คำแนะนำในการเข้าศูนย์บริการโตโยต้ามีระบบบริการที่สะดวกรวดเร็วด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า และบุคลากรที่มีคุณภาพให้ทุกท่านมั่นใจในการนำรถเข้าเช็คสภาพตามระยะทางที่กำหนด
การนำรถเข้าศูนย์ เพื่อเช็คระยะทางตามที่กำหนด
การนำรถเข้ารับบริการตรวจเช็คระยะตามกำหนด เป็นสิ่งที่ท่านเจ้าของรถ ต้องปฏิบัติเพื่อบำรุงรักษารถ ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์อยู่เสมอ เพื่อเป็นการรักษาสิทธิประโยชน์ตามนโยบาย การรับประกันคุณภาพอย่างครบถ้วน ในระยะ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน
ระยะทางหรือระยะเวลาในการนำรถเข้าศูนย์บริการที่กำหนดไว้มีดังนี้ครับ
การนำรถเข้าเช็คระยะหลังจากที่ลูกค้าได้รับรถไปแล้ว โดยจะฟรีค่าแรงให้ 6 ครั้งแรก ตามนี้เลยครับ
ระยะทางที่หนึ่งคือ 1,000 กิโลเมตร หรือ 1 เดือนแรกหลังจากที่ได้รับรถยนต์ไปแล้ว ระยะไหนถึงก่อนก็นำรถเข้ามาเช็คได้เลยครับ ระยะนี้จะเป็นเช็คสภาพโดยทั่วไป
ระยะที่สองคือ ระยะที่ 10,000 กิโลเมตร หรือระยะที่ 6 เดือน ระยะนี้จะเริ่มการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรอง
ระยะที่สามคือ ระยะที่ 20,000 กิโลเมตร หรือระยะที่ 12 เดือน
ระยะที่สี่คือ ระยะที่ 30,000 กิโลเมตร หรือระยะที่ 18 เดือน
ระยะที่ห้าคือ ระยะที่ 40,000 กิโลเมตร หรือระยะที่ 24 เดือน
ระยะที่หกคือ ระยะที่ 50,000 กิโลเมตร หรือระยะที่ 30 เดือน
ศูนย์บริการโตโยต้าจะให้บริการตรวจเช็คฟรีตามระยะโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายยกเว้นค่าน้ำมันหล่อลื่น, สารหล่อลื่นและอะไหล่ ที่ต้องเปลี่ยนตามอายุการใช้งานปกติ โดยท่านเจ้าของรถต้องนำรถเข้ารับบริการตาม ระยะทางและเวลาที่กำหนดแล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่ง ถึงก่อนโดยเพื่อความสะดวกของท่าน ท่านสามารถ โทรนัดหมายที่เบอร์ คอลเซนเตอร์ ที่ศูนย์บรการโตโยต้าใกล้บ้านท่านไว้ล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วันได้เลยครับ หรือจะโทรมานัดกับพนักงานขายของท่านก็ได้เช่นกัน ก่อนเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการโตโยต้าทุกแห่ง และหลังจากที่หมดช่วงของฟรีค่าแรงตรงนี้ ลูกค้ายังคงต้องนำรถเข้าศูนย์บริการโตโยต้า ทุกๆ 6 เดือน หรือ ทุกๆ 10,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน ไปตลอด หรืออย่างน้อยจนกว่าจะหมดการรับประกันคุณภาพนะครับ แต่ขอแนะนำว่าให้เอาเข้าศูนย์บริการไปตลอดเลยจะยิ่งดีที่สุดครับ เพราะจะได้อะไหล่ที่เป็นของแท้ทุกอย่าง เมื่อได้อะไหล่ที่เป็นของแท้แล้วอายุการใช้งานก็จะยาวนาน ลดค่าใช้จ่ายและปัญหากวนใจที่จุกจิก อีกทั้งยังได้ความมั่นใจในผู้ติดตั้งและอุปกรณ์ เวลาขับรถทางไกลก็ยังไม่ต้องกลัวว่าเดี๋ยวรถจะเสียกลางทาง
