ทะเบียนเกษตรกรคืออะไร? และ ทำไมต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกร?
1. การขึ้นทะเบียนเกษตรกรเป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ว่าด้วยการขึ้นทะเบียนเกษตรกร โดยวัตถุประสงค์ของการขึ้นทะเบียนเกษตรกรก็เพื่อจัดทำข้อมูลการเกษตรให้ถูกต้อง ตรงตามความเป็นจริง และเป็นข้อมูลเอกภาพให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ ข้อมูลที่ได้จะนำไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนพัฒนาการเกษตร กำหนดนโยบาย การจัดการด้านการผลิตการตลาด การส่งเสริม สนับสนุน และให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงเป้าหมาย และเพื่อนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในการจำแนกเกษตรกรเป็นกลุ่มเป้าหมายในการดำเนินโครงการหรือมาตรการต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน และที่สำคัญอีกประการหนึ่งสำหรับพี่น้องเกษตรกรที่ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรไว้แล้ว จะได้รับความสะดวกในการใช้สิทธิขอรับการสนับสนุน ช่วยเหลือ หรือรับบริการต่าง ๆ จากภาครัฐ เช่น กรณีการขอรับการช่วยเหลือเมื่อประสบภัยพิบัติต่าง ๆ
2. เกษตรกรสามารถขอขึ้นทะเบียนได้ตามสถานที่ที่เป็นภูมิลำเนาในทะเบียนบ้าน หรือสถานที่ที่ประกอบการเกษตรก็ได้ แต่ต้องขึ้นทะเบียนที่ใดที่หนึ่งเพียงที่เดียว โดยในการรับขึ้นทะเบียนเกษตรกรจะจำแนกเกษตรกรเป็น 2 ประเภท ตามลักษณะการประกอบการเกษตร คือ ส่วนบุคคล และนิติบุคคล ซึ่งหลักฐานที่ต้องใช้ในการรับขึ้นทะเบียนเกษตรกร คือ
2.1 การขึ้นทะเบียนเกษตรกรประเภทส่วนบุคคล หรือเกษตรกรทั่วไป หลักฐานที่ต้องใช้ คือ
1) บัตรประจำตัวประชาชน
2) ทะเบียนบ้านของผู้ขอขึ้นทะเบียนเกษตรกร
3) หลักฐานการถือครองที่ดิน
2.2 การขึ้นทะเบียนเกษตรกรประเภทนิติบุคคลหลักฐานที่ต้องใช้ คือ
1) บัตรประจำตัวประชาชน
2) ทะเบียนบ้านของผู้แทนนิติบุคคล
3) หนังสือรับรองนิติบุคคล
4) หนังสือมอบอำนาจให้เป็นผู้แทนนิติบุคคล
5) หลักฐานการถือครองที่ดิน
3. สถานที่รับขึ้นทะเบียนเกษตรกร ณ สำนักงานเกษตรอำเภอทุกอำเภอ หรือสถานที่ที่เจ้าหน้าที่นัดหมาย
4. การปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร คือ?
การแจ้งปลูกพืชทุกรอบการผลิต และการเปลี่ยนแปลงข้อมูลครัวเรือนผู้ประกอบการเกษตร เช่น เปลี่ยน / แก้ไข กิจกรรมการเกษตร หรือสมาชิกในครัวเรือน
5. หลักเกณฑ์การขึ้นทะเบียนเกษตรกร
บุคคลในครัวเรือนคนใดคนหนึ่ง หรือหลายคนที่ประกอบการเกษตร ฐานทะเบียนเกษตรกรกำหนดให้ 1 ทะเบียนบ้าน = 1 ครัวเรือน (ตั้งแต่ ต.ค.56 เป็นต้นมา) ต้องประกอบกิจกรรม ดังนี้
- การทํานาหรือทําไร่อย่างใดอย่างหนึ่งหรือ รวมกัน บนเนื้อที่ตั้งแต่ 1 ไร่ขึ้นไป
- การปลูกผัก หรือการปลูกไม้ดอกไม้ประดับ หรือการเพาะเห็ด หรือการปลูกพืชอาหารสัตว์อย่างใดอย่างหนึ่งหรือรวมกัน บนเนื้อที่ตั้งแต่ 1 งานขึ้นไป
- การปลูกไม้ผลไม้ยืนต้น หรือการปลูกสวนป่า หรือปลูกป่าเศรษฐกิจแบบสวนเฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่งหรือรวมกัน บนเนื้อที่ตั้งแต่ 1 ไร่ และมีจํานวนต้นตั้งแต่ 15 ต้นขึ้นไป
- การปลูกไม้ผล หรือไม้ยืนต้นแบบสวนผสม อย่างใดอย่างหนึ่งหรือรวมกัน บนเนื้อที่ตั้งแต่ 1 ไร่ และมีจํานวนต้นตั้งแต่ 15 ต้นขึ้นไป
- การเลี้ยงแม่โคนม ตั้งแต่ 1 ตัวขึ้นไป
- การเลี้ยงโค หรือกระบือ อย่างใดอย่างหนึ่งหรือรวมกัน ตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป
- การเลี้ยงสุกร แพะ หรือแกะ อย่างใดอย่างหนึ่งหรือรวมกัน ตั้งแต่ 5 ตัวขึ้นไป
- การเลี้ยงสัตว์ปีก ตั้งแต่ 50 ตัวขึ้นไป
- การเลี้ยงสัตว์น้ำ หรือการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ํา อย่างใดอย่างหนึ่งหรือรวมกัน
- การทํานาเกลือสมุทร บนเนื้อที่ตั้งแต่ 1 ไร่ขึ้นไป
- การปลูกหม่อน การเลี้ยงไหม อย่างใดอย่างหนึ่งหรือรวมกัน
- การเพาะเลี้ยงแมลงเศรษฐกิจและเกษตรอื่นๆ หมายความว่า การเลี้ยงผึ้งพันธุ์ผึ้งโพรง ชันโรง ครั่ง จิ้งหรีด ด้วงสาคูไส้เดือนดิน ชีวภัณฑ์และอื่นๆ ที่มีลักษณะเดียวกันประกอบการเกษตร อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างรวมกัน นอกเหนือจากหลักเกณฑ์ที่กําหนดตามและมีรายได้ตั้งแต่ 8,000 ต่อปีขึ้นไป
6. ทะเบียนเกษตรกรมีข้อมูลอะไรบ้าง?
