การวิจัยโฟนิคส์ในประเทศไทย
ในประเทศไทย การวิจัยเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษจากอดีตถึงปัจจุบัน ยังคงพบว่านักเรียนอ่านภาษาอังกฤษไม่ออก หรืออ่านได้บ้างตั้งแต่ชั้นประถมจนถึงมัธยมต้น
ปี 2549 พบว่า นักเรียนไม่สามารถอ่านคำ และสะกดตัวอักษรภาษาอังกฤษได้ เนื่องจากผู้เรียนขาดทักษะการอ่าน การประสมคำ นักเรียนมีพื้นฐานการเรียนรู้ในระดับชั้นอนุบาลแตกต่างกันจึงไม่ได้ฝึกพื้นฐานการอ่านเท่าที่ควร นักเรียนจำเป็นต้องได้รับการแก้ไข
ปี 2553 ได้ทำการวิจัยเรื่องผลการใช้วิธีการสอนแบบโฟนิคส์ต่อความสามารถในการอ่านและเขียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่าการสอนโฟนิคส์ทำให้ทักษะการอ่านอังกฤษดีขึ้น แต่ต้องสอนความรู้ด้านเสียงและตัวอักษรด้วย
ปี 2556 ได้ทำการวิจัยในชั้นเรียน เรื่องการแก้ปัญหานักเรียนขาดทักษะการสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษโดยใช้แบบการเทียบตัวอักษรของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ผลการวิจัย พบว่า 1) นักเรียนสามารถเทียบเสียงตัวอักษรภาษาอังกฤษได้ 2) นักเรียนมีทักษะการสะกดคำศัพท์ได้มากขึ้นเมื่อใช้แบบเทียบตัวอักษร โดยดูจากความถูกต้องในการอ่านแบบทดสอบ 3) นักเรียนสามารถพัฒนาทักษะการสะกดคำศัพท์ได้ดีขึ้น
ปี 2558 พบว่านักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปี ที่ 2-3 อ่านภาษาอังกฤษไม่ออก เนื่องจากไม่ทราบพื้นฐานของรูปและเสียงสระและพยัญชนะ ขาดทักษะการเชื่อมโยงตัวอักษรและเสียงเข้าด้วยกัน เมื่อเปล่งเสียงออกมาไม่ถูกต้องหรือไม่ชัดเจน สะกดคำไม่ถูก ไม่รู้ความหมายของคำที่อ่าน ผสมคำไม่ได้ แยกแยะตัวอักษรไม่ได้ ทำให้นักเรียนมีปัญหาด้านการอ่าน ส่งผลให้กลายเป็นเด็กขาดความมั่นใจ ไม่กล้าแสดงออก มีเจตคติที่ไม่ดีต่อวิชาภาษาอังกฤษและมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษต่ำ
ปี 2558 ได้ทำการวิจัยการพัฒนาทักษะความสามารถการอ่านภาษาอังกฤษด้วยการสอนโฟนิคส์ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ผลการวิจัยพบว่า 1) การสอนแบบโฟนิคส์ สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 คุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด โดยก่อนเรียนมี ค่าเฉลี่ย การอ่านอยู่ที 8.0 หลังจากการเรียนอ่าน โฟนิกมีค่าเฉลี่ย 14.7 2) ความสามารถการอ่านภาษาอังกฤษของ กลุ่มที่ไม่ได้สอนโฟนิคส์ และ กลุ่มที่สอนโฟนิคส์ มีผลต่างกันอย่างมีนัยยะสำคัญ 3) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการสอนโฟนิกอยู่ในระดับมากที่สุด
ปี 2559 การอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่านักเรียนมีปัญหาในการอ่านสะกดคำไม่ถูกต้อง จึงทำให้เขียนคำศัพท์ไม่ถูกต้อง เมื่อสอนโฟนิคส์จึงทำให้การอ่านดีขึ้นและสามารถสะกดคำได้อย่างมั่นใจขึ้น
Version |
Download | 2061
Total Views | 2558
Stock | ∞
File Size | 1.78 MB
File Type |
Create Date | 24 สิงหาคม, 2021
Last Updated | 25 สิงหาคม, 2021
Download
ผู้วิจัย นางสาวจิตวดี วังสนาม
วิจัยในชั้นเรียน
ผู้วิจัย นางสาวจิตวดี วังสนาม
อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ ดร.ปองเอก เพ็งลุน และอาจารย์ ดร.โกวิท วัชรินทรางกูร
สถานศึกษา โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
ปีที่พิมพ์ 2564
บทคัดย่อ
ในการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์การวิจัยคือ เพื่อการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องการ
อ่านออกเสียงแบบโฟนิกส์ (Phonics) โดยใช้แบบฝึกทักษะของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ประกอบไปด้วย นักเรียนชั้น
ประถมศึกษาปีที่ 2/2 จำนวน 31 คน ซึ่งเป็นนักเรียนที่คละกัน ทั้งเก่ง ปานกลาง และอ่อน โดยวิธีเลือก
เจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ แบบฝึกทักษะ เรื่องการอ่านออกเสียงแบบโฟนิกส์ (Phonics)
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ร้อยละ และt- Test
ผลการวิจัย
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องการอ่านออกเสียงแบบ
โฟนิกส์ (Phonics) โดยใช้แบบฝึกทักษะ
มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมี
นัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05