ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ที่เที่ยว ‘วันเด็กแห่งชาติ’ 2566 รวมพิกัดในกรุงเทพ ส่งเสริมเยาวชนคนรุ่นใหม่
11 ชั่วโมง ago
‘นอท กองสลากพลัส’ แจง 53 ล้าน เป็นเรื่องบังเอิญ แค่เงินลูกค้าถูกรางวัล
11 ชั่วโมง ago
KFC จุดเทรนด์ใหม่รับตรุษจีน ด้วย “ธูปกลิ่นไก่ทอดสูตรผู้พัน”
12 ชั่วโมง ago
- ชื่อเต็มกรุงเทพมหานคร
กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ มหินทรายุธยา มหาดิลกภพ นพรัตนราชธานีบูรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต สักกะทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์
- คำอ่านชื่อกรุงเทพมหานคร
กรุงเทบมะหานะคอน – อะมอนรัดตะนะโกสิน – มะหินทะรายุดทะยา – มะหาดิหลกพบ – นบพะรัดราดชะทานีบูรีรม – อุดมราดชะนิเวดมะหาสะถาน – อะมอนพิมานอะวะตานสะถิด – สักกะทัดติยะวิดสะนุกำประสิด
- ถอดชื่อกรุงเทพมหานครเป็นอักษรโรมัน
KRUNGTHEPMAHANAKHON
AMONRATTANAKOSIN
MAHINTHARAYUTTHAYA
MAHADILOKPHOP
NOPPHARATRATCHATHANIBURIROM
UDOMRATCHANIWETMAHASATHAN
AMONPHIMANAWATANSATHIT
SAKKATHATTIYAWITSANUKAMPRASIT
บอกเลยว่าถ้ามีเหตุให้ต้องเขียนชื่อเต็มของกรุงเทพฯ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ขอยอมแพ้จ้า ?
ความหมายของ ชื่อกรุงเทพแบบเต็ม เมืองเทพสร้าง วิมานของเหล่าเทวดา
อาจารย์เสฐียรพงษ์ วรรณปก (ราชบัณฑิต) ได้ให้ความหมายของ “กรุงเทพมหานคร” ไว้ว่า
- กรุงเทพมหานคร – นครอันยิ่งใหญ่ของเทพ
- อมรรัตนโกสินทร์ – เป็นคลังแก้วของเทพอันยิ่งใหญ่ (หมายถึงที่เก็บพระแก้วมรกต)
- มหินทรายุธยา – เป็นเมืองยิ่งใหญ่ที่ตีไม่แตก
- มหาดิลกภพ – เป็นโลกที่ยอดยิ่ง
- นพรัตนราชธานีบุรีรมย์ – เป็นเมืองหลวงแห่งแก้วเก้าประการที่น่ารื่นรมย์ (แก้ว 9 ประการ ได้แก่ ทับทิม มุกดา เพทาย มรกต บุษราคัม เพชร ไพลิน โกเมน ไพฑรย์)
- อุดมราชนิเวศนมหาสถาน – สถานที่อันยิ่งใหญ่อันเป็นที่ประทับของพระราชาผู้ประเสริฐสุด
- อมรพิมานอวตารสถิต – เป็นวิมานที่เทพอวตารมาสถิตอยู่
- สักกทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์ – ซึ่งท้าวสักกะ (พระอินทร์) ประทานให้วิษณุกรรมเทพบุตรมาสร้างให้
นอกจากนี้ทางราชบัณฑิตยสภายังให้ความหมายของ “กรุงเทพมหานคร” ในเวอร์ชันภาษาอังกฤษไว้ด้วยว่า
City of Angels Great City of Immortals
Magnificent City of the Nine Gems Seat of the King
City of Royal Palaces Home of Gods Incarnate
Erected by Visvakarman at Indra’s Behest.
‘บางกอก’ อีกชื่อหนึ่งของ ‘กรุงเทพฯ’ ที่ชาวต่างชาตินิยมเรียก
บางกอก หรือ Bangkok หรือชื่อใหม่ (ที่ไม่ใหม่) อย่าง “Krung Thep Maha Nakhon” แต่แรกแต่เดิมนั้นมีชื่อว่า “กรุงรัตนโกสินทร์อินท์อโยธยา” ซึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ พระราชทานให้ในตอนแรกที่ตั้งกรุงเทพฯ เป็นราชธานี
ต่อมาในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ก็มีการปรับแก้ชื่อกันใหม่เป็น “กรุงเทพมหานคร บวรรัตนโกสินทร์ มหินทอยุธยา” และต่อมาอีกครั้งในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ก็เปลี่ยนคำว่า “บวร” เป็นคำว่า “อมร” และสนธิศัพท์คำว่า “มหินทอยุธยา” เป็นคำว่า “มหินทรายุธยา” และเติมชื่อสร้อยต่อท้ายเข้าไปเพิ่มเติมอีกจนกลายมาเป็นชื่อเต็ม ๆ ของกรุงเทพฯ แบบที่เรารู้กันเนี่ยแหละ
ส่วนที่มาของคำว่า “บางกอก” อย่างที่ชาวต่างชาติเรียก “Bangkok” นั้นสันนิษฐานกันว่ามาจากความคดเคี้ยวของแม่น้ำเจ้าพระยา บางแห่งก็มีสภาพเป็นเกาะ หรือ โคก จึงถูกขนานนามว่า “บางเกาะ” หรือ “บางโคก” หรืออีกข้อสันนิษฐานหนึ่งคือ พื้นที่บริเวณดังกล่าวมีต้นมะกอกอยู่มากจึงถูกเรียกว่า “บางมะกอก” ซึ่งคำดังกล่าวนี้ก็ยังเป็นชื่อเดิมของวัดอรุณฯ อีกด้วย โดยในภายหลังกร่อนคำมาเหลือเพียงแค่ “บางกอก”
ส่วนคำว่า “Bangkok” เป็นการทับศัพท์คำว่า บางกอก ในภาษาฝรั่งเศสโดยวิศวกรที่ชื่อ “เดอ ลามาร์” (De Lamar) ซึ่งวิศวกรท่านนี้ได้ก่อสร้างป้อมดาวขนาดใหญ่ขึ้นที่บางกอก จึงเรียกบางกอกในแบบภาษาฝรั่งเศสนั่นเอง
จากกระแสที่ราชบัณฑิตยสภาได้มีการปรับเปลี่ยนชื่อภาษาอังกฤษของเมืองหลวงประเทศไทยเป็น KrungThep Maha Nakhon ก็ไม่ได้แปลว่าจะยกเลิกการใช้คำว่า Bangkok เสียทีเดียว เพียงแต่ปรับเปลี่ยนเพื่อให้สามารถเรียกได้ทั้งสองแบบ เพราะถ้าหากยกเลิกคำว่า Bangkok โดยทันทีเลย รับรองว่าไม่มีใครปลื้มมตินี้แน่นอนจ้า