Life Beautiful แทนคุณ จิตต์อิสระ เตรียมพบกับอุบัติการณ์ความระทึกครั้งใหม่แห่งปี 2018 ลึกลงไปใต้มหาสมุทรแอตแลนติก กัปตัน โจ กลาส (เจอร์ราร์ด บัตเลอร์, Olympus Has Fallen, 300) กัปตันเรือดำน้ำของกองทัพเรือสหรัฐที่กำลังออกภารกิจตามหาเรือดำน้ำที่สูญหาย ได้บังเอิญค้นพบข้อมูลลับว่ากำลังจะเกิดการรัฐประหารขึ้นในรัสเซียที่อาจจะเป็นตัวก่อจุดชนวนความขัดแย้งระดับโลก เมื่อชีวิตลูกเรือและชะตากรรมของประเทศแขวนอยู่บนเส้นด้าย กัปตันกลาสต้องนำเรือดำน้ำแล่นผ่านน่านน้ำของศัตรู และขอความช่วยเหลือจากหน่วยซีลมือพระกาฬเพื่อบุกชิงตัวประธานาธิบดีรัสเซียกลับมาเพราะถูกจับเป็นเชลย หลังจากเกิดการรัฐประหารมีผู้นำคืออดีตนายพลรัสเซียที่แปรพักตร์ เพื่อหวังจะจุดชนวนสงครามโลกครั้งที่สาม นำแสดงโดยตัวพ่อหนังแอ็คชั่น เจอราร์ด บัตเลอร์ เจ้าของรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมปีล่าสุดอย่าง แกรี่ โอลด์แมน (Darkest Hour) และคอมมอน (John Wick: Chapter 2) ทุกอย่างเริ่มขึ้นเมื่อเรือดำน้ำรัสเซียจมลงในมหาสมุทรอาร์กติก ไม่นานหลังจากนั้น เรือดำน้ำของสหรัฐเข้าติดตามการสูญหายไปโดยเป็นปริศนาของมัน ระหว่างการไขความจริงนี้ ฐานทัพทหารในวอชิงตันถึงกับปั่นป่วนเมื่อพวกเขาค้นพบว่าพลเรือเอกคนหนึ่งของรัสเซียแปรพักตร์ และมีแผนระห่ำหวังยึดฐานทัพทหารเรือในรัสเซียมาไว้ในครอบครอง ความหวังที่จะหยุดสงความครั้งนี้ คือสองหน่วยปฏิบัติการลับ หน่วยแรก คือ หน่วยพิเศษที่เป็นการรวมตัวของอดีตสมาชิกหน่วยซีล พวกเขาต้องแอบเข้าแผ่นดินรัสเซียเพื่อชิงตัวประธานาธิบดีรัสเซีย ในขณะเดียวกันทางทะเล กัปตัน โจ กลาส (เจอราร์ด บัตเลอร์) และลูกเรือของเรือ ยูเอสเอส อาร์คันซอ ได้รับคำสั่งให้ไปประจันหน้ากับศัตรู ในฐานะกัปตันของเรือฮันเตอร์ คิลเลอร์ กลาสเชี่ยวชาญเรื่องเกมไล่จับ แต่คราวนี้เขาต้องรวบรวมความกล้าเพื่อแหกกฎ เพราะทางเดียวที่จะหยุดยั้งเหตุการณ์นี้ได้ แมวกับหนูต้องร่วมมือกัน หนังเรื่องนี้หยิบเอาพล็อตเขย่าขวัญเรือดำน้ำสุดคลาสสิค มาเพิ่มความตื่นเต้นแบบนั่งไม่ติดลงไป พื้นที่แคบ ๆ สร้างความกดดันทั้งร่างกายและจิตใจ ในโลกหลังสงครามเย็นที่การยึดอำนาจและการตอบโต้สามารถเปลี่ยนโฉมหน้าโลกได้แค่ชั่วข้ามคืน เมื่อกัปตันกลาสต้องเผชิญหน้าตัวต่อตัวกับศัตรูคู่อาฆาตของเขา กัปตันแอนโดรพอฟ (ไมเคิล นีควิสต์) มันชัดเจนทันทีว่าพวกเขาต้องทิ้งความบาดหมางไปก่อนเพื่อช่วยโลกและหยุดมหันตภัยนิวเคลียร์ ด้วยความที่มันเป็นวัตถุดิบชั้นดีทำให้มีการพูดคุยเรื่องจะดัดแปลงมันให้เป็นภาพยนตร์ ตลอดศตวรรษที่ผ่านมา นักทำหนังหลงใหลในความลึกของมหาสมุทร จริง ๆ แล้วหนังที่ว่าด้วยเรือดำน้ำเคยเป็นที่นิยมในยุคเริ่มต้นของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ตั้งแต่ he silent Secret of the Submarine ในปี 1915 ไปจนถึงกระแสหนังเรือดำน้ำยุคสงครามโลกครั้งที่สอง ไปจนถึงหนังเยอรมันที่ปฏิวัติวงการภาพยนตร์ และภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่ดัดแปลงจากนิยายของ ทอม แคลนซี่ อย่างThe Hunt For Red October และ Crimson Tide ในยุค 90 พื้นที่จำกัดในเรือดำน้ำนั้นอัดแน่นไปด้วยบรรดาทหารเรือที่เผชิญหน้ากับความท้าทายขั้นสุด ทั้งความวิตกกังวลและความอันตราย นั่นเป็นแรง ขับเคลื่อนชั้นเยี่ยมของความเป็นดราม่า แต่ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว Hunter Killer คือภาพยนตร์เรื่องแรกที่นำเสนอเรือดำน้ำและลูกเรือในศตวรรษที่ 21 อาร์เน่ แอล. ชมิดท์ และ เจมี่ มอส ดัดแปลง “Firing Point” ให้กลายเป็นฮันเตอร์ คิลเลอร์ พวกเขาบีบนิยายหนา 700 หน้า ให้กลายเป็นมหากาพย์ความมันแห่งการหยุดยั้งสงครามทั้งบนแผ่นดินและใต้น้ำ เพื่อให้ส่วนผสมนั้นออกมาลงตัวบนจอภาพยนตร์ในปี 2018 โปรดิวเซอร์เลือกใช้ผู้กำกับอายุน้อยไฟกำลังแรง เพื่อมอบมุมมองที่แปลกใหม่ พวกพบสิ่งที่ต้องการในที่ที่พวกเขาไม่คาดคิด แอฟริกาใต้ที่ซึ่ง โดโนแวน มาร์ช สร้างชื่อจาก iNumber, Number ผลงานดราม่าอาชญากรรมสุดเดิ้น ที่คว้ารางวัลได้มากมาย “เราตื่นเต้นจริง ๆ ที่เจอผู้กำกับอายุน้อยที่พร้อมจะมอบความตื่นเต้นและความแปลกใหม่ให้กับหนังเขย่าขวัญเรือดำน้ำ” จาฟฟ์กล่าว บทนี้โดนใจมาร์ชเข้าอย่างจังอย่างที่ทุกคนหวังไว้ มันจุดไฟแห่งการทำหนังในตัวเขา “มันเป็นหนังทหารที่ดีที่สุดที่ผมเคยอ่านมา” เขากล่าว “หัวใจของหนังเขย่าขวัญที่ดี คือ คุณต้องเดาไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ตอนที่ผมอ่านบทผมลุ้นตัวโก่งเลย แถมมันยังมีตัวละครที่แข็งแกร่ง ต้องเผชิญหน้ากับเรื่องที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกมันก็สมจริง” มาร์ชทุ่มเททุกอย่างเพื่อสร้างโลกแห่งการรบใต้พื้นสมุทรแห่งศตวรรษที่ 21 ออกมาสมจริง “ผมอยากให้ฉากภายในเรือดำน้ำในเรื่องออกมาดูเหมือนเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ของจริง ผมอยากให้ทุกอย่างในฉากของเราสมจริงจนลูกเรือตัวจริงก็แยกไม่ออก” มาร์ชอธิบาย “และผมอยากให้นักแสดงคุยกันเหมือนลูกเรือตัวจริงของเรือดำน้ำคุย