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคำแนะนำในการเข้าศูนย์บริการจะทำให้ผู้ที่ไม่อยากนำรถเข้าศูนย์ เปลี่ยนใจมานำรถเข้าศูนย์ให้มากขึ้นนะครับ เพื่อความสบายใจในการขับ และเพื่อความปลอดภัยในขณะใช้งาน เพื่อที่รถยนต์จะได้อยู่ให้ท่านใช้งานไปนานๆ คุ้มค่ากับการลงทุนที่ซื้อมา
โตโยต้าขยายโชว์รูมและศูนย์ยริการมาตรฐานถึง 390 แห่งทั่วประเทศ สู่ทุกทิศทั่วไทย คอยเปิดบริการให้ทุกท่าน
การตรวจเช็คระยะ รถยนต์ พูดง่ายๆก็คือ การบำรุงรักษารถยนต์อย่างนึง ซึ่งหากกล่าวถึงการบำรุงรักษารถยนต์อย่างกว้าง ก็สามารถแบ่งได้ 2 แบบด้วยกันครับ แบบแรก คือ เปลี่ยนเมื่อเสีย ซึ่งควรจะมีการตรวจสอบดูแลอยู่สม่ำเสมอ และแบบที่ 2 คือ เปลี่ยนตามระยะแบบที่เราจะมาพูดถึงในวันนี้
ข้อดี ของการตรวจเช็คระยะ หรือเปลี่ยนตามระยะเวลา
- ช่วยยืดอายุการใช้งานของรถยนต์ เนื่องจากอะไหล่บางตัวเมื่อมีการสึกหรอ ก็จะส่งผลให้ตัวอื่นสึกหรอตามไปด้วย
- ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง และประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่อาจจะบานปลาย
- ขับขี่ได้อย่างสบายใจ ปลอดภัย และไร้กังวล เนื่องจากรถยนต์ของเราจะมีสมรรถนะที่สมบูรณ์อยู่ตลอดเวลา
การตรวจเช็คระยะ รถยนต์ อย่างถูกต้องเหมาะสมระบบรองรับ และยางรถยนต์
- ยางรถยนต์ ควรตรวจเช็ค ในระยะเวลา 6 เดือน หรือ 5,000 กม.
- สลับยาง ถ่วงล้อ แรงตึงน๊อตล้อ ควรตรวจเช็ค ในระยะเวลา 6 เดือน หรือ 10,000 กม.
- โช๊คอัพ หน้า – หลัง ควรตรวจเช็ค ในระยะเวลา 12 เดือน หรือ 10,000 กม.
- ตั้งศูนย์ล้อ ควรตรวจเช็คในระยะเวลา 6 เดือน หรือ 20,000 กม.
ตรวจสอบระบบเบรค
- จานเบรกและผ้าเบรคหน้า ควรตรวจเช็ค ในระยะเวลา 6 เดือน หรือ 5,000 กม.
- จานเบรกและผ้าเบรคหลัง ควรตรวจเช็ค ในระยะเวลา 6 เดือน หรือ 10,000 กม.
- การรั่วซึมของท่อและสายน้ำมันเบรก ควรตรวจเช็ค ในระยะเวลา 6 เดือน หรือ 10,000 กม.
- น้ำมันเบรค ควรเปลี่ยน ในระยะเวลา 24 เดือน หรือ 40,000 กม.
ระบบคลัช
- คลัช ควรตรวจเช็ค ในระยะเวลา 6 เดือน หรือ 10,000 กม.
- การรั่วซึมของท่อและสายน้ำมันคลัช ควรตรวจเช็คในระยะเวลา 12 เดือน หรือ 10,000 กม.
- น้ำมันคลัช ควรเปลี่ยน ในระยะเวลา 24 เดือน หรือ 40,000 กม.
ระบบบังคับเลี้ยว
- สายพานพวงมาลัยพาวเวอร์ ควรตรวจเช็ค ในระยะเวลา 24 เดือน หรือ 20,000 กม.
