรงดดั ค่าเฉล่ียอยูร่ ะหว่าง 274.99 MPa ค่าความต้านทานมอดูลสั 20 ยืดหยุ่นค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 59366.07 MPa ค่าความแข็งแรงการกระแทกค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 1.94 J และการทดสอบสมบัตเิ ชงิ ความรอ้ นไดค้ ่าการนำความร้อนค่าเฉล่ียอยู่ระหวา่ ง 0.013 w/m.K และค่าความต้านทานความร้อนค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 0.28 m2.k/w จากผลการทดสอบสมบัติเชิง กายภาพ เชิงกลและเชิงความร้อน แสดงให้เห็นว่าวัสดุของเส้นใย รูปร่างลักษณะเส้นใยที่ยาวหรือ สั้น ความเฉพาะตัวของเส้นใยหรือความเพรียวรวมถึงความสามารถในการยึดเหนี่ยวชิ้นเส้นใยที่มี ขนาดยาวๆจะส่งผลให้ค่าความแข็งแรงทีม่ ากกว่า ชิ้นเส้นใยทีห่ นาและสั้น ซึ่งไม่สามารถต้านทานแรง กดได้สูง ความหนาแนน่ ของแผ่น ชนดิ ของกาว มผี ลต่อความแขง็ แรงและคา่ ความร้อนของแผ่นหลังคา ซึ่งจากผลค่าเฉลี่ยที่ได้จากค่าความหนาแน่นที่ต่ำ จะมีช่องว่างมากกว่าทำให้ค่าการนำความร้อนต่ำ กว่าแผน่ ทม่ี คี วามหนาแน่นสูง บทที่ 3 วิธดี ำเนนิ การศกึ ษา ในการดำเนนิ โครงการแผน่ รองแกว้ จากเปลือกข้าวโพดมีวัตถุประสงคเ์ พ่ือ1.เพ่ือลดปริมาณการ ทิ้งเปลือกข้าวโพด 2. เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับวัตถุดิบเหลือจากเปลือกข้าวโพด 3.เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ แผ่นรองแก้วจากเปลือกข้าวโพดซึ่งผู้จัดทำโครงการศกึ ษาได้ดำเนินดงั นี้ 3.1 กลมุ่ ประชากร 3.2 เคร่อื งมอื ทใ่ี ชใ้ นการดำเนินโครงการ 3.3 ขน้ั ตอนการดำเนนิ โครงการ 3.4 การเก็บรวบรวมขอ้ มลู 3.5 สถติ ิและการวเิ คราะหข์ อ้ มลู 3.1 กลมุ่ ตวั อยา่ ง กลุ่มตัวอย่างผู้ทดลองใช้ผู้เข้าพักในโรงแรม ครูอาจารย์ นักเรียน-นักศึกษา สาขาวิขาการ โรงแรมวทิ ยาลัยอาชวี ศึกษาเชยี งใหม่ 50 คน โดยวธิ ีการเลอื กกลุ่มตวั อย่างแบบเจาะจง 3.2 เครื่องมอื ทใ่ี ช้ในการดำเนินโครงการ 3.2.1 แบบสำรวจ ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม และข้อมูลเกี่ยวกับการตอบ แบบสอบถามความคดิ เห็นในรปู แบบของแผน่ รองแกว้ จากเปลือกขา้ วโพด 3.2.2 แบบสอบถามความพึงพอใจ ผู้ทดลองใช้ครูอาจารย์ นักเรียน-นักศึกษา สาขาการ โรงแรมวิทยาลัย อาชีวศึกษาเชียงใหม่ ผู้จัดทำโครงการใช้แบบสอบถาม เป็นเครื่องมือเพื่อรวบรวม ข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง เพื่อสอบถามความคิดเห็นต่าง ๆ ซึ่งมีการเก็บรวบรวมข้อมูลจาการสำรวจ ความคดิ เห็นเกยี่ วกับรปู แบบ ของแผ่นรองสาน และแบบสอบถามความพึงพอใจของแผ่นรองแก้วจาก เปลอื กขา้ วโพด โดยผูจ้ ัดทำโครงการไดแ้ ยก แบบสำรวจและแบบสอบถามความพึงพอใจ แบบสำรวจ แบ่งออกเปน็ 2 ส่วน สว่ นที่ 1 ขอ้ มูลส่วนบุคคลของผ้ตู อบแบบสอบถาม โดยสอบถาม เพศ อายุ ส่วนที่ 2 ข้อมูลเกี่ยวกับการตอบแบบสอบถามความคิดเห็น ขนาดของแผ่นรอง รูปทรง ที่ จับของแผ่นสาน ในอาคารปฏบิ ตั กิ ารโรงแรม วิทยาลยั อาชีวศกึ ษาเชียงใหม่ แบบสอบถามความพงึ พอใจ ประกอบไปด้วย 3 ส่วน ส่วนที่ 1 ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยสอบถามเกี่ยวกับเพศ อายุ รายได้ โดยที่ ผตู้ อบตามความเป็นจริง (Chech-list) 22 ส่วนที่ 2 ข้อมูลเกี่ยวกับการตอบแบบสอบถามความคิดเห็น ผู้จัดทำโครงการได้ใช้มาตราวัด แบบ Rating scale 5 ระดบั ตามมาตราวดั แบบลเิ คริ ์ท (Likert’s Scale) อ้างจาก บรุ ินทร์ รุจจนพันธ์ุ (2553) ในการวัดระดับความพึงพอใจ ดงั นี้ 5 หมายถงึ มากทสี่ ดุ 4 หมายถงึ มาก 3 หมายถึง ปานกลางหรือพอใช้ 2 หมายถึง น้อยหรือตำ่ กวา่ มาตรฐาน 1 หมายถึง นอ้ ยทีส่ ุดหรอื ต้องปรับปรงุ แกไ้ ข เกณฑ์การประเมินแบบสอบถามความคิดเห็น มี 5 ระดับโดยผู้จัดทำโครงการได้เลือกวิธีการของ เร็น สสิ เอ ลิเคริ ์ท ดังน้ี (Likert, Rensis A. 2504) 4.50 – 5.00 หมายถงึ เห็นด้วยอย่รู ะดบั มากทสี่ ดุ 3.50 – 4.49 หมายถงึ เหน็ ด้วยอยรู่ ะดับมาก 2.50 – 3.49 หมายถงึ เหน็ ด้วยอยูร่ ะดับปานกลาง 1.50 – 2.49 หมายถึง เหน็ ด้วยอยู่ระดับนอ้ ย 1.00 – 1.49 หมายถงึ เห็นดว้ ยอยรู่ ะดบั นอ้ ยมาก สว่ นที่ 3 ขอ้ เสนอแนะซ่งึ เป็นคำถามปลายเปิดเพ่ือใหผ้ ู้ตอบแบบสอบถามแสดงความคดิ เห็น การสรา้ งเคร่ืองมอื ในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลครัง้ น้ี โดยมกี ารสร้างเคร่ืองมอื ดังนี้ 1) ศกึ ษาความรูเ้ กย่ี วกับแผ่นรองแกว้ จากเปลือกข้าวโพดและความพึงพอใจต่อผลติ ภัณฑ์และ ความคดิ เห็น ของผูต้ อบแบบสอบถาม 2) ผู้จัดทำโครงการได้จัดทำแบบสำรวจการออกแบบเกี่ยวกับแผ่นรองแก้วจากเปลือก ขา้ วโพด 3) นำแบบสอบถามที่จัดทำขึ้นให้กับครูประจำวิชา เพื่อตรวจสอบความถูกต้องตามเนื้อหา และ นำมาปรับปรงุ แกไ้ ขใหส้ มบูรณ์ 4) นำแบบสอบถามที่ปรับปรุงแก้ไขแล้วเสนอต่อครูประจำวิชาอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบ ความ เท่ียงตรงของเนอ้ื หาพร้อมพิจารณาความถูกตอ้ งชดั เจนของภาษาท่ีใช้ 3.3 ขนั้ ตอนการดำเนนิ โครงการ 3.3.1 การวางแผน (P) - กำหนดช่ือเร่ืองและศกึ ษารวบรวมข้อมลู ปญั หา ความสำคัญของโครงการ - เขยี นแบบเสนอโครงการ 23 - ขออนุมตั โิ ครงการ 3.3.2 ขน้ั ตอนการดำเนินการ (D) - ศกึ ษาคุณสมบตั ิการนำการนำใชส้ านเปน็ แผน่ รองแกว้ ของเปลอื กขา้ วโพด - สำรวจ ใชเ้ ปลอื กขา้ วโพดสานเปน็ แผ่นรองแก้ว ครัง้ ท่ี 1 - สำรวจ ใช้เปลอื กข้าวโพดสานเปน็ แผ่นรองแก้ว ครง้ั ที่ 2 - สำรวจ ใช้เปลอื กขา้ วโพดสานเป็นแผน่ รองแกว้ ครั้งท่ี 3 3.3.3 ขั้นตอนการตรวจสอบ (C) - นำนำแผน่ รองสานมาทดลองใช้ในวชิ าที่เก่ียวขอ้ ง - ประเมินความพึงพอใจของผทู้ ดลองใช้แผน่ รองแกว้ จากเปลอื กข้าวโพด 3.3.4 ข้ันตอนประเมนิ ตดิ ตามผล (A) - สรปุ ผลการประเมนิ ความพึงพอใจ - จัดทำเล่มโครงการ - นำเสนอและเผยแพร่ให้กับหมู่บ้านอมแรด ตำบลบ้านทับ อำเภอแม่แจ่ม จังหวัด เชียงใหม่ 3.4 การเก็บรวบรวมขอ้ มูล ผจู้ ดั ทำโครงการไดด้ ำเนนิ การเก็บรวบรวมขอ้ มูลการทำโครงการน้ี อยา่ งเป็นขั้นตอนดงั น้ี 3.4.1 ผู้จัดทำโครงการทำแบบสำรวจรูปแบบของแผ่นรองแก้วจากเปลือกข้าวโพด และ ออกแบบรูปแบบ แผ่นรองแก้ว โดยวิธีการแสกนคิวอาร์โค้ด ให้ผู้ตอบแบบสอบถามออนไลน์ตอบ แบบสอบถาม ด้วยตนเอง 3.4.2 ผู้จัดทำโครงการทำการแจกแบบสอบถามให้กับกลุ่มตัวอย่างคณะครู นักเรียน - นักศึกษา ใน วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงใหม่ โดยวิธีการแสกนคิวอาร์โค้ด