ทะเบียนเกษตรกรมีข้อมูล 9 หมวด ได้แก่ ข้อมูลพื้นฐานครัวเรือน สมาชิกครัวเรือนและการเป็นสมาชิกองค์กร การถือครองที่ดินเพื่อการเกษตร การประกอบกิจกรรมการเกษตร แหล่งน้ำ เครื่องจักรกลการเกษตร หนี้สิน รายได้ และการเข้าร่วมโครงการภาครัฐ
7. การขึ้นทะเบียนเกษตรกร
ครัวเรือนเกษตรกร 1 ครัวเรือน ขอขึ้นทะเบียนได้ 1 คน โดยต้องยื่นแบบ ทบก. 01 ณ สำนักงานเกษตรอำเภอที่ตั้งแปลงปลูก หลังปลูกพืช 15 วัน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะบันทึกข้อมูล ดำเนินการตรวจสอบข้อมูล และติดประกาศในชุมชน 3 วัน และขั้นตอนต่อไปเจ้าหน้าที่จะยืนยันข้อมูลในระบบ เท่ากับการขึ้นทะเบียนเกษตรกรจะเสร็จสมบูรณ์
8. การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลเกษตรกร
ตรวจสอบข้อมูลบุคคล กับกระทรวงมหาดไทย
ตรวจสอบข้อมูลเอกสารสิทธิ์ที่ดิน กับกรมที่ดิน และ สปก.
ตรวจสอบทางสังคมผ่านการติดประกาศข้อมูลในชุมชน หากมีการคัดค้าน มีคณะทำงานระดับหมู่บ้านตรวจสอบพื้นที่วัดพิกัดที่ตั้งแปลง-วัดพื้นที่วาดผังแปลงเกษตรกรรมดิจิทัล เพื่อป้องกันการขึ้นทะเบียนซ้ำซ้อน (ปัจจุบันดำเนินการแล้ว 10 ล้านแปลง)
9. เมื่อใดต้องปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร
เมื่อมีการเพาะปลูกพืชทุกรอบ และเมื่อต้องการเปลี่ยนข้อมูลของครัวเรือนผู้ประกอบการเกษตร จะต้องมีการปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ทั้งนี้หากเป็นเกษตรกรายใหม่ แปลงใหม่ หรือรายเดิม แปลงใหม่ ต้องยื่นแบบ ทบก.01 ณ สำนักงานเกษตรอำเภอที่ตั้งแปลงปลูก หลังปลูกพืช 15 วัน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะบันทึกข้อมูล ดำเนินการตรวจสอบข้อมูล และติดประกาศในชุมชน 3 วัน และขั้นตอนต่อไปเจ้าหน้าที่จะยืนยันข้อมูลในระบบ เท่ากับการขึ้นทะเบียนเกษตรกรจะเสร็จสมบูรณ์สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถปรับปรุงผ่านแอพพลิเคชัน Farmbook ได้เลย
10. การสิ้นสุดสถานภาพในทะเบียนเกษตรกร
- เสียชีวิต
- เป็นคนไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ
- แจ้งยกเลิกประกอบการเกษตร
- แจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จในการขึ้นทะเบียนเกษตรกร
- ไม่มีการปรับปรุงสถานภาพเลย ติดต่อกันเป็นเวลา 3 ปี (เริ่มใช้ตั้งแต่ 23 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป และมีผลย้อนหลังสำหรับผู้ไม่มาปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ตั้งแต่ 23 มิถุนายน 2560)
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นหากไม่แน่ใจว่ามีการขึ้นเบียนเกษตรกรไว้หรือไม่ หรือมีการปรุงปรุงบัญชีเกษตรกรแล้วหรือยัง สามารถเข้าไปการตรวจสอบสถานะความเป็นเกษตรกรและสมาชิกครัวเรือน ได้ที่เว็บไซต์ //farmer.doae.go.th เพียงใส่หมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก