สื่อชื่อดังแห่งเกาะอังกฤษ ได้จัด "50 อันดับกองหน้ายอดเยี่ยมตลอดกาลพรีเมียร์ลีก" มาเพื่อให้แฟนบอลได้รำลึกความหลังกัน
ฟุตบอลลีกยอดนิยมในใจของใครหลายคน โดยเฉพาะแฟนฟุตบอลชาว ไทย เดินทางมาถึงฤดูกาลที่ 23 แล้ว นับตั้งแต่เปลี่ยนชื่อจาก "ดิวิชั่น 1" มาเป็น "พรีเมียร์ลีก" ได้ผลิตยอดนักเตะออกมาประดับวงการมากมาย
โดยเฉพาะตำแหน่งที่เรียกได้ว่าสำคัญและเป็นพระเอกในสนามมากที่สุดนั่นคือ "ศูนย์หน้า" หรือหัวหอกถล่มประตูนั่นเอง
ล่าสุด "เดลี่เมล์" สื่อชื่อดังแห่งเกาะอังกฤษ ได้จัด "50 อันดับกองหน้ายอดเยี่ยมตลอดกาลพรีเมียร์ลีก" มาเพื่อให้แฟนบอลได้รำลึกความหลังกัน เชื่อว่าแฟนบอลที่อายุ 30 ปีขึ้นไป น่าจะทันได้ยลฝีเท้าของแข้งดังเหล่านี้ทั้งหมด
ตรงใจผู้อ่านกันบ้างหรือไม่? เชิญติดตามครับ
อันดับ 10 ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ (ลิเวอร์พูล, ลีดส์ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส)
เจ้าของฉายา "ก็อด" ของสาวก "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เติบโตมาในฐานะนักเตะเยาวชนของทีม ก่อนได้ประเดิมสนามตั้งแต่อายุ 18 ปี ทะลวงตาข่ายกระจุย 25 ลูกในปี 1994-95 ก่อนซัดอีก 28 ประตูในซีซั่นถัดมา สร้างชื่อสุดๆด้วยการซัดแฮตทริกใส่ อาร์เซน่อล ด้วยเวลาเพียง 4 นาที 33 วินาทีเท่านั้น!
อันดับ 9 เอียน ไร้ท์ (อาร์เซน่อล, เวสต์แฮม ยูไนเต็ด)
"ไร้ท์ซ่า" ตำนานอีกคนนึงของ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล เจ้าของ 128 ประตู จาก 221 นัดในลีก หลังจากคว้าตัวมาจาก คริสตัล พาเลซ ในปี 1991 ด้วยค่าตัว 2.5 ล้านปอนด์ และเป็นสถิติสโมสรในขณะนั้น ความทุ่มเทเต็มร้อย ยิงประตูเฉียบขาด ไม่แปลกใจเลยที่แฟนปืนใหญ่จะรักกองหน้าผิวหมึกผู้นี้เหลือเกิน
อันดับ 8 ไมเคิ่ล โอเว่น (ลิเวอร์พูล, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด, แมนฯ ยูไนเต็ด, สโต๊ก ซิตี้)
"เบบี้โกล์" แจ้งเกิดตั้งแต่อายุ 17 เมื่อลงสนามมาแล้วยิงได้ทันทีในเกมพบ วิมเบิลดัน เมื่อปี 1997 ยิงไป 118 ให้หงส์แดงในลีก ตลอด 8 ปีที่อยู่กับทีมก่อนย้ายไปอยู่ยักษ์ใหญ่ของสเปนอย่าง เรอัล มาดริด ก่อนฟอร์มตกฮวบหลังจากได้รับบาดเจ็บบ่อยครั้ง จนต้องระหกระเหินกลับมาอังกฤษด้วยการเซ็นสัญญากับ นิวคาสเซิ่ล, แมนฯ ยูไนเต็ด(ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกด้วย แฟนหงส์บอกว่ามันเจ็บตรงนี้แหละ!) และ สโต๊ก ซิตี้
อันดับ 7 ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา (เชลซี)
"แข็งแกร่ง, เฉียบคม, ทรงพลัง" คือคำนิยามของหัวหอกไอวอรี่ โคสต์ผู้นี้ เป็นหัวหอกตัวหลักของทีมตลอด 8 ปี กวาดแชมป์ร่วมกับ "สิงโตน้ำเงินคราม" มากมาย เป็น 1 ในศูนย์หน้าที่กองหลังฝ่ายตรงข้ามต่างเทคะแนนให้ว่า "ไม่อยากรับมือ" ด้วยที่สุดคนนึงในลีก ปัจจุบันย้ายกลับมาจาก กาลาตาซาราย และรับบทกองหน้าหมายเลข 3 ของทีมคอยพยุงน้องๆ
อันดับ 6 แอนดี้ โคล (นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด, แมนฯ ยูไนเต็ด, แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส, ฟูแล่ม, แมนฯ ซิตี้, พอร์ทสมัธ)
เจ้าของสถิติยิง ประตูมากที่สุดอันดับ 2 ของพรีเมียร์ลีก ด้วยจำนวน 187 ประตู แม้บางช่วงของอาชีพจะถูกค่อนขอดว่าใช้โอกาสเปลืองไปบ้างเวลาอยู่หน้าปาก ประตู แต่ก็ต้องถือว่า "คิงโคล" ถือเป็นหนึ่งในกองหน้าหัวแถวของลีกอยู่ดีเมื่อดูจาก การคว้าแชมป์แบบนับไม่ถ้วนกับ "ผีแดง" และตัวเลขสกอร์ที่เขาทำได้
อันดับ 5 เวย์น รูนี่ย์ (เอฟเวอร์ตัน, แมนฯ ยูไนเต็ด)
แจ้งเกิดตั้งแต่ อายุ 16 ขวบ เมื่อลงสนามมาซัดอย่างสุดสวยใส่ อาร์เซน่อล ในปี 2002 ก่อนลุยศึกยูโร 2004 ด้วยอายุ 18 ปี ก่อนย้ายมาร่วมทีม "ปีศาจแดง" ด้วยค่าตัวมหึมา 25 ล้านปอนด์ จนถึงตอนนี้ยิงไปแล้ว 161 ประตูจาก 313 เกมในลีก ปัจจุบันรับตำแหน่ง "กัปตันทีม" ทั้งในนามสโมสรและทีมชาติอังกฤษ
อันดับ 4 เดนนิส เบิร์กแค้มป์ (อาร์เซน่อล)
"คลาสสิก" นึกถึงสไตล์ เบิร์กแค้มป์ ต้องใช้คำนี้เลย เป็นกองหน้าที่ไม่ค่อยมีความเร็วมากนัก รูปร่างก็ไม่ได้แข็งแกร่งบึกบึน แต่เทคนิคการยิงประตูและลีลาการจ่ายบอล แพรวพราวมีระดับเหลือเกิน ใครจะลืมประตูสุดสวยที่ยิงใส่ นิวคาสเซิ่ล ในปี 2002 และ ในนามทีมชาติฮอลแลนด์ ที่ยิงใส่ อาร์เจนติน่า ในฟุตบอลโลก 1998 ได้ลงกันล่ะ?
อันดับ 3 เอริค คันโตน่า (แมนฯ ยูไนเต็ด)
"เอริค เดอะ คิง" เล่นให้ทีมปีศาจแดงแค่ 5 ปี แต่กลายเป็นสัญลักษณ์ของสโมสรคนนึงไปเรียบร้อย! ด้วยฝีเท้าที่เอกอุ และบุคลิกในสนามที่โดดเด่น สร้างความยำเกรงให้คู่แข่ง และความเชื่อใจให้เพื่อนร่วมทีมได้เสมอ ก็องโต้ไม่ใช่กองหน้าประเภทถล่มประตูเป็นกอบเป็นกำ แต่เป็นเหมือนจุดศูนย์กลางของทีมในเกมรุกมากกว่า ห้าวหาญดุดัน ฉลาดปราดเปรื่อง แต่น่าเสียดายที่อารมณ์ศิลปินมากเกินไป ติสต์แตก ตัดสินใจแขวนสตั๊ดขณะที่อายุเพียง 31 ปีเท่านั้น
อันดับ 2 อลัน เชียเรอร์ (เซาธ์แฮมป์ตัน, แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด)
เจ้าของสถิติยิงประตูในพรีเมียร์ลีกมากที่สุดตลอดกาลด้วยจำนวน 260 ประตู "ฮอตชอต" ซัดให้ แบล็คเบิร์น ไป 112 ลูก และกับทีมในดวงใจตั้งแต่เด็ก นิวคาสเซิ่ล อีก 148 ตุง หลังย้ายมาร่วมทีมในปี 1996 ด้วยค่าตัวสถิติโลกตอนนั้น 15 ล้านปอนด์ แม้จะไม่ประสบความสำเร็จด้านถ้วยรางวัล เพราะได้เพียงแค่แชมป์ลีกกับ "กุหลาบไฟ" ในซีซั่น 1994-95 เท่านั้น แต่ในแง่ส่วนตัวถือว่าสุดยอด เมื่อดูจากประตูที่ยิงได้ และตำแหน่งกัปตันทีมชาติอังกฤษอีกหลายปี
อันดับ 1 เธียร์รี่ อองรี (อาร์เซน่อล)
ถึงแม้จะด้อยกว่า เชียเรอร์, โคล หรือแม้แต่ รูนี่ย์ ถ้าวัดในแง่จำนวนประตู แต่ "ติตี้" คือสุดยอดกองหน้าของพรีเมียร์ลีกอย่างแท้จริง ด้วยเทคนิคแพรวพราวหาตัวจับยาก, ความเร็วที่กองหลังเลิกฝันเลยว่าจะไล่ทันเมื่อเขาได้ควบบอล, การจ่ายบอลให้เพื่อนทำประตูที่เฉียบขาด และการจบสกอร์ที่เหนือชั้น อองรีได้แชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย (โดยครั้งล่าสุดเมื่อปี 2003-04 ทำสถิติไม่แพ้ใครทั้งซีซั่นด้วย), 3 แชมป์ เอฟเอ คัพ, นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักเตะอาชีพ 2 ครั้ง, นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมผู้สื่อข่าวอีก 3 ครั้ง และโกลเด้นบู๊ทอีก 4 ครั้ง คู่ควรกับตำแหน่ง "อันดับ 1" แบบไร้ข้อโต้แย้งอย่างที่สุด