เมื่อตอนที่เริ่มใช้ Android ในเวอร์ชั่นแรกๆ จะมีปัญหากับการ Capture จอมากๆ ต้องหาแอพ SDK มาต่อกับคอมเพื่อจับภาพ ยุ่งยากมากๆ ต่อมาก็ต้องซื้อแอพช่วยในการจับภาพ แถมต้องรูทเครื่องอีกต่างหาก เดี๋ยวนี้ไม่มีปัญหาแล้วเพราะทุกรุ่นสามารถจับภาพหน้าจอได้ง่ายๆ ทุกรุ่น ส่วนวิธีการ Capture ของมือถือหรือแท็บเล็ต Samsung แต่ละรุ่นจริงๆ แล้วส่วนใหญ่ เหมือนกันค่ะ แต่จะมีบางรุ่นที่ใช้วิธีต่างกัน ลองมาดูว่ามีกี่วิธี
Advertisements
ใช้สันมือปาดลงไปที่หน้าจอได้เลยสำหรับ Galaxy Note 2 หรือใช้ S Pen จิ้มลงไปที่หน้าจอพร้อมกดปุ่มบนปากกาค้างไว้จนได้ยินเสียง แชะ! แล้วปล่อย
สำหรับสองวิธีข้างบน ใช้ได้กับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตตระกูล GALAXY NOTE ทุกรุ่นค่ะ
กดปุ่ม Home + Power พร้อมกันค้างไว้ประมาณ 2 วินาที จนได้ยินเสียง แชะ! เหมือนถ่ายรูป แล้วปล่อยมือ ส่วนใหญ่ของสมาร์ทโฟน Samsung GALAXY ทุกรุ่นจะใช้วิธีนี้ค่ะ หรือรุ่นที่มีปุ่ม Home ค่ะ จะใช้วิธีนี้ทุกรุ่น รวมถึงมือถือที่ได้อัพเกรดจาก 2.3 เป็น 4.1 จะใช้วิธีการกด Home+Power เช่นกัน
แต่อย่าลืมว่า ให้กดพร้อมกันค้างไว้ 2 วินาทีก่อนโวยวายว่าทำไม่ได้นะคะ !!!
กดปุ่ม Volume Down + Power พร้อมกันค้างไว้ประมาณ 2 วินาที จนได้ยินเสียง แชะ! ในรุ่น Galaxy Nexus และ Nexus S จะใช้วิธีนี้เพราะเครื่องเป็น Pure Google ไม่มีปุ่ม Home จ้า
สำหรับ Tablet ทุกรุ่นของ Samsung ให้กด ที่ ปุ่ม Capture บนแถบเมนูด้านล่างของหน้าจอได้เลย ยกเว้นรุ่น Galaxy Tab 7 รุ่นแรกค่ะ
แต่สำหรับผู้ใช้งาน Galaxy Tab 2 ขนาดต่างๆ ที่อัพเป็น 4.1 Jelly Bean แล้ว ปุ่ม Capture ที่แถบบาร์ด้านล่างหายไป สามารถกดปุ่ม Power + Vol. Down พร้อมกันค้างไว้ประมาณ 2 วินาที จนได้ยินเสียง แชะ! แล้วปล่อยมือ วิธีนี้ใช้ได้กับ Samsung GALAXY TAB 2 ทุกรุ่น ดูวีดีโอวิธี Capture หน้าจอที่นี่ค่ะ
ตอนนี้ใช้แบบนี้แทนได้วิธีเดียวนะคะ เข้าใจว่าใช้ลำบาก แต่ก็คงต้องใช้กัน เพราะยังไม่มีซอฟท์แวร์อื่นมาแก้ไข ถ้ามีปรับปรุงยังไงจะแจ้งอีกทีค่ะ
สำหรับ Galaxy Tab 7 นิ้วรุ่นแรกตัวนี้ ให้กดปุ่ม Back + Power พร้อมกันค้างไว้ จนได้ยินเสียง แชะ! แล้วปล่อยมือ
ภาพจะถูกบันทึกได้อัตโนมัติ และเก็บอยู่ใน Gallery ส่วนมากอยู่ในโฟลเดอร์ชื่อ Screenshot ค่ะ ส่วนใครที่พยายามทำแล้วยังไม่ได้ ลองบอกรายละเอียดชัดๆ ว่าไม่ได้นี่อาการอย่างไร กดอย่างไร จะได้ให้เพื่อนๆ ช่วยกันหาสาเหตุนะคะ
อยากจับภาพหน้าจอแต่เบื่อวิธีการ Swipe หรือ “ปาด” หน้าจอของซัมซุงหรือเปล่า วันนี้มีวิธีเก่าแต่ง่าย ๆ มาบอก
ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรนักกับวิธีจับภาพหน้าจอของมือถือในปัจจุบัน ซึ่งมักจะกดปุ่ม Power ค้างไว้แล้วเลือก Screen Capture
แต่ซัมซุงเค้าตัดเมนูนี้ออกไป ดังนั้นวิธีจับภาพหน้าจอจะแปลกกว่าชาวบ้านนิดนึง
เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงรู้แล้ว แต่น่าจะมีอีกเยอะที่ยังไม่ทราบวันนี้เลยเอามาเล่าให้ฟัง โดยวิธีดังกล่าวเป็นวิธีที่ใช้ได้กับ Samsung เกือบทุกรุ่นที่เค้าตัดคำสั่ง Screen Capture ออกจากปุ่ม Power เช่น Note2, Note3, S4, S5 เป็นต้น
