?ทุกปัญหา. . หาทางออกได้ด้วยการซื้อ‼️ มาจ้าาสาวก Disney+ Hotstar จบทุกปัญหาด้วย Dongle✨ เปลี่ยนทีวีธรรมดาให้เป็น Smart TV ท่องโลกดิสนีย์ สนุกไม่มีสะดุดแน่นอน ????
? เสียเงินแล้วดูไม่ได้ แอบนอยด์อยู่นะ!☹️ 2Uรวมมาให้แล้วจ้า ไอเทมจบทุกปัญหา? หากว่าบ้านใครเป็นทีวีธรรมดา แล้วต่อสาย HDMI แล้วไม่สามารถดูได้ เราคือเพื่อนกัน ? ทาง Disney+ ขึ้นแจ้งเตือนการอัดหน้าจอ ทำให้ไม่สามารถดูหนังต่างๆ ได้ คือลิขสิทธิ์ของดิสนีย์นั่นเองจ้า ป้องกันการอัดหนังไปเผยแพร่แบบไม่ถูกลิขสิทธิ์ หากใครได้ลองต่อสาย HDMI แล้วเจอปัญหาดังกล่าว มาทางนี้เลยจ้า?? แอดรวมมาให้แล้วอุปกรณ์ที่จะเปลี่ยนทีวีธรรมดาให้ป็น Smart TV ได้ง่ายๆ เริ่มต้นแค่ พันต้นๆ เท่านั้นจ้า จะมีตัวไหนบ้างมาดูกัน??
Mi TV Stick
จิ๋วแต่แจ๋ว หากว่าใครกำลังเจอปัญหาดูดิสนีส์ไม่ได้ ตอบโจทย์เลยจ้า แค่เสียบก็ใช้ได้แล้ว สะดวกมากกก สตรีมได้ทุกที่ เป็นเครื่องเล่นสื่อแบบพกพา ขับเคลื่อนโดย Android TV Google Assistant & Smart Cast เสียงเซอร์ราวด์ของ Dolby & DTS ติดตั้งง่ายอีกด้วย? ราคาประมาณ 1,259.-
Chromecast with Google TV
มาพร้อมฟีเจอร์และฟังก์ชั่นที่หลากหลาย ไม่จำเป็นต้องมีมือถือ ก็สามารถcast ได้ในตัว สะดวก รวดเร็ว ติดตั้ง Set-up ก็ง่ายดายใน 3 นาที มือใหม่ก็ใช้งานได้ รองรับความคมชัดระดับ 4K และ Dolby vision ภาพชัดสวยงาม? ราคาประมาณ 2,990.-
TrueID TV
แค่มีกล่อง TrueID TV ก็ดู Disney+ Hotstar กับจอทีวีแบบสะใจด้วยวิธี chromecast กับกล่อง TrueID TV แค่เชื่อมต่อไวไฟชื่อเดียวกันก็ขึ้นจอได้เลย สะดวกมากกก? ราคาประมาณ 2,490.-
Mi Box S
กล่องแอนดรอยด์ทีวี รุ่น S Android TV รองรับภาษาไทย รองรับ Disney+ hotstar รองรับ Chromecast ในตัว สามารถ Cast Youtube 4K จากมือถือ Android / iPhone ขึ้นทีวีได้ด้วยจ้า รองรับ Google Assistant? ราคาประมาณ 2,599.-
AIS PLAY BOX
สำหรับลูกค้า AIS Fibre ที่ใช้งานกล่อง AIS PLAYBOX รุ่นเก่าสามารถเปลี่ยนเป็นกล่องรุ่นใหม่ เพื่อดู Disney+ ได้เด้อออ ไม่ต้องซื้อใหม่ เสียค่าเปลี่ยนกล่อง 650.- เท่านั้นจ้า
Apple TV 4K
เจ็บแต่จบ! จ่ายครั้งเดียว ครบทุกความบันเทิง~ ให้ทุกคนได้สัมผัสที่สุดของทีวี พร้อมทั้งอุปกรณ์และบริการต่างๆ ของ Apple ที่ชื่นชอบ รองรับทุกอย่างครบครัน ระบบเสียงจัดเต็ม ภาพคมชัด 4K ลื่นปรื๊ดไม่มีสะดุดเลยจ้า? ราคาประมาณ 6,700.-
บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการเปลี่ยนทีวีธรรมดา ให้ต่อเน็ตดูหนังฟังเพลงบันเทิงไปเลย ที่ต้องมีคือ smart media player เช่น Apple TV หรือ Amazon Fire Stick และพอร์ท HDMI ที่หลังทีวี ถ้าทีวีคุณไม่มีพอร์ท HDMI ก็ต้องซื้อ adapter แปลง HDMI เป็น RCA แล้วเสียบสายแดง เหลือง และขาวที่ด้านหลังทีวี