ให้ผู้ตอบแบบสอบถาม ออนไลนต์ อบ แบบสอบถามดว้ ยตนเอง 3.4.3 การรวบรวมแบบสอบถาม ผู้จดั โครงการได้รวบรวมแบบสอบถามด้วยตนเอง 3.4.4 ตรวจสอบความสมบรู ณ์ของแบบสอบถาม เพอื่ นำข้อมลู ไปวเิ คราะหท์ างสถติ 3.5 สถิตแิ ละการวเิ คราะห์ข้อมลู ข้อมูลที่ได้จากการรวบรวม ผู้จัดทำโครงการได้ทำการตรวจสอบความเรียบร้อยสมบูรณ์ของ แบบสอบถาม และนำข้อมูลมาประมวลผลวิเคราะห์ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเรจ็ รูปสำหรับ การ คดิ ค่า รอ้ ยละ การหาค่าเฉลยี่ (Mean) และส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐาน (S.D) ดงั นี้ 3.5.1 การวิเคราะห์ข้อมูลส่วนที่ 1 ข้อมูลส่วนบุคคลในการวิเคราะห์ ได้แก่ การหาค่าความถ่ี (Frequency) และคา่ รอ้ ยละ (Percentage) 24 สตู รการหาค่าร้อยละ เม่ือ P แทน รอ้ ยละ F แทน ความถ่ที ีต่ ้องการแปลค่าใหเ้ ป็นรอ้ ยละ N แทน จำนวนข้อมลู ท้งั หมด 3.5.2 การวิเคราะห์ข้อมูลส่วนที่ 2 แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้ทดลองใช้แผ่นรองแก้ว จากเปลือกข้าวโพด จำนวน 10 ชิ้น ผู้ทดลองใช้ครูอาจารย์ นักเรียน-นักศึกษา สาขาการโรงแรม วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงใหม่ 50 คน ในการวิเคราะห์ ได้แก่ การหาค่าเฉลี่ย (Mean) และส่วน เบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D) สูตรการหาค่าเฉลีย่ เม่ือ x แทน ค่าเฉลีย่ ∑x แทน ผลรวมทงั้ หมดของความถี่ คณู คะแนน N แทน ผลรวมท้งั หมดของความถซ่ี ่งึ มีคา่ เทา่ กบั จำนวนข้อมูลทง้ั หมด สตู รการหาสว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐาน เมอื่ S.D. แทน สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน N แทน จำนวนคู่ทงั้ หมด X แทน คะแนนแตล่ ะตัวในกลมุ่ ข้อมลู ∑x แทน ผลรวมของความแตกตา่ งของคะแนนแต่ละคู่ 3.5.3 การวิเคราะห์ข้อมูล ส่วนที่ 3 ข้อเสนอแนะ ซึ่งเป็นคำถามปลายเปิดเพื่อให้ผู้ตอบ แบบสอบถามความพึงพอใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์แผ่นรองแก้วได้ตอบแบบสอบถาม โดย ผู้จัดทำ โครงการได้วิเคราะห์ขอ้ มลู ในรปู แบบเชงิ พรรณนาบรรยายตามเหตุผลของผูต้ อบ แบบสอบถาม บทท่ี 4 ผลการศึกษา จากการศึกษางานตามโครงการ แผ่นรองแกว้ จากเปลอื กข้าวโพด ซ่งึ มีวตั ถวุ ัตถุประสงค์เพื่อน พฒั นาเพ่ือลดปริมาณการทิ้งเปลอื กขา้ วโพด เพ่ือเพ่ิมมลู ค่าใหก้ ับวัตถุดิบเหลือจากเปลือกข้าวโพด เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ตะแผน่ รองแกว้ จาจากเปลอื กขา้ วโพด สามารถแสดงผลการศึกษาและวิเคราะห์ ข้อมลู ไดด้ งั น้ี 4.1 ผลวเิ คราะห์ความพึงพอใจแผน่ รองแก้วจากเปลือกขา้ วโพด ประกอบไปโดย 3 ส่วน ตอนที่ 1 ข้อมูลส่วนบคุ คลของผตู้ อบแบบประเมนิ ตอนที่ 2 ระดบั ความพงึ พอใจแผ่นรองแก้วจากเปลือกข้าวโพด ตอนที่ 3 การแสดงความคดิ เหน็ และข้อเสนอแนะ 4.1 ผลวเิ คราะหค์ วามพงึ พอใจแผ่นรองแกว้ จากเปลือกขา้ วโพด ประกอบไปโดย 3 ส่วน ส่วนที่ 1 ขอ้ มลู สว่ นบุคคลของผูต้ อบแบบประเมิน ตารางที่ 1 ตารางแสดงผลการวิเคราะห์ข้อมลู จำนวน ร้อยละของกลมุ่ ตัวอยา่ งทตี่ อบ แบบประเมนิ ความพงึ พอใจแผน่ รองแกว้ จากเปลอื กขา้ วโพด โดยจำแนกตัวแปรตามเพศ เพศ จำนวน (คน) ร้อยละ ชาย 12 24 หญงิ 38 76 รวม 50 100 จากตารางที่ 1 ผลการวเิ คราะห์ข้อมูลสว่ นบุคคลของกลุม่ ตวั อยา่ งทตี่ อบแบบสำรวจ โดยมี ตวั แปรจำแนกตามเพศ พบวา่ สว่ นใหญเ่ ปน็ เพศหญงิ จำนวน 38 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 76 และเพศ ชาย จำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 24 ตามลำดับ 26 ตารางที่ 2 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวน ร้อยละของกลุ่มตัวอย่างท่ีตอบแบบประเมิน ความพงึ พอใจ โดยจำแนกตวั แปรตามอายุของผู้ตอบแบบประเมิน อายุ จำนวน (คน) ร้อยละ 15 – 19 13 26 20 – 24 35 70 25 – 29 1 2 30 – 34 - - 35 – 39 1 2 รวม 50 100 จากตารางท่ี 2 ผลการวเิ คราะหข์ ้อมลู จำนวน รอ้ ยละของกลมุ่ ตวั อย่างทต่ี อบแบบสำรวจ โดยมีตวั แปรจำแนกตามอายุ พบวา่ สว่ นใหญเ่ ป็นอยใู่ นชว่ งอายุ 20-24 ปี จำนวน 35 คน คิดเป็นรอ้ ย ละ 70 รองลงมา คือ ช่วงอายุ 15-19 ปี จำนวน 13 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 26 และน้อยทสี่ ดุ มจี ำนวน เทา่ กัน คือ ชว่ งอายุ 25-29 ชว่ งอายุ 30-34 ชว่ งอายุ 35-39 และ อายุ 40 ปีขึน้ จำนวน 1 คน คิด เปน็ รอ้ ยละ 2 ตามลำดับ 27 ตอนที่ 2 ผลการวเิ คราะห์ระดบั ความพึงพอใจแผ่นรองแก้วจากเปลือกขา้ ว ตารางท่ี 3 ตารางแสดงผลการวิเคราะห์การจัดลำดับความพึงพอใจของผตู้ อบแบบประเมนิ แผน่ รองแก้วจากเปลือกข้าวโพด โดยการหาค่าเฉล่ีย (������̅) และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) ซ่ึงผล วเิ คราะห์ข้อมลู ปรากฏดังน้ี รายการประเมนิ ผลการประเมิน ค่าเฉลย่ี S.D. ระดับเกณฑ์ (���̅���) การ ประเมิน 1.แผน่ รองแกว้ จากเปลือกข้าวโพดมีความนา่ สนใจ 4.34 0.59 มากทส่ี ดุ 2.แผ่นรองแก้วจากเปลือกข้าวโพดสามารถกันน้ำได้ 4.24 0.62 มากท่ีสุด ไมเ่ กิดเชอื้ รา 3.ลวดลายการสานเปลือกข้าวโพดมีความแขง็ แรง 4.46 0.62 มากทสี่ ุด ทนทาน 4.44 0.57 มากท่สี ดุ 4.แผน่ รองแก้วจากเปลอื กข้าวโพดมคี วามสวยงาม 4.54 0.57 มากทส่ี ดุ 5.โครงการแผ่นรองแก้วจากเปลือกข้าวโพดเปน็ การ พฒั นาผลิตภัณฑแ์ บบใหม่ 6.แผน่ รองแก้วจากเปลือกขา้ วโพดสามารถลด 4.5 0.57 มากทีส่ ดุ ปริมาณการทิ้งขยะจากเปลือกขา้ วโพดได้ 4.48 0.57 มากท่ีสุด 7.สามารถเพิ่มมลู ค่าใหก้ ับผลิตภณั ฑแ์ ผ่นรองแกว้ 4.52 0.61 มากทสี่ ุด 8.ขนาดของแผ่นรองแก้วจากเปลอื กข้าวโพดมีความ เหมาะสมแกก่ ารใช้งาน 4.59 0.49 มากทส่ี ุด 9แผ่นรองแก้วจากเปลือกข้าวโพดสามารถนำมาใช้ 5.42 0.69 มากท่ีสุด ประโยชน์ได้ 4.55 0.59 มากทส่ี ุด 10.เปลือกข้าวโพดสามารถเพิ่มมูลคา่ จากเดิมได้ รวม 28 จากตารางที่ 3 ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจแผ่นรองแก้วจากเปลือกข้าวโพด ได้ผลการ วิเคราะห์ โดยเรียงลำดับผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของผู้ตอบแบบประเมินความพึงพอใจ พบวา่ แผ่นรองแก้วจากเปลือกข้าวโพดสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้ตอบแบบประเมินความพึงพอใจอยู่ใน ระดับมากที่สุด (������̅=4.55) โดยเรียงลำดับผลการวิเคราะห์ตามความพึงพอใจ พบว่าแผ่นรองแก้วจาก เปลือกข้าวโพดมคี วามน่าสนใจเกณฑ์การประเมินอยูใ่ นระดับมาก (������̅=4.24)แผ่นรองแก้วจากเปลือก ข้าวโพดสามารถกันน้ำได้ไม่เกิดเชื้อรา เกณฑ์การประเมินอยู่ในระดับมากทที่สุด (������̅=4.46) ลวดลาย การสานเปลือกข้าวโพดมีความแข็งแรงทนทานเกณฑ์การประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด (������̅=4.44) แผ่นรองแก้วจากเปลือกข้าวโพดมีความสวยงามเกณฑ์การประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด (������̅=4.54) โครงการแผ่นรองแก้วจากเปลือกข้าวโพดเปน็ การพัฒนาผลติ ภัณฑ์แบบใหม่ เกณฑ์การประเมินอย่ใู น ระดับมากที่สุด (������̅=4.5)แผ่นรองแก้วจากเปลือกข้าวโพดสามารถลดปริมาณการทิ้งขยะจากเปลือก ข้าวโพดได้ เกณฑก์ ารประเมนิ อยู่ในระดบั มากท่สี ุด (������̅=4.48) สามารถเพิ่มมูลคา่ ให้กับผลิตภัณฑ์แผ่น รองแก้ว เกณฑ์การประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด (������̅=4.52) ขนาดของแผ่นรองแก้วจากเปลือก ข้าวโพดมีความเหมาะสมแก่การใช้งาน เกณฑ์การประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด (������̅=4.59)แผ่นรอง แก้วจากเปลือกข้าวโพดสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ เกณฑ์การประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด (������̅=4.59) เปลือกข้าวโพดสามารถเพิ่มมูลค่าจากเดิมได้เกณฑ์การประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด (������̅=5.42) ตามลำดับ 29 ตารางที่ 4 ตารางแสดงผลการวิเคราะห์การจัดลำดับความพึงพอใจของผู้ตอบแบบประเมิน แผ่นรองแก้วจากเปลือกข้าวโพด โดยการหาค่าเฉลี่ย (������̅) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ซึ่งผล วิเคราะห์ข้อมลู ปรากฏดงั น้ี ผลการประเมิน รายการประเมิน ค่าเฉลี่ย S.D. ระดบั เกณฑ์ ลำดบั ท่ี (���̅���) การ ประเมิน เปลอื กข้าวโพดสามารถเพ่มิ มูลค่าจากเดมิ ได้ 5.42 0.69 มากที่สุด 1 แผ่นรองแกว้ จากเปลือกขา้ วโพดสามารถ 4.59 0.49 มากที่สุด 2 นำมาใช้ประโยชนไ์ ด้ 4.54 0.57 มากท่ีสดุ 3 โครงการแผน่ รองแกว้ จากเปลอื กข้าวโพด 4.52 0.61 มากที่สุด 4 เปน็ การพัฒนาผลิตภัณฑ์แบบใหม่ 4.48 0.57 มากท่สี ุด 5 ขนาดของแผ่นรองแก้วจากเปลือกขา้ วโพดมี 4.5 0.57 มากท่สี ุด 6 ความเหมาะสมแกก่ ารใช้งาน 4.46 0.62 มากทส่ี ดุ 7 สามารถเพ่ิมมูลคา่ ใหก้ บั ผลิตภณั ฑแ์ ผน่ รอง 4.44 0.57 มากทส่ี ุด 8 แกว้ 4.34 0.59 มากทีส่ ดุ 9 แผน่ รองแก้วจากเปลือกขา้ วโพดสามารถลด 4.24 0.62 มากทส่ี ดุ 10 ปริมาณการทงิ้ ขยะจากเปลอื กขา้ วโพดได้ 4.55 4.55 มากทส่ี ุด ลวดลายการสานเปลอื กข้าวโพดมคี วาม แข็งแรงทนทาน แผน่ รองแก้วจากเปลือกข้าวโพดมคี วาม สวยงาม แผ่นรองแกว้ จากเปลอื กข้าวโพดมคี วาม น่าสนใจ แผน่ รองแกว้ จากเปลือกข้าวโพดสามารถกัน นำ้ ไดไ้ ม่เกดิ เช้ือรา รวม 30 จากตารางที่ 4 สรุปผลการวเิ คราะห์การจัดลำดับความพึงพอใจของผู้ประเมินแบบสอบถาม ความพึงพอใจแผ่นรองแก้วจากเปลือกข้าวโพด ได้ผลวิเคราะห์ โดยเรียงลำดบั ผลการวิเคราะห์ พบวา่ คา่ เฉลย่ี มากทีส่ ุด(������̅=5.42) คอื แผ่นรองแก้วจากเปลอื กข้าวโพดสามารถนำมาใช้ประโยชนไ์ ด้ ค่าเฉลย่ี รองลงมา (������̅=4.59) คือโครงการแผ่นรองแก้วจากเปลือกข้าวโพดเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์แบบใหม่ ค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด (������̅=4.54) คือ ขนาดของแผ่นรองแก้วจากเปลือกข้าวโพดมีความเหมาะสมแก่การ ใชง้ าน ตามลำดับ ตอนท่ี 3 ผลการวิเคราะห์ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ จากการวเิ คราะหข์ ้อเสนอแนะของผู้ประเมินแบบสอบถามความพึงพอใจแผ่นรองแก้วจาก เปลอื กข้าวโพดวิเคราะห์ได้วา่ มขี อ้ เสนอแนะเชิงบวกและข้อเสนอแนะควรปรบั ปรุง ขอ้ เสนอแนะเชิงบวกผปู้ ระเมินมีความพึงพอใจแผน่ รองแก้วจากเปลือกขา้ วโพดสามารถ นำมาใชป้ ระโยชน์ได้เปลือกข้าวโพดสามารถเพ่มิ มูลค่าจากเดิมได้ ขนาดของแผ่นรองแก้วจากเปลือก ขา้ วโพดมคี วามเหมาะสมแก่การใชง้ าน ข้อเสนอแนะท่ีควรปรับปรุง ผู้ประเมนิ มีความคิดเห็นว่าควรมมี ีสีสนั ทน่ี า่ สนใจกว่านี้ และให้มี การพัฒนาต่อไป บทท่ี 5 สรปุ ผล อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ จากการศึกษางานตามโครงการ แผ่นรองแก้วจากเปลือกข้าวโพด ซึ่งมวี ตั ถุประสงคเ์ พ่ือลดปริมาณการ ทิ้งเปลือกข้าวโพด เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับวัตถุดิบเหลือจากเปลือกข้าวโพด เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์แผ่น รองแกว้ จากเปลอื กขา้ วโพด ผูจ้ ดั ทำโครงการไดส้ รุป อภปิ รายผลและข้อเสนอแนะ ดงั หัวขอ้ ต่อไปน้ี 5.1 สรุปผล 5.2 อภิปรายผล 5.3 การแสดงความคดิ เห็นและขอ้ เสนอแนะ 5.1 สรุปผล จากผลการวิเคราะห์ แบบสอบถามประเมินความพึงพอใจแผ่นรองแก้วจากเปลือกข้าว ได้ ผลการวิเคราะห์ข้อมูลดังนี้ จำนวนกลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถามประเมินความพึงพอใจ ผลการ วเิ คราะหข์ อ้ มลู จานวน รอ้ ยละของกลุ่มตวั อย่างทต่ี อบแบบสารวจโดยมตี วั แปรจาแนกตามอายุ พบว่า ส่วนใหญ่เป็นอยู่ในช่วงอายุ 20-24 ปี จานวน 35 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 70 รองลงมา คอื ช่วงอายุ 15-19 ปี จานวน 13 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 26 และน้อยทส่ี ุดมจี านวนเท่ากนั คอื ช่วงอายุ 25-29 ช่วงอายุ 30-34 ช่วงอายุ 35-39 และ อายุ 40 ปีขน้ึ จานวน 1 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 2 ผลการวเิ คราะหค์ วามพงึ พอใจแผ่นรองแกว้ จากเปลอื กขา้ วโพด ไดผ้ ลการวเิ คราะห์ โดย เรยี งลาดบั ผลการวเิ คราะหค์ วามพงึ พอใจของผตู้ อบแบบประเมนิ ความพงึ พอใจ พบว่า แผน่ รอง แก้วจากเปลอื กขา้ วโพดสรา้ งความพงึ พอใจใหแ้ ก่ผตู้ อบแบบประเมนิ ความพงึ พอใจอย่ใู นระดบั มากทส่ี ุด (������̅=4.55) โดยเรยี งลาดบั ผลการวเิ คราะหต์ ามความพงึ พอใจพบว่าแผ่นรองแกว้ จาก เปลอื กข้าวโพดมีความน่าสนใจเกณฑ์การประเมนิ อยู่ใระดบั มาก (������̅=4.24)แผ่นรองแก้วจาก เปลือกข้าวโพดสามารถกันน้าได้ไม่เกิดเช้ือรา เกณฑ์การประเมินอยู่ในระดบั มากทท่ีสุด (������̅=4.46) ลวดลายการสานเปลอื กข้าวโพดมีความแขง็ แรงทนทานเกณฑ์การประเมินอยู่ใน ระดบั มากท่สี ุด (������̅=4.44) แผ่นรองแก้วจากเปลอื กขา้ วโพดมคี วามสวยงามเกณฑ์การประเมนิ อยู่ในระดับมากท่ีสุด (������̅=4.54)โครงการแผ่นรองแก้วจากเปลือกข้าวโพดเป็นการพัฒนา