ตะกรา้ จากหลอดพลาสตกิ
Basket from plastic straws
จดั ทำโดย
นางสาวกชพร แซว่ อ่ ง
นางสาวลลั ลดา ริกนั ต์
นางสาวบรรธติ า ไชยสทิ ธิ์
ครูท่ปี รึกษา
นางพรเพ็ญ ขวัญพัทลุง
โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวดั ยะลา
สำนักงานเขตพ้ืนที่การศกึ ษามธั ยมศึกษา ยะลา
ตะกรา้ จากหลอดพลาสตกิ
Basket from plastic straws
จดั ทำโดย
นางสาวกชพร แซว่ อ่ ง
นางสาวลลั ลดา ริกนั ต์
นางสาวบรรธติ า ไชยสทิ ธิ์
ครูท่ปี รึกษา
นางพรเพ็ญ ขวัญพัทลุง
โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวดั ยะลา
สำนักงานเขตพ้ืนที่การศกึ ษามธั ยมศึกษา ยะลา
บทคดั ย่อ
หัวข้อโครงการ : ตะกร้าจากหลอดพลาสตกิ
Basket from plastic straws
จัดทำโครงการ : 1. นางสาวกชพร แซว่ อ่ ง
2. นางสาวลลั ลดา รกิ นั ต์
3. นางสาวบรรธติ า ไชยสิทธ์
ครูท่ปี รกึ ษา : นางพรเพ็ญ ขวัญพัทลุง
วชิ า : การงานอาชีพและเทคโนโลยี
โรงเรยี น : โรงเรยี นคณะราษฎรบำรงุ จังหวดั ยะลา ปีการศกึ ษา 2564
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
บทคดั ยอ่
โครงงานเรอื่ ง ตะกร้าจากหลอดพลาสตกิ มีจุดมุ่งหมายเพือ่ ชว่ ยลดปญั หาขยะล้นชมุ ชน ช่วยลดการเกดิ ภาวะโลกรอ้ น อีก
ทง้ั เปน็ การนำวัสดุทเี่ หลือใช้หรอื ทงิ้ แลว้ นำกลับมาใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์อีกคร้ัง เป็นการใช้เวลาวา่ งให้เปน็ ประโยชนอ์ ีกดว้ ย ดงั น้นั จึง
ไดม้ ีการจัดทำโครงงาน ตะกรา้ จากหลอดพลาสตกิ เพอ่ื ชว่ ยอนรุ ักษส์ งิ่ แวดลอ้ ม เป็นการนำหลอดที่ไมไ่ ด้ใชป้ ระโยชนแ์ ลว้ สามารถ
นำมาสานเป็นภาชนะ เช่น ตะกรา้ กระเป๋า ฯลฯ นอกจากจะไดป้ ระโยชนใ์ ชส้ อยใหค้
วามเพลิดเพลินแล้ว ยังสามารถจดั จำหน่าย
เพมิ่ เปน็ รายไดใ้ นครอบครัวได้อีกดว้ ย
กิตติกรรมประกาศ
โครงงานเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี ในหลักสูตรการเรียนการสอนระดับ
มัธยมศึกษา ซึ่งเนื้อหาโครงงานเล่มนี้จะเริ่มตั้งแต่การนำเสนอโครงงาน การวางแผน เตรียมการสิ่งประดิษฐ์
ตลอดจนการดำเนินงานจนสำเร็จลลุ ่วง
ท้ายนี้คณะผู้จัดทำโครงงาน ต้องขอขอบพระคุณนางพรเพ็ญ ขวัญพัทลุง คุณครูที่ปรึกษาโครงงาน ที่ได้
แนะนำจนโครงงานสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