การจับภาพหน้าจอทำได้ 2 วิธีดังนี้
1 เปิดหน้าที่ต้องการจับภาพหน้าจอไม่ว่าจะเป็นการแชตแล้วเอาไปแฉ….เอ้ยไม่ใช่ครับ ผมหมายถึงข้อมูลต่าง ๆ ที่ต้องการเก็บไว้เตือนความจำ
จากนั้นใช้สันมือปาดหน้าจอจากซ้ายไปขวา หรือ ขวาไปซ้ายเพื่อจับภาพหน้าจอ
วิธีนี้ล้ำมาก ๆ มีให้ใช้ตั้งแต่ Galaxy Note กันเลยทีเดียว แต่บอกตรง ๆ นะ ใช้ยากมากกกกกก ๆ ๆ ๆ
2 วิธีนี้ง่ายกว่าเยอะ และ สะดวกกว่า โดยเพียงแต่กดปุ่ม โฮม และ Power พร้อม ๆ กันแล้วค้างไว้สัก 2 วิ จะได้ยินเสียงแชะ เพียงเท่านี้เราก็จะได้
ภาพที่ได้จากวิธีนี้ก็จะเหมือนกับการ “ปาด” หน้าจอ โดยภาพจะไปอยู่ในหน่วยความจำของตัวเครื่อง โฟลเดอร์ Picture->Screen shot
สำหรับ Samsung Galaxy Tab S6 Lite แท็บเล็ตโทรออกได้ มาพร้อมปากกา S-Pen ทำให้การใช้งานหลากหลายมากยิ่งขึ้น และมีค่าความหน่วงต่ำจึงตอบสนองได้ดี ส่วนหน้าจอแสดงผลมีขนาด 10.4 นิ้ว รองรับการใช้งาน Dark Mode โดยลำโพงระบบสเตอริโอปรับทิศทางของเสียงอัตโนมัติ ทั้งยังมีระบบเสียงที่ทาง AKG ปรับจูนให้ และมีระบบเสียง Dolby ATMOS อีกด้วย ไฮไลท์ที่น่าสนใจของแพลตฟอร์ม ONE UI 2.0 คือการปรับแต่งฟังก์ชั่นการใช้งานที่แม่นยำ รวดเร็ว ตามพฤติกรรมของผู้ใช้งาน ทั้งรองรับการใช้งาน Netflix เต็มรูปแบบ ถ้าพิมพ์ค้นหาในช่องค้นหาที่ตัวเครื่อง ก็จะโชว์รายการคอนเทนต์มาเลยด้วย
รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design
อีกหนึ่งแท็บเล็ตที่ Samsung ได้ออกแบบให้จับถือถนัดกระชับมือ ใช้งานคล่องตัว แม้ว่าจะมีหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ถึง 10.4 นิ้ว โดยตัวเครื่องมีขนาด 244.5 x 154.3 x 7.0 มม. น้ำหนัก 465 กรัม ส่วนเฉดสีตัวเครื่อง มีทั้งหมด 3 สี ได้แก่ Oxford Gray, Angora Blue และ Chiffon Pink (เฉพาะรุ่น WiFi)
Samsung Galaxy Tab S6 Lite มีหน้าจอแสดงผล ประเภท TFT ขนาด 10.4 นิ้ว ความละเอียด 2000 x 1200 พิกเซล มาพร้อมโหมดมืด, โหมดถนอมสายตา และโหมดกรองแสงสีฟ้า
ตัวเครื่องฝั่งขวามีปุ่มควบคุม แบ่งเป็น ปุ่ม Power สำหรับล็อค/ปลดล็อค/เปิด-ปิดเครื่อง และปุ่มเพิ่มเสียง/ลดเสียง โดยสามารถเปิดใช้งานฟังก์ชั่นกดปุ่ม Power ติดต่อกันสองครั้งเพื่อเรียกใช้งานถ่ายภาพด่วน หรือกดปุ่ม Power พร้อมปุ่มลดเสียง เพื่อแคปหน้าจอ ตามการตั้งค่า
ทั้งนี้พื้นที่ว่างที่เหลือไม่ใช่การออกแบบแปลกๆ แต่อย่างใด ทว่าเป็นพื้นที่เอาไว้ให้ปากกา S-Pen ยึดติด เพื่อหยิบใช้งานได้สะดวก และชาร์จแบตเตอรี่ของปากกา
นอกจากนี้ยังมีช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Hybrid-Slot สามารถใส่ได้สองซิมการ์ด หรือหนึ่งซิมการ์ด + หน่วยความจำภายนอกสูงุสด 1TB
ตัวเครื่องด้านบนมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, รูไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน และลำโพง
ตัวเครื่องด้านล่างบริเวณกึ่งกลางมีพอร์ต USB Type-C ส่วนตัวเครื่องด้านขวามีลำโพงเช่นกัน
ด้านหลังตัวเครื่องมีเลนส์กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ออโตโฟกัส ไม่มีไฟแฟลช LED สามารถบันทึกวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด FullHD
สเปกเบื้องต้นของ Samsung Galaxy Tab S6 Lite
- ระบบปฏิบัติการ : Android 10 ครอบทับ ONE UI 2.0
- หน้าจอ : ขนาด 10.4 นิ้ว ความละเอียด 2000 x 1200 พิกเซล
- หน่วยประมวลผล : Exynos 9611
- GPU : Mali-G72
- RAM : 4GB
- พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน : 128GB
- MicroSD Card : สูงสุด 1GB
- ระบบเชื่อมต่อ : 4G LTE, Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac 2.4GHz+5GHz, Bluetooth 5.0, GPS, GLONASS
- ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
- พอร์ต USB Type-C
- กล้องหลัง : ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส
- กล้องหน้า : ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ : 7,040 mAh
การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง
- ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวม Geekbench 5 ได้คะแนน Single-Core : 324 คะแนน และ Multi-Core : 1,146 คะแนน
- ผลการทดสอบกราฟิกด้วย 3D MARK-SLING SHOT EXTREME : แบ่งเป็น OpenGL ES 3.1 คะแนน 1,188 คะแนน และ Vulkan คะแนน 1,104 คะแนน
- ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด
ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้
- Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
- Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
- Gyroscope Sensor ตรวจวัดการทรงตัว
- Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
หน้าจอหลักและหน้าเมนูการใช้งาน
เมนูทางลัดการใช้งานด่วน
เรียกใช้งานด้วยการปัดลงมาจากหน้าจอด้านบน การปัดครั้งแรกจะเป็นเมนูที่จำเป็นต่อการใช้งานเท่านั้น เช่น WiFi, Bluetooth, ไฟฉาย, โหมดประหยัดพลังงาน เป็นต้น หากเลื่อนปัดสองครั้งจะรวมเมนูทางลัดด่วนทั้งหมด และคุณก็เลือกได้ว่าจะให้เมนูใดอยู่ตรงไหน แค่กดไอคอนไข่ปลาบริเวณมุมขวาบน (ไอคอนสี่)
การแสดงผล
เมนูสำหรับตั้งค่าการแสดงผลของหน้าจอ โดยสามารถปรับระดับความสว่าง, สี หรือเลือกโหมดการใช้งานได้ อาทิ โหมดอ่านทำให้โทนสีอุ่นขึ้น เพื่อความสบายตาในการใช้งาน และตั้งเวลาได้ด้วย นอกจากนี้ยังเปลี่ยนขนาดตัวอักษรภายในเครื่องได้ ถ้าใครต้องการตัวเล็ก ตัวใหญ่ก็เปลี่ยนในเมนูขนาดอักษรได้เลย รวมถึงเปิดใช้งานโหมดแสงทึบ, โหมดฟิลเตอร์แสงสีฟ้า, การซูมหน้าจอ เป็นต้น
การปรับแต่งหน้าจอหลักและหน้าแอปพลิเคชั่น
การปรับแต่งหน้าจอหลักและหน้าแอปพลิเคชั่นสามารถเลือกได้แบบที่ต้องการ เช่น 5x5 หรือ 5x6 เป็นต้น รวมถึงฟีเจอร์การซ่อนแอปพลิเคชั่น เผื่อว่าใครอยากปกปิดเป็นความลับ ก็จะไม่มีการโชว์ในหน้ารวมแอปฯ
แถบการนำทาง
ตั้งค่าปุ่มควบคุมได้ด้วยการเข้าไปที่ การตั้งค่า - จอภาพ - แถบการนำทาง สามารถเลือกใช้งานได้ตามความสะดวกของคุณได้เลย
การปรับแต่งปุ่มการใช้งานด้านข้าง (ปุ่ม Power)