ผลิตภณั ฑ์แบบใหม่ เกณฑ์การประเมนิ อยู่ในระดบั มากท่สี ุด(������̅=4.5)แผ่นรองแก้วจากเปลอื ก ขา้ วโพดสามารถลดปรมิ าณการท้งิ ขยะจากเปลอื กขา้ วโพดได้ เกณฑ์การประเมนิ อยู่ในระดบั มากท่สี ุด (������̅=4.48) สามารถเพมิ่ มูลค่าให้กบั ผลติ ภณั ฑ์แผ่นรองแกว้ เกณฑก์ ารประเมนิ อยู่ใน ระดบั มากทส่ี ดุ (������̅=4.52) ขนาดของแผ่นรองแกว้ จากเปลอื กขา้ วโพดมคี วามเหมาะสมแก่การใช้ งานเกณฑก์ ารประเมนิ อย่ใู นระดบั มากทส่ี ุด(������̅=4.59)แผ่นรองแกว้ จากเปลอื กขา้ วโพดสามารถ นามาใประโยชน์ได้ เกณฑก์ ารประเมนิ อย่ใู นระดบั มากทส่ี ุด (������̅=4.59) เปลอื กขา้ วโพดสามารถ เพมิ่ มลู คา่ จากเดมิ ไดเ้ กณฑก์ ารประเมนิ อยใู่ นระดบั มากทส่ี ุด (������̅=5.42) ตามลาดบั 32 5.2 อภิปรายผล โครงการแผ่นรองแก้วจากเปลอื กข้าวโพด เหมาะสมกบั สภาพสถานการณ์ปัจจุบัน จากผลการวิเคราะห์แบบสอบถามประเมินความพึงพอใจแผ่นรองแก้วพบว่า หัวขอ้ เร่ืองโครงการแผ่น รองแก้วจากเปลือกขา้ วโพด เหมาะสมกบั สภาพสถานการณ์ปจั จบุ ัน อยใู่ นระดบั มากทสี่ ุด เพราะเน่ือง ดว้ ย สภาพปจั จบุ ันมี แผ่นรองแก้วจากเปลือกข้าวโพดมีความน่าสนใจ เพราะเนื่องด้วย แผ่นรองแก้วจากเปลือก ข้าวโพดไม่คอ่ ยมกี ารพบเห็นหรือนำมาใช้ แผ่นรองแก้วจากเปลือกข้าวโพดสามารถกนั นำ้ ได้ไม่เกิดเช้ือรา เพราะเนื่องด้วย ใบข้าวโพด ไมก่ ากเก็บนำ้ และมผี วิ ลื่น ลวดลายการสานเปลือกข้าวโพดมีความแข็งแรงทนทาน เพราะเนื่องดว้ ย การสานมีการเก็บ รายละเอยี ด และสานได้แขง็ แรง แผ่นรองแก้วจากเปลือกข้าวโพดมีความสวยงาม เพราะเนื่องด้วย แผ่นรองแก้วจากเปลือก ข้าวโพดมสี ีสวย สบายตา ไม่ฉูดฉาด เหมาะแก่การจดั เสริ ฟ์ โครงการแผ่นรองแก้วจากเปลือกข้าวโพดเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์แบบใหม่ เพราะเนื่อง ดว้ ย ยงั ไม่เปน็ ทีน่ ิยมในการนำมาใช้ เลยถอื ว่าเปน็ ผลิตภณั ฑ์แบบใหม่ แผ่นรองแก้วจากเปลือกข้าวโพดสามารถลดปริมาณการทิ้งขยะจากเปลือกข้าวโพดได้ เพราะเนื่องด้วย ปกติเปลือกข้าวโพดจะไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์ ดังนั้นการนำมาสร้างสรรเป็น ผลิตภัณฑ์ใหม่ ถอื วา่ ได้ท้ังประโยชนแ์ ละชว่ ยลดขยะ สามารถเพ่ิมมูลค่าให้กบั ผลติ ภัณฑ์แผ่นรองแกว้ เพราะเนอ่ื งดว้ ย ยงั ไมเ่ ปน็ ที่แพร่หลาย เลย ดเู ป็นผลิตภณั ฑ์ทแี่ ปลกใหม่ และสามารถเพ่ิมมูลลา่ ให้เปลือกขา้ วโพดได้ ขนาดของแผ่นรองแก้วจากเปลือกข้าวโพดมีความเหมาะสมแก่การใช้งาน เพราะเนื่องด้วย แผา่ นรองแก้วมีขนาดทพี่ อดแี ละเหมาะสมกับการนำมาใชง้ าน แผ่นรองแก้วจากเปลือกข้าวโพดสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ เพราะเนื่องด้วย สามารถ นำมาใชไ้ ดใ้ นชวี ิตประจำวันได้ เปลอื กขา้ วโพดสามารถเพม่ิ มลู คา่ จากเดิมได้ เพราะเนือ่ งดว้ ย ปกตหิ ลงั การเก็บเกี่ยวจะไม่มี การนำเปลือกข้าวโพดมาใช้ประโยชนแ์ ต่ใด แต่เมื่อนำมาผลิตเปน็ ผลิตภณั ฑ์ใหม่สามารถเพิ่มมูลคา่ ให้ มากขึน้ ได้ 33 5.3 การแสดงความคิดเห็นและขอ้ เสนอแนะ ข้อเสนอแนะของผู้ประเมินแบบสอบถามความพึงพอใจแผ่นรองแก้วจากเปลือกข้าวโพด สรุปได้ว่า มขี ้อเสนอแนะเชงิ บวกและขอ้ เสนอแนะท่ีควรปรบั ปรุง 1) ขอ้ เสนอแนะเชิงบวก ผู้ประเมินมีความพึงพอใจกับแผ่นรองแกว้ จากเปลอื กขา้ วโพดสามารถนามาใชป้ ระโยชน์ ไดเ้ ปลอื กขา้ วโพดสามารถเพมิ่ มลู ค่าจากเดมิ ได้ 2) ขอ้ เสนอแนะท่คี วรปรับปรุง ผปู้ ระเมนิ มคี วามคิดเหน็ ว่าควรมีมีสีสนั ท่นี ่าสนใจกวา่ นี้ และให้มกี ารพฒั นาต่อไป บรรณานุกรม กาญจนา อมรอรช.