- น้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์ ควรเปลี่ยน ในระยะเวลา 24 เดือน หรือ 40,000 กม.
ระบบช่วงล่าง และตัวถัง
- อัดจารบีช่วงล่าง ควรเปลี่ยน ในระยะเวลา 6 เดือน หรือ 10,000 กม.
- ยางหุ้มเพลาขับ ควรตรวจเช็ค ในระยะเวลา 12 เดือน หรือ 10,000 กม.
- ลูกปืนล้อหน้า – หลัง ควรตรวจเช็ค ในระยะเวลา 12 เดือน หรือ 10,000 กม.
- ระบบคันชักคันส่ง ลูกหมาก และยางกันฝุ่น ควรตรวจเช็ค ในระยะเวลา 12 เดือน หรือ 20,000 กม.
ระบบส่งกำลัง
- น้ำมันเกียร์ธรรมดา , เฟืองท้าย ควรเปลี่ยน ในระยะเวลา 12 เดือน หรือ 20,000 กม.
- น้ำมันเกียร์ออโต้ ควรเปลี่ยน ในระยะเวลา 24 เดือน หรือ 40,000 กม.
ระบบเครื่องยนต์
- น้ำมันเครื่องแบบกึ่งสังเคราะห์และไส้กรอง ควรเปลี่ยน ในระยะเวลา 6 เดือน หรือ 5,000 กม.
- น้ำมันเครื่องแบบสังเคราะห์และไส้กรอง ควรเปลี่ยน ในระยะเวลา 12 เดือน หรือ 10,000 กม.
- ล้างเครื่อง ควรทำ ในระยะเวลา 12 เดือน หรือ 20,000 กม.
- สายพานขับ และ สายพานเครื่องยนต์ ควรตรวจเช็ค ในระยะเวลา 24 เดือน หรือ 20,000 กม.
- น้ำหล่อเย็นเครื่องยนต์ ควรเปลี่ยน ในระยะเวลา 24 เดือน หรือ 40,000 กม.
ระบบเชื้อเพลิง และระบบควบคุมไอเสีย
- กรองเชื้อเพลิง ดีเซล ควรเปลี่ยน ในระยะเวลา 24 เดือน หรือ 15,000 กม.
- กรองเชื้อเพลิง เบนซิน ควรเปลี่ยน ในระยะเวลา 48 เดือน หรือ 80,000 กม.
- กรองอากาศ ดีเซล ควรเปลี่ยน ในระยะเวลา 12 เดือน หรือ 20,000 กม.
- กรองอากาศ เบนซิน ควรเปลี่ยน ในระยะเวลา 24 เดือน หรือ 40,000 กม.
ระบบจุดระเบิด
- หัวเทียน ควรเปลี่ยน ในระยะเวลา 48 เดือน หรือ 40,000 กม.
- หัวเทียน แบบอิริเดียม ควรเปลี่ยน ในระยะเวลา 48 เดือน หรือ 100,000 กม.
- แบตเตอรี่ ควรตรวจระดับน้ำกลั่นและแรงดันไฟ ในระยะเวลา 6 เดือน หรือ 5,000 กม.
อื่นๆ
- ที่ปัดน้ำฝน และ ที่ฉีดน้ำล้างกระจก ควรตรวจเช็ค ในระยะเวลา 6 เดือน หรือ 10,000 กม.
คำเตือน
กรณีเป็นรถยนต์ที่ใช้งานใน ภาวะพิเศษ อาทิเช่น ใช้งานกับถนนขรุขระ , ถนนโคลนเลน , ถนนมีฝุ่นมาก , ใช้เป็นรถลากจูง , เป็นรถที่เดินทางในรอบต่ำ แต่ใช้ระยะทางไกล , รถที่ขับด้วยความเร็วสูงเกินกว่า 2 ชั่วโมง เป็นประจำ และใช้งานในที่สูงเกินกว่า 700 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล จะต้องทำการตรวจเช็คที่ละเอียด และมีความถี่มากกว่า รถยนต์ที่ใช้งานแบบปกติ