ตั้งแต่ภาครัฐ ได้มีการ “เปิดประเทศ” และผ่อนคลายมาตรการป้องกันโรคโควิดมากขึ้นในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะอนุญาตให้ร้านอาหาร เริ่มเปิดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ ส่งผลให้หลายคนเริ่มออกมาปาร์ตี้สังสรรค์ จนบางครั้งอาจลืมไปว่า เมาแล้วขับ มีโทษปรับและติดคุก ซึ่งเทศกาลปีใหม่ 2566 เป็นอีกวันหยุดยาวที่หลายคนเตรียมตัวสังสรรค์กัน ดังนั้นจึงควรรู้ข้อกฎหมายเมาแล้วขับไว้ด้วย
ทางกรมการขนส่งทางบก จึงได้รวบรวม "กฎหมายเมาแล้วขับ” มีโทษอย่างไร และต้องปรับเป็นเงินเท่าไหร่บ้าง มาฝาก แต่แนวทางที่ดีที่สุดคือต้อง “ดื่มไม่ขับ” เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยต่อตนเอง และเพื่อนร่วมทางบนท้องถนน
เปิดเทคนิคขับรถปลอดภัย เดินทางไกลไม่สะดุด ช่วงท่องเที่ยว "ปีใหม่ 2566"
เช็ค "กฎหมายเมาแล้วขับ" มีอะไรบ้าง
กฎหมายเมาแล้วขับ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 5,000 - 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งพักใช้ใบอนุญาตขับรถไม่ต่ำกว่า 6 เดือน สำหรับผู้ที่มี
ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ สำหรับผู้ขับขี่มีอายุน้อยกว่า 20 ปีบริบูรณ์ หรือ ผู้ขับขี่ที่มีใบอนุญาตขับรถชั่วคราว (ใบอนุญาตแบบ 2 ปี) ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 21 พ.ศ. 2550 ออกความในพ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 ถือเป็น “ผู้เมาสุรา”
ปริมาณเแอลกอฮอล์ในเลือด 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกพักใช้ใบอนุญาตขับรถไม่น้อยกว่า 6 เดือน
บทลงโทษ "เมาแล้วขับ" ตามกฎหมาย
เมาแล้วขับ หรือ การปฏิเสธเป่า มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 10,000 - 20,000 บาท ระงับใบอนุญาตขับรถไม่น้อยกว่า 6 เดือน และศาลสามารถสั่งพักใบอนุญาตขับรถ หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ และสามารถยึดรถไว้ไม่เกิน 7 วัน
เมาแล้วขับจนทำให้ผู้อื่น “บาดเจ็บ”
- จำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี ปรับ 20,000-100,000 บาท และถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับรถไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ
เมาแล้วขับจนทำให้ผู้อื่น “บาดเจ็บสาหัส”
- จำคุก 2-6 ปี ปรับ 40,000-120,000 บาท ระงับใบอนุญาตขับรถไม่น้อยกว่า 2 ปี
เมาแล้วขับจนทำให้ผู้อื่น “ถึงแก่ความตาย”
- จำคุก 3-10 ปี ปรับตั้งแต่ 60,000-200,000 บาท และเพิกถอนใบอนุญาตขับรถทันที
เมาแล้วขับ ประกันรถยนต์จ่ายไหม
แบ่งออกเป็น 2 แนวทางเนื่องจาก ประกันรถยนต์มีทั้ง พ.ร.บ.รถยนต์ หรือ ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ (ประกันชั้น 1, ประกันชั้น 2+ และประกันชั้น 3+) แต่ละประเภทมีเงื่อนไขในการคุ้มครองที่แตกต่างกัน
กรณีที่ 1 พ.ร.บ.รถยนต์ คือคุ้มครองผู้เอาประกันรถยนต์และคู่กรณี โดยไม่พิสูจน์ความถูกหรือผิด ซึ่งจ่ายเป็นค่าสินไหมทดแทนสำหรับค่ารักษาพยาบาลเพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที แต่ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของผู้เอาประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ จะไม่คุ้มครอง
กรณีที่ 2 ถ้าแอลกอฮอล์ในเลือดไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ประกันรถยนต์จะคุ้มครองทั้งผู้เอาประกันและฝ่ายเสียหาย แต่ถ้าแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ประกันรถยนต์จะไม่คุ้มครองผู้เอาประกัน แม้จะซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่มีเบี้ยสูงสุดก็ตาม
แม้บางคนคิดอาจว่า มีเงินจ่ายค่าปรับตามกฎหมายในกรณีที่เมาแล้วขับ แต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ไม่คุ้มค่ากับการจ่ายเงินเลยสักนิด และร้ายแรงที่สุดอาจทำให้ผู้อื่นพิการหรือเสียชีวิตได้ ทางที่ดีที่สุดคือ ดื่มไม่ขับ ช่วยลดอุบัติเหตุและความปลอดภัยบนท้องถนน
ข้อมูลจาก สำนักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก , Tidlor
--------------------
เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก
Tag
#กฎหมายเมาขับ 2564#กฎหมายเมาแล้วขับ#กฎหมายเมาแล้วขับ โทษ#ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์#ข้อหาขับรถขณะเมาสุรา#ข้อหาเมาสุรา#คดีเมาขับ แล้ว ขึ้นศาล 2564#คุม ประพฤติ เมา แล้ว ขับ#ค่าปรับเมาขับ รถจักรยานยนต์ 2564#ค่าปรับเมาขับ รถยนต์ 2564#ฎีกา ขับรถขณะเมาสุรา#ตรวจแอลกอฮอล์ กฎหมาย#ประกันตัว เมา ขับ กี่บาท#ปริมาณแอลกอฮอล์#ปริมาณแอลกอฮอล์ เมาแล้วขับ#พรบ เมาขับ 2564#เครื่องดื่มแอลกอฮอล์#เปิดประเทศ#เป่าแอลกอฮอล์ ไม่เกินเท่าไหร่#เมา แล้ว ขับ ประกัน ตัว#เมา แล้ว ขับ ประกัน สังคม จ่าย ไหม#เมา แล้ว ขับ ปรับ เท่า ไหร่#เมาขับรถบรรทุก#เมาแล้วขับ#เมาแล้วขับ ตาย#เมาแล้วขับ ติดคุก#เมาแล้วขับ บาดเจ็บ#เมาแล้วขับ ปรับ#เมาแล้วขับ ยึดรถ#โดนจับ เป่า แอลกอฮอล์ 2564#โดนเป่าแอลกอฮอล์ pantip#ใบอนุญาตขับรถ