และผู้จัดทำโครงงานหวังว่า โครงงานเล่มนี้จะเป็นประโยชน์แก่ท่าน
ไม่มากก็น้อย หากผิดพลาดประการใดต้องการขออภัยมา ณ ท่ีนี้ด้วย
คณะผจู้ ัดทำ
สารบัญ หนา้
ก
เร่อื ง
คำนำ ข
สารบัญ
1
บทท่ี 1 บทนำ 1
1
1.1 ที่มา และความสำคัญ 1
1.2 วัตถุประสงค์
1.3 เป้าหมายโครงงาน 2-3
1.4 ผลที่คาดวา่ จะไดร้ ับ 3-4
บทท่ี 2 เอกสารและงานวจิ ัยทเ่ี กี่ยวขอ้ ง 5
5
2.1 งานวิจัยทเ่ี ก่ียวข้อง 6
2.2 เอกสารทเี่ กยี่ วข้องกบั โครงงาน
7
บทที่ 3 วธิ
ีการดำเนินงาน
8
3.1 วสั ดุ-อปุ กรณ์
3.2 วธิ กี ารดำเนนิ งาน 9
3.3 การจดั ทำแผนการดำเนินงาน
บทท่ี 4 ผลการดำเนนิ งาน
4.1 ระยะการดำเนนิ งาน
บทท่ี 5 สรุปผล ขอ้ เสนอแนะ
5.1 สรปุ ผลการดำเนนิ งาน
บรรณานกุ รม
ภาคผนวก
บทที่ 1
บทนำ
หลกั การและเหตผุ ล
หลอดเป็นสิ่งที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เพราะเอาใช้ดูดน้ำและหลอดนั้น มีมากมายหลายสีหลายขนาด และ
หลอดไม่สามารถนำมาใช้ซ้ำได้ เมื่อหมดประโยชน์จึงทำให้ทางคณะของเราคิดท่ีจะนำวัสดุเหลือใช้
นั้นก็คือ หลอด
นำมาประดิษฐ์ตะกร้าสารจากหลอดซึ่งตะกร้าจากหลอดเป็นการจักสานของไทยชนิดหนึ่งที่เป็นสูตรประยุ กต์โดย
ยืนพ้ืนฐานเดิม มีการทำสืบต่อกันมาต้ังแต่สมัยก่อนประวัตศิ าสตร์ นักโบราณคดีได้พบความสำคัญเกี่ยวกับการทำ
เคร่ืองจักสานในยุคหินใหม่ทบ่ี รเิ วณถ้ำแหง่ หน่ึงในเขตอำเภอศรีสวัสด์ิ จ.กาญจนบุรี ซ่ึงทำดว้ ยไมไ้ ผ่ เป็นลายขดั สอง
เสน้ ประมาณว่า มอี ายุ4,000 ปี แล้ว
ดังนั้นคณะผู้จัดทำ โครงงานจึงได้มีแนวความคิดในการรังสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่นำ วัสดุเหลือใช้
อย่างหลอด
วัสดุที่เรานำมาทำเป็นตะกร้าสานเพื่อมาเพิ่มมูลค่าให้ออกมาเป็นตะกร้าสานโดยนำแนวความคิดตามหลักปรัชญา
เศรษฐกิจพอเพียงของพระเจ้าอยู่หัว ร.9 เสนอกับทางคณะผู้จัดทำท่ีนำหลอดไม่ใช้แล้วนำกลับมาสร้างสรรค์และ
สามารถใช้ประโยชนไ์ ด้อยา่ งไมส่ ญู เปลา่
วตั ถปุ ระสงค์ของโครงการ
1. เพื่อใหบ้ รรลวุ ตั ถุประสงคก์ ารเรียนรูข้ องวชิ าโครงการ
2. เพ่อื สร้างมูลคา่ เพมิ่ ใหกบั วสั ดุธรรมชาติ
3. เพ่อื ใหส้ มาชกิ ในกลุม่ เกดิ ความสามัคคแี ละรว่ มมือปฏบิ ตั ิงานกันเป็นทีม
4. เพอ่ื ใหส้
มาชกิ ในกลมุ่ มคี วามคดิ ริเริ่มสรา้ งสรรค์และเพ่ิมทักษะในการออกแบบผลิตภณั ฑ์