-
1
หาพอร์ท HDMI ของทีวี. พอร์ท HDMI จะเป็นช่องกว้างๆ แบนๆ ฐานแคบเป็นมุมตัด ปกติพอร์ท HDMI จะอยู่ด้านหลังหรือด้านข้างของจอทีวี
- สังเกตหมายเลขข้างพอร์ท HDMI ด้วย เพราะนี่คือ input channel ที่ต้องใช้กับ Apple TV
- ถ้าทีวีไม่มีพอร์ท HDMI ให้หาซื้อ adapter แปลง HDMI เป็น RCA แล้วเสียบสายกับช่องแดง ขาว และเหลืองที่ด้านหลังหรือด้านข้างของทีวี
-
2
ซื้อสาย HDMI. เดี๋ยวนี้ทั้งตามร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และออนไลน์ มีสาย HDMI ให้เลือกสารพัดความยาว
- สาย HDMI ตามร้านออนไลน์จะถูกกว่าตามห้าง
- อย่าซื้อสาย HDMI ที่แพงเกิน 300 - 400 บาท เพราะสายดีๆ ไม่จำเป็นต้องแพงเสมอไป
-
3
จัดวาง Apple TV ใกล้ๆ ทีวีคุณ. Apple TV ต้องอยู่ใกล้ทีวีธรรมดาของคุณ พอที่สาย HDMI และสายไฟจะเสียบถึง
- Apple TV ต้องอยู่ในที่โล่ง อากาศถ่ายเท จะได้ไม่ overheat หรือร้อนจัด ที่สำคัญคือจะได้ใช้รีโมท Apple TV สะดวกๆ
-
4
เสียบสาย HDMI ข้างหนึ่งที่ Apple TV. สายนี้ใช้เสียบพอร์ท HDMI ที่ด้านหลังของ Apple TV เวลาเสียบให้ด้านกว้างอยู่ด้านบน
- สาย HDMI จะเสียบได้ทางเดียว ถ้าไม่เข้า แสดงว่าต้องขยับทำมุมใหม่ ห้ามฝืนหรือออกแรงกดเด็ดขาด
-
5
เสียบปลายสาย HDMI อีกข้างที่ทีวี. ให้เสียบที่พอร์ท HDMI ของทีวีที่เจอในข้อก่อนๆ
-
6
เสียบปลั๊ก Apple TV. เสียบขั้วเสียบทรงกระบอก 2 อันที่หลัง Apple TV แล้วเสียบปลั๊กไฟ
-
7
เปิดทีวี. แล้วกดปุ่มเปิดทีวี
-
8
เปลี่ยน input ของทีวีไปที่ channel ของ HDMI. ทีวีแต่ละยี่ห้อหรือรุ่นก็จะต่างกันออกไป แต่ปกติคือกดปุ่ม Input ของทีวี (หรือรีโมททีวี) จนเจอเลข input ข้างพอร์ท HDMI ของทีวี จะเห็นหน้า setup ของ Apple TV
- ถ้าไม่เจอหน้า setup ของ Apple TV ให้กดปุ่มกลางรีโมท Apple TV เพื่อ "ปลุก" Apple TV ให้เปิดขึ้นมา
-
9
ทำตามขั้นตอนที่ปรากฏในหน้าจอ. ปกติต้องทำขั้นตอนดังต่อไปนี้
- เลือกภาษา
- เลือก Wi-Fi ที่จะใช้ แล้วใส่รหัสผ่าน
- ดาวน์โหลดอัพเดทที่มีและแนะนำ
-
10
ใช้ Apple TV เป็น smart TV. พอติดตั้งและตั้งค่า Apple TV รวมถึงอัพเดทแล้ว ก็ใช้รีโมท Apple TV เปลี่ยนแอพไปมา และ stream หนังผ่าน Netflix หรือ Hulu และอื่นๆ ได้เลย
โฆษณา
-
1
หาพอร์ท HDMI ของทีวี. พอร์ท HDMI จะเป็นช่องกว้างๆ แบนๆ ฐานแคบเป็นมุมตัด ปกติพอร์ท HDMI จะอยู่ด้านหลังหรือด้านข้างของจอทีวี
- สังเกตหมายเลขข้างพอร์ท HDMI ด้วย เพราะนี่คือ input channel ที่ต้องใช้กับ Fire TV stick
