Skip to content
- รู้จักเรา
- บริการผู้ป่วย
- บริการทางการแพทย์
- แพ็กเกจและโปรแกรม
- บทความสุขภาพ
- ข่าวสารและบริการ
เจ็บแต่จบในหนึ่งชั่วโมง “จี้ไฟฟ้าหัวใจ” หยุดปัญหาหัวใจเต้นผิดจังหวะด้วยประสบการณ์ของ นพ.ปริวัตร เพ็งแก้วอ่านต่อ
หมดกังวลเรื่องการผ่าตัดซ่อมลิ้นหัวใจแค่มาเจอ นพ.ทวีศักดิ์ โชติวัฒนพงษ์อ่านต่อ
เลเซอร์ริดสีดวงพักฟื้น 1 คืน ไม่เจ็บอย่างที่คิดอ่านต่อ
ผอมเพรียวด้วยบอลลูนลดน้ำหนัก 8 เดือน ลง 35 กิโลกรัมอ่านต่อ
INTERNATIONAL REFERRAL CENTER (-RAA)อ่านต่อ
โปรแกรมตรวจสุขภาพหลังติดโควิดอ่านต่อ
สิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือบัตรเครดิตไทยพาณิชย์เบาใจไม่ต้องจ่ายเยอะ แลก Point 10%* รับเงินคืนสบายอ่านต่อ
โปรแกรมตรวจสุขภาพประจำปี 2565-2566 ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)อ่านต่อ
การผ่าตัดกระดูกสันหลังคดมีวิธีการอย่างไรอ่านต่อ
Precision Cancer Medicine วิเคราะห์เซลล์มะเร็งเพื่อค้นหาสาเหตุที่แท้จริง และการรักษาที่ตรงจุดอ่านต่อ
วิธีการรักษาเอ็นหมุนหัวไหล่ฉีกอ่านต่อ
รู้จักมะเร็งตับอ่อน ก่อนที่จะสายเกินไปอ่านต่อ
โรงพยาบาลเวชธานีขอประกาศปิดการลงทะเบียนเข้ารับการฉีดวัคซีน Modernaอ่านต่อ
ดร. นพ. ตุลวรรธน์ พัชราภา COO นพ. เทิดศักดิ์ เชิดชู CMO นพ. อิศรา อนงค์จรรยา QD และทีมงาน โรงพยาบาลเวชธานีให้การต้อนรับคณะผู้บริหารจากหลักสูตร DigitalCEO รุ่นที่5อ่านต่อ
จุดบริการโรงพยาบาลเวชธานี ที่สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ พร้อมเปิดให้บริการแล้ววันนี้อ่านต่อ
โรงพยาบาลเวชธานีร่วมกับสภากาชาดไทยอ่านต่อ
“ลำไส้แปรปรวน” โรคร้ายทำลายคุณภาพชีวิต
ท้องอืด แน่นท้อง ปวดท้องเป็นๆ หายๆ ขับถ่ายไม่เป็นปกติ เดี๋ยวก็ท้องผูก เดี๋ยวก็ท้องเสีย
เฮ้อ.. ! จะเป็นอย่างนี้ไปอีกนานไหม?
อาการข้างต้น เข้าข่ายโรคที่เรียกว่า โรคลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome : IBS) เป็นโรคของลำไส้ที่ทำงานผิดปกติ แต่พอตรวจดูกลับไม่พบความผิดปกติใดๆ ที่ลำไส้ ไม่ว่าจะทำการส่องกล้องตรวจลำไส้ หรือตรวจเลือดผิดปกติ เป็นต้น
โรคนี้เป็นโรคที่พบบ่อยโรคหนึ่งในระบบทางเดินอาหาร ผู้ป่วยโดยทั่วไปที่เป็นโรคนี้มักจะมีประวัติเป็นมานาน บางรายอาจมีอาการเป็นปีและมีอาการเป็น ๆ หาย ๆ เป็นโรคที่สร้างความรำคาญ และความทุกข์ทรมานให้แก่ผู้ป่วย ผู้ป่วยจะวิตกกังวลว่าทำไมโรคไม่หายแม้ได้ยารักษา ทำให้มีผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย รบกวนการดำเนินชีวิตและอาจทำให้ทำงานได้ไม่เต็มที่ และพบว่าโรคลำไส้แปรปรวนมักเกิดกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ในอัตราส่วนเพศหญิงต่อเพศชายประมาณ 2 : 1
ผู้ป่วยที่เป็นโรคลำไส้แปรปรวน มักจะมีอาการปวดท้อง อาจปวดตรงกลางหรือปวดบริเวณท้องน้อย โดยทั่วไปจะปวดท้องน้อยด้านซ้ายมากกว่าด้านขวา ลักษณะอาการปวดมักจะปวดแบบเกร็ง มีอาการแน่นท้อง ท้องอืด อาการจะไม่สัมพันธ์กับอาหาร นอกจากนี้จะมีอาการท้องโตขึ้นเหมือนมีลมในท้อง อาจมีอาการเรอหรือผายลมมากขึ้น และมีอาการถ่ายไม่ปกติ บางรายมีอาการท้องผูก บางรายท้องเสีย หรือในบางรายอาจมีอาการท้องผูกสลับท้องเสียก็ได้ ผู้ป่วยบางรายอาจมีความรู้สึกเหมือนถ่ายไม่สุด หรือมีอาการปวดเบ่งแต่เมื่อถ่ายอุจจาระแล้วอาการดีขึ้น มักมีอุจจาระเป็นมูกร่วมด้วยได้ อาการต่างๆ เหล่านี้จะเป็นๆ หายๆ มีอาการมากน้อยสลับกันได้ จะมีอาการเกิน 3 เดือน ในระยะเวลา 1 ปี