เพราะมันยิ่งเสริมบรรยากาศเข้าไปอีก” กองทัพเรือเปิดเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ที่จอดเทียบท่าอยู่ที่เพิร์ล ฮาเบอร์ ให้ทีมงานเข้าไปเก็บภาพเป็นเวลา 2 วัน เจ้าหน้าที่กองทัพทำงานอย่างใกล้ชิดกับมาร์ชเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีความลับไหนหลุดรั่วออกไป “เรามีเวลาหนึ่งวันถ่ายเก็บภายในเราจะได้ตัดเชื่อมกับฟุตเทจจากฉากที่เราสร้างเองได้แบบไร้รอยต่อ และวันที่สองเราเอาเรือออกทะเลไปเราจะได้ถ่ายตัวเรือจากภายนอก ซีจีไม่สามารถช่วยอะไรได้หรอก” มาร์ชกล่าว “การได้เห็นมันใกล้ชิด ผมรู้มันจะเป็นช็อตที่น่าทึ่งแน่นอนถ้าเราเก็บภาพมันไว้ได้ มันเครื่องจักรหนัก 8,000 ตัน ที่เราไม่สามารถใช้คอมพิวเตอร์จำลองการเคลื่อนไหวของมันผ่านน้ำได้ แน่นอนว่าสิ่งที่เราต้องทำไม่ใช่งานง่าย แต่เพื่อมอบประสบการณ์ที่หาที่ไหนไม่ได้ให้ผู้ชมมันเป็นสิ่งที่ยังไงเราก็ต้องทำ” เจอร์ราร์ด บัตเลอร์ รับบทพระเอกแอคชั่นจอมเก๋ามานักต่อนัก ตั้งแต่ราชาแห่งหมู่สปาร์ตันอย่าง ลีโอไนดัส ใน 300 และเจ้าหน้าที่ลับ ไมค์ แบนนิ่ง จาก Olympus Has Fallen ไปจนถึง นิค โอ’บรีน ตำรวจแอลเอสุดแสบจาก Den of Thieves ซึ่งล้วนแสดงความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขาทั้งนั้น แต่สำหรับโดโนแวน มาร์ช บัตเลอร์เผยว่าผู้กำกับต้องการให้เขาถ่ายทอดมุมมองใหม่ของความเป็นฮีโร่ โดยการใช้สติปัญญาสุดแหลมคมและความหนักแน่นของจิตใจกับบทกัปตันโจ กลาส ใน Hunter Killer “เขายังเป็นดาราแอคชั่นที่ฝีมือเชื่อขนมกินได้ แต่ในเรื่องนี้เขาเป็นคนสั่งการมากกว่าเป็นคนลงมือ” มาร์ชอธิบาย “เจอร์รี่ต้องลองวิธีแสดงใหม่ ๆ ซึ่งเขาทำได้อย่างงดงาม เขาอินกับตัวละครมาก คุณจะได้เห็นทีมนักแสดงเป็นสิบ ๆ คนโต้ตอบกับเขา เหมือนกับเขาเป็นผู้บังคับบัญชาจริง ๆ เขาเล่นได้เนียนขนาดนั้นเลยล่ะ” ไมเคิล นีควิสต์ ผู้ล่วงลับ เขาเป็นนักแสดงสาวสวีดิชที่ประสบความสำเร็จที่สุดคนหนึ่ง นีควิสต์โด่งดังจากบทนักหนังสือพิมพ์ มิคาเอล บลอมควิสต์ จาก Girl With The Dragon Tattoo เวอร์ชั่นต้นฉบับ John Wick และ Mission Impossible: Ghost Protocol เขาจากไปด้วยวัย 56 ปี หลังจากต่อสู้กับมะเร็งปอดมายาวนาน บัตเลอร์ถือว่าโอกาสที่ได้ร่วมงานกับนีควิสต์เป็นไฮไลท์ของอาชีพเขาทีเดียว “ผมเรียนรู้จากความกล้าที่จะทดลองของเขา เขาเหมือนวัยรุ่นตรงที่กล้าที่จะลองทุกสิ่ง เขากล้าหาญมาก ผมเห็นนักแสดงหนุ่มที่มาแคสต์บทลูกเรือได้แรงบันดาลใจจากเขา ผมรู้สึกมาตลอดว่าหัวใจหลักของเรื่อง คือ ความสัมพันธ์ระหว่างสองกัปตัน ซึ่งผมกับไมเคิลก็มีความสัมพันธ์กันแบบนั้นเช่นเดียวกัน” บัตเลอร์กล่าว ขณะที่กัปตันกลาสประจำการอยู่ที่ใต้ทะเลลึก ทีมงานของกองทัพในวอชิงตัน ดี.