- ถ้าทีวีไม่มีพอร์ท HDMI ให้หาซื้อ adapter แปลง HDMI เป็น RCA แล้วเสียบสายกับช่องแดง ขาว และเหลืองที่ด้านหลังหรือด้านข้างของทีวี
-
2
เสียบ Fire Stick ที่พอร์ท HDMI ของทีวี. คุณเสียบ Fire Stick กับพอร์ท HDMI ของทีวีโดยตรงได้เลย
- สาย HDMI จะเสียบได้ทางเดียว ถ้าไม่เข้า แสดงว่าต้องขยับทำมุมใหม่ ห้ามฝืนหรือออกแรงกดเด็ดขาด
- ถ้าทีวีอยู่ชิดติดผนัง หรือไม่มีที่พอจะเสียบ Fire Stick ต้องใช้สายต่อ HDMI ที่ปกติจะติดมากับ Fire Stick เสียบกับทีวี แล้วค่อยเสียบ Fire Stick ที่ปลายสาย extension อีกที
-
3
เสียบสายไฟ. เสียบสาย USB กับก้อน power adapter แล้วดึงสายต่อมา
-
4
เสียบปลั๊ก Fire Stick. เสียบสายที่พอร์ทข้าง Fire Stick จากนั้นเสียบปลั๊กไฟ
- ถ้าสายไฟไปไม่ถึง Fire Stick ให้ใช้สาย HDMI extension ที่ติดมากับ Fire Stick
-
5
ใส่ถ่านรีโมท Fire Stick. ถ้าไม่มีมากับ Fire Stick ก็ต้องหาถ่าน AAA 2 ก้อน
-
6
เปิดทีวี. กดปุ่มเปิดทีวี
-
7
เปลี่ยน input ของทีวีไปที่ channel ของ HDMI. ทีวีแต่ละยี่ห้อหรือรุ่นก็จะต่างกันออกไป แต่ปกติคือกดปุ่ม Input ของทีวี (หรือรีโมททีวี) จนเจอเลข input ข้างพอร์ท HDMI ของทีวี จะเห็นโลโก้ Fire TV โผล่ขึ้นมา
-
8
กดปุ่ม "Play/Pause" ตอนที่ขึ้น. ปุ่มนี้อยู่ที่รีโมท ให้กดเพื่อ pair (จับคู่/เชื่อมต่อ) รีโมทกับ Fire Stick TV
-
9
เลือกสัญญาณ Wi-Fi ที่จะต่อ แล้วใส่รหัสผ่าน. เพื่อติดตั้ง Fire Stick ต่อไป
-
10
รอจนติดตั้งอัพเดททั้งหมดที่จำเป็นเสร็จ. ถ้าเพิ่งเคยติดตั้ง Fire Stick ครั้งแรก ก็ต้องรอ 2 - 3 นาทีกว่าจะอัพเดทเสร็จ
-
11
ล็อกอินเข้าบัญชี Amazon ของคุณตอนที่ขึ้น. พิมพ์อีเมลกับรหัสผ่านที่ใช้กับบัญชี Amazon เพื่อให้ดูรายการที่เคยสมัครรับบริการ (subscriptions) กับซื้อ (purchases) ไว้ใน Amazon ได้
-
12
ใช้ Fire Stick TV แทน smart TV. พอลงชื่อเข้าใช้บัญชี Amazon แล้ว ก็ดูหนัง รายการ และเล่นเกมที่ซื้อมาได้เลย รวมถึงเลื่อนดูแอพต่างๆ กับ stream หนังผ่าน Netflix, Hulu และอื่นๆ
โฆษณา
-
1
หาพอร์ท HDMI ของทีวี. พอร์ท HDMI จะเป็นช่องกว้างๆ แบนๆ ฐานแคบเป็นมุมตัด ปกติพอร์ท HDMI จะอยู่ด้านหลังหรือด้านข้างของจอทีวี
- สังเกตหมายเลขข้างพอร์ท HDMI ด้วย เพราะนี่คือ input channel ที่ต้องใช้กับ Chromecast
- ถ้าทีวีไม่มีพอร์ท HDMI ให้หาซื้อ adapter แปลง HDMI เป็น RCA แล้วเสียบสายกับช่องแดง ขาว และเหลืองที่ด้านหลังหรือด้านข้างของทีวี
-
2
เสียบ Chromecast กับพอร์ท HDMI ของทีวี. ให้เสียบสาย Chromecast ที่พอร์ท HDMI ของทีวี
- สาย HDMI จะเสียบได้ทางเดียว ถ้าไม่เข้า แสดงว่าต้องขยับทำมุมใหม่ ห้ามฝืนหรือออกแรงกดเด็ดขาด