เลือกปรับแต่งได้ตามต้องการใช้งาน ซึ่งจะเป็นการใช้งานที่นอกเหนือจากการใช้ล็อค/ปลุกสมาร์ทโฟน หรือกดค้างเพื่อปิดเครื่อง ทว่าคุณสามารถตั้งค่าเพื่อเปิดแอปพลิเคชั่น, เรียกใช้งานถ่ายภาพด่วน หรือเริ่มต้นใช้งาน Bixby เป็นต้น เข้ามาตั้งค่าได้ที่ : การตั้งค่า - คุณสมบัติขั้นสูง - ปุ่มด้านข้าง
เครื่องมือการแคปหน้าจอ
แคปหน้าจอได้โดยกดปุ่ม Power และปุ่มลดเสียงพร้อมกัน นอกจากนี้ทางระบบยังมีฟีเจอร์ที่ปรับแต่งภาพที่เราแคปได้ด้วย เช่น จับภาพได้มากขึ้น, กำหนดจุดที่ต้องการ, แชร์ภาพ เป็นต้น เข้ามาตั้งค่าได้ที่ : การตั้งค่า - คุณสมบัติขั้นสูง - ภาพถ่ายหน้าจอและตัวบันทึกหน้าจอ - แถบเครื่องมือ
ฟังก์ชั่นยืนยันตัวตนผู้ใช้งาน
สำหรับการยืนยันตัวตนจะมีระบบสแกนใบหน้า แค่คุณยกขึ้นให้พอดีกับใบหน้า ก็ปลดล็อคตัวเครื่องแล้ว
จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features
ปากกา S-Pen ตัวช่วยที่แสนดีของคุณ
- การควบคุมโดยไม่แตะ : หมายถึงการไม่แตะหน้าจอนั่นเอง ซึ่งคุณควบคุมด้วยการกดปุ่มที่อยู่บนปากกาได้เลย เช่น กดค้างเพื่อเปิดกล้อง (ถ่ายภาพเร็ว) หรือเมนู/แอปพลิเคชั่นอื่นๆ โดยเลือกเมนูต่างๆ ได้อย่างอิสระ
- สมุดบันทึกเมื่อปิดหน้าจอ : หากคุณกลัวลืมเรื่องราวๆ ต่างๆ ก็สามารถหยิบปากกาออกมา แล้วขีดเขียนบนหน้าจอได้เลย เพียงเท่านี้คุณก็ไม่มีทางลืมแล้ว
- แอร์วิว : ดูตัวอย่างข้อมูลต่างๆ ด้วยการใช้ปากกาไปจิ้มเท่านั้น
- การตั้งค่าปากกา : กล่าวคือ เมื่อคุณถอดปากกาออกมาต้องการให้เริ่มใช้งานการควบคุมโดยไม่แตะ หรือบันทึกด่วนบนหน้าจอ
- Live Message : เขียนข้อความภาพผ่านวิดีโอได้ และเลือก Crop ได้ และสามารถเปิดกล้องถ่ายแล้วเขียนได้ทันที
- ฟังก์ชั่นการแชร์ : คุณสามารถเลือกได้ว่าข้อความที่คุณขีดเขียนนั้นจะต้องการแชร์เป็นไฟล์ Word, PDF, รูปภาพ หรือข้อความ
การดูแลอุปกรณ์
โดยระบบจะทำการบริหารจัดการทรัพยากรระบบสำคัญๆ เพื่อให้การทำงานของคุณไหลลื่นและเป็นปกติ จะมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อการใช้งานเป็นเวลานาน โดยที่ไม่ได้ทำการลบข้อมูลต่างๆ เลย
โหมดประหยัดแบตเตอรี่
โดยจะช่วยให้คุณยืดเวลาการใช้งานสมาร์ทโฟนให้นานยิ่งขึ้นไปอีก หากแบตเตอรี่ใกล้หมด ซึ่งระบบจะปิดการทำงานในส่วนของระบบที่ไม่จำเป็นออกไป
ระบบเสียง Dolby ATMOS
เพิ่มประสบการณ์ความบันเทิงของคุณอย่างมีคุณภาพเสียงทุกท่วงทำนอง และหากคุณยังไม่ชื่นชอบกับจังหวะก็สามารถปรับแต่งได้ด้วยตนเอง
หน้าจอขนาดใหญ่ที่เหมาะกับคอนเทนต์วิดีโอ
Samsung Galaxy Tab S6 Lite เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการรับชมคอนเทนต์วิดีโอเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น Netflix หรือ YouTube เป็นต้น
กล้องดิจิตอล
กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส ไม่มีไฟแฟลช LED ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล สามารถบันทึกวิดีโอความละเอียด FullHD ที่ 30 เฟรมต่อวินาที มาพร้อมฟังก์ชั่นปรับสีภาพอัจฉริยะที่ปรับแต่งภาพให้เป็นธรรมชาติ, ฟังก์ชั่น HDR, วิธีการถ่าย หรือลายน้ำ เป็นต้น