ซี. ต้องแข่งกับเวลาเพื่อหาวิธีแก้ปัญหาระดับโลกครั้งนี้ ชายผู้ที่เป็นผู้นำในห้องปฏิบัติการของกองทัพ คือ พลเรือเอก ชาร์ล ดอนเนแกน ประธานของคณะกรรมาธิการทหาร ผู้ที่มารับบทนี้คือ แกรี่ โอลด์แมน ที่เพิ่งคว้ารางวัลออสการ์จากการรับบทเป็น วินสตัน เชอร์ชิล ใน Darkest Hour“แกรี่คือตำนาน มันเหมือนฝันเป็นจริงเลยที่ได้ร่วมงานกับหนึ่งในไอดอลทางภาพยนตร์ของผม เขามอบเสน่ห์ให้กับบทนี้อย่างมาก” มาร์ชกล่าว โอลด์แมนตื่นเต้นที่จะได้รับบทเป็นคนที่ต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่ไม่สามารถผิดพลาดได้ เขาเป็นคนที่เชื่อว่าหน้าที่ของเขาต้องใช้การตอบโต้แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน ไม่ว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร “พลเรือเอกรัสเซียที่แปรพักตร์คนนี้มีแผนร้าย เขาคิดว่าตัวเองเป็นนักมายากลที่ไม่มีใครอ่านเขาได้ ขณะที่อเมริกาวุ่นอยู่กับการหยุดยั้งสงครามนิวเคลียร์ เขาขึ้นยึดอำนาจโดยไม่มีใครกล้าขัดขืน” โอลด์แมนบรรยาย “แต่ดอนเนแกนรู้ว่างานของเขาต้องรับมือกับภัยร้ายแบบนี้ด้วยความหนักแน่น” เมื่อความระทึกของหนังแบ่งออกเป็นสามมุมมอง จากเรือดำน้ำฮันเตอร์ คิลเลอร์ ที่ลาดตระเวนอยู่ใต้ทะเล หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่เข้าแทรกซึมฐานของศัตรูในรัสเซีย และที่ห้องควบคุมในเพนตากอน งานออกแบบของ Hunter Killer เหมือนกับรวมหนังสามเรื่องเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้มันออกมาสำเร็จ โดโนแวน มาร์ชทำงานร่วมกับทีมงานมากความสามารถหลายคน ไม่ว่าจะเป็น ทอม มาไรส์ (Avenged) ผู้กำกับภาพชาวแอฟริกาใต้ จอน เฮนสัน (Criminal) นักออกแบบงานสร้าง และ แคโรลีน แฮร์ริส (Legend, 42, A Knight’s Tale) นักออกแบบเครื่องแต่งกาย สองฉากที่ใหญ่ที่สุดในเรื่องถูกสร้างขึ้นที่ Ealing Studios ในลอนดอน ซึ่งเป็นสตูดิโอถ่ายหนังเก่าแก่ที่สุดของโลกที่ยังคงเปิดให้บริการอยู่ ที่นี่เองที่ทีมงานจำลองเรือดำน้ำเวอร์จิเนีย คลาส ซึ่งเป็นเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์รุ่นล่าสุดของอเมริกา มันโด่งดังเพราะความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน และความคล่องตัว พวกเขาสร้างมันบนเครื่องไฮดรอลิกส์ที่เคลื่อนได้ โลกได้รู้จักเรือดำน้ำเวอร์จิเนีย คลาสครั้งแรกในยุค 90 ทุกวันนี้มันได้รับการอัพเดทด้วยเทคโนโลยีพรางตัวรุ่นล่าสุด อาวุธนำวิถีที่แม่นยำ มันยังปฏิบัติงานได้ไร้ที่ติ จนกองทัพเรือสหรัฐมีแผนจะใช้มันอีกยาว อย่างน้อยจนถึงปี 2043 หลังจากได้ขึ้นเรือดำน้ำของจริงไปพร้อมกับบัตเลอร์ มาร์ชรู้ว่าเขาต้องการให้งานฉากทำให้ผู้ชมได้มีความรู้สึกเดียวกับเขาตอนที่ไปออกทริป “สิ่งที่น่าสนใจสำหรับผมคือเรือดำน้ำของจริงมันไม่เหมือนกับที่ผมคิดไว้เลย ต้องโทษหนังเรือดำน้ำเลยนะที่ทำให้ผมนึกภาพไปแบบนั้น” เขาหัวเราะ “หลาย ๆ ครั้งที่เราเห็นภายในของเรือดำน้ำในหนัง ทุกอย่างมันเงาไปหมด ไม่มีแม้แต่รอยฝุ่น แต่เรือดำน้ำที่ใช้งานของจริงมันไม่ได้ถูกออกแบบมาให้สวยงาม มันคือเครื่องจักรสงคราม กองทัพเรืออัดเทคโนโลยีล้ำยุคเข้าไปแต่พวกเขาไม่สนหรอกว่ามันจะออกมาสวยหรือไม่ ถ้าคุณเข้าไปในเรือดำน้ำของจริงคุณจะรู้สึกเหมือนอยู่ในโรงงาน มีสายไฟโยงยาง มีอะไรก็ไม่รู้ถูกตอกติดกับกำแพงเต็มไปหมด นี่คือสิ่งที่ผมอยากถ่ายทอดออกมา เพราะมันมีพลังงานความสมจริงอยู่ และแน่นอนว่ามันเป็นสิ่งที่คนดูคาดไม่ถึงด้วย” ด้วยการใช้ภาพลับของเรือดำน้ำที่กองทัพเรืออนุญาตและการปั้นโมเดลสามมิติ ทีมงานสามารถสร้างแบบจำลองที่สมจริงพอที่จะสร้างบรรยากาศเสมือนจริงให้นักแสดงได้อินไปกับเหตุการณ์ “เราตื่นเต้นกับฉากมาก มันเป็นโอกาสเปิดเผยเรือดำน้ำในรูปแบบที่สาธารณะไม่เคยได้เห็นมาก่อน” โปรดิวเซอร์ จอห์น ธอมป์สัน กล่าว ธอมป์สันกล่าวต่อ “ในข้อตกลงระหว่างเรากับกองทัพเรือสหรัฐ เราสัญญากับพวกเขาทุกอย่างที่เกี่ยวกับเรือดำน้ำต้องออกมาสมจริง พวกเขาเอื้อเฟื้อให้เราได้เผยแพร่ข้อมูลของเรือดำน้ำรุ่นนี้ซึ่งเป็นครั้งแรกในโลกภาพยนตร์ ดังนั้นจอน เฮนสันใช้เวลาหลายอาทิตย์กับนักออกแบบและวิศวกรของกองทัพเรือ จนเขากลับมาพร้อมกับข้อมูลเจาะลึกถึงรายละเอียด ถึงขนาดมีการระบุสีสายไฟได้เลย กองทัพเรือสหรัฐยังส่งคนมาคอยช่วยจอน และทีมของเขาสร้างฉาก เราต้องการให้มันแม่นยำจนขนาดถ้ามีคนที่เคยขึ้นเรือเวอร์จิเนีย คลาส มาเยี่ยมที่ฉากเขาจะจำมันได้ทันที” เมื่ออดีตกัปตันเรือดำน้ำตัวจริงอย่างจอร์จ วอลเลซมาเยี่ยมที่ฉาก เขาถึงอ้าปากข้าง “มันสมจริงจนเหมือนผมอยู่บนเรือเวอร์จิเนียของจริงเลย” เขากล่าว “ถ้านับหนังเรือดำน้ำทั้งหมดที่ผมเคยดูมา ผมว่าฉากเรื่องนี้สมจริงที่สุดแบบทิ้งห่างเรื่องอื่นไปหลายช่วงตัวเลย” ขณะที่ตัวฉากต้องกว้างกว่าเรือดำน้ำของจริงเพื่อให้มีพื้นที่สำหรับการเคลื่อนกล้อง แต่มันก็แคบพอที่จะให้ความรู้สึกเหมือนติดอยู่ในที่แคบไร้ทางหนีที่ลูกเรือต้องรับมืออยู่ทุกวี่วัน