-
3
เสียบสายไฟ USB. เสียบปลายสายข้างหนึ่งกับ Chromecast แล้วเสียบอีกข้างที่พอร์ท USB ของทีวี
- ถ้าทีวีไม่มีพอร์ท USB ต้องใช้ power adapter ที่มีสาย USB แล้วเสียบปลั๊กไฟ
- ถ้าจะใช้ Chromecast เวอร์ชั่น 4K ต้องใช้ปลั๊กไฟแทน จ่ายไฟจากพอร์ท USB ไม่ได้
-
4
เปิดทีวี. กดปุ่มเปิดทีวี
-
5
เปลี่ยน input ของทีวีไปที่ channel ของ HDMI. ทีวีแต่ละยี่ห้อหรือรุ่นก็จะต่างกันออกไป แต่ปกติคือกดปุ่ม Input ของทีวี (หรือรีโมททีวี) จนเจอเลข input ข้างพอร์ท HDMI ของทีวี จะเห็นหน้า setup ของ Chromecast
-
6
-
7
เปิด Google Home. แตะแอพ Google Home ที่เป็นเส้นรูปบ้านสีแดง เขียว เหลือง และฟ้า
-
8
แตะ ACCEPT ตอนที่ขึ้น. เพื่อไปยังหน้าโฮมของ Google Home
-
9
แตะไอคอน Devices. ที่มุมขวาบนของหน้าจอมือถือ
- ถ้าใช้ iPhone ต้องแตะ Use without Bluetooth แล้วแตะ Skip Setup เพื่อไปยังหน้าโฮมของแอพ Google Home
-
10
รอจน Chromecast สแกนเจอมือถือของคุณ. เสร็จแล้วจะมีข้อความยืนยันขึ้นมา
-
11
แตะ Continue ตอนที่ขึ้น. เพื่อเริ่มขั้นตอนติดตั้งและตั้งค่า Chromecast
-
12
ยืนยันโค้ดในทีวี. ต้องเช็คให้ชัวร์ว่าโค้ดในทีวีนั้นตรงกับในมือถือ จากนั้นแตะ Yes (iPhone) หรือ I SEE IT (Android)
-
13
แตะ Continue. ที่มุมขวาล่างของหน้าจอ
- จะตั้งชื่อ Chromecast ในหน้าเดียวกันนี้ก็ได้ แล้วแตะ Continue
-
14
เลือกสัญญาณ Wi-Fi ที่จะใช้กับ Chromecast. แตะ Select a network แล้วแตะชื่อ Wi-Fi จากนั้นใส่รหัสผ่าน ต้องเป็น Wi-Fi เดียวกับที่มือถือหรือแท็บเล็ตใช้อยู่
-
15
ทำตามขั้นตอนในหน้าจอ. จะมีตัวเลือกให้ยืนยันการอัพเดท หรือล็อกอินด้วยบัญชี Google
-
16
ใช้ Chromecast แทน smart TV. พอติดตั้งและตั้งค่า Chromecast แล้ว ก็เลือกเปิดแอพ เลือกหนังในมือถือ แล้วดูในทีวีผ่าน Chromecast ได้เลย
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ถ้ามีเครื่องเกมคอนโซลรุ่นใหม่ๆ (เช่น Xbox 360, Xbox One, PlayStation 3 หรือ PlayStation 4) ก็เอามาใช้กับทีวี แล้วเล่นเน็ต ดาวน์โหลดแอพ stream หนัง และอื่นๆ ได้เลย
- นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อทีวีกับคอมพิวเตอร์ Windows หรือ Mac ได้ในทันที
โฆษณา
คำเตือน
- ทีวีรุ่นเก่าๆ ที่มีแต่ช่องเสียบสาย A/V (เช่น สายสีแดง เหลือง และขาว) จะเอามาดัดแปลงเป็น smart TV ไม่ได้
- ทีวีรุ่นเก่าๆ ที่มีแต่ coaxial input (พอร์ทสำหรับเสียบสายทีวี) ก็เอามาดัดแปลงเป็น smart TV ไม่ได้
โฆษณา
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 6,171 ครั้ง