“แผน่ รองแกว้ จากเปลือกข้าวโพด: มหศั จรรยค์ ณุ ค่า สารอาหาร” (ระบบออนไลน)์ แหลง่ ขอ้ มูล.//www.rbru.ac.th/news/attach/2012-07-17- 38684.pdf สืบค้นวันที่ 2 กรกฎาคม 2556 จริ ภรณ์ อังวิทยาธร.“หนังสือพมิ พ์ฐานเศรษฐกิจ”. (ระบบออนไลน)์ แหลง่ ข้อมลู . //pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article สืบคน้ เมื่อวนั ที่ 2 กรกฎาคม 2563. ดลฤดี พิชยรตั น์ และนพรตั น์ มะเห.“ผลของการทดแทนเนื้อสัตยด์ ้วยเปลือกขา้ วโพด ในผลิตภัณฑ์ขา้ วโพดสด”. วารสารวจิ ยั มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลศรีวิชัย (2560). พจนีย์ บญุ นา. “ผลการใช้เปลอื กขา้ วโพด”. คณะเทคโนโลยคี หกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (2556). ไพรชั โตววิ ฒั น.์ “โครงการการจัดการเปลือกขา้ วโพดเหลือทง้ิ แบบครบวงจร” (เพ่ือลดมลพิษจากการเผาทำลาย) โดยเปล่ยี นเปน็ อาหารสัตวแ์ ละปยุ๋ อนิ ทรีย์. รายงานโครงการ นวัตกรรมเพ่ือสังคม สำนักงานนวัตกรรมแหง่ ชาติ (2560). ภาคผนวก ภาคผนวก ก แบบนำเสนอโครงร่างโครงการ แบบนำเสนอขออนุมัติโครงการวชิ าชีพ วิทยาลยั อาชีวศกึ ษาเชยี งใหม่ รายวิชา โครงการ รหัสวชิ า 3701 – 8501 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา 2563 ช่อื โครงการ แผ่นรองแก้วจากเปลือกขา้ วโพด ระยะเวลาดำเนินงาน ต้งั แตว่ ันท่ี 16 พฤศจิกายน 25563 ถึง 28 กมุ ภาพันธ์ 2564 สถานทด่ี ำเนินงาน - อาคารปฏบิ ตั กิ ารโรงแรม วิทยาลัยอาชีวศกึ ษาเชียงใหม่ - ท่ีอยู่อาศัยของผู้จัดทำ บ้านเลขท่ี 50 ม.8 ต.บ้านทบั อ.แม่แจม่ จ.เชยี งใหม่ 50270 ประมาณการคา่ ใชจ้ ่าย 1,700 บาท (หน่ึงพนั เจด็ บาทถ้วน) ผจู้ ัดทำโครงการ นางสาวณิชกานต์ โชคสุขสถาพร ระดบั ช้นั ประกาศนยี บัตรวชิ าชพี ข้นั สูง ช้ันปที ่ี 2 หอ้ ง 2 สาขาวชิ าการโรงแรม ประเภทวิชาอุตสาหกรรม ท่องเทย่ี ว ลงชอ่ื ............................................ผู้จดั ทำโครงการ (นางสาวณชิ กานต์ โชคสุขสถาพร) 27 พฤศจกิ ายน 2563 ความคิดเหน็ ของอาจารย์ประจำวิชาโครงการ ................................................................................................... ............................................................. ................................................................................................ ................................................................ ลงชื่อ........................................................... (นางสาวนพรรณพ ดวงแกว้ กูล) ลงช่ือ.............................................................. ลงช่ือ............................................................. (นางอปั สร คอนราด) (นายณรงคศ์ ักด์ิ ฟองสินธ์ุ) รองผูอ้ ำนวยการฝา่ ยวิชาการ หวั หนา้ แผนกวชิ าการโรงแรม