ปัจจุบันยังไม่พบสาเหตุที่แน่นอนของโรคลำไส้แปรปรวน แต่จากการศึกษาพบว่า ปัจจัยที่เป็นสาเหตุของโรคนี้ มี 3 อย่างที่สำคัญได้แก่
- การบีบตัวของลำไส้ผิดปกติ เป็นผลมาจากการหลั่งสารหรือฮอร์โมนที่ผิดปกติบางอย่างในผนังลำไส้ ทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องผูก หรือท้องเสียได้
- ระบบประสาทที่ผนังลำไส้ไวต่อสิ่งเร้าหรือตัวกระตุ้นมากผิดปกติ ตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการได้แก่ อาหารเผ็ด กาแฟ แอลกอฮอล์ทุกชนิด ช็อกโกแลต เป็นต้น รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ ได้แก่ ความเครียด ความวิตกกังวล เมื่อมีสิ่งเร้ามากระตุ้นก็ทำให้ผนังลำไส้บีบตัวผิดปกติ ทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องผูก หรือท้องเสียได้
- มีความผิดปกติในการควบคุมการทำงานของลำไส้ ระหว่างประสาทรับความรู้สึกที่ผนังลำไส้ ระบบกล้ามเนื้อของลำไส้และสมอง โดยเกิดจากความผิดปกติของสารที่ควบคุมการทำงานของลำไส้ ซึ่งมีอยู่หลายชนิด
ปัจจุบันยังไม่มียาชนิดใดที่สามารถรักษาโรคนี้ให้หายขาดได้ เนื่องจากผู้ป่วยโรคนี้มักจะมีอาการหลายอย่างร่วมกัน ยาที่ใช้มักจะทำให้อาการบางอย่างดีขึ้นเท่านั้น การรักษาด้วยยา แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาในการให้ยาที่เหมาะสมกับอาการของผู้ป่วย แต่การปฏิบัติตัวของผู้ป่วยจะช่วยให้อาการของโรคนี้ดีขึ้นได้
ดังนั้น เพื่อให้ผู้ป่วยโรคลำไส้แปรปรวนมีอาการดีขึ้นควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้ คือ
- ควรรับประทานอาหารช้าๆ และไม่ควรรับประทานมากจนเกินไป
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมัน เนื่องจากไขมันจะเป็นตัวกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ หากผู้ป่วยมีอาการท้องผูกร่วมด้วย ควรเพิ่มการรับประทานอาหารที่มีใยอาหารให้มากขึ้น
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ และ ฝึกนิสัยการขับถ่ายให้เป็นเวลา
- ควรหลีกเลี่ยงการดื่มนมในผู้ป่วยโรคลำไส้แปรปรวนชนิดท้องเสีย
- หลีกเลี่ยงอาหารที่อาจทำให้อาการของโรคเป็นมากขึ้น อาทิ กาแฟ อาหารหวานจัด ผลไม้รสเปรี้ยวบางชนิด อาหารรสเผ็ด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด และน้ำอัดลม เป็นต้น และหากผู้ป่วยมีภาวะเครียดร่วมด้วย ควรหาทางผ่อนคลาย หาเวลาพักผ่อนให้เพียงพอ
- ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อาจจำเป็นต้องพบจิตแพทย์ในบางรายที่มีปัญหาทางจิตใจค่อนข้างมาก
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ศูนย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ
โทรศัพท์ 0-2734-0000
- Readers Rating
- Rated 3.4 stars
3.4 / 5(71 Reviewers) - Very Good
- Your Rating
โทรหาเรา
(+66)8-522 38888
Please select your language