เปา้ หมายของโครงการ
เสนอให้ผู้ที่มีความสนใจในสิ่งประดิษฐ์จากวัสดุธรรมชาติ ได้ศึกษาและเป็นแนวคิดริเริ่มให้แก่บุคคลที่ให้
ความสนใจ
ผลท่ีคาดวา่ จะได้รบั
1. การดำเนินงานบรรลตุ ามวัตถปุ ระสงคก์ ารเรยี นรู้ของวิชาโครงการ
2. สามารถสร้างมลู ค่าเพม่ิ ให้กบั วสั ดเุ หลือใช้เพื่อไมใ่ ห้สูญเปลา่
3. ทำใหส้ มาชิกในกลุม่ เกิดความสามัคคีและมีความรว่ มมือจากการทำงานเปน็ ทีม
4. ทำให้เกิดความคดิ สรา้
งสรรคส์ ร้างผลิตภัณฑท์ ่ีมีความแปลกใหมแ่ ละมคี ุณค่า
บทท่ี 2
แนวคดิ ทฤษฎี และงานวจิ ัยทเี่ ก่ยี วขอ้ ง
โครงการประเภทส่ิงประดิษฐ์ตะกร้าสานดว้ ยหลอดพลาสติก ทางคณะผู้จัดทำได้ศึกษาแนวคิดทฤษฎีและ
งานวิจยั ทเี่ ก่ยี วข้องตา่ ง ๆ เพ่อื เป็นแนวทางในการดำเนินโครงการ ดงั น้ี
1. แนวคิดเกย่ี วกับนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์
2. แนวคดิ การออกแบบผลติ ภัณฑ์
1. แนวคิดเก่ียวกบั นวัตรกรรมสิง่ ประดษิ ฐ์ นวัตกรรม (Innovation)
มีรากศัพทม์ าจาก Innovare ในภาษาลาตนิ แปลว่าทำส่งิ
ใหม่ข้ึนมาตามความหมายของนวัตกรรมในเชิง
เศรษฐศาสตร์คือการนำแนวคิดใหม่หรือใช้ประโยชน์จากสิ่งท่ีมีอยู่แลว้ มาใช้ในรูปแบบใหม่ เพื่อทำให้เกิดประโยชน์
ทางเศรษฐกจิ หรอื ก็คือการทำในส่ิงท่ีแตกต่างจากคนอืน่ ๆ โดยอาศยกั ารเปลีย่ นแปลงต่าง ๆ (Change) ที่เกิดข้ึน
รอบตัวเราให้กลายมาเปน็ โอกาส และถ่ายทอดไปส่แู นวคิดใหม่ทที่ า ให้เกดิ ประโยชนต์ อ่ ตนเองและสังคม
ไชยยศ เรืองสวุ รรณ (2521 : 14)
ไดใ้ ห้ความหมายของ “นวตั กรรม” ไว้วา่ หมายถงึ วิธีการปฏบิ ตั ใิ
หม่ๆที่แปลกไปจากเดิมโดยอาจจะได้มา
จากการคดิ ค้นพบวธิ ีการใหม่ ๆ ข้ึนมาสำหรับปรับปรุงของเก่าให้เหมาะสมและสิง่ ทั้งหลายเหล่านี้ไดรับการทดลอง
พฒั นาจนเชือ่ ถือได้แล้วว่าได้ผลดใี นทางปฏิบัตทิ ำให้ระบบก้าวไปสจู่ ุดหมายปลายทางไดอย้ ่างมีประสิทธภิ าพมาก
ยิ่งขน้ึ
บุญเกอื้ ควรหาเวช (2542 : 12)
ได้ให้ความหมายของนวัตกรรมว่า หมายถึง การนำสิ่ง ใหม่ๆ เข้ามาเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมวิธีการที่ทำอยู่
เดมิ เพื่อใหไ้ ด้ผลดยี ่ิงขน้ึ
กมล และนิตยา เวยี งสุวรรณ (2540 : 77)
ให้ความหมายของนวัตกรรมที่สอดคล้องกับ
บุญเก้ือควรหาเวช ว่า นวตักรรม หมายถึง การนำสิ่งใหมๆ่