และยังมีการเสริมความสมจริงเข้าไปด้วยการเคลื่อนไหวของเครื่องไฮดรอลิกซ์ที่อยู่ใต้ฉาก ที่พร้อมจะทำให้ทุกคนหัวทิ่มได้ทันทีเมื่อเปิดเครื่อง งานฉากทั้งหมดทำให้บัตเลอร์ถึงกับตะลึง “ผมแทบไม่เชื่อเลยว่าเราสร้างมันขึ้นมา” เขากล่าว “มันคือการจำลองเรือดำน้ำที่เราไปขึ้นกันมาที่เพิร์ลฮาเบอร์ มันแค่กว้างกว่านิดหน่อยเพื่อให้มีที่เคลื่อนกล้อง มันมีทั้งกล้องปริทัศน์ จอโซน่า ชาร์ตนำร่อง และแผงควบคุม มันเหมือนผมกลับไปที่นั่นอีกครั้งเลย” ฉากภายนอกของเรือ ยูเอสเอส อาร์ตันซอ ถูกสร้างขึ้นในแทงค์น้ำพิเศษเพื่อถ่ายทำใน Pinewood studios ซึ่งหนังที่มีฉากในน้ำหลาย ๆ เรื่องถ่ายทำกันที่นี่ ขณะเดียวกันที่อีกสตูดิโอหนึ่งที่ Ealing ทีมงานจำลองฉากห้องปฏิบัติการที่เหล่าหัวกะทิของกองทัพมารวมตัวเพื่อหยุดสงคราม ซึ่งจำลองมาจากห้องในศูนย์ปฏิบัติการกองทัพแห่งชาติที่ เพนตากอน ฉากแอคชั่นที่ในเรื่องเกิดขึ้นในรัสเซียส่วนใหญ่ถ่ายทำในบัลแกเรีย สำหรับฉากฐานทัพเรือที่โพลียานี มันคือเมืองลึกลับที่อยู่สุดขอบด้านตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ที่ซึ่งพลเรือเอกดูรอฟจับประธานาธิบดีของตัวเองไว้เป็นตัวประกัน ถ่ายกันที่ฐานทัพเรือบัลแกเรียของจริงในวาร์นา บนชายฝั่งทะเลดำ ฉากภายในห้องควบคุมของโพลรยานีถูกส้รางขึ้นที่ Boyana Film Studios ในโซเฟีย เช่นเดียวกับฉากภายในเรือดำน้ำรัสเซียของกัปตันแอนโดรพอฟ และห้องโซน่าของยูเอสเอส อาร์คันซอ ที่ปรึกษาจากกองทัพไม่ได้ให้ความช่วยเหลือแค่การออกแบบฉากเท่านั้น แต่ยังช่วงทีมงานทุกภาคส่วนให้ทุกอย่างออกมาสมจริงที่สุด นั่นร่วมถึงเครื่องแบบลูกเรือไปจนถึงฟูกในเรือดำน้ำเลยทีเดียว “เราช่วยเรื่องของแต่งฉากและเครื่องแต่งกาย เราบอกพวกเขาว่าจริง ๆ แล้วคนของกองทัพเขาทำกันอย่างไร”
สงคราม อเมริกาผ่ารัสเซีย สร้าง จาก เรื่อง จริง
Hunter Killer สร้างจากหนังสือ Firing Point ของอดีตผู้บังคับบัญชาระดับสูงของเรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์ จอร์จ วอลเลซ และเป็นหนังที่ได้รับความร่วมมือจากกองทัพเรือสหรัฐอย่างเป็นทางการ ถึงขั้นส่งผู้เชี่ยวชาญกองทัพเรือมาเป็นที่ปรึกษาในการสร้าง
จอห์น ทอมสัน (อังกฤษ: John Thomson; 14 มิถุนายน ค.ศ. 1837 – 29 กันยายน ค.ศ. 1921) เป็นช่างภาพบุกเบิกชาวสกอต นักภูมิศาสตร์ เขาเป็นช่างภาพคนแรกที่เดินทางมายังตะวันออกไกล เพื่อบันทึกภาพผู้คน ทัศนียภาพและสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ ในวัฒนธรรมตะวันออก