เข้ามาเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมวิธีการท่ีทำอยู่เดิม เพื่อให้ใช้ได้ผลดียิ่งขึ้น ฉะนั้น ไม่ว่าวงการหรือกิจกรรมใด ๆ ก็ตาม
เมื่อมีการนำเอาความ เปลี่ยนแปลงใหม่ๆ เข้ามาใช้เพื่อปรับปรุงงานให้ดีขข้ึนกว่าเดิม หรือมุ่งที่จะให้งานน้ัน มี
ประสทิ ธิภาพ สงู ขนึ้ ก็เรยี กว่า เปน็ นวตักรรมของวงการน้ัน
กองวิจัยทางการศึกษา กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ (2545 : 48)
ได้ให้ความหมายของนวัตกรรมไว้ว่า นวตักรรม หมายถึง กิจกรรม กระบวนการ เครื่องมือ
สื่อวัสดุ
อุปกรณ์ต่าง ๆ ทั้งที่มีรูปแบบใหม่ๆ หรือของเก่าที่ได้รับการปรับปรุงแก้ไขให้มีคุณภาพดีขึ้น ความเป็นมาของงาน
3
ประดิษฐ์สิ่งประดิษฐ์เกิดข้ึนเพราะมนุษย์เป็นผู้สร้างผู้พัฒนาปรับปรุง และเปลี่ยนแปลงแบบผลงานด้วยความคิด
สรา้ งสรรคใ์ นแตล่ ะบุคคล มวี ัตถปุ ระสงค์ในการสร้างส่ิงประดิษฐ์เพื่อตอบสนองความต้องการดา้ นประโยชน์ใช้สอย
งานประดิษฐ์มีความสัมพันธ์ และเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของคนไทยตั้งแต่สมัยโบราณ เกี่ยวข้องกับ
ขนบธรรมเนียมและประเพณีทางศาสนา
หลักการสร้างสรรค์งานประดิษฐ์การสร้างสรรค์งานประดิษฐ์ให้ประสบ
ผลสำเร็จน้ัน ผู้เรยี นตอ้ งมคี วามพงึ พอใจในการทำงานโดยยดึ หลักการดังนี้
1. หม่ันศึกษาหาความรู้ในงานที่ตนเองสนใจโดยศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญการในชุมชนการ โรงเรียน จาก
ตัวอย่างสิ่งประดษิ ฐ์ทสี่ นใจ
2. ศึกษาหลักการ วิธีการ หรือขั้นตอนการปฏิบัติงาน ในการประดิษฐ์ชิ้นงานโดยการ วิเคราะห์ ด้วย
ตนเองหรอื ศึกษาจากผ้รู ู้ ผู้เชี่ยวชาญ หรือจากส่ือตา่ ง ๆ เชน่ วารสาร หนังสือ เป็นต้น
3. ทดลองการปฏบิ ัติการประดิษฐ์ ผเู้ รยี
นตอ้ งศกึ ษาค้นคว้าและทดลองปฏบิ ัติตามแนวคดิ ทไ่ี ด้สร้างสรรค์
ไว้และมีการปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องจนสำเร็จเป็นชิ้นงานประดิษฐ์ท่ีพึงพอใจ ดังน้ันสรุปได้ว่า นวัตกรรม
หมายถึง สิ่งใหม่ที่กระทำซึ่งเกิดจากการใช้ความรู้ใช้ความคิด สร้างสรรค์สิ่งใหม่ในที่นี้อาจจะอยู่ในรูปของ
ผลติ ภัณฑ์ แนวคดิ หรือกระบวนการ ทีส่ ามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชนใ์ นการพัฒนาสิ่งประดษิ ฐด์ ังกล่าว
เอกสารทเี่ กีย่ วข้อง
ความเป็นมากระเป๋า จุดเริ่มต้นของการพัฒนาเป็นตะกร้า
ซึ่งมีวิธีการสานที่เหมือนกันและลักณะ
คล้ายคลึงกัน ประวัตขิ องกระเป๋า แบง่ เปน็ ช่วงของศตวรรษไดด้ งั น้ี
ชว่ งศตวรรษท่ี 14 เป็นศตวรรษของกระเป๋าคาดเอว ซึ่งช่วงศตวรรษน้ี กระเปา๋ ได้เข้ามามีบทบาททาง สังคมอย่าง
เห็นได้ชัด เนื่องจากวัสดุที่ใช้ทำกระเป๋ารวมถึงการตัดเย็บสามารถเป็นบ่งชี้ว่าผู้ใช้กระเป๋านั้น มีฐานะ ทางสังคม
อยา่ งไร
ช่วงศตวรรษที่ 16 ช่วงศตวรรษน้ไี ด้เริ่มมีการนำหนังสตั ว์เข้ามาใช้ ซ่ึงกเ็ ริม่ มกี ารตัดเย็บหนังสตั ว์เป็น กระเป๋าหนัง
สัตว์ กระเป๋าผา้ ก็มแี ตจ่ ะเปน็
แนวใบใหญไ่ วใ้ สข่ อง (สงสัยว่าน่าจะเป็นยคุ ของเทรนกระเป๋าผู้ชาย)
ช่วงศตวรรษที่ 17 เป็นช่วงศตวรรษที่ผู้หญิงให้ความสำคัญกับการเย็บปักถักร้อย จึงเป็นช่วงศตวรรษที่การ เย็บ
กระเป๋า มีลูกเล่น และความสลับซับซอ้ นมากข้ึน ซ่ึงถอื ได้วา่ เป็นชว่ งของกระเป๋าช่วงหนงึ่ ได้เลย
ช่วงศตวรรษท่ี 18 เปน็ ยคุ ของกระเป๋าถอื เน่ืองจากกระเป๋าที่อยู่ในเส้ือผ้า ทำให้เสือ้ ผ้าเปล่ียนทรง จึงเร่ิมมีการนำ
กระเป๋าถือขึ้นมาใช้
ช่วงศตวรรษที่ 19 ช่วงนี้การออกแบบกระเป๋าจะมีการเจาะจงไปกับการใช้งานมากขึ้น
และช่วงนี้เป็นช่วงของ
แฟชั่น จึงเริ่มมีการแข่งขันทางการตัดเย็บ และวัสดุที่ใช้ การดีไซน์ จึงทำให้เกิดกระเป๋าแบรนด์เนม ดังๆ ขึ้นหลาย
แบรนด์เนม
ถ้าจะระบวุ ่าใคร ประเทศใดผลิตขึน้ มาเป็นเจา้ แรก คงระบไุ ด้ยาก หากไปถามท่ีจีน กต็ ้องบอกว่าอ๊ัวเป็น
คงทำ ล๊ือไมเ่ คยเห็นถุงผ้าในหนังจีนกำลังภายในเหรอ แลว้ ประวัติศาสตร์ประเทศอ๊ัวมีเปน็ หลายพนั ปี เพราะฉะน้ัน
อัว๊ น่ี แหละเจ้าแรก แต่ถ้าไปถามอียิปต์ กรีก โรมนั ก็ต้องบอกว่าไอเอง เช่นเดยี วกับองั กฤษ ฝร่งั เศส อเมรกิ า ท่ีเป็น
4
ผู้นำด้านแฟช่นั
ก็ต้องบอกประเทศตน เอาเปน็ ว่า เทา่ ทมี่ รี ะบชุ ัดๆเป็นลายลักษณ์อักษร เคา้ ระบวุ า่ เกดิ จากนกั บวช
ชาว อาฟกัน ต้องการหาภาชนะไว้ใส่เครื่องราง อัญมณีต่างๆ เลยนำหนังของสัตว์ มาเย็บเป็นถุงขนาดหนึ่งฝ่ามือ
และทำเป็นเชอื กผูกตดิ เอวเอาไว้ ในสมัยน้ัน ทรงกระเป๋าจงึ เป็นลักษณะถุงๆ ทำจากผ้า หรือ หนังสัตวไ์ ว้เก็บของมี
ค่าต่างๆ ในยุคเริ่มแรก กระเป๋าจึงเป็นตัวบ่งบอก ถึงฐานะทางสังคม ความลับ และพลังอำนาจเพราะในยุคนี้จะมี
รูปรา่ งเหมือนกบั ถงุ จงึ มกี ารบญั ญตั ิศพั ท์ขนึ้ มา เป็นศพั
ท์สแลงท่ีหมายความถึง ครรภ์ของสตรีวสั ดเุ รม่ิ แรกท่ีใช้ผลิต
จะเป็นหนังสัตว์ ผ้า มีเครื่องตกแต่ง ประเภทหิน ลูกปัดไม้ และอัญมณีต่างๆ ต่อมามีแพร่หลายในประเทศอียิปต์
รูปแบบจะเหมือนๆกันกับอาฟริกัน มีชื่อเรียกว่า drawstring bag มี ลักษณะเป็นถุงหนัง และถุงผ้าเช่นเดียวกนั
และทำเป็นเชือกผูกติดกับเขม็ ขัดคาดเอว ใชใ้ สข่ องมคี า่ อญั มณีต่างๆ รวมถึงเงินทีใ่ ช้ในยุคนนั้ ด้วยคะ แบบน้ีฮิตกัน
มาก ในปีคริสตศักราชที่ 14 ถึง 15 ใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งผู้ชายและ ผู้หญิง ดอร์สตริงแบ๊ค
จะนิยมตกแต่ง
ด้วยอัญมณีมีค่า การปักผ้าเป็นลายต่างๆ เพราะจะเป็นตัวบอกถึงฐานะ ทางสังคม กระเป๋านี้ มีรูปร่าง และขนาด
แตกต่างกัน อยู่ที่ว่าใช้ใส่อะไร ทั้งของมีค่า เงิน เครื่องประดับ อาหาร หรือ แม้แต่อาวุธ เช่น มีดสั้น เป็นต้น ใน
ค.ศ.16-17 การแตง่ กายของชาย หญิง ในยคุ นี้ จะเปลี่ยนไป ผหู้ ญงิ จะใส่ชุดเดรสท่ีบานเป็นสุม่ ดงั นั้น กระเป๋าคาด
เอว ในยุคก่อน ก็จะไม่เหมาะอีกต่อไป เพราะไม่สามารถนำมาห้อยกับเอวได้ แบบที่เรียกว่า drawstring จึงไม่ได้
ถูกนำมาใช้ แต่สตรใี นยคุ น้ี จะเก็บสิ่งของมคี
่า ไว้ในชอ่ งเกบ็ ของภายในกระโปรง สว่ นผ้ชู ายก็จะเก็บไว้ที่ถุงด้านข้าง
กางเกง ด้านในจะบดุ ้วยหนงั แท้ เหมือนกับกางเกงขี่มา้ แต่จะมีกระเป๋าใหญ่ๆด้านข้าง ต่อมาได้ประยุกต์นำดอกไม้
แหง้ ถุงหอม เก็บไปไว้ในช่องดา้ นในกระโปรง หรือกางเกงด้วย เวลาไปไหนมา ไหน เหมอื นพกน้ำหอมติดตัวตลอด
ตอ่ มาในยุคปฏิวัตฝิ รั่งเศส ช่วง ค.ศ.18 ชดุ สุม่ ของผู้หญงิ ไดล้ ดขนาดลง รวมถงึ ชดุ ของผ้ชู าย ไดม้ ีการออกแบบให้มี
ขนาดที่แนบลำตัวมากขึ้น เพื่อให้คล่องตัวในการเดินเหิน ใช้ชีวติ ประจำวัน จากที่เคยตอ้ งหลบซอ่
นไว้ ในกระโปรง
หรือ กางเกง เริ่มไม่ได้รับความนิยม เพราะความที่ไม่คล่องตัวเท่าไหร่ กับการเปลี่ยนแปลงทาง วัฒนธรรม เสื้อผ้า
ในยคุ นี้จึงมีการย่อขนาดใหเ้ ล็กลง สุภาพสตรี และสภุ าพบุรษุ ในยคุ น้ี จึงหันกลบั มานยิ มใช้กระเป๋า แฟชั่น สำหรับ
ถือแทน แตก่ ย็ ังคงใช้แบบด้ังเดิม คือ ขนาดไมใ่ หญ่ ไปจนเล็กอยู่ ในยคุ ตอ่ มา คือยคุ ปฏิวัตอิ ุตสาหกรรม ในช่วง ค.ศ.
19 ได้มีการพัฒนาการขนส่ง การคมนาคม มากมาย เริ่มแรกก็คือ ทางรถไฟ ดังนั้นกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ๆ จึงมี
การใช้แพร่หลายในยุคนี้
เพราะต้องใช้เดินทางแบก สัมภาระไปไหนมาไหนได้สะดวก ลกั ษณะการออกแบบในยุคนี้
จงึ เน้นที่ความคลอ่ งตัว พกพาได้สะดวก รูปรา่ งจะ เหมอื นกล่องท่เี ราเคยเหน็ กันในหนังย้อนยุค ทำจากหนังแท้บ้าง
หรือจากไม้บ้าง รูปแบบในสมยั น้ีนน้ั จะมีการประดิษฐ์รูปทรงเพ่ิมเติมมากมาย จนถึงปัจจบุ นั ซงึ่ แบบไหน ทรงไหน
นน้ั จะเป็นไปตามนัดในแต่ละประเทศ และค่านิยมของสังคมนัน้ ๆ
บทที่3
วธิ ีการดำเนินโครงการ
วัสดอุ ุปกรณ์
1.กรรไกร
2.หลอดพลาสตกิ
3.คีมปากเลก็ ปลายแหลม
4.ปืนกาวหรือกาวร้อน
5.แม็ค
วธิ ีการดำเนนิ การ
ข้ันที่ 1 ขนั้ เตรยี มการ
1. เตรยี มคิดรปู แบบนวัตกรรม
2. ประชมุ วางแผนงานวางรูปแบบงาน และจดั สรรงบประมาณ
3. รา่ งโครงการเสนออาจารย์ที่ปรกึ ษาโครงการ
4. จัดเตรียมวัสดอุ ุปกรณ์ทจ่ี ะทำส่งิ ประดษิ ฐ์
5. จัดเตรียมสถานท่ีในการลงมือปฏบิ ัตงิ าน
ขนั้ ท่ี 2 ขัน้ ดำเนินการ
1. จดั เตรยี มอุปกรณ์ในการทำงาน
2. ปฏิบัตงิ านโดยเรมิ่ งานจากการวางโครงสร้าง
3. ทำการวดั และตัดหลอด
4. นำหลอดพลาสติกมาเตรยี
มเพื่อสานข้ึนโครง
5. นำหลอดพลาสติกทเ่ี ตรียมมาแลว้ มาสานตามที่ออกแบบไว้
6. เช็คความเรยี บรอ้ ยของผลงาน
ข้ันที่ 3 ข้ันประเมนิ ผล
1. สรุปผลการปฏบิ ตั ิงาน
2. สง่ รายงานสรปุ ผลการดำเนินงาน
6
การจัดทำแผนการดำเนนิ งาน
1. วางแผนขั้นตอนการทำงาน
2. จดั วสั ดอุ ุปกรณท์ ใ่ี ช้ในการทำโครงงาน
3. ปฏบิ ัตงิ านตามท่ีวางแผนไว้
4. การตรวจสอบความเรียบร้อยของผลติ ภัณฑ์
5. สรปุ ผลการดำเนนิ งาน
แผนการดำเนนิ งาน ธันวาคม 2564 – กมุ ภาพันธ์ 2565
ข้นั
ตอนการทำ สปั ดาหท์ ่ี สัปดาห์ท่ี สัปดาหท์ ่ี สปั ดาห์ที่ สัปดาหท์ ี่ สัปดาหท์ ่ี
1 2 3 45 6
ระยะที่ 1
1.ประชมุ วางแผนในกลุม่
2.ปรกึ ษาคดั เลือกหวั ข้อโครงงาน
3.เขยี นเค้าโครงโครงงาน
4.เสนอเคา้ โครง โครงงาน
5.อนุมตั ิโครงงาน
ระยะท่ี 2
1.วางแผนการทำโครงงาน
2.ศึกษาหลักการ เอกสารท่เี ก่ียวขอ้ ง
3.เก็บรวบรวมขอ้ มลู
4.เตรียมวสั ดุ อปุ กรณ์
5.ลงมอื ปฏบิ ตั ิ
-ถ่ายภาพประกอบการปฏบิ ัติงาน
ระยะที่ 3
1.สรปุ
เขียนรายงานการดำเนินงาน
2.จัดพิมพ์และนำเสนอรายงานตอ่ ครู
3.รอผลการประเมินและปรับปรุงแกไ้ ข
วัน เวลา สถานที่ เรม่ิ ดำเนินงานต้ังแตธ่ นั วาคม 2564 ถึง กมุ ภาพนั ธ์ 2565
สถานที่ บา้ นเลขท่ี : 59/7 ตำบลสะเตงนอก อำเภอเมือง จังหวดั ยะลา 95000
บทที่ 4
ผลการดำเนินงาน
ระยะดำเนนิ การ ผลการดำเนินงาน
1 มีแผนการดำเนนิ งานทชี่ ดั เจน
2 การดำเนินงานเป็นไปตามแผนทวี่ างไว้
3 บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้
จากการดำเนนิ งานของกล่มุ
ในการทำโครงงานประดิษฐ์ตะกร้าจากหลอดพลาสติก ผลปรากฏว่า
จากวธิ ีดำเนนิ งานทงั้ 3 ระยะ จะเห็นไดว้ ่าในการทำชน้ิ งานน้นั ไดน้ ำเศษพลาสติกนน่ั กค็ ือหลอดทเ่ี หลือใช้มาใช้ให้
เกิดประโยชน์และเพมิ่ มูลคา่ โดยการใช้ความคดิ สรา้ งสรรค์ช้ินงาน มกี ารประสานงานทดี่ ีระหวา่ งกนั ทำให้ได้
ชิน้ งานตามแผนทว่ี างไว้ สามารถสรา้ งรายได้หรือใช้เปน็ ของขวัญของท่ีระลกึ ได้
ออกแบบผลติ ภัณฑ์ตะกร้าจากหลอดพลาสตกิ
20 เซนติเมตร
30 เซนติเมตร
บทที่ 5
สรปุ ผล ข้อเสนอแนะ
สรปุ
ผลการดำเนินงาน
จากการดำเนนิ งานของกลุม่ ในการทำโครงงานประดิษฐ์ตะกร้าจากหลอดพลาสติก ผลปรากฏว่า จากวิธี
ดำเนินงานทั้ง 3 ระยะ จะเห็นได้ว่า ในการทำชิ้นงานนั้น ได้นำเศษพลาสติกที่ไม่ใช้แล้วมาใช้ให้เกิดประโยชน์และ
เพิม่ มูลคา่ โดยการใช้ความคิดสรา้ งสรรคช์ ิ้นงานใหส้ อดคล้องกบั การใช้งานหรือวัตถุประสงค์ท่ีต้ังไว้คือ เพื่อนำเศษ
พลาสติกที่เหลือ ใช้ให้เกิดประโยชน์สร้างความสามัคคีและฝึกทักษะการทำงานเป็นทีม มีการประสานงานที่ดี
ระหวา่ งกนั ทำให้ได้ช้นิ งานออกมาสวยงามน่าหยิบมาใช้ และใช้เปน็
ของขวัญของท่รี ะลกึ ได้
การนำไปใชป้ ระโยชน์
1. สามารถนำเศษพลาสตกิ ทเ่ี หลือใช้ให้เกดิ ประโยชน์และเพิม่ มูลค่า
2. สามารถสร้างรายไดห้ รือใชเ้ ปน็ ของขวญั ที่ระลกึ ได้
3. สามารถนำไปใสข่ องได้ สวยงาม
การสะท้อนความรสู้ ึก
โครงงานนี้เป็นการนำเศษพลาสติกที่เหลือใช้ให้เกิดประโยชน์และเพิ่มมูลค่าสร้างรายได้หรือใช้เป็น
ของขวญั ทร่ี ะลึกได้ นำไปใสข่ องได้ สวยงาม จงึ เกิดโครงงานประดษิ ฐ์ด้านความคิดสร้างสรรคน์ ี้ขึ้น
ข้อเสนอแนะ
ในการทำโครงการครั้งต่อไป
กลุ่มของเราจะร่วมกันคิดและสร้างสรรค์งานประดิษฐ์ที่มีความแปลกใหม่
และ สามารถพฒั นาเปน็ อาชพี เสรมิ ให้กับครอบครัวต่อไป
บรรณานกุ รม
โครงการสานตะกรา้ ดว้ ยเส้นพลาสติก. (2563) “ขั้นตอนการทำตะกรา้ สาน” [ออนไลน์]. เข้าถงึ ได้จาก :
//kattyk.sakonshop.com (วนั ท่ีค้นหาข้อมูล 24 พฤศจิกายน 2564)
บญุ นาค แซเ่ ตียว, มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, ณฐอร คลอ่ งการยทุ ธ. (2563)
“วธิ กี ารทำตะกร้าสาน” [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก :
//oer.learn.in.th/search_detail/result/94913 (ค้นหาข้อมลู 24 พฤศจิกายน 2564)
วินัย วิริยะปานนท. (2539) “ข้อมลู เกย่ี วกับหลักการและแนวคดิ ของการจักสาน. [ออนไลน์]. เข้าถงึ ไดจ้ าก :
//digital_collect.lib.buu.ac.th/dcms/files/52920956/
(วันที่ค้นหาข้อมลู 26 พฤศจิกายน 2564)
ภาคผนวก